The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1240 – อสูรสะกดจิต

ตอนที่ 1240 - อสูรสะกดจิต

  ที่นอกเมืองอสูรเฉียนจุนบินบนสมบัติอสูรด้วยความกังวลใจอย่างช้า ๆ

  ซือหยูสังหารราชาอสูรไปแล้วหนึ่งคนสตรีที่ถูกขู่ผู้นั้นย่อมไม่หยุดหาเรื่องพวกเขา นางจะต้องส่งยอดฝีมือมามากกว่านี้ และตอนนี้ซือหยูยังทำการเดินทางอย่างเชื่องช้า นี่มันการฆ่าตัวตายไม่ใช่หรือ?

  บางทีซือหยูอาจจะสังหารราชาอสูรหนึ่งคนได้ง่ายๆ แต่ถ้าหากศัตรูส่งมาสักสิบหรือร้อยตนเล่า?

  ราชาอสูรมากมายมายังเมืองนี้เพื่อลี้ภัยกับอสูรปราดเปรียว

  ซือหยูยังคงเรียนรู้สิ่งที่ได้จากเทพไม้อย่างช้าๆ

  มีโอกาสสูงที่สิ่งสืบทอดของเทพไม้จะมาจากไม้โบราณซือหยูมิอาจรู้ทุกสิ่งทุกอย่างไม้ แต่วิถีเทพของนางช่วยให้ซือหยูเข้าใจมันง่ายขึ้นมาก

  ตอนนี้วิถีเทพของซือหยูมาถึงจุดสูงสุดของฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์แล้วต่อไปจะเป็นฎีกาสวรรค์แปลงฟ้า

  ฎีกาสวรรค์แปลงฟ้านั้นคือวิถีเทพ

  แม้ซือหยูมีพลังระดับว่าที่เทพฎีกาสวรรค์ของเขาและฐานพลังก็ห่างไกลจากว่าที่เทพอยู่มาก

  วิถีเทพของเทพไม้นั้นช่วยเหลือซือหยูในการบ่มเพาะวิถีเทพของตัวเองเพราะมีเพียงเทพไม้เท่านั้นที่จะมอบทุกสิ่งให้กับซือหยูอย่างไม่ยั้งมือ

  ซือหยูเติบโตอย่างมากเมื่อบ่มเพาะด้วยสิ่งสืบทอดจากเทพไม้เขาทำให้ฎีกาสวรรค์ของตัวเองสมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อย ๆ

  ห้าวันต่อมาพวกเขามาถึงชายแดนเมืองอสูร ถ้าหากพวกเขาเดินทางต่อไป พวกเขาจะถึงเขตของอสูรจ้าวดินแดนอีกคน

  เฉียนจุนที่กังวลใจมานานถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาแปลกใจที่ศัตรูไม่ได้มาตามล่าในระหว่างทาง

   นายท่านพวกเรากำลังจะเข้าสู่เขตแดนของอสูรอุษาแล้ว ข้าว่าเราคงปลอดภัย! 

  เฉียนจุนลดความระแวงลงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

  ซือหยูพูดอย่างใจเย็นแม้จะยังหลับตา

   ปลอดภัยกว่ารึ?ข้าไม่คิดเช่นนั้นหรอก ว่าที่เทพสองคนตามเรามานานแล้ว พวกมันจะฆ่าพวกเราที่นี่! 

  เฉียนจุนตกใจ

   ว่าที่เทพสองคนรึ? 

  ว่าที่เทพมีพลังของอสูรผู้คุมดินแดนแต่ในพื้นที่แต่ละเขตจะมีอสูรจ้าวดินแดนเพียงคนเดียว หรือว่าอสูรปราดเปรียวจะมาที่นี่กับสหายที่เป็นอสูรจ้าวดินแดนเหมือนกัน?

  เฉียนจุนสับสนในคำพูดของซือหยูแต่จากนั้นเอง พลังอันเยือกเย็นก็ปรากฏมาเพื่อหยุดซือหยูไม่ให้ไปต่อ   หืม?ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสัมผัสพวกเราได้! ประหลาดนัก! 

  ฟึ่บ!

  ว่าที่เทพสองคนร่อนลงมาด้วยพลังเทพอ่อนๆ

  หนึ่งในนั้นสวมชุดหนังสัตว์เขามีร่างกำยำ

  อีกคนสวมผ้าคลุมดำยาวทั้งตัวแม้แต่ใบหน้าก็ถูกบดบังด้วยเงา

  ชายหนุ่มที่สวมหนังสัตว์มองซือหยูพร้อมเลียริมฝีปากด้วยความเยือกเย็นเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กที่ข้างเท้าซือหยู เขาก็หวาดกลัวเล็กน้อยและคิดในใจ

  ‘มันเหมือนกับสิ่งที่พวกเราตามหาอยู่!’

  ‘ไม่แปลกเลยที่เฟยหลานขอให้พวกเรามาหยุดมัน!’

   ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นเพียงอสูรเนรมิตรแต่สังหารราชาอสูรที่เป็นเซียนขั้นสูงสุดได้ไม่ยาก! 

  ชายหนุ่มมองซือหยูด้วยความสงสัย   ข้าชอบพวกมีพรสวรรค์ข้าจะเมตตากับเจ้า! 

  เฉียนจุนกับชาเอ๋อหวาดกลัวนี่มันอสูรจ้าวดินแดน! อสูรจ้าวดินแดนสองคนกำลังยืนอยู่หน้าพวกเขา!

  แทนที่จะส่งราชาอสูรที่มากกว่าเดิมมาศัตรูกลับส่งอสูรจ้าวดินแดนมาขวางซือหยู

  พวกเขาจะเทียบกับอสูรจ้าวดินแดนได้ยังไง?อสูรจ้าวดินแดนสังหารพวกเขาได้ด้วยดัชนีเดียวด้วยซ้ำ!

  เมื่อเฉียนจุนได้ยินว่าเขาจะแสดงความเมตตาเขาก็เริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะ พวกเขาไม่ต่างจากมดปลวกต่อหน้าอสูรจ้าวดินแดนที่จะไว้ชีวิตพวกเขาหากอารมณ์ดี

   เจ้าจะแสดงความเมตตากับเราแบบไหนล่ะ? 

  ซือหยูยิ้มและลืมตา

  ชายหนุ่มยิ้มตอบ

   พวกเจ้าทุกคนจะถูกข้าสังหาร!    เฉียนจุนกับลูกสาวเดือดพล่านในใจเจ้าบอกว่าจะเมตตาแต่ทำใจว่าจะสังหารพวกเราแล้วอย่างนั้นเรอะ?

   หึหึ!เชื่อข้าเถอะ! ผู้หญิงคนนั้นคิดให้อีกคนฆ่าพวกเจ้า แต่ถ้าหากพวกเขาโดนเขาฆ่า พวกเจ้าจะทุกข์ทรมานมากทีเดียว! 

  เฉียนจุนกับลูกสาวมองว่าที่เทพที่ซ่อนตัวอยู่ในผ้าคลุมดำแม้จะไม่เห็นใบหน้า ทั้งสองก็รู้สึกว่าชายในผ้าคลุมน่ากลัวยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ

   หากเจ้าเงียบคำตอบก็คือตกลง! 

  ชายหนุ่มสวมหนังสัตว์ยิ้มเขาปล่อยพลังเทพออกมาจากร่าง

  แม้พลังที่ปล่อยออกมาจะน้อยมันก็ยังคงเป็นพลังเทพ ไม่ว่าเซียนจะแข็งแกร่งเพียงใด มันก็เป็นพลังของเซียนเท่านั้น!

  ความต่างระหว่างพลังเทพกับพลังเซียนนั้นกว้างใหญ่ราวมหาสมุทร!

  หากพวกเขาถูกโจมตีด้วยพลังเทพพวกเขาจะตายไปพร้อมกับดวงวิญญาณ!   เฉียนจุนยืนขวางหน้าลูกสาวเขายิ้มแห้ง ๆ เพราะเลิกคิดที่จะต่อต้านแล้ว

  ไร้ความหมายที่จะต้านทานพลังของว่าที่เทพ

  เมื่อเฉียนจุนสัมผัสได้ถึงพลังเทพอันน่ากลัวเขาหลับตาช้า ๆ แต่หลายลมหายใจผ่านไป เขาก็สัมผัสความเจ็บปวดของความตายไม่ได้ แต่มีกลุ่มพลังห้าธาตุเข้าปกป้องเขากับลูกสาวเอาไว้

  เฉียนจุนอ้าปากค้างเมื่อลืมตา

  กลุ่มพลังห้าสีที่ล้อมรอบตัวพวกเขามีพลังห้าธาตุอยู่เต็มเปี่ยมมันปกคลุมซือหยูเอาไว้ด้วย

  พลังเทพทำลายล้างถูกหยุดเมื่อปะทะกับแสงห้าสีพลังเทพอยู่ห่างจากซือหยูเพียงหกศอก

  ซือหยูยังคงนั่งบนสมบัติอสูรราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

  ชายหนุ่มใบหน้าหมอง   พลังกดดันแข็งแกร่งมาก!มันสยบได้แม้แต่พลังเทพ! มันคือสมบัติอสูรชั้นสูงที่อยู่ในกายเจ้าสินะ? 

  เขาค่อนข้างเคร่งเครียดเพราะเขารู้จักสมบัติอสูรชั้นสูงในแดนอสูรเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น

  เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน?ชายหนุ่มสวมหนังสัตว์ตกใจและรู้สึกไม่ดีเลย

  ซือหยูโบกมือเก็บพลังเทพและพลังห้าธาตุจากนั้นเขาสะท้อนพลังเทพกลับไปสู่เจ้าของ

  ชายในหนังสัตว์ชักสีหน้าหลังจากกำจัดพลังเทพของตัวเอง เขาถามซือหยูด้วยความเคร่งเครียด

   เจ้าเป็นใคร? 

  เฉียนจุนกับลูกสาวก็อยากจะถามคำถามนี้ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าซือหยูไม่ใช่ผู้ที่เดินทางมาจากแดนจิงเสวียน เขาจะต้องเป็นอสูรที่มีตัวตนปกปิดเอาไว้   ข้าไม่อยากสังหารมากเกินไปจงอย่าบังคับข้า! 

  ซือหยูลุกขึ้นยืน

  เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มในหนังสัตว์เริ่มลังเล บอกตามตรง เขาไม่อยากจะต่อสู้กับใครก็ตามที่มีสมบัติอสูรชั้นสูง

  แต่เขาก็ทำใจได้เมื่อมองดูเจ้าตัวเล็กที่เท้าซือหยู

   ข้าปล่อยเจ้าไปได้แต่เจ้าต้องทิ้งเจ้าสัตว์ตัวนั้นไว้กับเรา! 

  เขาตะโกน

  ซือหยูยังคงใจเย็นแต่จิตสังหารที่มองไม่เห็นกำลังแผ่มาจากใบหน้าของเขา

   เจ้าไม่เข้าใจคำพูดข้าสินะ! 

  เมฆาพลังห้าธาตุขนาดใหญ่แผ่ออกมาจากด้านหลังซือหยูจากนั้นแสงห้าสีก็ปรากฏตัวชายหนุ่มที่สวมหนังสัตว์ทันที

  แสงห้าสีที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวตกลงมา  ชายหนุ่มหนักใจมากเขาสร้างราชสีห์เพลิงด้วยวิถีเทพของตนและพยายามต้านทานพลังห้าธาตุเอาไว้

  พรึ่บ!

  ราชสีห์เพลิงถูกพลังห้าธาตุปะทะและกลายเป็นลูกไฟดวงเล็ก

  ชายหนุ่มตกตะลึงอย่างมากเพราะเขาถูกพลังห้าธาตุกดทับเอาไว้และขยับตัวไม่ได้เลย

   นี่มันสมบัติอะไรกัน? 

  ชายหนุ่มในชุดหนังสัตว์หวาดกลัวมากเพราะเขาเคยเห็นสมบัติอสูรระดับสูงมาก่อนแต่เขาไม่เคยเห็นสมบัติที่น่ากลัวที่จะหยุดว่าที่เทพอย่างเขาได้ง่ายดายเช่นนี้

  ซือหยูจ้องชายหนุ่มอย่างเย็นชา

   ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าเพราะข้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอันใดต่อเจ้าแต่ครั้งนี้เจ้ากลับอยากตาย อย่าหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน! 

  เขาพูด

  สุดท้ายชายหนุ่มในชุดหนังสัตว์ก็เข้าใจคำพูดของซือหยู ซือหยูไม่อยากหนี เขาเพียงแค่อยากจะไว้ชีวิตเขา!

   ช้าก่อน!เจ้าคิดให้ดีก่อนจะลงมือดีกว่า! เจ้ารู้ผลที่ตามมาหลังจากฆ่าอสูรจ้าวดินแดนหรือไม่? ข้ามาจากแดนจิงเสวียน ถ้าเจ้าทำให้องค์หญิงหกไม่พอใจก็ไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะปกป้องเจ้าได้! 

  ชายหนุ่มพูดเขาแอบรวบรวมพลังเทพเพื่อที่จะหนีหรือโต้กลับเมื่อมีโอกาส

  เขาเลือกที่จะเอ่ยถึงองค์หญิงหกในเวลานี้เพราะเขารู้ว่าคนธรรมดาในแดนอสูรไม่กล้าจะทำให้องค์หญิงหกโกรธแค้นมีเพียงอันธพาลเท่านั้นที่จะกล้าทำ!

  แต่น่าเสียดายซือหยูคืออันธพาลแห่งธารดารา

   องค์หญิงหกรึ?บังเอิญจริง ๆ! ข้าเพียงจะสู้กับนางเมื่อไม่นานนี่เอง ต้องขอบคุณองค์หญิงนั่นที่ทำให้ข้าต้องมาเป็นเช่นนี้ ถ้าเจ้าไม่เอ่ยถึงนาง ข้าอาจจะปล่อยเจ้าไป น่าเสียดายนัก…    หอกพลังปีศาจพุ่งออกจากมือซือหยูทะลุร่างชายหนุ่มกายและดวงวิญญาณถูกคร่าเอาไปพร้อมกันจากหอก เหลือเพียงก้อนพลังเทพสีทองเอาไว้

  เฉียนจุนกับชาเอ๋อเบิกตากว้างซือหยูเก็บแหล่งพลังเทพเอาไว้

  ทั้งคู่ไม่คิดว่าแหล่งพลังเทพที่ว่าที่เทพมีจะได้มาอย่างง่ายดายเช่นนี้!

  เฉียนจุนกับชาเอ๋อมิอาจเชื่อสายตา

  สิ่งที่ซือหยูเพิ่งจะพูดยิ่งทำให้ทั้งสองตกตะลึงกว่าเดิม!

  ซือหยูพูดว่าเขาได้ต่อสู้กับองค์หญิงหก!

  เขาเอาชีวิตรอดมาได้หลังจากต่อสู้กับองค์หญิงหกผู้ทรงพลังเขาเป็นใครกันแน่?

  เจ้าตัวเล็กกลอกตามองด้วยความประหลาดใจมันเริ่มมองซือหยูพลางครุ่นคิด

  ตัวตนของซือหยูทำให้เฉียนจุนชาเอ๋อ และเจ้าตัวเล็กตกใจ

  แต่ซือหยูก็รีบตะโกน   ระวัง!ปกป้องดวงวิญญาณเจ้าเอาไว้! 

  เขาหันไปและพบว่าชายที่สวมผ้าคตลุมดำยาวหายตัวไปแล้วพลังของเขาก็หายไปด้วย

  แต่พลังอันตรายกำลังเข้าใกล้ซือหยูอย่างช้าๆ

  ในตอนนั้นเองซือหยูเจ็บปวดที่ดวงวิญญาณ เมื่อเขารู้ตัวว่าวิญญาณตัวเองถูกจู่โจม เขาบอกเฉียนจุนกับชาเอ๋อทันที

  เฉียนจุนป้องกันดวงวิญญาณทำแต่ชาเอ๋อนั้นอายุยังน้อย นางขาดประสบการณ์ นางควบคุมวิญญาณไม่ทัน

  ชาเอ๋อตาเหลือกเสียสติดวงวิญญาณของนางกำลังถูกวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าควบคุม

  เฉียนจุนพยายามดึงสตินางกลับมาแต่ซือหยูก็หยุดเขาทันที

   ระวังดวงวิญญาณเจ้า!อย่าพลาดกับดักของมัน!    เจ้านั่นพยายามจะล่อลวงซือหยูกับเฉียนจุนโดนการเล่นงานชาเอ๋อหากทั้งสองจิตใจไม่หยุดนิ่งเมื่อใด เขาจะใช้โอกาสนั้นควบคุมทั้งคู่

  เมื่อซือหยูเตือนเฉียนจุนจึงต้องฝืนตัวเองให้ใจเย็นลง

   ฮ่าๆๆๆ!…คิดว่าเจ้าจะเอาชนะอสูรสะกดจิตโดยการป้องกันวิญญาณเจ้าได้เรอะ? 

  เสียงดังก้องในจิตใจซือหยูและเฉียนจุนพร้อมกัน

  เฉียนจุนหวาดกลัวมาก

   อสูรสะกดจิต!! 

  มีอสูรจ้าวดินแดนมากมายในแดนอสูรซึ่งไม่จำเป็นที่เฉียนจุนจะต้องรู้จักทุกคน

  แต่เฉียนจุนชักสีหน้าทันทีเมื่อได้ยินคำว่าอสูรสะกดจิต!

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท