โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ – ตอนที่ 579 – บุกสำนักงานใหญ่

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Ep.579 – บุกสำนักงานใหญ่

ผู้ใช้พลังเลเวล E ไม่อาจตรวจสอบได้ว่าความแข็งแกร่งของฉินเฟิงอยู่ระดับใด แต่แค่เฉพาะกลิ่นอาย ดูเหมือนจะน่ากลัวยิ่งกว่าเจ้านายของเขา

“เขา … เขาอยู่บนชั้นแปด!”

ยามหวาดกลัวและอยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่ง ผู้ใช้พลังเลเวล E เอ่ยตอบกลับโดยไม่รู้ตัว

“ขอบใจ” ฉินเฟิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แต่มือเขากลับทำตรงกันข้าม ใส่แรงบีบลงไป

เป๊าะ!

คอของเลเวล E บิดเบี้ยวผิดรูป หักงอไปอีกทางดูน่าสยองขวัญ!

ฉินเฟิงโยนอีกฝ่ายลงกับพื้นราวทิ้งขยะ จากนั้นเดินไปที่ลิฟต์

ฉินเฟิงกดเรียกลิฟต์ ระหว่างรอ กระแสผู้คนก็บุกเข้ามาไม่ขาดสาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อคนเหล่านี้เห็นศพนับไม่ถ้วนนอนกองกับพื้น ก็ไม่กล้าก้าวเดินไปข้างหน้า

“บัดซบ! ต้องหยุดเขา ถ้าเขาสามารถบุกไปหาเจ้านายถึงชั้นบนได้ พวกเราจะไม่ถูกด่าว่าเป็นไร้ประโยชน์หรอ!”

เสียงคำรามดังออกมาจากอุปกรณ์สื่อสาร คนเหล่านั้นลังเลอยู่ครู่หนัก แต่เมื่อนึกถึงความน่าหวาดกลัวของผู้นำพันธมิตร สุดท้ายตัดสินใจสู้

ฉินเฟิงที่ยืนรออยู่หน้าทางเข้าลิฟต์ ขณะที่ลิฟต์ค่อยๆเคลื่อนลงมา เขาว่างไม่มีอะไรทำจึงเอ่ยเตือน

“พวกแกอย่าคิดหาเรื่องตายจะดีกว่า”

ในบรรดาฝูงชน ผู้ใช้พลังเลเวล E เพียง 3 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นเลเวล F และ G จำพวกหลัง แค่โดนฉินเฟิงเป่าลมใส่ก็ตายแล้ว

อย่างไรก็ตาม คำพูดของฉินเฟิงดูเหมือนให้ผลตรงกันข้าม มันกลายเป็นกระตุ้นจิตใจของคนเหล่านี้

“พวกเรามีคนมากกว่า มันจะแน่สักแค่ไหนกัน พวกเราไป!”

ชายที่น่าจะเป็นหัวหน้ากล่าว ผู้คนที่อยู่รอบๆเริ่มเคลื่อนไหวทันที สรรพวุธนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าสังหารฉินเฟิง อบิลิตี้ถูกใช้ออก ทว่าอบิลิตี้เหล่านี้ เป็นเพียงอบิลิตี้ของผู้ใช้พลังระดับล่าง กระทั่งเทคนิคมังกรยังไม่อาจเรียกออกมาได้ แล้วแบบนี้พวกเขาจะสามารถขัดขวางฉินเฟิงได้อย่างไร?

คนเหล่านี้ ไม่ต่างจากคำที่ถูกฉินเฟิงยั่วยุ เป็นฝูงปลาที่เลือกโยนตัวเองเข้ามาติดแห แส่หาความตาย!

ฉินเฟิงเหยียดมือออกไปเล็กน้อย กำลังภายในอันน่าสะพรึงกลัว แปรเปลี่ยนสภาพกลายเป็นคมมีด และในพริบตานั้นเอง–

–ดั่งถูกจุดชนวน คมมีดระเบิดออก เหวี่ยงไปข้างหน้า วาดเส้นโค้งเป็นครึ่งวงกลม กวาดไปทั่วทุกหนแห่ง

ฟุฟ ฟุฟ ฟุฟ ฟุฟฟฟ

คอ , หน้าอก , ศีรษะ สามส่วนถูกตัดแยกออกจากกันทันที เลือดสดๆทะลักออกมา

คลุก คลุก …

กว่าเจ็ดแปดหัวร่วงกลิ้งกับพื้น

ผู้ใช้พลังที่กำลังวิ่งตามมาจากเบื้องหลัง เบิกตากว้าง จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“สารเลว!”

ผู้ใช้พลังเลเวล E เมื่อเห็นฉินเฟิงสังหารสหายของตน ดวงตาของเขาก็ปกคลุมไปด้วยเลือด เปล่งเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธ

“โบร๊วววว”

ช่วงเวลาเดียวกันกับเสียงนี้ กลิ่นอายของเลเวล E ก็แปรเปลี่ยนไป ขนสีขาวเริ่มงอกจากเนื้อหนัง ใบหูเริ่มยาวเรียว จมูกและปากยื่นออกมา จนเห็นได้เด่นชัดสะดุดตา

ในชั่วพริบตาสั้นๆ ศีรษะของชายคนนี้ก็กลายเป็นหัวของหมาป่าหิมะ ร่างกายท่อนล่างยืดสูงขึ้น ต้นขาหนาดูแข็งแรง ตรงช่วงเข่างองุ้ม รองเท้าปริขาด เผยกรงเล็บยื่นออกมา

“ร่างทดลองมนุษย์กลายพันธุ์!”

ไม่เพียงแค่นั้น แต่มันยังปลดปล่อยกลิ่นอายระดับราชันย์

อย่างไรก็ตาม ราชันย์เลเวล E ไม่ถือเป็นภัยคุกคามใดๆต่อฉินเฟิง

“ก๊าซซซ!”

หมาป่าหิมะคำรามกราด สองขาทิ้งน้ำหนักลงกับพื้น กระโจนเข้ามาด้วยความไวปานสายฟ้าฟาด

ฉินเฟิงหัวเราะเย็นชา ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้กำลังภายใน หากแต่เป็นกำปั้นซัดสวนกลับไป

ภายใต้สถานการณ์นี้ คนอื่นๆไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของมนุษย์หมาป่าได้ –ในสายตาเห็นแค่เพียงหมัดของฉินเฟิงเหวี่ยงไปในอากาศ จากนั้นร่างมนุษย์ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น ร่างใหญ่ที่ว่า มิใช่ใดอื่น เป็นร่างทดลองมนุษย์หมาป่าเมื่อครู่

ปงงงง!

หมัดของฉินเฟิง กระทุ้งเข้ากับช่วงท้องของมนุษย์หมาป่าโดยตรง ขณะเดียวกันกรงเล็บแหลมคมของหมาป่า ที่เหมือนจะฟาดลงมา ยังคงนิ่งอยู่ในอากาศ มิอาจตกถึงตัวเป้าหมายได้

“อ๊อก …. พรวด”

มนุษย์หมาป่ากระอักเลือดจากปาก ไม่รอให้เลือดตกถึงตัว ฉินเฟิงง้างเท้า เตะร่างทดลองมนุษญ์กลายพันธ์ปลิวออกไป เลือดพ่นเป็นสายเกรอะเต็มเพดาน พร้อมฝนเลือดที่โปรยปรายลงมา

คนที่เปิดใช้งานยีนกลายพันธุ์ ร่างทดลองมนุษย์กลายพันธุ์ระดับราชันย์เลเวล E ถูกสังหารลงในไม่กี่ลมหายใจโดยฉินเฟิง!

คนอื่นๆที่เหลือ ขาสั่นงันงก ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า

ติ๊ง!

เสียงลิฟต์ดังขึ้น บ่งบอกว่าตัวลิฟต์ได้มาถึงที่หมายแล้ว

ขณะนี้ ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดอย่างช้าๆ เงาร่างด้านใน เผยโฉมออกมา

วินาทีต่อมา พลังงานอันน่าหวาดกลัวยิงเข้าต้อนรับฉินเฟิง

ซี่!

เป็นคลื่นพลังงานจากปืนสลายอนุภาค!

พลังงานที่สาดเข้ามาดั่งพายุกระหน่ำ ไร้ซึ่งช่องโหว่ใดๆ หากถูกโจมตีด้วยรังสีแสงอันน่าหวาดกลัวนี้ ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว คือกลายเป็นผลึกคริสตัลและแตกสลายลงในที่สุด

ปรากฏว่าอีกฝ่ายต้อนรับการมาเยือนของฉินเฟิงด้วยปืนสลายอนุภาคอย่างกะทันหัน!

พลังสมาธิของฉินเฟิงกระพริบไหว ก่อร่างกำแพงอุปสรรคขึ้นทันใด

พลังสมาธิ : พลังสะท้อน!

แม้จะเป็นรังสีจากปืนสลายอนุภาค ก็ยังถูกสะท้อนกลับไปอย่างไร้เงื่อนไข

“อ๊ากกก”

คนที่อยู่ในลิฟต์ โหยหวนออกมาทันใด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดว่าฉินเฟิงไม่เพียงแต่เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ แต่ยังเป็นผู้ใช้อบิลิตี้

พลังสะท้อนนี้รวดเร็วเกินไป พวกเขาไม่ทันตั้งตัว

คนที่อยู่ในลิฟต์ถูกรังสีอนุภาคสะท้อนกลับ ทั้งหมดกลายเป็นผลึก ตัวแตก และสลายหายไป

กระทั่งทิศทางเบื้องหลังลิฟต์ ยังถูกเจาะเป็นรู แต่ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของลิฟต์

ฉินเฟิงก้าวขึ้นไปในลิฟต์ ตามมาติดๆด้วยไป๋หลีในชุดคลุมดำ

ฉินเฟิงกดหมายเลขขึ้นไปยังชั้นแปด

ประตูลิฟต์ค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ แต่ผู้ใช้พลังในชั้นหนึ่ง ทำได้เพียงเฝ้ามองฉินเฟิงหายไป ไม่กล้าทำอะไร

ฉินเฟิงแข็งแกร่งเกินไป สำหรับพวกเขา นี่มันฝันร้าย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต้านทานอำนาจดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ล้วนอยู่ในสายตาของผู้คนในห้องมอนิเตอร์ คนที่อยู่ใจกลางห้องมอนิเตอร์ตะโกนออกมาทันที “เราจะปล่อยเขาขึ้นไปไม่ได้ หยุดเขา!”

ในลิฟต์ ไม่เหลือสิ่งมีชีวิตใดอื่นอีกนอกจากฉินเฟิงกับไป๋หลี แต่เมื่อเคลื่อนมาถึงแค่ชั้นสอง เสียงติ๊ง! ก็ดังขึ้น เห็นได้ชัดว่ามีคนกดปุ่มจากด้านนอก

ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออกอย่างช้าๆ แต่คราวนี้ เป็นฉินเฟิงที่อยู่ในลิฟต์ ส่วนศัตรูเตรียมต้อนรับเขาจากภายนอกแทน

ในสายตาของฉินเฟิง ปรากฏคนที่มีรูปลักษณ์ของสัตว์ร้าย

คนเหล่านี้ คล้ายตั้งท่าเตรียมสู้ตั้งนานแล้ว กลิ่นอายระดับนายพลและราชันย์ฟุ้งมาจากตัวพวกเขา

ฉินเฟิงกวาดตามอง และพบว่าไม่มีใครอยู่ในร่างมนุษย์ปกติเลย บ้างเป็นหมาป่า , บ้างเป็นหมี , บ้างเป็นจิ้งจอก แต่ส่วนใหญ่เป็นสัตว์ร้ายในรัฐซูหยวน

ดวงตาของฉินเฟิงหรี่แคบลง สาดประกายเล็กน้อย

“ดูเหมือน่วาคราวนี้ จะไม่ผิดพลาดแล้ว ฉันได้พบกับสำนักงานหลักขององค์กร Z จริงๆ”

ต่อให้สถานที่แห่งนี้จะไม่ใช่ แต่ฉินเฟิงสามารถพบห้องทดลองของพวกมันได้แน่ๆ

ขณะนี้ ร่างทดลองมนุษย์กลายพันธุ์ที่อยู่ข้างนอก ร้องคำรามประสานเสียง

“ฆ่า!”

“ฉันจะฉีกแกเป็นชิ้นๆ จงกลายเป็นอาหารหมาป่าซะ!”

“ตาย!”

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้คน กรงเล็บแหลมฟาดเข้าถึงตัวฉินเฟิง

ฉินเฟิงยืนหยัดอยู่หน้าทางเข้าลิฟต์ สองเท้าไม่มีการขยับเคลื่อนไหว

มนุษย์จิ้งจอกกระโจนเข้าถึงเป็นตัวแรก กางกรงเล็บอันแหลมคม ฟาดมันเป็นเส้นโค้งด้วยพละกำลังอันน่าหวาดกลัว หมายจะเฉือนดวงตา ทำลายการมองเห็นของฉินเฟิง

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงเร็วยิ่งกว่า หนึ่งมือของเขาฉกออกราวกับงูที่เห็นเหยื่อเข้าถึงระยะโจมตี คว้าลงตรงคอฝ่ายตรงข้าม

พรวดดด!

เพียงพริบตา ร่างทดลองมนุษย์กลายพันธุ์จิ้งจอก ส่วนหัวกับลำตัวแยกจากกัน

“โฮกกก”

มนุษย์หมีกลายพันธุ์ ระดับราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล E ง้างสองแขนซ้ายขวา พยายามคว้าจับฉินเฟิง แต่ในจังหวะคิดจับศัตรู มันเผยช่องโหว่ช่วงอกออกมา

ฉินเฟิงไม่รอช้า ระเบิดกำปั้นออกไปดั่งคราก่อน

ปงงงงง! เสมือนซุงใหญ่เคาะระฆังเงิน บังเกิดเสียงดังหนึกทึบ จากนั้นแผ่นหลังของมนุษย์หมีร่างกำยำ คล้ายปรากฏร่องรอยกำปั้นผุดออกมา หมัดนี้ อาศัยเพียงพละกำลังกายเพียวๆ ทุบทำลายหัวใจจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งประทับรอยไว้เบื้องหลัง

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ

Status: Ongoing
ยุคมืดได้มาเยือน รอยแยกมิติปรากฏขึ้นบนผืนโลก เหล่าสัตว์ร้ายเข้ามารุกราน สัตว์ป่าเองก็เริ่มกลายพันธุ์ ส่งผลให้ทุกสิ่งพลิกตลบ มนุษย์ที่เคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดตลอดมา กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่ำสุดในห่วงโซ่อาหาร …ร้อยปีต่อจากนั้น จึงได้ถือกำเนิดสามอาชีพหลักที่ใช้ต่อกรกับพวกที่กล่าวมาข้างต้นขึ้น อันได้แก่ ผู้ใช้อบิลิตี้ , ผู้ใช้วรยุทธ และมือปืนขึ้น‘ฉินเฟิง’ เด็กกำพร้าที่เกิดในช่วงยุคมืด ได้ถูกลักพาตัวไปในวันที่เขาสามารถปลุกอบิลิตี้ของตนเองให้ตื่นขึ้น ถูกจับไปทรมานทดลอง แต่สุดท้ายก็รอดหนีรอดมาได้ และใช้ชีวิตยาวนานกว่า 10 ปี และหลังจากนั้นเอง ในช่วงโลกาวินาศของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท