เมื่อยามเย็นมาถึงซือหยูและอสูรผู้ติดตามก่อกองไฟ
เจ้าตัวเล็กถูกมัดจนแน่นมันแยกเขี้ยวคำรามไม่หยุดหย่อน
ว้าว!น่ารักจังเลย! นี่มันตัวอะไรกัน? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!
ชาเอ๋อย่อตัวต่อหน้าเจ้าตัวเล็กนางเอามือจับแก้มมองมันด้วยความรัก
เฉียนจุนที่ยังคงสับสนลูบอกของตัวเอง
เจ้าตัวเล็กนี้ไม่ได้ใช้วิชาอะไรแต่กำลังกายของมันไม่ต่างจากยอดฝีมือ มันแทบจะเหมือนกับราชาอสูร!
ไม่…มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าราชาอสูร!ซือหยูแอบส่ายหน้า สิ่งที่ยกภูเขาห้าธาตุขึ้นได้จะต้องมีพลังว่าที่เทพเป็นอย่างน้อย!
เฉียนจุนมีชีวิตรอดได้เพราะเจ้าตัวเล็กไม่อยากจะฆ่าเขามิเช่นนั้นเขาคงจะถูกลูกถีบนั้นคร่าชีวิตไปแล้ว
ท่านราชาอสูรมันน่ารักมากเลย! ได้โปรดอย่าทรมานมันได้ไหม?
ชาเอ๋ออ้อนซือหยู
ซือหยูตั้งหม้อเหนือกองไฟและใส่เครื่องเทศมากมายลงไปเขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
แน่นอน!ข้าว่าสัตว์ป่าน่ารักแบบนี้คงจะอร่อยมากทีเดียว! คืนนี้เราจะได้หม้อต้มเนื้อสุนัขเป็นมื้อค่ำ!
เจ้าตัวเล็กแยกเขี้ยวร้องเสียงแหลมอีกครั้งราวกับว่ามันไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าสุนัข
ชาเอ๋ออ้าปากกำลังจะอ้อนวอนขาความเมตตาจากซือหยูอีกครั้ง
โอ้?เจ้าอยากจะอบมันแทนรึ?
ซือหยูลูบคางพลางมองเจ้าตัวเล็ก
เราย่างมันก็ได้นะ!ข้าไม่รู้ว่ามันจะนุ่มเหมือนหมูอบหรือไม่!
ชาเอ๋อหน้าแดงทำไมท่านราชาอสูรถึงรักที่จะกินสัตว์ตัวเล็กน่ารักเช่นนี้กัน?
เป็นไปตามคาดเจ้าตัวเล็กแยกเขี้ยวใส่ซือหยูต่อไปด้วยความโมโห
ไม่นานน้ำในหม้อก็เดือด
ซือหยูเดินไปที่เชือกและหยิบมีดออกมาเขามองที่ท้องของเจ้าตัวเล็ก
อย่าขยับ!เจ้าจะเสียใจแน่ถ้าข้าแทงมีดผิดที่!
เจ้าตัวเล็กหงุดหงิดมันพยายามขัดขืนเต็มกำลัง แต่เชือกทมิฬได้กดพลังจำนวนมากของมันเอาไว้ ตอนนี้มันอ่อนแอมาก
เจ้าตัวเล็กไม่คิดว่าซือหยูจะแตะท้องมันด้วยสองดัชนี
มันเบิกตากว้างจ้องซือหยู
ทำบ้าอะไรของเจ้า?
โอ้หัวใจเจ้าอยู่ตรงนี้นี่เอง!
ซือหยูแตะอกซ้ายของมันเบาๆ หลังจากมั่นใจตำแหน่งหัวใจ จากนั้นซือหยูจึงจรดมีดลงบนอกซ้ายของเจ้าตัวเล็กเขาเตรียมที่จะแทงหัวใจของมัน
เมื่อเจ้าตัวเล็กสัมผัสความเยือกเย็นของคมมีดที่ผิวได้แววตามันก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศก
มันพยายามจะแสดงความเศร้าที่กำลังจะถูกฆ่าแกงเป็นอาหาร
ท่านราชาอสูรได้โปรดอย่าทำมันเลย!
ชาเอ๋อร้องไห้เมื่อมองเจ้าตัวเล็กนางไม่กล้าหยุดซือหยูแม้ว่านางจะอยากช่วยเจ้าตัวเล็กมากเพียงใด
ซือหยูยักไหล่ตอบ
ข้าไม่มีทางเลือกอื่น!มันแข็งแกร่งมาก หากปล่อยมันไป มันจะอันตรายสำหรับพวกเรา เราต้องกินมันเสีย บางทีเนื้อของมันอาจจะเพิ่มพลังให้พวกเราก็ได้!
เจ้าตัวเล็กคล้อยตาลงต่ำมันกำลังวิงวอนขอความปราณีจากซือหยู เจ้ากำลังขอเมตตาข้าเรอะ?
เจ้าตัวเล็กพยักหน้า
เจ้าไม่อยากจะถูกกินในหม้อสุนัขร้อนๆ นี่ใช่ไหม?
เจ้าตัวเล็กพยักหน้าทันทีจากนั้นมันก็ส่ายหน้ามองซือหยูด้วยความโมโหราวกับจะพูดว่า เจ้านั่นแหละสุนัข! ทุกคนในตระกูลเจ้าก็เป็นสุนัข!
เช่นนั้นเจ้าจะมาเป็นสัตว์วิญญาณของข้าหรือไม่?
เจ้าตัวเล็กพยักหน้าด้วยความไม่เต็มใจใบหน้ามันโศกเศร้า
เจ้าทำอาหารเป็นหรือไม่?
เจ้าตัวเล็กส่ายหน้า
ซือหยูไม่พอใจเล็กน้อยเขาถามต่อ
เจ้าอุ่นเตียงข้าได้ไหม?
อ๊ะ!เจ้าตัวเล็กส่ายหน้าราวกับหน้ากลองที่กำลังสั่น ซือหยูพูดอย่างเย็นชา
เจ้าทำอาหารไม่เป็น!เจ้าอุ่นเตียงข้าไม่ได้! เจ้าไร้ประโยชน์กับข้า! อยู่ไปก็เปลืองข้าวปลา! ช่างเถอะ! ข้ากินเจ้าในหม้อร้อนนี่ก็ดีอยู่แล้ว!
ซือหยูจรดมีดลงบนอกเจ้าตัวน้อยแรงขึ้น
เจ้าตัวน้อยหวาดกลัวจนตะโกนเป็นภาษาอสูร
ก็ได้!ก็ได้! ข้าจะอุ่นเตียงให้เจ้า…
มันร้องอย่างน่าเวทนาแววตามีน้ำตาคลอเพราะหวาดกลัวถึงขีดสุด
จากนั้นมีดบนอกมันก็หยุดเคลื่อนไหว
ทำไมเจ้าไม่พูดให้เร็วกว่านี้เล่า?
ซือหยูยิ้มอย่างโหดร้ายเขาเหมือนกับผู้ร้ายที่กำลังรังแกผู้หญิง
หากเจ้าตัดสินใจอุ่นเตียงให้ข้าแล้วเจ้าก็เป็นสัตว์เลี้ยงข้า! แต่เจ้าแข็งแกร่งเกินไป จะหนีไปไหนได้ทุกเมื่อ ข้าต้องวางผนึกลงบนกายเจ้า! เจ้าตัวเล็กรีบพยักหน้าราวกับหวาดกลัว
แต่แท้จริงแล้วมีความเหยียดหยามแล่นผ่านแววตามันชั่วขณะเพราะไม่มีผนึกใดบนโลกนี้ที่จะควบคุมมันได้
‘ก็ได้!’
เจ้าตัวเล็กคิด
‘ข้าจะแกล้งทำเป็นเชื่อฟังเจ้าพอเจ้าไม่ทันระวังเมื่อใด ข้าจะหนีไป…ไม่สิ! ข้าจะหนีไปทำไมเล่า? ข้าจะเอาชนะเจ้าตอนที่เจ้าไม่ทันระวังนั่นแหละ จากนั้นข้าจะทำให้เจ้าต้องมาอุ่นเตียงให้ข้า!’
‘ใช่แล้ว!ตาต่อตาฟันต่อฟัน! ข้าจะบังคับให้มันอุ่นเตียงข้าเหมือนกัน!’
เจ้าตัวเล็กมองซือหยูด้วยรอยยิ้มมีเลศนัยราวกับคิดไว้แล้วว่าซือหยูจะต้องอุ่นเตียงให้กับมัน
เปิดวิญญาณเจ้าซะ!
ซือหยูพูด
เจ้าตัวเล็กทำตามที่ซือหยูบอกจากนั้นมันก็หลับตาคิดในใจ
‘ฮื่ม!พอข้าคลายผนึกออกเมื่อใด ข้าจะลงโทษเจ้าให้สาสม ข้าจะมัดเจ้าแล้วจรดมีดที่อกเจ้า ข้าจะให้เจ้าทำอาหารกับอุ่นเตียงให้ข้าด้วย! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า…หา? เดี๋ยวก่อน!’
เจ้าตัวเล็กเพิ่งจะรู้ว่าผนึกที่อยู่ในดวงวิญญาณของมันค่อนข้างประหลาดเมื่อมองดูดี ๆ ก็พบเสี้ยวแสงเก้าสี จากนั้นดวงวิญญาณมันจึงปิด
หลังจากสัมผัสผนึกอย่างละเอียดเจ้าตัวเล็กก็กลัวจนขนลุก
นี่…มัน…ผนึกเก้าเทพ…ไม่ใช่ผนึกที่อสูรเนรมิตรจะมีได้!มันเป็นผนึกที่มีพลังของเทพเก้าคนหลอมรวมกัน!
เจ้าตัวเล็กสามารถคลายผนึกทุกประเภทได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่เมื่อเป็นผนึกที่รวมพลังหลายพลังเข้าด้วยกันมันต้องใช้พลังเทพอย่างน้อยสองประเภทในการคลายผนึก ผนึกที่อยู่ในดวงวิญญาณของมันนั้นมีพลังเทพถึงเก้ารูปแบบหรือก็คือ มันต้องใช้เทพเก้าคนในการคลายผนึกนี้
เป็นไปไม่ได้ที่มันจะคลายผนึกด้วยตัวคนเดียว!
อ๊ะ!ไม่นะ!
เจ้าตัวเล็กตะโกน
มันรู้ว่ามันจะต้องอุ่นเตียงให้กับชายผู้นี้!
ดี!
ซือหยูลูบหัวมันและคลายเชือกทมิฬด้วยรอยยิ้มตอนนี้ซือหยูสามารถฆ่ามันได้ทุกเมื่อด้วยผนึก จึงไม่จำเป็นอีกแล้วที่จะพันธนาการมัน
ผนึกนี้เตรียมไว้เพื่อเทพกาลกิณีซือหยูไม่คิดว่าจะต้องใช้มันกับเจ้าตัวน้อย
แม้เขาจะไม่รู้จักเจ้าตัวน้อยว่าเป็นตัวอะไรเขาก็รู้ว่ามันคุ้มค่าที่จะใช้สติปัญญาและความแข็งแกร่งของมัน เพราะมันพูดภาษาอสูรได้อีกด้วย หลังจากถูกปล่อยเจ้าตัวเล็กก้มหัวอย่างทุกข์ใจ
อื้ม!อื้ม!
ชาเอ๋อลูบหัวมันด้วยความรัก
หากเจ้าพยายามอุ่นเตียงให้ท่านราชาอสูรเขาจะไม่มีวันทำร้ายเจ้า! ท่านราชาอสูรน่ะเป็นอสูรใจดีนะ!
เจ้าตัวเล็กสะบัดมือชาเอ๋อพร้อมร้องเสียงแหลมมันเดินไปที่หน้ากองไฟ มันยืนกอดอกมองกองไฟอย่างเคร่งเครียด ดูเหมือนมันกำลังจะคิดถึงสิ่งที่ต้องเจอในอนาคต
‘ข้าจะทำยังไง?ข้าต้องทำยังไง? ข้ากำลังจะต้องอุ่นเตียงให้ไอ้เวรนี่!’
เจ้าตัวน้อยคิดในใจกับตัวเอง
‘ข้าต้องหนี!ใช่แล้ว! ข้าต้องหนีจากคนชั่วอย่างมัน!’
เจ้าหมามานี่สิ!
ซือหยูตะโกน เจ้าตัวเล็กกระดิกหูเจ้าหมาเรอะ? นั่นมันคำเรียกสุนัขไม่ใช่รึไงกัน? บ้านนอกสิ้นดี!
เฮ้!เจ้า! เจ้าหมา มานี่!
เจ้าตัวเล็กหันไปมองซือหยูด้วยความสับสนหมาที่เขาเรียกอยู่ที่ไหนกัน?
เจ้าตัวเล็กตัวสั่นเมื่อประสานตากับซือหยูมันชี้หน้าตัวเองด้วยขาหน้าและมองซือหยูอย่างไม่เชื่อสายตา เจ้าเรียกข้าเรอะ?
ใช่!เจ้าหมาคือชื่อใหม่ของเจ้า!
หา!
เจ้าตัวเล็กชินชาไปทั้งหัวคำพูดของซือหยูดังก้องสะท้อนในหูของมัน
เจ้าหมา!เจ้าหมา! เจ้าหมา!
เจ้าตัวเล็กกลอกตาและสลบไปเพราะความแค้นก่อนที่จะหมดสติ มันยังได้ยินชื่อใหม่ของมันพูดซ้ำวนอยู่เรื่อยไป ไอ้เวรเอ้ย!
ในความฝันเจ้าตัวเล็กได้ยินคำว่าเจ้าหมาอยู่หลายครั้ง กว่ามันจะตื่นก็นานโขมันพลิกตัวกลับ คำว่าเจ้าหมาหายไปจากหูแล้ว มันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เห้อ! ฝันร้ายนี้ช่างนานนัก!
เฮ้!เจ้าหมา! ตื่นแล้วรึ? ขืนยังหลับอยู่ข้าจะต้มเจ้ากิน!
คำพูดและเสียงในฝันร้ายของมันกระทบหูอีกครั้ง!
ไม่นะ!ข้าไม่อยากได้ชื่อนี้!
เจ้าตัวเล็กคำรามด้วยความโมโหในภาษาอสูรอีกครั้ง
…
ห้าวันต่อมา
ในร้านอาหารใกล้กับตำหนักอสูรปราดเปรียวในเมืองอสูรที่นางควบคุม
ซือหยูเฉียนจุน ชาเอ๋อ และเจ้าหมากำลังนั่งอยู่รอบโต๊ะ บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย
เฉียนจุนกับชาเอ๋อค่อนข้างกังวลใจ
ไม่คิดเลยว่าเจ้าเมืองชมทะเลจะถูกยักษ์ทะเลขมพาตัวไป!องค์หญิงจิงหยูเองก็หายตัวไปหลังจากบาดเจ็บเพราะยักษ์ทะเลขม! มันเป็นเช่นนี้ได้ยังไงกัน? พวกนางมีวิธีลับในการขับไล่ยักษ์ทะเลขม แล้วทำไมนางถึงยังบาดเจ็บอีกแล้ว?
เฉียนคุนภักดีต่อองค์หญิงจิงหยูเพราะเขาเป็นหน่วยลาดตระเวนของแดนจิงหยูเขาจึงไม่พอใจที่ได้ยินว่าองค์หญิงหายตัวไป
ซือหยูปลอบเขา
ข้าเชื่อว่าเทพเจ้าจะต้องให้พรองค์หญิง!บางทีนางอาจจะถูกช่วยเอาไว้และพักฟื้นอยู่ก็ได้!
ในตอนนั้นเองซือหยูมองเจ้าตัวเล็ก
เจ้าหมาทำไมจ้องข้าอย่างนั้น?
เขาถาม
เจ้าอยากจะพูดอะไร?
เจ้ามาส่ายหน้าตอนนี้มันยอมรับชื่ออันอัปยศนี้แล้ว
โอ้?เจ้าหิวงั้นรึ? ซือหยูโยนชิ้นกระดูกลงบนพื้น
เอาไปสิ!เจ้านายเจ้ารักเจ้าที่สุดแล้ว!
เจ้าหมากลอกตามองกระดูกแต่มันก็รีบวิ่งไปที่กระดูกและขบเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ดูเหมือนว่ามันจะตอบสนองต่อกระดูกได้ดี
เจ้าหมาสะอื้นในใจเมื่อเคี้ยวกระดูก
อึก!อึก…จักรพรรดิอสูร โปรดอภัยให้กับความตกต่ำของข้าด้วย! ข้า…ข้าต่อต้านเขาไม่ได้!
ตลอดห้าวันที่ผ่านมามันถูกซือหยูเลี้ยงราวกับสุนัข ตอนนี้มันยังถูกสอนให้ตอบสนองต่อกระดูกอีก
เฉียนจุนมองเจ้าตัวเล็กด้วยความเห็นใจ
นายท่านเรามาถึงเมืองอสูรแล้ว ท่านไม่คิดจะเยี่ยมท่านอสูรปราดเปรียวตรง ๆ แต่ทำไมถึงเลือกที่จะถามหาข่าวตามถนนแทนเล่า?
เขาถาม
พวกเขามาที่ร้านอาหารเพื่อพยายามจะหาข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ขณะนี้
พวกเขาตกใจมากเมื่อได้ยินว่าเจ้าเมืองทะเลขมถูกสังหารและองค์หญิงเก้าหายตัวไปหลังจากบาดเจ็บสาหัส
ซือหยูมองตำหนักอสูรปราดเปรียวพลางคิด
ข้าไม่คิดว่าเป็นเรื่องดีที่จะไปหาอสูรผู้คุมแดนโดยตรงในยามที่ยักษ์ทะเลขมกำลังอาละวาดไปดูคนที่มาเยี่ยมอสูรปราดเปรียวก่อนดีกว่า!
เฉียนจุนแปลกใจในความรอบคอบของซือหยูแต่เขาก็สังเกตดูผู้ที่มาเยี่ยมอสูรปราดเปรียวอย่างใกล้ชิดกับซือหยูต่อไป
แต่เมื่อสังเกตไปเรื่อยๆ เฉียนจุนก็ยิ่งแปลกใจยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ