ที่นอกเมืองอสูรเฉียนจุนบินบนสมบัติอสูรด้วยความกังวลใจอย่างช้า ๆ
ซือหยูสังหารราชาอสูรไปแล้วหนึ่งคนสตรีที่ถูกขู่ผู้นั้นย่อมไม่หยุดหาเรื่องพวกเขา นางจะต้องส่งยอดฝีมือมามากกว่านี้ และตอนนี้ซือหยูยังทำการเดินทางอย่างเชื่องช้า นี่มันการฆ่าตัวตายไม่ใช่หรือ?
บางทีซือหยูอาจจะสังหารราชาอสูรหนึ่งคนได้ง่ายๆ แต่ถ้าหากศัตรูส่งมาสักสิบหรือร้อยตนเล่า?
ราชาอสูรมากมายมายังเมืองนี้เพื่อลี้ภัยกับอสูรปราดเปรียว
ซือหยูยังคงเรียนรู้สิ่งที่ได้จากเทพไม้อย่างช้าๆ
มีโอกาสสูงที่สิ่งสืบทอดของเทพไม้จะมาจากไม้โบราณซือหยูมิอาจรู้ทุกสิ่งทุกอย่างไม้ แต่วิถีเทพของนางช่วยให้ซือหยูเข้าใจมันง่ายขึ้นมาก
ตอนนี้วิถีเทพของซือหยูมาถึงจุดสูงสุดของฎีกาสวรรค์พิสุทธิ์แล้วต่อไปจะเป็นฎีกาสวรรค์แปลงฟ้า
ฎีกาสวรรค์แปลงฟ้านั้นคือวิถีเทพ
แม้ซือหยูมีพลังระดับว่าที่เทพฎีกาสวรรค์ของเขาและฐานพลังก็ห่างไกลจากว่าที่เทพอยู่มาก
วิถีเทพของเทพไม้นั้นช่วยเหลือซือหยูในการบ่มเพาะวิถีเทพของตัวเองเพราะมีเพียงเทพไม้เท่านั้นที่จะมอบทุกสิ่งให้กับซือหยูอย่างไม่ยั้งมือ
ซือหยูเติบโตอย่างมากเมื่อบ่มเพาะด้วยสิ่งสืบทอดจากเทพไม้เขาทำให้ฎีกาสวรรค์ของตัวเองสมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อย ๆ
ห้าวันต่อมาพวกเขามาถึงชายแดนเมืองอสูร ถ้าหากพวกเขาเดินทางต่อไป พวกเขาจะถึงเขตของอสูรจ้าวดินแดนอีกคน
เฉียนจุนที่กังวลใจมานานถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาแปลกใจที่ศัตรูไม่ได้มาตามล่าในระหว่างทาง
นายท่านพวกเรากำลังจะเข้าสู่เขตแดนของอสูรอุษาแล้ว ข้าว่าเราคงปลอดภัย!
เฉียนจุนลดความระแวงลงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ซือหยูพูดอย่างใจเย็นแม้จะยังหลับตา
ปลอดภัยกว่ารึ?ข้าไม่คิดเช่นนั้นหรอก ว่าที่เทพสองคนตามเรามานานแล้ว พวกมันจะฆ่าพวกเราที่นี่!
เฉียนจุนตกใจ
ว่าที่เทพสองคนรึ?
ว่าที่เทพมีพลังของอสูรผู้คุมดินแดนแต่ในพื้นที่แต่ละเขตจะมีอสูรจ้าวดินแดนเพียงคนเดียว หรือว่าอสูรปราดเปรียวจะมาที่นี่กับสหายที่เป็นอสูรจ้าวดินแดนเหมือนกัน?
เฉียนจุนสับสนในคำพูดของซือหยูแต่จากนั้นเอง พลังอันเยือกเย็นก็ปรากฏมาเพื่อหยุดซือหยูไม่ให้ไปต่อ หืม?ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสัมผัสพวกเราได้! ประหลาดนัก!
ฟึ่บ!
ว่าที่เทพสองคนร่อนลงมาด้วยพลังเทพอ่อนๆ
หนึ่งในนั้นสวมชุดหนังสัตว์เขามีร่างกำยำ
อีกคนสวมผ้าคลุมดำยาวทั้งตัวแม้แต่ใบหน้าก็ถูกบดบังด้วยเงา
ชายหนุ่มที่สวมหนังสัตว์มองซือหยูพร้อมเลียริมฝีปากด้วยความเยือกเย็นเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กที่ข้างเท้าซือหยู เขาก็หวาดกลัวเล็กน้อยและคิดในใจ
‘มันเหมือนกับสิ่งที่พวกเราตามหาอยู่!’
‘ไม่แปลกเลยที่เฟยหลานขอให้พวกเรามาหยุดมัน!’
ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นเพียงอสูรเนรมิตรแต่สังหารราชาอสูรที่เป็นเซียนขั้นสูงสุดได้ไม่ยาก!
ชายหนุ่มมองซือหยูด้วยความสงสัย ข้าชอบพวกมีพรสวรรค์ข้าจะเมตตากับเจ้า!
เฉียนจุนกับชาเอ๋อหวาดกลัวนี่มันอสูรจ้าวดินแดน! อสูรจ้าวดินแดนสองคนกำลังยืนอยู่หน้าพวกเขา!
แทนที่จะส่งราชาอสูรที่มากกว่าเดิมมาศัตรูกลับส่งอสูรจ้าวดินแดนมาขวางซือหยู
พวกเขาจะเทียบกับอสูรจ้าวดินแดนได้ยังไง?อสูรจ้าวดินแดนสังหารพวกเขาได้ด้วยดัชนีเดียวด้วยซ้ำ!
เมื่อเฉียนจุนได้ยินว่าเขาจะแสดงความเมตตาเขาก็เริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะ พวกเขาไม่ต่างจากมดปลวกต่อหน้าอสูรจ้าวดินแดนที่จะไว้ชีวิตพวกเขาหากอารมณ์ดี
เจ้าจะแสดงความเมตตากับเราแบบไหนล่ะ?
ซือหยูยิ้มและลืมตา
ชายหนุ่มยิ้มตอบ
พวกเจ้าทุกคนจะถูกข้าสังหาร! เฉียนจุนกับลูกสาวเดือดพล่านในใจเจ้าบอกว่าจะเมตตาแต่ทำใจว่าจะสังหารพวกเราแล้วอย่างนั้นเรอะ?
หึหึ!เชื่อข้าเถอะ! ผู้หญิงคนนั้นคิดให้อีกคนฆ่าพวกเจ้า แต่ถ้าหากพวกเขาโดนเขาฆ่า พวกเจ้าจะทุกข์ทรมานมากทีเดียว!
เฉียนจุนกับลูกสาวมองว่าที่เทพที่ซ่อนตัวอยู่ในผ้าคลุมดำแม้จะไม่เห็นใบหน้า ทั้งสองก็รู้สึกว่าชายในผ้าคลุมน่ากลัวยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
หากเจ้าเงียบคำตอบก็คือตกลง!
ชายหนุ่มสวมหนังสัตว์ยิ้มเขาปล่อยพลังเทพออกมาจากร่าง
แม้พลังที่ปล่อยออกมาจะน้อยมันก็ยังคงเป็นพลังเทพ ไม่ว่าเซียนจะแข็งแกร่งเพียงใด มันก็เป็นพลังของเซียนเท่านั้น!
ความต่างระหว่างพลังเทพกับพลังเซียนนั้นกว้างใหญ่ราวมหาสมุทร!
หากพวกเขาถูกโจมตีด้วยพลังเทพพวกเขาจะตายไปพร้อมกับดวงวิญญาณ! เฉียนจุนยืนขวางหน้าลูกสาวเขายิ้มแห้ง ๆ เพราะเลิกคิดที่จะต่อต้านแล้ว
ไร้ความหมายที่จะต้านทานพลังของว่าที่เทพ
เมื่อเฉียนจุนสัมผัสได้ถึงพลังเทพอันน่ากลัวเขาหลับตาช้า ๆ แต่หลายลมหายใจผ่านไป เขาก็สัมผัสความเจ็บปวดของความตายไม่ได้ แต่มีกลุ่มพลังห้าธาตุเข้าปกป้องเขากับลูกสาวเอาไว้
เฉียนจุนอ้าปากค้างเมื่อลืมตา
กลุ่มพลังห้าสีที่ล้อมรอบตัวพวกเขามีพลังห้าธาตุอยู่เต็มเปี่ยมมันปกคลุมซือหยูเอาไว้ด้วย
พลังเทพทำลายล้างถูกหยุดเมื่อปะทะกับแสงห้าสีพลังเทพอยู่ห่างจากซือหยูเพียงหกศอก
ซือหยูยังคงนั่งบนสมบัติอสูรราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชายหนุ่มใบหน้าหมอง พลังกดดันแข็งแกร่งมาก!มันสยบได้แม้แต่พลังเทพ! มันคือสมบัติอสูรชั้นสูงที่อยู่ในกายเจ้าสินะ?
เขาค่อนข้างเคร่งเครียดเพราะเขารู้จักสมบัติอสูรชั้นสูงในแดนอสูรเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน?ชายหนุ่มสวมหนังสัตว์ตกใจและรู้สึกไม่ดีเลย
ซือหยูโบกมือเก็บพลังเทพและพลังห้าธาตุจากนั้นเขาสะท้อนพลังเทพกลับไปสู่เจ้าของ
ชายในหนังสัตว์ชักสีหน้าหลังจากกำจัดพลังเทพของตัวเอง เขาถามซือหยูด้วยความเคร่งเครียด
เจ้าเป็นใคร?
เฉียนจุนกับลูกสาวก็อยากจะถามคำถามนี้ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าซือหยูไม่ใช่ผู้ที่เดินทางมาจากแดนจิงเสวียน เขาจะต้องเป็นอสูรที่มีตัวตนปกปิดเอาไว้ ข้าไม่อยากสังหารมากเกินไปจงอย่าบังคับข้า!
ซือหยูลุกขึ้นยืน
เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มในหนังสัตว์เริ่มลังเล บอกตามตรง เขาไม่อยากจะต่อสู้กับใครก็ตามที่มีสมบัติอสูรชั้นสูง
แต่เขาก็ทำใจได้เมื่อมองดูเจ้าตัวเล็กที่เท้าซือหยู
ข้าปล่อยเจ้าไปได้แต่เจ้าต้องทิ้งเจ้าสัตว์ตัวนั้นไว้กับเรา!
เขาตะโกน
ซือหยูยังคงใจเย็นแต่จิตสังหารที่มองไม่เห็นกำลังแผ่มาจากใบหน้าของเขา
เจ้าไม่เข้าใจคำพูดข้าสินะ!
เมฆาพลังห้าธาตุขนาดใหญ่แผ่ออกมาจากด้านหลังซือหยูจากนั้นแสงห้าสีก็ปรากฏตัวชายหนุ่มที่สวมหนังสัตว์ทันที
แสงห้าสีที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวตกลงมา ชายหนุ่มหนักใจมากเขาสร้างราชสีห์เพลิงด้วยวิถีเทพของตนและพยายามต้านทานพลังห้าธาตุเอาไว้
พรึ่บ!
ราชสีห์เพลิงถูกพลังห้าธาตุปะทะและกลายเป็นลูกไฟดวงเล็ก
ชายหนุ่มตกตะลึงอย่างมากเพราะเขาถูกพลังห้าธาตุกดทับเอาไว้และขยับตัวไม่ได้เลย
นี่มันสมบัติอะไรกัน?
ชายหนุ่มในชุดหนังสัตว์หวาดกลัวมากเพราะเขาเคยเห็นสมบัติอสูรระดับสูงมาก่อนแต่เขาไม่เคยเห็นสมบัติที่น่ากลัวที่จะหยุดว่าที่เทพอย่างเขาได้ง่ายดายเช่นนี้
ซือหยูจ้องชายหนุ่มอย่างเย็นชา
ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าเพราะข้าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอันใดต่อเจ้าแต่ครั้งนี้เจ้ากลับอยากตาย อย่าหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!
เขาพูด
สุดท้ายชายหนุ่มในชุดหนังสัตว์ก็เข้าใจคำพูดของซือหยู ซือหยูไม่อยากหนี เขาเพียงแค่อยากจะไว้ชีวิตเขา!
ช้าก่อน!เจ้าคิดให้ดีก่อนจะลงมือดีกว่า! เจ้ารู้ผลที่ตามมาหลังจากฆ่าอสูรจ้าวดินแดนหรือไม่? ข้ามาจากแดนจิงเสวียน ถ้าเจ้าทำให้องค์หญิงหกไม่พอใจก็ไม่มีใครบนโลกนี้ที่จะปกป้องเจ้าได้!
ชายหนุ่มพูดเขาแอบรวบรวมพลังเทพเพื่อที่จะหนีหรือโต้กลับเมื่อมีโอกาส
เขาเลือกที่จะเอ่ยถึงองค์หญิงหกในเวลานี้เพราะเขารู้ว่าคนธรรมดาในแดนอสูรไม่กล้าจะทำให้องค์หญิงหกโกรธแค้นมีเพียงอันธพาลเท่านั้นที่จะกล้าทำ!
แต่น่าเสียดายซือหยูคืออันธพาลแห่งธารดารา
องค์หญิงหกรึ?บังเอิญจริง ๆ! ข้าเพียงจะสู้กับนางเมื่อไม่นานนี่เอง ต้องขอบคุณองค์หญิงนั่นที่ทำให้ข้าต้องมาเป็นเช่นนี้ ถ้าเจ้าไม่เอ่ยถึงนาง ข้าอาจจะปล่อยเจ้าไป น่าเสียดายนัก… หอกพลังปีศาจพุ่งออกจากมือซือหยูทะลุร่างชายหนุ่มกายและดวงวิญญาณถูกคร่าเอาไปพร้อมกันจากหอก เหลือเพียงก้อนพลังเทพสีทองเอาไว้
เฉียนจุนกับชาเอ๋อเบิกตากว้างซือหยูเก็บแหล่งพลังเทพเอาไว้
ทั้งคู่ไม่คิดว่าแหล่งพลังเทพที่ว่าที่เทพมีจะได้มาอย่างง่ายดายเช่นนี้!
เฉียนจุนกับชาเอ๋อมิอาจเชื่อสายตา
สิ่งที่ซือหยูเพิ่งจะพูดยิ่งทำให้ทั้งสองตกตะลึงกว่าเดิม!
ซือหยูพูดว่าเขาได้ต่อสู้กับองค์หญิงหก!
เขาเอาชีวิตรอดมาได้หลังจากต่อสู้กับองค์หญิงหกผู้ทรงพลังเขาเป็นใครกันแน่?
เจ้าตัวเล็กกลอกตามองด้วยความประหลาดใจมันเริ่มมองซือหยูพลางครุ่นคิด
ตัวตนของซือหยูทำให้เฉียนจุนชาเอ๋อ และเจ้าตัวเล็กตกใจ
แต่ซือหยูก็รีบตะโกน ระวัง!ปกป้องดวงวิญญาณเจ้าเอาไว้!
เขาหันไปและพบว่าชายที่สวมผ้าคตลุมดำยาวหายตัวไปแล้วพลังของเขาก็หายไปด้วย
แต่พลังอันตรายกำลังเข้าใกล้ซือหยูอย่างช้าๆ
ในตอนนั้นเองซือหยูเจ็บปวดที่ดวงวิญญาณ เมื่อเขารู้ตัวว่าวิญญาณตัวเองถูกจู่โจม เขาบอกเฉียนจุนกับชาเอ๋อทันที
เฉียนจุนป้องกันดวงวิญญาณทำแต่ชาเอ๋อนั้นอายุยังน้อย นางขาดประสบการณ์ นางควบคุมวิญญาณไม่ทัน
ชาเอ๋อตาเหลือกเสียสติดวงวิญญาณของนางกำลังถูกวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าควบคุม
เฉียนจุนพยายามดึงสตินางกลับมาแต่ซือหยูก็หยุดเขาทันที
ระวังดวงวิญญาณเจ้า!อย่าพลาดกับดักของมัน! เจ้านั่นพยายามจะล่อลวงซือหยูกับเฉียนจุนโดนการเล่นงานชาเอ๋อหากทั้งสองจิตใจไม่หยุดนิ่งเมื่อใด เขาจะใช้โอกาสนั้นควบคุมทั้งคู่
เมื่อซือหยูเตือนเฉียนจุนจึงต้องฝืนตัวเองให้ใจเย็นลง
ฮ่าๆๆๆ!…คิดว่าเจ้าจะเอาชนะอสูรสะกดจิตโดยการป้องกันวิญญาณเจ้าได้เรอะ?
เสียงดังก้องในจิตใจซือหยูและเฉียนจุนพร้อมกัน
เฉียนจุนหวาดกลัวมาก
อสูรสะกดจิต!!
มีอสูรจ้าวดินแดนมากมายในแดนอสูรซึ่งไม่จำเป็นที่เฉียนจุนจะต้องรู้จักทุกคน
แต่เฉียนจุนชักสีหน้าทันทีเมื่อได้ยินคำว่าอสูรสะกดจิต!