ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 10 ล่าหมาป่าผู้หิวโหย

ถนนสู่อาณาจักร

10 ล่าหมาป่าผู้หิวโหย

“ยินดีต้อนรับสู้บริษัทมิแรนด้า”

ทันทีที่ผมเปิดประตู พนักงานร้านทั้งหมดคำนับพร้อมกัน

ไอเท็มนั้นเกรดสูงกว่าที่ขายบนข้างถนนอย่างเห็นได้ชัด มันได้เรียงรายกันอยู่ข้างในร้าน

ราขาของนั้นส่วนใหญ่อยู่ในรายการที่เป็นเงิน แต่สิ่งพวกนั้นที่เป็นทองและสูงขึ้นไปก็ไม่ได้หายากด้วย

เด็กหนุ่มตรงหน้าประตูคำนับผม

“โปรดขออภัย แต่คุณให้เราดูแลอาวุธคุณได้มั้ยครับ”

ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ

ผมยื่นอาวุธของผมให้อย่างเชื่อฟัง

มันไม่ใช่ความผิดผมที่เด็กหนุ่มล้มเมื่อเขารับมัน

“ยินดีต้อนรับ คุณหาอะไรอยู่ครับวันนี้?”

“ชั้นได้ยินว่ามีที่แลกเปลี่ยนเงินที่นี่”

ในทันที มีเงาอยู่ที่หน้าเจ้าของร้าน ที่แลกเปลี่ยนเงินน่าจะเชิญชวนแขกที่ไม่ดี

แต่มันแค่ชั่วครู่เดียว สีหน้าที่น่ารักของเจ้าของร้านกลับมาในไม่ช้า

“ชั้นจะเอาให้คุณดู โปรดมากับผม”

เราไปที่โต๊ะข้างหลังร้าน

มันดูเหมือนจะเป็นโต๊ะพิเศษสำหรับที่แลกเปลี่ยนเงิน มีอุปกรณ์สำหรับการแยกแยะเหมือนตาชั่ง และรูปของตราของเหรียญทองที่สามารถเจรจาได้

“คุณจะแลกเปลี่ยนอะไรครับวันนี้?”

“ชั้นอยากจะเปลี่ยน 5 เหรียญทองเป็นเหรียญเงิน”

ผมไม่อยากดูเหมือนมีเงินเยอะส่งเสียงดังอยู่ในกระเป๋าผม มากขนาดนี้น่าจะยอมรับได้

“เข้าใจแล้ว งั้นเราอยากจะตรวจเงินเผื่อไว้ก่อน ดังนั้นได้โปรดนำมันออกมาทีครับ”

เจ้าของร้านเทียบน้ำหนักของเรียนทอง จากนั้นส่องแสงใส่มัน ตรวจดูตรา

มาตรฐานของเหรียญทองจริงๆแล้วเหมือนกับสกุลเงิน มันไม่สำคัญตราบใดที่มันไม่ใช่ของปลอม

เจ้าของร้านยืนยันว่าไม่มีปัญหากับน้ำหนักและขนาด เขาเพียงแต่ดูตราอย่างไม่แน่ใจ

แต่เจ้าของร้านจู่ๆก็หยุดอยู่ที่เหรียญเดียว

หลังจากนั้น เขาเปิดหน้าของหนังสืออ้างอิงตรา

มองดูตราของเหรียญแต่ไม่เหมือนว่าจะเจอมัน

“ผมขออภัยอย่างสูง แต่คุณได้โปรดรอสักครู่หนึ่งได้มั้ย?”

เจ้าของร้านหายเข้าไปในร้าน

มันจะน่าปวดหัวถ้าเขาคิดว่ามันเป็นของปลอม ผมบอกไม่ได้อย่างแน่นอน ว่าผมได้มาจากใคร

แต่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของผม ที่ออกมาไม่ใช่ยามแต่เป็น ชายที่ดูประณีต วัยกลางคน

“ผมขออภัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ผมเป็นเจ้าของของร้านนี้ โอกิล มิแรนด้า ขออภัยสำหรับความหยาบคายของพนักงานก่อนหน้านี้ด้วย”

“ชั้นไม่ถือ แต่มันมีปัญหาอะไรกับเหรียญมั้ย?”

“ไม่ มันไม่เหมือนว่าจะเป็นของปลอม แต่เขาน่าจะไม่เคยเห็นมันมาก่อน ดังนั้นแม้ว่ามันจะปัญหามาก เขาขอการตัดสินใจจากผม”

โอกิลหยิบเหรียญทองด้วยผ้าแล้วเปิดตาเขากว้าง

“นี่คือ……!? นี่อาจจะหยาบคายสำหรับผม แต่คุณได้เหรียญนี้มาได้ยังไง?”

ผมบอกไม่ได้ว่ามันเป็นของขวัญจากลาจากแวมไพร์ งั้นมาหาข้ออ้างที่เหมาะสมเถอะ

“ชั้นได้มาเมื่อชั้นเข้าไปในป่าเอิร์ก”

ผมไม่ได้โกหก

“คุณเข้าไปในป่าปีศาจแล้วกลับมา นั่นน่าทึ่ง แต่นั่นจะอธิบายมัน ถ้ามันเป็นที่นั่น”

“งั้นนายหมายความว่ายังไง?”

มันจะมีปัญหาถ้าเขารับมันไปแค่แบบนั้น

ผมได้ถูกสอนหลายอย่างในป่า ดังนั้นผมเลยใจเย็นไม่ได้ ถ้ารู้ว่าผมไม่รู้เรื่อง

“นี่ เหรียญทองนี่สร้างโดยอาณาจักรที่พินาศมานานแล้ว”

โอกินกอดอกของเขาแล้วเริ่มเล่าเรื่องราว

“400 ปีก่อน มีอาณาจักรใหญ่ที่ปกครองพื้นที่ที่ห้อมล้อมโดยอาณาจักเทรียของเรา และอาณาจักร์อาร์คแลนด์ เมืองหลวงได้ใกล้เคียงกับที่เป็นป่าเอิร์กในตอนนี้ เหรียญนี้ ได้ถูกใช้ในอาณาจักรนั้น”

ถ้ามันเป็นเหรียญที่ได้หายไปแล้ว 400 ปี งั้นมันธรรมชาติที่คนเฝ้าร้านจะไม่รู้มัน

“จำนวนของทองเท่ากับทองทุกวันนี้ ยังไงซะ เหรียญนี้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่ามาตรฐานการหลอมได้ถูกใช้มาตั้งแต่วันนั้น”

“แต่มันใช้ไม่ได้เหรอ?”

“มันเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่เหรอครับ แม่ว่าอัตราทองนั้นเท่ากัน แต่เพราะไม่มีใครรู้ตรามัน มันอาจจะถูกเข้าใจผิดเป็นของปลอม ผมไม่คิณว่าคุณควรจะใช้มัน เหตุผลที่ผมรู้จักตรานี้ เพราะผมเห็นมันมาครั้งนึง ในเหรียญสะสมของปู่ผม”

เขาวางเหรียญทองไว้บนโต๊ะอย่างน่าเสียดาย

“เหรียญที่มีนั้นมันถูกหลอมไปครึ่งนึงจากไฟของสงคราม แต่ปู่พูดอย่างภาคภูมใจกับมันว่า ‘เหรียญนี้เป็นมรดกของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีต’ เขาพูด

‘แม้ว่ามีชิ้นที่เก็บอย่างดีอยู่ที่นี่ โอกิลยิ้มอย่างขมขื่น

“ผมมีข้อเสนอ คุณถือมั้ยถ้าให้ผมได้รับเหรียญนั้น? ผมจะจ่ายมัน 10 ทองราชวงศ์สำหรับมัน

ผมดูข้างในกระเป๋าเงินของผมทันที และมันออกมาอย่างที่คาด

ในกระเป๋ามีอีกเก้าเหรียญ ที่มีตราเดียวกัน

เกือบครึ่งหนึ่งที่ลูซี่มอบให้ผมเป็นเหรียญแบบนี้ แค่เธอไปเอาเหรียญนี้มาจากไหน? เธอหยิบมันมาจากบางที่เหรอ?

“ไม่ ชันว่าชั้นควรจะแลกเปลี่ยน 5 เหรียญทองธรรมดา มันมีความทรงจำพิเศษติดอยู่กับเหรียญนั้นน่ะ”

“อย่างนั้นเหรอครับ? นั่นช่างโชคไม่ดี แต่ดีมาก ถ้าคุณเปลี่ยนใจโปรดมาที่ร้านนี้”

“ชั้นขอโทษที่ชั้นใช้เวลาของนาย”

“ไม่ ไม่ ไม่ ผมดีใจที่คุณแสดงบางอย่างดีๆให้ดู ผมควรจะขอบคุณคุณ ปรกติแล้วจะมีค่าดำเนินการ 10% สำหรับการแลกเปลี่ยนเงิน แต่ผมจะมอบอัตราการแลกเปลี่ยนที่เป็นจริงให้”

ดูเหมือนผมได้กำไรอย่างคาดไม่ถึง

“ผมจะเปลี่ยน 5 เหรียญทองราชวงศ์นี้ สำหรับ 50 เหรียญเงินราชวงศ์ ยังไงซะ ถ้างั้น ถ้าคุณรู้สึกอยากแลกเปลี่ยนเหรียญนั้นก่อนหน้านี้ ได้โปรดมาที่ร้านเรานะครับ”

ผมจับมือกับโอกิล แล้วนำอาวุธของผมกลับคืนมา จากเด็กหนุ่มที่แบกมันอย่างสิ้นหวัง

ในท้ายที่สุด ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากเกี่ยวกับเหรียญ ผมเพียงแต่ไม่อยากจะขาย สิ่งที่พิเศษที่ถูกมอบให้โดยลูซี่ให้กับคนอื่น ไม่ต้องพูดถึงว่าชายอื่น

ผมดูเหมือนผมได้ตกหลุมรักเธอ{จริงๆ} แม้แต่ผมก็พูดเองเลย

ผมเกือบจะได้ยินเธอยิ้มและหัวเราะออกมาดังๆเลย

ในท้ายที่สุด ผมถามเจ้าของร้านที่ออกมาเพื่อส่งผมข้างนอก

“พอมาคิดดูแล้ว อาณาจักรที่ล่มสลายนั้นชื่อว่าอะไรครับ?”

“ผมบอกอย่างมั่นใจไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เขียนอยู่มากในหนังสือประวัติศาสตร์จริงๆ แต่เท่าที่ผมรู้…”

“อาณาจักรยุคโตวาเนีย” คือชื่อมัน หือห์……

ผมออกมาจากร้านมิแรนด้าแล้วหาโรงแรม

“ลูซี่ ยุคโตวาเนีย”

ไม่มีทางที่ผมจะลืมชื่อของผู้หญิงที่ผมรัก

ทีมันเรื่องบังเอิญมากเกินไป การที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในป่านั่น มีเหรียญนั่น และชื่อนั่นของเธอด้วย ทุกอย่างมันชี้ไปที่คำตอบ ‘《ใช่》’

ผมไม่ได้พบว่ามันช็อกเป็นพิเศษ

ตรงกันข้าม ผมจะพูดแทนว่า ผมมีแรงจูงใจ

คนสวยหาตัวจับยาก แวมไพร์ที่ใช้ชีวิตมา 500 กว่าปี และเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นสมาชิกของราชวงศ์ จากอาณาจักรที่ล่มสลาย

มันดูเหมือนว่ามันจะจริงที่ผมได้ถูกดึงดูด โดยผู้หญิงลึกลับ

เป็นขุนนาง มีอาณาจักรเป็นของตัวเอง และปกครองป่าของลูซี่

โชคดีที่ลูซี่ไม่แก่

ไม่ว่าจะกี่สิบปี ผมจะไปหาเธอแล้วทำให้เธอเป็นผู้หญิงของผม ผมจะ ‘มี’ เธอเป็นผู้หญิงของผม

แต่อย่างแรก ผมต้องหาโรงแรมและน้ำร้อน

เป้าหมายผมมันเล็กมาก มันทำให้ผมถอนหายใจ

*กริ๊ง* *กริ๊ง*

“ยินดีต้อนรับ–ค่า”

ผมได้ถูกต้อนรับอย่างอบอุ่นโดยเสียงของผู้หญิงอายุน้อย

“ชั้นอยากจะถาม มีน้ำอุ่นให้ล้างตัวมั้ยในโรงแรมนี้?”

“เรา–มี เรามีครัวให–ญ่เลยเห็นมั้ย เราต้มน้ำร้อนเย้–อะเลย~ แต่เราต้องจ่ายค่าฟืน มันเลยมีเก็บเงินเพิ่มนะ โอเคมั้ย~?”

ดูเหมือนผมจะเจอมันที่แรกเลย มาค้างที่นี่เถอะ ความจริงที่ว่ามีผู้หญิงอายุน้อยก็ยอดเยี่ยมด้วย

“งั้นขอห้องนึ่งครับ ราคาห้องนั่นจะเท่าไหร่?”

“อื–ม มีห้อง 8 คนคืนละ 10 ทองแดง ห้องเดี่ยวคืนละ 40 ทองแดง— มีห้องดีแต่นายต้องถามแม่สำหรับเรื่องนั้น”

ผมไม่ได้ต้องการห้องดีจริงๆ

ห้องเดี่ยวจะเพียงพอแล้ว สิ่งที่สำคัญคือน้ำร้อน

“ขอโทษ—, มันเป็นฤดูล่าหมาป่าตอนนี้ และเราเต็ม เราเลยขึ้นราคาน่ะ”

“ชั้นไม่ถือ เพราะทั้งหมดชั้นจะเข้ารวมด้วย ชั้นเอาห้องเดี่ยวและน้ำร้อน ได้โปรด”

“ขอบคุณค่ะ~♪ ถังธรรมดาจะพอมั้ย? ถ้านายอยากจะใช้เยอะเราจะเอาถังใหญ่มาให้ แต่มันจะแพงนะ?”

“เอาถังใหญ่ ชั้นอาบน้ำระหว่างเดินทางไม่ได้น่ะ ชั้นอยากจะสะอาดจริงๆ”

“แต่โอนี่-ซังไม่ได้เหม็อนขนาดนั้นจริงๆนะ มันมีคนที่ {น่าทึ่ง} อยู่ข้างในจริงๆ

“คนพวกนั้นมีแต่พวกไม่เอาน้ำร้อน” เธอหัวเราะ

เธอไม่ใช่คนสวยแต่ผมคิดว่าเธอมีเสน่ห์ แต่น่าอายเรื่องหน้าอกของเธอนะ

“ห้องเดี่ยวและถังน้ำร้อนใหญ่จะเป็นคืนละ 45 ทองแดง นายอาจจะคิดว่า 5 ทองแดงสำหรับน้ำร้อนมันแพง แต่นายจะได้เยอะ ดังนั้นรอคอยมันละกันนะ♪”

“ชั้นจะคาดหวังกับมัน สองคืน ถ้างั้น”

ผมหยิบเหรียญเงินออกมา

“ขอบคุณที่อุดหนุน— ได้โปรดเขียนชื่อของคุณลงที่ทะเบียน~”

ผมหยิบเงินทอนแล้วเขียนชื่อของผม

“{เอเกอร์}-ซังใช่มั้ย? นายมีลายมือที่ประณีตสำหรับทหารรับจ้างอายุน้อยนะ”

ผมได้ถูกทำให้เขียนเป็นพันครั้งน่ะ รู้มั้ย

“ชั้นมีสถานการณ์บางอย่างในอดีตน่ะ ชั้นสงสัยว่าเธอบอกชื่อชั้นได้มั้ย?”

“นั่นมันเร็–ว” เธอหัวเราะ แต่เธอไม่ผิดนะ

“ชั้นมาเรีย ลูกสาวของ ‘นกน้อยโบว์เวอร์’ นี้~”

“ชั้นเรียกชื่อเธอได้มั้ย?”

“ทิ้งคำให้เกียรติแล้วนั่น~ ชั้นจะให้นายถ้านายให้ชั้นเรียกนายว่าเอเกอร์

ร้านนี้มีแม่และพนักงาน~…มีพวกเราสามคน”

ดูเหมือนเธอจะไม่ใช่พวกที่ไม่สบายใจกับเรื่องเล็กๆ

“ในฤดูแบบนี้ มีหลายคนไปมา และเราขาดพนักงาน เราเลยไม่ได้ทำอาหารเช้า นายควรจะซื้อบางอย่างที่ถนนหลักกินนะ โอเคมั้ย~”

“ชั้นจะทำอย่างนั้น ยังไงก็ตาม เธอรู้ว่าล่าหมาป่าจริงๆแล้วคืออะไรมั้ย?”

“งั้นนายมาที่นี่โดยไม่รู้” เธอหัวเราะอีกครั้ง

“ชั้นไม่รู้เกียวกับมันมากด้วย แต่ชั้นคิดว่ายาม-ซังรวมรถม้า รอบประตูรั้วทิศเหนือเพื่อบางอย่าง”

เข้าใจแล้ว แน่นอนว่าเพราะพวกเขาเรียกมันว่าหมาป่าผู้หิวโหย มันจะถูกกำจัดในการล่าหมาป่า

เผิชญหน้ากับหมาป่าตอนกลางคืน พูดไม่ได้ว่าเป็นเรื่องฉลาด

“นั่นช่วยได้มาก อืมงั้น ชั้นคิดว่าชั้นจะไปพักผ่อนแล้ว เธอต้องเตรียมตัวนานเท่าไหร่?”

“ชั้นจะทำมันตอนนี้เลย~ ชั้นจะทำให้ห้องพร้อมแล้วต้มน้ำร้อน ดังนั้นนายไปแล้วหาอะไรกินนะ~”

พระอาทิตย์ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว มันจะตกดินในอีกไม่นาน

คนได้อัดกับอยู่ที่แผงที่ถนนข้างนอกแล้ว

เมื่อมาคิดมันดู ผมได้ชินกับชีวิตแวมไพร์ ของการตื่นประมาณเวลานี้

ผมควรจะรีบเข้าแล้วให้ชินกับจังหวะของมนุษย์

นอกจากนั้น ผมยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับพรุ่งนี้แล้วเติมท้องอย่างถูกต้องด้วย

ผมซื้อขนมปังชิ้นหนึงและไก่เสียบไม้สองไม้ ทั้งหมดใช้ 3 ทองแดง

มันจะสมบูรณ์แบบถ้ามันมีสตูว์ที่เต็มไปด้วยผัก แต่ผมคาดหวังบางอย่างหรูหราไม่ได้

ขณะที่ผมอยู่บนทางกลับไปที่โรงแรมพร้อมไก่เสียบไม้อยู่ในปากผม บางอย่างได้ดึงผ้าคลุมผมจากด้านข้าง

“ไม่ซื้อมะเขือเทศเหรอ?”

เด็กสาวได้เอาตะกร้าที่เต็มไปด้วยมะเขาเทศให้ผมดู

เหตุผลที่หน้าของเธอยังกลัวอยู่ แน่นอนว่ามันเป็นเพราะเธอยังมีเต็มตะกร้าให้ขายตอนพระอาทิตย์ตกดิน

ดูมันใกล้ๆ มันช้ำและไม่ค่อยดี

น่าจะเป็นเพราะพ่อค้าส่งขายของไม่ดีให้เธอ เพราะเธอเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ

“เท่าไหร่?”

“อ้า! ลูกละสามเซ็น!”

ผมซื้อมาทั้งหมดที่มีแปดลูกบนจานแล้วเอาให้เธอสามทองแดง

“ข, ขอบคุณมากๆค่ะ! เงินทอนนั้น, อืม, อืม…”

เด็กสาวน่าจะคิดเลขไม่เป็น เธอได้สับสน

ไม่สามารถจะคิดเลข เธอต้องถูกหลอกบ่อยแน่ เพราะเธอบอกไม่ได้ว่าหนึ่งทองแดงสำหรับสามลูกนั้นพอมั้ย

เมื่อผมบอกเธอว่าไม่ต้องทอน เธอคำนับขอบคุณผมซ้ำๆ

“อืม จริงๆ ขะ. ขอบคุณ มุ่ก!”

ผมเลยยัดมะเขือเทศที่ผมซื้อลูกหนึ่งในปากเธอ

“ใจเย็น มันเป็นมะเขือเทศที่เธอขาย มันไม่ได้รสชาติแย่ ใช่มั้ย?”

ผมลองกัดมันด้วยและมันสุกและอร่อย ตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์ของมัน

ตอนนี้ที่เธอขายหมดแล้ว สาวผ่อนคลายได้นิดหน่อยและกินเต็มปาก แต่เพราะปากเธอเล็ก มันดูเหมือนเธอจะใช้ตลอดกาลเพื่อกินมัน

เมื่อผมดูใกล้ๆ เธอแค่เพิ่งผ่าน 10 ขวบไป และยังมีลักษณะเด็กๆ เธอยังไม่อาจถูกเรียกว่าผู้หญิง แต่คุณสมบัติที่ดีของเธอเข้ากันกับผมสีบลอนด์ของเธอ

เธอได้สกปรกไปทั้งตัว ความน่ารักของเธอเลยไม่โดดเด่น แต่เธอจะโตขึ้นเป็นหญิงสวยอย่างแน่นอน

ผมมาจองไว้ก่อนดีกว่าตอนนี้ผมยังทำได้

“ชื่ออะไรหญิงน้อย?”

“ค๊ะ! ชั้นรู!”

เห็นเธอ เธอดูเครียดจนผมรู้สึกแปลก

“ชั้นเอเกอร์ ชั้นอยู่ที่นกน้อยโบว์เวอร์ พรุ่งนี้เชื่อตอนตะวันขึ้น ถ้าเธอมีบางอย่างสำหรับอาหารเช้าเบาๆ มาและขายชั้น”

“ขอบคุณมากค่ะ! ชั้นจะไปที่นั่นตอนตะวันขึ้น ดังนั้นได้โปรดนะ!”

แม้ว่าเธอยังเด็ก มันไม่แปลกที่จะทำธุรกิจตอนตะวันขึ้น

ที่แปลกคือแวมไพร์และลูกศิษย์เธอ{สร้างความรัก}ตอนพระอาทิตย์ขึ้น

“ชั้นคิดว่าเธอมีศักยภาพมาก แต่มันจะเป็นหลายปีก่อนชั้นจะเก็บเกี่ยวได้”

“ยินดีต้อนรับกลับมา นายจะทำอะไรดีล่ะ? ชั้นได้เตรียมห้องนายแล้ว~ ชั้นจะนำน้ำร้อนไปให้นายเร็วๆนี้ โอเคมั้ย~”

“คน{นี้}สุกพอแล้วที่จะกิน”

“มันอะไรเหรอ?” มาเรียพูดด้วยหน้าประหลาดขณะที่เธอทำทางผม ผมเข้าไปที่ห้องระหว่างที่จ้องก้นเธอ

ห้องค่อนข้างกว้าง หลักๆแล้วมันมีโต๊ะ และเตียงขนาดทั่วไป และมีกล่องไม้สำหรับเก็บชุดเกราะด้วย

ห้องเกือบทั้งหมดทำจากไม้ แต่มีส่วนของพื้นทีเป็นหิน “ส่วนนี้ไว้สำหรับล้างตัว” เธออธิบาย

จากนั้น ก่อนที่ผมจะได้ผักผ่อน เธอนำถังใหญ่ขนาด กว้าง 1 เมตรและสามถังเล็กเต็มไปด้วยน้ำครึ่งถัง

จากมาเรีย คุณเข้าไปในถังใหญ่และเทน้ำจากสามถังเล็กเพื่อล้างตัว จากนั้นที่น้ำออกที่รางน้ำฝนข้างพื้นหิน

เธอพูดเป็นพิเศษว่าให้ระวังอย่าให้น้ำเปียกนอกเขตหิน เพราะพื้นจะเน่า

“สำหรับ 50 ทองแดง ชั้นมอบบริการถูหลังพิเศษได้” เธอพูด ผมได้นำเหรียญเงินออกมาทันทีแล้วเธอเปลี่ยนเป็นแดงสด พูดว่าเธอล้อเล่น

“แต่ชั้นจะต้อนรับเธออย่างยินดีนะ”

“นายจะไปล่าหมาป่าพรุ่งนี้ใช่มั้ยล่ะ~? เอาใจออกมาจากเรื่องนั้นแล้วหลับได้แล้ว~ มันสำหรับชั้นและครอบครัวชั้นด้วย”

“อ้า ใช่ ชั้นจะหาเงินอย่างถูกต้องพรุ่งนี้แล้วขอมาเรียอีกครั้ง”

“ชั้นไม่มาห้องผู้ชายลามกอย่างนั้นนะ~ ชั้นจะปลุกนายพรุ่งนี้ ดังนั้นนอนหลับซะเมื่อนายล้างตัวเสร็จ โอเคมั้ย~”

มาเรียจากไป ผมล้างตัวผมและเสื้อผ้าของผม จากนั้นรู้สึกสดชื่น ผมกระโดดไปที่เตียงนุ่มๆ

เธอพูดว่านี้เป็นห้องเดี่ยวธรรมดา แต่มันสบายจริงๆ ผมคิดว่าผมน่าจะอยู่ที่นี่ได้ซักพัก

เหรียญทองมันมีค่ากว่าที่ผมคิด ดังนั้นผมเลยจะไม่มีปัญหาสำหรับเรื่องเงินซักพัก แต่สู้หมาป่าระหว่างที่ได้รับประสบการณ์ฟังดูใช่ด้วย

ทั้งหมดเพราะผมไม่ได้มีการต่อสู้จริงๆ สองปีครึ่งนี้

ที่ป่า ผมได้ทำมากสุดแค่ฝึกร่างกายของผม และเด็กจากวันนี้เป็นแค่การเล่นของเด็ก

ขณะที่ผมคิดว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าสัมผัสของการค่อสู้ได้กลับมา ผมรู้ถึงความรู้สึกของเตียงนุ่มที่ผมไม่ได้รู้สึกมาซักพัก และลอยสู่การหลับไหล

ผมรู้สึกถึงแสงและเปิดตาที่ง่วงของผม จากนั้นผมได้ยินเสียงประตูได้ถูกเคาะ

“เฮ้–ย! เอเกอร์ ซา–ง! มันเช้าแล้ว~ ตื่นได้แล้ว~”

ใช่ ผมต้องตื่นแล้ว

ผมหลับได้ดีมากเมื่อคืน ต้องเป็นเพราะความสดชื่นหลังจากที่อาบน้ำ

ประตูได้เปิดขึ้นและมาเรียอยู่ที่นั่น

ทักทายเธอยามเช้าเถอะ

“ในที่สุดนายก็ตื่นแล้ว สวัสดียา………《อุว้าาาาาา!》”

เธอได้ร้องกระทันหัน ดังนั้นผมตรวจตัวเองว่าอะไรเกิดขึ้น

เมื่อคืนผมล้างเสื้อผ้าผมแล้วไปนอนทั้งแบบนั้น ดังนั้นแน่นอนว่าผมได้เปลือย มากกว่านั้น เพราะชะตาของการตื่นขึ้น ของของผมยืนตรง

“อะไร!! ทำไมนายเปลือยล่ะ!? เร็วๆเข้าแล้วใส่บางอย่างซะ! แทนที่จะเรื่องนั้น มันหนา! มันใหญ่! ไม่น่าเชื่อ…”

มาเรียตกอยู่ในความตื่นตกใจครั้งใหญ่ แต่ผมแค่ตรวจดูเสื้อผ้าผมว่ามันแห้งมั้ย แล้วใส่มันอย่างช้าๆ

ผมไม่ได้ต่อต้านการเอาของของผมให้ผู้หญิงดูเป็นพิเศษ

เพราะทั้งหมดมันได้รับการรับรองโดยลูซี่ ว่าเป็นของผู้ใหญ่ที่งดงาม และเพราะมันเป็นเครื่องมือที่ไว้ผิดประเวณีกับผู้หญิง มันธรรมชาติที่ผมจะทำ ใช่มั้ย

พูดสิ่งนั้น มันไม่ใช่งานอดิเรกของผมที่จะเปิดเผยตัวผมอย่างมีความสุข

“เร็วเข้าแล้วใส่อะไรบางอย่าง! เดี๋ยว ทำไมนายใส่ท่อนบนก่อน! ปิดของที่สำคัญก่อนซี่!”

“ขอโทษ มันใหญ่มากจนมันไม่พอดีกับกางเกงน่ะ ชั้นอยากจะล้างหน้าก่อน ขอน้ำ ได้โปรด”

“ชั้นเชื่อนายไม่ได้อีกแล้ว~! นายใจเย็นมากได้ยังไง!”

มาเรียส่งถังน้ำระหว่างที่มองไปด้านข้าง

แต่แม้ว่าเธอร้อง จากตั้งแต่ต้น สายตาเธอไม่แยกออกจากส่วนนั้นของผม

ระหว่างที่ผมล้างหน้า {มัน} สงบลง ผมเลยใส่กางเกงผม

“เธอยังอยากดูเหรอ?” ผมถาม และเธอตอบโดยการกระแทกประตู

ผมหยิบหอกจริงๆของผมขึ้น และใส่ชุดเกราะและผ้าคลุม

เพราะมาเรียได้เคืองและถอยมาอยู่ข้างใน ผมยกมือที่ห้องโถงแล้วพูดว่า “ชั้นไปแล้ว”

จากข้างในโรงแรม มือได้ออกมาแล้วโบก

เมื่อผมออกมาข้างนอกโรงแรม อีกเสียงได้เรียก

“อืมม! สวัสดียามเช้า!”

รูเชื่อในสัญญาของเราเมื่อวานแล้วรอข้างหน้านกน้อยโบว์เวอร์

“นี่ค่ะ! อืม แอมเปิ้ล! มันได้ถูกเด็ดเมื่อเช้านี้ดังนั้นมันยังสดอยู่!”

เธอเป็นแบบนี้ด้วยเมื่อวาน เด็กสาวคนนี้ลนง่ายๆ

ดูเหมือนเธอขายมันสองลูกหนึ่งทองแดง ผมเลยซื้อสี่ลูกและวางลูกหนึ่งไว้บนหัวเธอ

มันน่ารักที่เธอคำนับพร้อมรอยยิ้มที่เขินอายบนหน้าเธอ

ขณะที่ผมเคี้ยวแอปเปิ้ล ผมไปที่ประตูรั้วทิศเหนือ ตรงข้ามจากที่ผมเข้ามาทีนี่ มันเหมือนกับที่มาเรียพูด มีกลุ่มยามและรถม้าขนาดกลางหลายคัน นำหน้าด้วยม้าสองตัวเรียงกัน

ผมได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

“โย่ เอเกอร์! นายก็อยากจะไปล่าหมาป่าด้วยวันนี้เหรอ?”

“สวัสดี ชั้นได้เจอโรมแรมโดยไม่มีปัญหาต้องขอบคุณนาย เกรย์ นายช่วยชั้นจากปัญหาเลย”

“อะไรล่ะ อย่าถือมันน่า นี่อาจจะฉุกละหุกแต่เราไม่มีเวลามากจนกว่าจะออกเดินทาง แสดงเครื่องหมายเข้าเมืองแล้วขึ้นรถม้า”

ปรกติแล้ว ไม่มีใครจะเข้าร่วมโดยไม่ถามเกี่ยวกับภารกิจและรางวัลในรายละเอียด แต่เพราะมันดูเหมือนจะเป็นงานธรรมดา คนได้มาทีละคนทีละคนโดยไม่ถามรายละเอียด

นอกจากนั้น ผมเชื่อว่าเขาไม่ใช่ชายพวกที่จะหักหลังผม ผมเลยขึ้นไปบนรถม้าอย่างเงียบๆ

“โอเค! ไปกันเถอะ!”

รถม้าหกคันขนคน 10 คนได้ออกไปพร้อมกัน

โชคดี ที่ผมอยู่ในรถม้าเดียวกับเกรย์

“เกรย์ พูดจริงๆแล้วชั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการล่าหมาป่าเลย นอกจากว่าเราจะไปล่าพวกหมาป่า นายบอกชั้นเกี่ยวกับมันได้มั้ย?”

“มันเป็นครั้งแรกของนายเหรอ? นายค่อนข้างมีภาพลักษณ์ ชั้นเลยคิดว่านายมาบ่อย… โอ้ยังไงซะ เรามีเวลาระหว่างที่เราเดินทาง ชั้นจะอธิบายระหว่างทางละกัน”

“ขอโทษที่รบกวน”

“อย่างแรก เป้าหมายของการล่ามันเหมือนที่ชื่อ ‘ล่าหมาป่า’ พูด แต่ส่วนที่สำคัญคือเราล่าพวกหมาป่า ที่มันเปลี่ยนเป็นมอนสเตอร์ครึ่งนึง พูดอีกอย่าง เรามากำจัด “หมาป่าหิวโหย”

มันไม่แปลกที่สัตว์จะเปลี่ยนเป็นมอนสเตอร์

มอนสเตอร์แท้ๆ มันนานๆจะออกมาที แต่พวกที่เคยเป็นสัตว์ค่อนข้างเห็นได้ทั่วไปบนทางหลวง

เพราะสิ่งนั้น ความแข็งแกร่งของมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ และระดับภัยของมันไม่สำคัญ

“ตัวที่ได้เปลี่ยนเป็นมอนสเตอร์อย่างสมบูรณ์และทำอะไรตัวเดียวนั้นต่อนข้างทั่วไป แต่ที่ระดับของหมาป่าหิวโหย มันอยากถูกรับรู้ว่าเป็นพวกกับหมาป่าตัวอื่น แต่เพราะความต่างที่กว้างในความแข็งแกร่งของมัน บ้อยครั้งที่พวกมันได้เป็นจ่าฝูงของฝูงใหญ่”

พูดอีกอย่าง มันเป็นฝูงหมาป่านำโดยมอนสเตอร์

“จากนั้นเมื่อฤดูหนาว เมื่อสัตว์ในป่าได้ลดน้อยลง หมาป่าหิวโดยที่ปรกติจะแยกเป็นฝูงๆ จะมารวมกันที่ละฝูงเป็นฝูงใหญ่ และพวกมันจะมาที่ที่เปิดเหมือนทางหลวงและหมู่บ้าน เพื่อหาอาหาร”

“แน่นอนว่า ถ้ามันเป็นฝูงหมาป่าปรกติ พวกมันจะไม่มีปัญหา ทุกคนรอบๆที่นี้รู้เรื่องนั้น พ่อค้าและรถม้าที่ขนคน ที่มาจากเมืองสู่เมืองจะเพิ่มจำนวนโดยการหายามติดอาวุธ”

“{แต่มันไม่พอกับฝูงที่นำโดยหมาป่าหิวโหย} ใช่มั้ย?”

“นั่นใช่แล้ว คาราวานพ่อค้าจำนวน 50 คนจะถูกทำลาย หมู่บ้านในหมู้บ้านผู้บุกเบิกจะถูกกินทั้งหมด”

ถ้ามันเป็นคาราวานพ่อค้า 50 คน งั้นจำนวนของยามติดอาวุธจะนับด้วยนิ้วมือเดียวไม่พอ

สามารถที่จะทำลายนั่นได้ ความแข็งแกร่งของหมาป่าหิวโหย และจำนวนของหมาป่าที่มันนำ ต้องอยู่ในเลขสองหลัก

“ดังนั้นก่อนฤดูหนาว เราเรียกทหารรับจ้างติดอาวุธและคนแข็งแรงหลายคน และส่งพวกเค้าเข้าไปในป่า เพื่อล่อพวกหมาป่าออกมาละทำลายพวกมัน จำนวนไม่ควรจะมีมากไปที่ตอนนี้มันยังมีอาหาร”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นมันจะไม่ง่ายกว่า ถ้าให้มันรวมตัวกัน แล้วกำจัดมันเมื่อมันออกมาในที่ราบเหรอ?”

“ฝูงมันใหญ่จนน่าทึ่งเมื่อฤดูหนาวมา แล้วเราจะประสบความเสียหายที่หนักหน่วง นอกจากนั้น ถ้าทหารมาด้วยกันจำนวนมาก มันจะวิ่งหนีอย่างเร็ว”

“ไม่มีทางที่เราจะวิ่งแล้วจับหมาป่าทัน” เขาหัวเราะ

“นั่นทำไมเราต้องถากจำนวนพวกหมาป่าออก มากที่สุดเท่าที่ทำได้ในฤดูนี้ โดยเฉพาะการฆ่าหมาป่าหิวโหย มันจะหมายถึงเมื่อฤดูหนาวมา พวกหมาป่าจะไม่รวมเป็นฝูงใหญ่ มันเลยได้ความพึงใจสูงสุด หมาป่าหิวโหยมันหายากมากจนตัวแทนมันจะไม่ออกมาง่ายๆ”

“อย่างไรก็ตาม ในฤดูนี้ฝูงยังไม่ได้ใหญ่ ดังนั้นถ้าเราได้ส่งคนจำนวนมาก มันจะป้องกันตัวแล้วไม่ออกมาเพื่อโจมตี นั่นคือทำไมที่เราส่งกลุ่มเล็กๆแยกกันกว้างๆ แน่นอนว่า ด้วยจำนวนที่น้อยกว่า อันตรายก็สูงขึ้นสอดคล้องกับมัน”

ยังไงซะแน่นอนว่า ฝูงของหมาป่าเหมือนทหารที่มีผู้นำ

มันมีพลังพอกับคนกลุ่มเล็กๆ

“มันเหมือนกับคนบาดเจ็บได้ออกมาทุกปี ปีนี้ คนได้ถูกพบว่าตายเพิ่มขึ้น แม้มันหายากที่ปาร์ตี้จะโดนสังหารหมู่”

อย่างที่ผมคิด เกรย์ไม่ใช่พวกที่โกหก แต่มีคนอื่นในรถม้านี้นอกจากเราสองคน

ผมอยากให้เขาสังเกตว่าไหล่ของคนที่ต่อจากเขาได้สั่น

“รางวัลได้รวมอยู่ในค่าตอบแทนของอันตราย ไม่ทำอะไรนอกจากยืนตั้งแต่รุ่งเช้าถึงตะวันตกจะได้ 50 ทองแดง ถ้านายฆ่าหมาป่า แต่ละตัวจะได้ 50 ทองแดง สำหรับเรา นายควรจะเอาเขี้ยวทั้งสองข้างเป็นหลักฐาน แต่ระวังนะ ถ้านายหักมันสั้นเกินไปมันจะใช้ไม่ได้”

“เข้าใจแล้ว งั้นเข้าร่วมวันนึงได้ ห้องและอาหารวันนึง”

“และทั้งหมดเพราะข้อกำหนดบอกว่าพาอาวุธตัวเองมาด้วย” เกรย์หัวเราะ

“จากนั้น สำหรับส่วนหลัก หมาป่าหิวโหย นายจะได้อย่างน้อยสองทอง รางวัลพิเศษเพราะมันแข็งแกร่ง ยิ่งหมาป่าหิวโหยแข็งแกร่งเท่าไหร เขี้ยวมันจะยิ่งแดง ดังนั้นถ้านายพาเขี้ยวมา เราจะเห็นได้อย่างรวดเร็วว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน”

“เข้าใจแล้ว งั้นชั้นจะโชคดีถ้าชั้นล่าหมาป่าหิวโหยได้”

“มันจะไม่ง่ายขนาดนั้น แม่ว่ามันอยู่ในชื่อ นายจะไม่เห็นหมาป่าหิวโหยบ่อยขนาดนั้น ถ้านายได้เห็นซักตัว นายต้องโชคดี หรือบางที{โชคร้าย} ปาร์ตี้เจอกับหมาป่าหิวโหยปรกติแล้วหมายถึงบางคนจะบาดเจ็บหรือตาย บนนั้นเข้าไปอีก มันวิ่งหนีโดยที่เราทำมันบาดเจ็บไม่ได้บ่อย แม้การโดนฟันด้วยอาวุธ{นาย}อาจจะจัดการมันได้”

“ชั้นหวังว่า นายบอกชั้นทีได้มั้ยว่าชั้นจะแยกความต่างระหว่าหมาป่าหิวโหย กับหมาป่าปรกติได้ยังไง?”

“แน่นอน คำตอบคือ: นายจะรู้เมื่อนายเห็นมัน มันใหญ่และเร็ว มันมีตาสีแดง ส่องสว่าง นายจะไม่มองผิดหรอก”

แทนที่จะเป็นกลัว ผมรู้สึกรักและใคร่ตาสีแดงมากกว่า

“เราจะไปถึงที่นั่นเร็วๆนี้แล้ว มีอะไรอีกมั้ยที่อยากจะถาม?”

“แค่อย่างเดียว นายพูดเกี่ยวกับเคลื่อนไหวเป็นปาร์ตี้ก่อนหน้านี้ แต่นายไม่ถือถ้าชั้นเคลื่อนไหวคนเดียว ใช่มั้ย?”

อากาศในรถม้าได้แข็งไป

เกรย์ได้ชะงักอย่างเป็นธรรมชาติ

“เฮ้ย เฮ้ย! เอเกอร์ อยากบอกชั้นนะว่านายไม่มีปาร์ตี้! นายควรจะจัดการเรื่องแบบนี้ก่อนหน้า หรืออย่างน้อยเจรจามันที่ประตูรั้วทิศเหนือก่อนเราออกเดินทาง! นายควรจะรู้ว่านายควรจะขอผ่านในการเข้าร่วม ถ้านายไม่มีปาร์ตี้ดีๆ!”

งั้นระหว่างที่ผมเอาของของผมให้มาเรียดู แล้วกินแอปเปิ้ลที่ซื้อจากรู คนอื่นทุกคนได้เจรจาเพื่อสร้างปาร์ตี้

“นำด้วยตัวเองนั้นถูกอนุญาตใช่มั้ย?”

“ยังไงซะ เราจะไม่พูดว่าไม่ แต่เมื่อหมาป่าออกมาแล้วชีวิตนายจะจบนะรู้มั้ย ชั้นไม่อยากให้นายตายโดยไม่ได้อะไรเลย”

เท่าที่ยามเมืองกังวล ทหารรับจ้างควรจะเป็นเบี้ยที่ทิ้งได้ เกรย์เป็นคนดีจริงๆ

“ไม่มีปัญหา แม้ว่าชั้นคนเดียว…”

“เฮ้ ชั้นคุยกับนายครู่นึงได้มั้ย”

เสียงผู้หญิงมาจากด้านข้างผม

“เรามีสถานการณ์และอื่นๆบางอย่าง และเราคือแค่ชั้นกับเธอคนนั้น ถ้านายอยู่คนเดียว นายอยากจะไปกับเรามั้ย?”

ผู้หญิงที่เรียกดูอายุประมาณ 20 ปี เธอมีผมประบ่าสีแดง และตัวของเธอเตี้ยว่าผมเล็กน้อย ซึ่งมันสูงสำหรับผู้หญิง

ตัวของเธอและกล้ามเนื้อนั้นเข้ม และหน้าอกของเธอนั้นงั้นงั้น

อีกคนที่ดูเหมือนจะอยู่ในปาร์ตี้ อายุประมาณเดียวกับผมแดง เธอมีผมสีเกาลัดไปถึงไหล่เธอ และความสูงของเธออยู่ฝั่งเตี้ย

ตัวของที่ดูจะนุ่มดูจะเป็นหน้าอกและก้นที่มันออกมาอย่างถูกต้อง

เธอมองมาทางผมด้วยหน้าที่ไม่พอใจหรือไม่สนใจ และพยักหน้าเบาๆ

ผูหญิงคนนี้ดูไม่เหมือนว่าจะกระตือรือร้นมาก

“นายจะทำยังไง? พวกเธอเป็นปาร์ตี้ผู้หญิงสองคน”

เกรย์ดูเหมือนจะบอกโดยปริยายว่าให้ผ่านพวกเธอ

ในเรื่องของความเป็นและความตาย การมีผู้หญิงที่ค่อนข้างอ่อนแอในฐานะพวกพ้องจะเป็นการติดลบ

ไกลจากการช่วยเหลือ ถ้าพวกเธอบาดเจ็บแล้วขวามทางคุณ คุณจะสู้ด้วยความเสียเปรียบ

“ได้เลย ชั้นจะอยู่ในการดูแลของเธอ”

ผมยกนิ้วโป้งให้เกรย์

ชายที่แข็งแรงนั้นดีกว่าในการต่อสู้ แต่ถ้าเราจะไปด้วยกัน งั้นมันต้องเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน

อะไรที่มากกว่านั้น คือแม้สองคนนี้เป็นคนละแบบกัน พวกเธอค่อนข้างสวย

คนรู้จักในเมืองนี้คือมาเรียที่หน้าอกเล็กคนเดียว และรูที่ยังเป็นเด็ก

ไม่ว่ามันจะหน้าอกใหญ่อยู่ใกล้ๆหรือไม่ก็ตาม มันสร้างความแตกต่างในจิตวิญญานของคุณ

“ยังไงซะ ถ้านายมีเวลาว่างที่จะเลือกแบบนั้น งั้นชั้นเดาว่านายจะโอเค ตอนนี้เราอยู่ที่ตำแหน่งแล้ว เราจะปล่อยนายลงทีละปาร์ตี้ ดังนั้นเริ่มจากปาร์ตี้ที่อยู่หลังรถม้า พร้อม!”

โดยไม่พูดอะไร เกรย์ดูเหมือนจะอ่านใจผม

ไม่ได้ประทับใจมากขึ้นและมากขึ้น

“ชั้นมิเรล ทหารรับจ้างจากหมู่บ้านชีรา อาวุธชั้นคือดาบ ชั้นจะอยู่ในความดูแลของนายนะ!”

ดาบที่มิเรลเอาให้ผมดูคือดาบสองคมยาว 80 ซม ใบมีดดูเหมือนจะเป็นเหล็กแต่มันบาง มันดูเหมือนจะน้ำหนักเท่ากันกับดาบมือเดียวสำหรับผู้ชาย

เธอมีเกราะหนังธรรมดาและโล่เหล็ก มันดูหนักสำหรับผู้หญิงที่จะถือ ดังนั้นเธอต้องมีความมั่นใจในความแข็งแรงของเธอ

“ชั้นคาร์ล่านักล่า ชั้นสู้ด้วยธนูดังนั้นถ้าศัตรูมาหาชั้น ชั้นจะวิ่งหนี”

ธนูที่คาร์ล่าถือค่อนข้างเป็นอันใหญ่และมันดูยากที่จะใช้งาน แต่เพราะเธอเป็นนักล่า งั้นเธอต้องเก่งในการใช้มัน กระบอกใส่ลูกธนูมีลูกธนูใส่อยู่ 10 ลูกติดขนด้วยขนนกสีต่างๆ

เธอได้ใส่ใส่เกราะธรรมดาทำจากหนังฟอกฝาด เธอน่าจะไม่คาดถึงการต่อสู้ระยะใกล้

แต่ขอบคุณสิ่งนั้นหน้าอกที่เหลือเฟือและเส้นก้นของเธอ ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน และมันดูยอดเยี่ยม

“ชั้นเอเกอร์ ทหารรับจ้างอิสระ ไม่รู้ที่เกิด อาวุธชั้นคือนี่”

ผมเอาบัลดิชที่โดดเด่นของผมให้ดู และแน่นอนว่าสีหน้าพวกเธอเปลี่ยน

“หอกดูเหมือนสัตว์ประหลาดนั้น? ขวาน? นายเหวี่ยงมันได้จริงๆเหรอ?

“แน่นอน ชั้นจะไม่เอาอาวุธที่ชั้นใช้ไม่ได้มาหรอก”

“ถ้านายจะชนให้ชั้น งั้นชั้นโอเคกับอะไรก็ได้ แค่อย่าล้มแล้วตายไปก่อนละกัน”

หลังจากที่เราแนะนำตัวเราเสร็จ เราไปที่ที่เราดูแล

รถม้าจะกลับไปเมืองซักพักแล้วมาตอนตะวันตกดิน

ทำหน้าที่เป็นยามอยู่บนรถม้า เกรย์ไม่ได้ลงแล้วกลับไปที่เมืองอย่างนั้น

พวกเรามาถึงจุดสังเกต แต่จากที่เกรย์พูด หมาป่าจะรู้อย่างสมบูรณ์แบบกับเราอยู่แล้ว ก่อนเราเข้ามาในป่า

ตอนนี้ถ้าเราคุยกันเฉยๆ และแสดงความไม่ระวัง มีโอกาสสูงที่พวกมันจะออกมา

แน่นอนว่า ผมต้อนรับความคิดของการคุยกับผู้หญิงสองคน

“อืมงั้น ตอนนี้เราไม่มีอะไรทำนอกจากคุยแล้วรอหมาป่า”

“โอ้ ก่อนหน้านั้น มันจะสายเกินไปแต่สำหรับรางวัล เราแบ่งที่เราล่าได้เท่าๆกันมั้น? เราแบ่งแบบใครเป็นคนฆ่าได้ แต่การพิพาทมันน่าปวดหัว”

ดูเหมือนปาร์ตี้เก่าแยกกันเพราะเรื่องนั้น

“นั่นใช่แล้ว แบบนี้ แม้ว่านายเป็นพวกงี่เง่าชอบโชว์ ทั้งหมดจะถูกสรุปโดยเรามีรายได้พิเศษ”

“คาร์ล่า! หยุดประชดประชันได้แล้ว!”

“เธอไม่เชื่อใจชั้นเลยซักนิด ใช่มั้ยล่ะ ชั้นพิสูจน์ตัวเองได้เมื่อหมาป่าออกมา”

คาร์ล่าหันไปด้วยการฮึ่มพูดว่า “แล้วเราจะรู้”

ตามความคิดของเพื่อนเธอ มิเรลเริ่มพูดในเชิงรุกก่อน

เธอเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย

“นั่นเป็นอาวุธน่าทึ่งที่นายมีนะ นายอยู่ในทหารหรืออะไรมั้ย?”

“ไม่ ชั้นได้อยู่ในกลุ่มทหารรับจ้าง แต่ชั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับทหารทั่วไปเลย”

“เฮฮ๋ แต่นายดูเหมือนนายยังมีเงินเหลือให้ใช้อยู่บ้างนะ? เกราะของนายไม่ได้ทำจากหนังธรรมดา ใช่มั้ย? มันเย็บอย่างมีทักษะและหนังมันของดีด้วย”

“ชั้นได้พวกนี้เป็นของขวัญจากบางคนน่ะ ชั้นไม่รู้เกี่ยวกับมันมาก แต่เธอดูเหมือนจะรู้นะ”

“ยังไงซะ ชั้นเคยทำงานในที่ที่พวกเขาทำหนังครั้งนึง ชั้นทำเกราะส่วนใหญ่ด้วยตัวชั้นเอง”

เกราะของมิเรลดูเหมือนจะจบแบบหยาบๆ แต่มันหนาตรงจุดสำคัญและท้องที่เป็นเป้าง่าย มันได้สร้างเพื่อการต่อสู้

“มันต้องดีแน่ที่ทำเกราะด้วยตัวเองได้ ถ้าเกราะชั้นเสื่อมเธอดูมันให้ชั้นหน่อยได้มั้ย?”

“ได้เลย แต่นอนว่าชั้นจะเก็บเงินนายนะ”

“ด้วยที่เธอได้จากการล่า เธอแน่นอนว่าอยากจะได้เงินหือห์”

“นั่นใช่แล้ว ชั้นเดาว่า เราเกือบจะไม่รอดวันต่อวันน่ะ ค่าเข้าร่วมจะได้ค่าที่พักให้เราบ้าง แต่หน้าหนาวใก้ลเข้ามาแล้ว และถ้าชั้นไม่ซื้ออาหารและหนังสัตว์ ครอบครัวของชั้นจะมีปัญหาน่ะ”

“เธอพูดว่าเธอมาจากหมู่บ้านชีร่า เธอทำงานไกลจากบ้านเหรอ?”

“ยังไงซะ ชั้นเดาว่านะ แม้ชั้นบอกว่าชั้นเป็นทหารรับจาก มันไม่เหมือนว่ามันไกลจากที่นี่ ชั้นกลับบ้านบ่อยพอ….หมู่บ้านเกษตรรอบๆนี่ไม่มีอะไรพิเศษ และดินก็ไม่ได้อุดมสมบูรณ์ด้วย นอกจากงานปูกพัก มันยากที่จะอยู่วันต่อวันโดยไม่จากมาเพื่อทำงาน ชั้นออกมาทำงานเมื่อชั้น 15 แต่มันไม่มีอะไรนอกจากเล่นเป็นทหารรับจ้าง หรือส่ายตูดให้ผู้ชายข้างถนน ชั้นไม่มีงานอดิเรกที่จะเกี้ยวกับผู้ชาย ชั้นเลยเลือกถนนนี้”

“แล้วคาร์ล่าล่ะ?”

เธอจะเบื่อถ้าเราทิ้งเธอออกไปจากการพูด ผมเลยคุยกับเธอ

“ชั้นได้เป็นนักล่าตั้งแต่ชั้นเกิด ไม่ว่าเหยื่อจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ มันแค่เรื่องเล็กน้อย”

ดูเหมือนนั่นจะจบแล้ว

“เธอจากมาจากครอบครัวนักล่าจรจัด เพราะพ่อของเธอตาย เธอไม่มีที่หรือกลุ่มดูแลเธอ เธอเลยใช้ชีวิตอยู่โดยการล่าในป่า และมาเพื่อแลกเปลี่ยนผักเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ไม่รู้ เราสนิทกันดี และมาจบที่นี่ แม้เธอจะอารมณ์ร้ายขี้บูดบึ้งเธอเก่งในการใช้ธนูชั้นเลยไว้ใจในตัวเธอ

“ใช่ ชั้นไว้ใจผู้หญิงสวยน่ะ”

คาร์ล่าหันมาหาเรา และด่าเราทันทีขณะที่เธอหันกลับ

งั้นเธอก็{สามารถ}ได้ยินเราพูด

“นายตรงประเด็นนะ ใช่มั้ยแต่ชั้นคิดว่านายมีอุปสรรค์สูงให้ผ่านก่อนนายจะได้คาร์ล่าไปนะ”

อีกครั้ง คาร์ล่าหันมา จ้องมิเรล และหันกลับไปอีกครั้ง

“งั้นเป็นตาชั้นถามแล้ว นายมาจากไหน?”

“ชั้นไม่รู้”

“อย่า ‘ชั้นไม่รู้’ กับชั้นนะ! ชั้นบอกนายเยอะเกี่ยวกับเรา มันจะไม่ฆ่านายหรอกที่จะบอกเรา!”

“นั่นไม่ใช่ที่ชั้นหมายถึง ชั้นไม่รู้จริงๆ เท่าที่ชั้นจำความได้ ชั้นเป็นบางอย่างเหมือนทาส ชั้นคิดว่าชั้นอาจจะถูกขายหรือลักพาตัว แต่ชั้นจำอะไรไม่ได้เลย”

“อา….ขอโทษ ช่างมันเถอะถ้างั้น”

เธอมีนิสัยค่อนค้างหยาบในการพูด แต่เธอแคร์เรื่องพวกนี้อย่างน่าตกใจ

“ชั้นไม่ได้คิดอะไรเกี่ย่วกับมันหรอก หลังจากที่นั่นเกิดขึ้น ชั้นหนี และบางคนเลี้ยงชั้นลึกในภูเขา แค่ไม่นานมานี้ที่ชั้นได้ออกมา ชั้นยังไม่ได้รู้ดีเกี่ยวกับโลกนี้น่ะ”

“เฮฮ๋ นายโชคดีนะนั่นน่ะ”

“เธอพูดมันอีกครั้งได้ ชั้นเป็นคนโชคดีน่ะ”

ในการแลกเปลี่ยนกับการทำลายทีมทหารรับจ้าง ผมได้แม่และคนรัก ไม่ใช่โชคที่แย่เลยซักนิด

“งั้นวันนี้ควรจะเป็น…”

“พวกมันอยู่นี่”

คาร์ล่ายืนขึ้น ใส่ลูกธนูเข้าไปที่ธนูของเธอแล้ววิ่งไปที่ข้างหลังเรา

มิเรลก็จับดาบของเธอแล้วมองตามไปที่การมองของคาร์ล่า

ผมด้วยที่ถือหอกในมือขวาผมและตั้งท่าด้วยโล่อยู่ซ้ายมือ ผมมองไปที่ที่คาร์ล่ามองแต่ผมไม่เห็นอะไรเลย

“พวกมันอยู่นี่ มันมาที่นี่ระหว่างคลานต่ำๆในหญ้า 4 ตรงกลาง 2 ทางขวา 2 ทางซ้าย”

งั้นนี่ก็เป็นที่พวกเขาเรียกว่าตานักล่า มันเป็นเรื่องใหญ่ แต่สำหรับผม ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเตรียมหอกของผม

ในที่สุด คาร์ล่าลดเสียงของเธอ ทำเสียงเธอเป็นกระซิบ

“พวกมันจะถึงที่นี่ในไม่นาน 4 ตรงกลางน่าจะออกมาก่อน……3……2……1……《ตอนนี้!》”

พอดีกับคาร์ล่าตะโกน จากหญ้าสูง (แม้ว่ามันเรียกว่าสูงมากที่สุดมันระดับเข่า) หมาป่าสีตัวได้กระโดดเข้ามา

ในทันที มันตัวนึงรับลูกธนูที่คาร์ล่ายิงไประหว่าตา ทำเสียงร้องแหลมสูง แล้วตาย

จากนั้นดาบของมิเรลก็ตัดเปิดไส้หมาป่าที่กระโดด กระจายเครื่องในไปทั่วหญ้า

หมาป่าที่การโจมตีไม่ทันตั้งตัวได้ล้มเหลว พยายามจะตั้งท่าคืนในความมึนงง แต่มันได้ไร้การป้องกัน กับสิ่งที่มีอยู่จริงที่อันตรายที่สุด

ขณะที่หมาป่าจะม้วนตัวกลับ ใบมีดเหล็กได้เหวี่ยงลงไปหลังมัน และตัดมันจากตรงนั้นถึงเท้าหน้าห่างจากข้อต่อ

หลังจากที่ได้ “ทำลาย” หมาป่าผมได้เกร็งขาของผมทำมันเป็นจุดหมุน ด้วยอาวุธที่ยังเหวี่ยงลงอยู่ และหมุนไปรอบ

หมาป่าตัวที่สี่หลบปลายมีดของหvก และโดนตรงด้ามจับ เลี่ยงการถูกผ่าครึ่ง

อย่างไรก็ตาม มันได้โดนตีตรงหัวและแตกออกเหมือนลูกแอปเปิ้ล

ล้มไปที่พื้นโดยไม่ส่งเสียงมาก

“ต่อไป สองข้าง!!”

เร็วกว่าที่คาร์ล่าตะโกน หมาป่าข้างละสองตัวจากทั้งสองข้าง กระโดดเข้ามาโจมตี

มีเรลได้ยกโล่ของเธอและจัดการกับสองตัวทางซ้าย แต่สองตัวทางขวาได้อ้อมไปไกลข้างหลังกว่าที่คาด หลบผมที่อยู่ข้างหน้าและรีบไปหาคาร์ล่า

——คาร์ล่า—— «TLN ต่อจากนี้จะมีบอกมุมมองแบบนี้เพราะมาจากต้นฉบับนะครับ»

({เหี้ย!! พวกมันได้เข้าไปลึกกว่าที่ชั้นคาด!})

ฉันใช้ชีวิตอยู่ในป่า

ฉันสมควรจะรู้ดีว่าหมาป่าทำงานยังไง!

ธนูของฉันจะไม่ทันเวลาแล้ว

ฉันได้รีบนำมีดเล็กบนเอวออกมา แต่ด้วยตัวที่เล็ก

มันบอกไม่ได้ว่าฉันจะปัดป้องการโจมตีของหมาป่าได้มั้ย

ในทันทีที่หมาป่ากำลังจะแทงเขี้ยวเข้ามาที่ฉัน มันหยุดอย่างทันทีทันใด

เหตุผลนั้นเรียบง่าย

มันเป็นเพราะมันได้ถูกฟันด้วยหัวหอกหนักที่เหมือนขวานด้านข้างของมัน

“หลังจากที่ในที่สุดชั้นก็ได้เจอผู้หญิงสวย ชั้นจะไม่ปล่อยให้พวกแกทิ้งแผลเป็นไว้ให้เธอหรอก รู้มั้ย?”

————

ผมยกหอกของผมขึ้น พร้อมกับหมาป่าที่ยังติดอยู่กับปลายหอก และเหวี่ยงมันลงไปที่หัวหมาป่าอีกตัว

ด้วยเสียงเผละ มันได้เป็นขยะสองชิ้น

ตอนนี้มีแค่หมาป่าสองตัวที่เหลืออยู่ มิเรลสามารถสู้กับพวกมันได้อย่างปลอดภัย โดยใช้โล่เธอ แต่เธอขาดการโจมตีปิดฉากกับการโจมตีที่ร่วมมือกันของพวกมัน

ผมได้สู้ต่อ ยืนตรงหน้ามิเรลแล้วยกหอกของผมขึ้นเหนือหัวเหมือนจะพูดว่า ‘ปล่อยให้ฉันได้เลย’

มิเรลดูเหมือนจะเหนื่อย เธอเลยรับการสนับสนุนของผม เปลี่ยนที่กับผมและหายใจให้ทัน

การเคลื่อนไหวของเธอมันแสดงให้ดูว่าเธอไม่คุ้นชินกับการต่อสู้

ผมเหวี่ยงหอกลงทั้งหมดทีเดียวแล้วมันเสียบไปที่พื้น

อย่างธรรมชาติ หมาป่ากระโดดเพื่อหลบมัน แต่มีช่องว่างระหว่างที่มันลอยอยู่ในอากาศ และเพื่อยืนบนพื้นให้มั่นคง ผมเลยเหวี่ยงหอกของผมกลับขึ้นไป เก็บมันตัวหนึ่งและส่งมันบินไป

ไม่มีความจำเป็นต้องตามมันไป บางอย่างเหมือนหมาป่าจะไม่สามารถรับการส่งขึ้นไปโดยผมแล้วรอดชีวิต

ทันทีที่ผมหันไปหาหมาป่าตัวสุดท้าย ดาบของมิเรลได้ยื่นเข้าไปในคอของมัน

“นั่น มันอันตรายนะนั่น หือห์ คาร์ล่า”

*ป่อน ป่อน* มิเรลตบคาร์ล่าที่ไหล่

ความรู้สึกเครียดไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว

ฝูงของหมาป่าสิบตัวจากก่อนหน้าไปถูกสังหารหมู่

«TLN ต้นฉบับบอกอย่างนั้นครับ จริงๆแล้ว 8»

จากนั้น เพราะหมาป่าอ่อนไหวกับกลิ่นของพวกพ้องของมัน มันจะไม่ไปทางนั้น

มากกว่านั้น แม้ว่ามันเป็นการล่าหมาป่า มันมีความจำเป็นที่เราจะต้องเปลี่ยนที่ มันได้ใกล้เย็นแล้ว เราเลยเห็นตรงกันว่านี่มันพอแล้วสำหรับวันนี้

“5 เงิน สำหรับหมาป่าสิบตัว* นั่นแบ่ง 3 คนไม่ได้ ดังนั้นเราแต่ละคนมาเอาคนละหนึ่งตอนนี้ก่อนมั้ย?”

«TLN สงสัยว่าอัตราจริงๆแล้วคือ 1 เหรียญเงิน 100 ทองแดงครับ»

“เฮฮ๋ นายเก่งตัวเลขแฮ๊ะ” มิเรลพูดอย่างสนใจ คาร์ล่าได้เงียบข้างเธอ

“งั้นชั้นจะเอาส่วนของชั้นวันนี้ เราจะสรุปที่เหลือกับส่วนของพรุ่งนี้”

“ชั้น…ไม่เอาส่วนของชั้น”

คาร์ล่าพูดในเสียงพึมพำ ไม่เหมือนท่าทางของเธอก่อนหน้า

“พูดห่าอะไรของเธอนะ? ถ้าชั้นปฏิเสธการจ่ายเงินทุกครั้ง สิ่งต่างๆจะอันตรายสำหรับชั้น ชั้นจะหิวจนตายไปแล้วตอนนี้”

“ไม่ใช่แบบนั้น! ชั้นเป็นนักล่า ชั้นควรจะเป็นคนที่รู้มากที่สุดเกี่ยวกับหมาป่า แต่ชั้นได้รั้งทุกคนไว้…… ชั้นไม่สามารถตกลงกับการแบ่งเท่าแบบนี้ได้!”

“เธอกังวลเกี่ยวกับเรื่องแปลกๆจริงๆนะ สาว”

มิเรลดูเหมือนจะไม่รู้ว่าจะทำอะไร กับคาร์ล่าที่ภาคภูมิใจแปลกๆ ผมเลยเสนอบางอย่างที่จะทำให้เราสามคนมีความสุข

“งั้นเธอจะไม่รับส่วนของเธอเพราะชั้นช่วยเธอ ใช่มั้ย?”

“ใช่ ถ้านายไม่อยู่ที่นั่น แน่นอนว่าชั้นจะแย่ นายเลยเอาส่วนรางวัลของชั้นไปได้”

“งั้นถ้าเราทำอย่างนี้ล่ะ เราแบ่งรายได้เท่ากัน เพราะคาร์ล่าขอบคุณที่ชั้นช่วย เธอปล่อยให้ชั้นถูหน้าอกเธอจนกว่ารถม้าที่กลับมาจะมาถึง”

“อะไร!!!!!?”

“พรืดดด!”

คาร์ล่าเปิดตาของเธอกว้างและมิเรลได้ระเบิดหัวเราะออกมา

“ถ้าคาร์ล่าไม่รู้สึกติดหนี้ชั้น งั้นความภาคภูมิใจของเธอจะไม่บาดเจ็บ

ด้วยเงินที่แบ่งเท่ากัน จะไม่มีการบ่นและปาร์ตี้จะอยู่ในความสงบสุข และชั้นได้รู้สึกไปกับหน้าอกที่นุ่ม มันเป็นยังไง? ไม่มีใครเสีย”

“ชั้นคิดว่านายเป็นพวกคลั่งการต่อสู้ที่น่ากลัวมากกว่า แต่นายเป็นไอ้เวรลามกที่น่ากลัวอย่างคาดไม่ถึง ไม่ใช่เหรอ”

ผู้ชายที่ไม่ชอบผู้หญิงไม่ตรงไปตรงมา

ความเบี้ยวของผมได้ถูกทำให้ตรงเมื่อไม่นาน

“งั้น เธอจะทำยังไง? สำหรับชั้น ยิ่งเธอตัดสินใจเร็ว ชั้นยิ่งมีความสุขกันตัวเองได้นาน”

“คคคุห์! ได้เลย จับมากเท่าที่นายต้องการ! นายแค่อยากถูมัน ใช่มั้ย! แต่ทำมันบนเสื้อผ้านะ! นั่น และถ้านายจับที่อื่นนอกจากนั้น ชั้นจะตัดมือของนาย!”

“และดังนั้น หน้าอกของคาร์ล่าได้ถูกทำให้เสียหาย โดยผู้ชายลามก”

“หุบปาก! 《หุบ!ปาก!》 มิเรล!….เฮ้ ไม่ใช่ว่าชั้นบอกว่าบนเสื้อเหรอ!!”

“‘บนเสื้อ’ ไม่ได้รวมถึงชุดเกราะ ใช่มั้ย? อย่างน้อยให้ชั้นใส่มือเข้าไปในชุดเกราะของเธอ ไม่ได้เหรอ?”

“เดี๋ยว! มีแค่ชุดชั้นในใต้เกราะชั้น! อ๊ะ! เดี๋ยว!”

“สัญญาคือสัญญา ชั้นจะอยู่ภายใต้การดูแลของเธอจนกว่ารถม้าจะมานะ”

ผมนั่งข้างหลังคาร์ล่า ใส่มือเข้าไปข้างเธอและเริ่มถูหน้าอกที่เหลือเฟือของเธอ

ผมไม่ได้จับมันอย่างหยาบๆ แต่อย่างอ่อนโยน เหมือนกับนวดมัน

มีแค่ผ้าบางๆ ใต้เกราะเธอแต่ความรู้สึกส่งผ่านมือผมได้ดีพอ

“เธอค่อนข้างเหงื่อเยอะนะ”

“ช่วยไม่ได้หลังจากการออกแรงทั้งหมดนั่น!”

“กลิ่นของเธอค่อนข้างสวยด้วย”

“ห้ามดม!”

คาร์ล่าน่าจะไม่ได้อาบน้ำดีๆ มีกลิ่นอื่นนอกจากเหงื่อออกมาจากเธอ

ผมพูดได้ว่ามันเหม็น แต่เพราะมันโชยมาจากคนสวยเหมือนคาร์ล่า มันไม่ได้ไม่น่าพอใจมาก

ขณะที่สองมือของผมได้ถูกหน้าอกเธอ ผมเป่าหูเธอและเธอตอบสนองมาใหญ่ใหญ่โต

ผมรู้สึกได้แล้วว่าหัวนมเธอได้ยืนตรง ตรงกลางของหน้าอกเธอ

ผมหายใจหยาบที่หูเธอด้วยความจงใจและถูหัวนมเธอ เหมือนกับหยิกมัน

“กย้าา! เดี๋ยว! พอแล้ว!”

“ชั้นแค่ถูหน้าอกเธอเหมือนที่สัญญา ไม่ใช่เหรอ? เราจะทำมันจนกว่ารถม้าจะมา ใช่มั้ย?”

“ชั้นได้พูดว่าหน้าอก….แต่จุดที่รู้สึกไวนั่น…”

มิเรลได้หัวเราะตอนแรก แต่ตอนนี้เธอได้กลืนน้ำลายที่คาร์ล่าที่เริ่มละลาย

อาาศได้เงียบและเสียงเดียวที่สามารถได้ยินคือการหายใจหยาบของคาร์ล่าและผม และเสียงผ้าฟึ่บฟั่บธรรมดา มีแค่เสียงของผมถูหัวนมเธอบนชุดชั้นใน

“อืม! อืมมมม…..เฮ้ เดี๋ยว!!”

จู่ๆ คาร์ล่าก็ขึ้นเสียงของเธอ

“มีอะไร?”

“นายจงใจเอามันมาโดน! นั่นไม่ใช่ที่เราสัญญากันไว้!”

ระหว่างที่สัมผัสผู้หญิง ผมเก็บความใจเย็นไว้ไม่ได้

เจ้าหนูของผมได้ใหญ่ขึ้นมา และมันดันกางเก่งผม รุกล้ำก้นของคาร์ล่าที่ใกล้มาก

“มันเพราะชั้นได้ถูกหน้าอกผู้หญิง มันไม่มีอะไรแปลก ไม่เหมือนว่าชั้นถูมันกับเธอนะ”

“แต่! อ้าา!! มันโดนก้นของชั้น……มันใหญ่……”

ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเถียง ผมลูบไล้เธอแรงขึ้น หายใจใส่หูเธอที่ระยะเผาขน และผมได้ดันของของผมไปที่รอยแยกที่ก้นเธอด้วยอุบัติเหตุ

เสียงที่คาร์ล่าทำได้เปลี่ยน ผมได้ยินเธอกัดฟันของเธอ

เธอจะเสร็จ ตอนไหนก็ได้แล้วตอนนี้

ผมดึงหัวนมที่มันแข็งเหมือนไม้ก๊อกอุดไวน์อย่างแรง และเลียข้างหลังคอของเธอ ผิดสัญญาของผม

“น๊าาาา《อ๊าาาาาา!!》”

คาร์ล่าตะโกนอย่างดังจากนั้นยืดตัวตรง กระตุก เธอได้หมดแรง

หัวนมของเธอได้เล็กลงอย่างช้าๆ และเธอพักหัวของเธอบนผม

“คาร์ล่า? … จริงๆเหรอ? เธอแตก?”

“นั่นแน่นอนว่า…ไม่ จริง”

คาร์ล่าได้ยืนขึ้นอย่างกระวนกระวาย พยามจะหาข้ออ้างให้มิเรล แต่ จากนั้นเธอล้มหน้าทิ่ม

หนังของกางเกงเธอได้เปียก เหมือนกับมันได้ถูกนั่งอยู่บนแอ่งน้ำ

“เฮฮ๋ นายได้บอกว่านายอยู่ที่นกน้อยโบว์เวอร์นั่น ห้องส่วนตัวที่ค่อนข้างมีราคาแต่ค่อนข้างดี หือห์”

“เธอสองคนพักที่ไหน?”

“เราอยู่ที่ X โบว์เวอร์ เราเช่าห้องคู่ คาร์ล่านอนกับคนที่เธอไม่รู้จักไม่ได้ เราได้ใช่ 20 ทองแดงต่อคืน ขอบคุณสิ่งนั้น แม้ว่าเราจ่าย 10 สำหรับห้องคนทั้วไปได้”

«TLN ชื่อจากต้นฉบับได้ถูกละเว้นไว้ครับ»

“นั่นไม่ได้แย่ไม่ใช่เหรอ มันเป็นเงินที่ใช้อย่างดีสำหรับนอนหรืออาหาร”

“นั่นถ้านายเป็นบางคนที่มีเงิน! ยังไงก็ตาม นายจะเข้าร่วมอีกครั้งพรุ่งนี้มั้ย เอเกอร์?”

“ถ้าพวกเธอมา ชั้นมาที่นี่ได้ทุกวันเลย”

“ใช่ งันนายจะมากับเราอีกครั้งพรุ่งนี้? คาร์ล่ามีกำลังใจที่จะแก้ชื่อเสียงของเธอด้วย”

“ได้ ได้โปรด”

“งั้น ประตูรั้วทิศเหนือนะ โอเคมั้ย! คาร์ล่าก็มาด้วย เฮ้ เธอยังหัวหมุนอยู่เหรอ? ยังไงซะ ชั้นไม่เคยเห็นใครถูหน้าอกแบบเขามาก่อน…”

ในท้ายที่สุด คาร์ล่าได้เหนื่อยเป็นตายและพิงมิเรลบนรถม้าที่เดินทางกลับ และเธอไม่พูดอะไร แต่เพราะเธอไม่ได้ปฏิเสธผมที่นั่งข้างเธอ เธอน่าจะไม่ได้โกรธขนาดนั้น

ผมซื้ออาหารจากรถเข็นและมะเขือเทศจากรู จากนั้นกลับไปที่โรงแรม ล้างตัว และหลับ

มันเป็นแค่วันที่สองที่ผมทำสิ่งนี้เท่านั้น แต่ผมได้รู้สึกเหมือนมันเป็นชีวิตประจำวันแล้ว

ผมจะได้สู้ไปกับผู้หญิงสองคนพรุ่งนี้ ดังนั้นเพื่อทำให้ตัวของผมดูดี ผมควรจะนอนให้เพียงพอ

และเพิ่มเติม เพื่อที่จะปลอบประโลมเจ้าหนูผมที่มันอยู่ในอารมตั้งแต่ได้ลูบไล้คาร์ล่า ผมคิดว่าจะสรุปเรื่องด้วยมือของผม แต่ผมได้ถูกเห็นว่าถูมั้นโดยมาเรีย ที่มาเพื่อนำน้ำร้อนมาเพิ่มให้ผมอย่างคาดไม่ถึง

มาเรียได้กรี้ด แต่เธอไม่ปล่อยสมาชิกของผมไปจากสายตาของเธอเลย

ถ้าผมหยุดมันที่นั่น มันจะรบกวนกับการนอนของผม ดังนั้นระหว่างที่จ้องมองมาเรีย ผมปล่อยมันออกมา ที่มันดูเหมือนจะเป็นน้ำกามถังหนึ่่ง และขอน้ำร้อนเพิ่ม แต่มาเรียได้ทิ้งถังไว้ตรงนั้น และพุ่งหนีไปเต็มความเร็ว

เพราะทั้งหมดทำมันด้วยตัวผมเองไม่น่าพอใจเลย

ผมไม่ถือโสเภณี ดังนั้นเอาผู้หญิงมาได้แล้ว

—————————————————————

ชื่อ: เอเกอร์

—————————————————————

อาชีพ: ทหารรับจ้างอิสระ

—————————————————————

เงิน: 19 ทอง (เพราะ 5 ใช้ไม่ได้) 48 เงิน (ทองแดงไม่นับ)

—————————————————————

อาวุธ: บัลดิชใหญ่

—————————————————————

ชุดเกราะ: เกราะหนังสูง, ถุงมือหนังสูง, บูทหนังสูง, โล่หนังสูงและโซ่, ผ้าคลุมสีดำ(ต้องสาป)

—————————————————————

พวกพ้อง: มิเรล (นักดาบ), คาร์ล่า (นักล่า)

—————————————————————

จำนวนคู่นอน: 1

—————————————————————

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท