เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
16 ฉันจะไปคนเดียว
คาร์ล่าและผมมาถึงเมืองโรเลลด้วยกันพร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้น เรามุ่งหน้าตรงไปที่สถานีใหญ่
นั่นเป็นเพราะผมไม่เห็นด้วยกับการต่อต้านการไปไหนมาไหนรอบเมืองพร้อมหัวคน
“มันคือแอช! แอชคนเหล็ก!”
ผมเปิดกระเป๋าหัวในสถานี่ใหญ่ และหัวหน้าของยามเมืองกล็อคตะโกนออกมาอย่างดัง
แอชเคยเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างหลายกลุ่ม ชายแข็งแกร่งที่วิ่งผ่านสมรภูมิรบ
“อืม อืม งั้นแอชคนเหล็กได้นำกลุ่มโจร! เค้าเป็นคนแข็งแกร่ง”
ผมบอที่ตั้งของที่ซ่อนกับเขา และก็ที่ยังมีคนรอดชีวิตด้วย
“อ่าฮ้ะ! ชั้นจะปรึกษามันกับเคานต์แล้วยืนยันมันภายหลังแต่ตอนนี้ที่หัวได้ถูกดตัดไปแล้ว พวกนั้นจะไม่ใช่ภัยใหญ่อีกต่อไป
ดูเหมือนเขาจะแจกจ่ายคำสั่งกับพ่อค้าด้วย
“ซึ่งมันทำให้ชั้นจำได้ ชั้นได้ยินมาว่าแอชไปไหนมาไหนกับผู้หญิงโต นายเจอเธอด้วยมั้ย?”
“เข้าใจแล้ว เราไม่เจอเธอ แต่ถ้าเธอเป็นภรรยาน้อยเธอน่าจะหนีไปในความสับสนแล้ว ไม่ใช่งั้นเหรอ?”
เพื่อเป็นการขอบคุณตูดของคาร์ล่า ผมโกหกให้เธอที่นี่ ตามสัญญา
“ยังไงซะ ภรรยาลับและอย่างอื่นไม่สำคัญ” กล็อคพูดขณะที่เขาตบไหล่ผม
“ชั้นอยากได้นายมากขึ้นไปอีก! 60ทองต่อปีเป็นไง?”
ได้โปรดหยุดคำแบบนั้น
ผมรู้สึกเหมือนผมจะถูกร้องของให้เป็นคนรักของคนกล้ามโต
“ไม่ ชั้นไปไกลแค่คืนหนี้ของชั้นตอนนี้ ชั้นมีแผนจะออกไปเร็วๆนี้ด้วย”
“โอ้? นายจะไปที่ไหนละรอบนี้?”
ผมได้บอกกล็อคว่าผมไปทางเหนือ ซึ่งเขาหน้าบูดบึ้ง
“เหรอ หือห์………แน่ใจนะว่านายไม่มีแผนจะทำงานในอาร์คแลนด์?”
ตอนนี้ที่มาพูดถึง อาณาจักรเทรียไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาร์คแลนด์
“ไม่ ชั้นจะไปผ่านอาร์คแล้ว ชั้นมีแผนจะไปทางเหนือไกลมากๆที่สหพันธรัฐ”
“โออ้ สหพันธรัฐ! แต่มันมีแต่หิมะและน้ำแข็งที่นั่น นอกจากข้างแม่น้ำเทลเฮสเวลานี้ของปี”
“ชั้นไม่รู้จากประเทศอื่นใดๆเลยนอกจากที่นี่ตั้งแต่ชั้นเกิด มันน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี”
“เข้าใจแล้ว ช่วยไม่ได้ถ้างั้น” เขาพูดขณะที่เขาตบไหล่ผมอีกครั้ง
จากนั้นเค้านำถุงที่เต็มไปด้วยเหรียญทองออกมา
“ชั้นจะจ่ายอย่างที่สัญญา! 100 ทอง!”
คนนี้ได้เยอะ หือห์
“แต่ถึงยังไง นี่ไม่ใช่อะไรพิเศษ ก่อนหน้านี้แอชได้ถูกว่าจ้างโดยอาร์คแลนด์ และถางทหารของพวกเราลงมากมาย ซึ่งทำให้เค้ามีค่าหัว 50 ทองบนหัวของเขา”
และ 50 ทองสำหรับการปราบโจรได้ถูกเพิ่มเข้าไปบนนั้น
“สภาเมืองจะไม่เมายุ่งเหมือนครั้งที่แล้ว ใช่มั้ย”
ค่าใช้จ่ายของการปราบโจรได้ถูกจ่ายโดยกระเป๋าเงินของบริษัทมิแรนด้า และพ่อค้าคนอื่น ดังนั้นเมืองไม่ได้เป็นคนจ่าย”
เข้าใจแล้ว งั้นพวกเขาปล่อยพวกโจรทำตามใจเพราะมันไม่ได้มีปัญหากับกระเป๋าของพวกเขา
“อย่าตระหนี่กับค่าเดินทางล่ะ สหพันธรัฐมันหนาว หนาว{จริงๆ!} หาเสื้อขนสัตว์ให้นายและม้าด้วย!”
ถือกระเป๋าที่เริ่มค่อนข้างหนัก ผมได้ไปที่ศาลานกน้อย
คาร์ล่าได้เงียบตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เธอรู้เหรอ?
“โย่”
“อะ~ มันเอเกอร์~ ชั้นคิดถึงนาย~”
มาเรียกระโดดจากเคาน์เตอร์มาที่อกผม
แม่ว่ามันจะไม่นานครั้งล่าสุดที่เธอเห็นผม เธอรับผมอย่างหลงไหล
ผมคิดเกี่ยวกับจะหาห้องแล้วเอาเธอไปตอนนั้นเลย แต่ก่อนหน้านั้น ผมมีบางอย่างที่ต้องพูด
“คาร์ล่า มาเรีย ฟังนะ”
“หืม~? อะไร~?
“…………………..”
“พรุ่งนี้ชั้นจะขี่ชวาร์ซไปทางเหนือผ่านอาร์คแลนด์และไปเหนือมากขึ้นอีกจนถึงสหพันธรัฐโอลก้า
มาเรียเปิดตาของเธอกว้าง คาร์ล่ามองลงไปข้างล่าง ไม่พูดอะไร
“ชั้นมีเป้าหมายไปที่เมืองหลวงของสหพันธรัฐโอลก้า แต่การเดินทางมันไกล และเต็มไปด้วยอันตราย”
“‘ชั้นจะไปคนเดียว’….ใช่มั้ย?”
คาร์ล่าจบประโยคของผม
“ใช่ ชั้นไม่อยากให้เธอตาย”
“ถ้ามันเป็นแบบนั้นชั้น…”
“ปัญหาอยู่ที่ชั้น ชั้นไม่อยากนำเธอไปสู้ความตายของเธอ โดยไม่คำนึงถึงว่าเธอคิดเกี่ยวกับมันยังไง”
“แต่มันไม่เหมือนว่าชั้นจะไปตลอดกาล ชั้นจะกลับมาแน่นอน”
“ชั้นเคยได้ยินประโยคนั้นที่ไหนมาก่อนนะ”
นั่นใช่แล้ว ผมได้พูดนั่นบ่อยหลังๆ
“มันจะไม่มีความหมายอะไรถ้าเธออยู่ในอันตรายระหว่างนั้น ชั้นอยากจะให้เธออยู่ที่ศาลานกน้อย
เพราะผมได้ทิ้งคาร์ล่าไว้คนเดียวเพื่อความสบายของผม อย่างน้อยผมควรทำให้มันใจว่าเธอมีที่อยู่และอาหารให้กิน
“มาเรีย ปรกติเธอทำอาหารที่นี่ได้ ใช่มั้ย”
“ใช่ แม้ชั้นจะทำมันไม่ได้เพราะชั้นยุ่งระหว่างการล่าหมาป่า”
“ห้องหนึ่งคนกับอาหารปีนึงราคาเท่าไหร่”
“ปี! อืมม อืมมม 40 และ 5~ อืมม… อืมม….”
“หยุดเลยเอเกอร์! ชั้นไม่ได้ตกลงกับเรื่องนี้นะ!”
คาร์ล่าจะไม่เป็นปัญหา
“มาเรีย เป็นการร้องขอที่แยกออกมา ชั้นจะขอคืนนึงกับห้องที่ดีที่สุด ชั้นจะกล่อมคาร์ล่าบนเตียง”
ในท้ายที่ ค่าห้องคือ 5 ทองสำหรับ 100 วัน ผมเลยจากล่วงหน้า 20 ทองสำหรับ 400 วัน
มันดูเหมือนคุณปรกติแล้วจะได้ส่วนลดสำหรับ 100 วัน แต่ผมบอกมาเรียว่าเธอเอามันไปเป็นค่าขนมด้วย ดังนั้นได้โปรดดูแลคาร์ล่า
อีกประการณ์หนึ่งห้องสวีทราคาสองเงิน ด้วยราคานั้นผมคิดว่าผมสามารถจะให้คาร์ล่าอยู่ได้ แต่เพราะคนรู้จัก เธออยู่นานไม่ได้
พระอาทิตย์ยังสูงอยู่แต่ผมเดินอย่างเต็มใจ ผมซื้อน้ำและอาหารสัตว์น้ำผึ้งสำหรับชวาร์ต ยาแทนยาที่ใช้หมดไป (มีแค่ระดับต่ำกว่าเล็กน้อย) และอาหารเก็บได้นานและ ตอนเที่ยงการเตรียมตัวออกเดินทางได้เสร็จ
“งั้นตอนนี้ คาร์ล่า มากล่อมเธอกันเถอะ”
คนที่กระตือรือร้นอย่างจริงจรังได้ถูกนำโดยมาเรียที่หน้าแดง ไปที่ห้องสวีทในโรมแรม
ห้องที่อยู่ในชั้นสามของโรงแรมค่อนข้างฟุ่มเฟือย มันเป็นห้องแบบนั้นที่ถูกแบ่งเป็นห้องนอน เตียงใหญ่ และห้องนั่งเล่น
ผมเข้าหาคาร์ล่าเพื่อที่ในที่สุดจะเริ่มเจรจา แต่ตอนนี้นเธอพูดก่อน
“เฮ้อ ยังไงชั้นก็จะถูกกล่อมแล้วสับสนในไม่นาน ดังนั้นให้ชั้นพูดนี่ก่อน”
“ถ้านายคิดอย่างนั้นงั้นชั้นจะทำตามที่นายพูด แต่นายต้องกลับมาภาคใน 400 วันให้ได้อย่างแน่นอนนะ โอเค๊! ไม่ว่าจะยังไง! ถ้านายไม่กลับมา…. ชั้นจะมาทักทายนายด้วยท้องบวมๆเพราะผู้ชายที่ชั้นหยิบมาข้างทาง!”
“นั่นจะมีปัญหา งั้น เมื่อไหร่กันที่เธอสังเกตุว่าชั้นจะปล่อยเธอไว้ข้างหลัง?”
“เมื่อเราจากเมลและสาวๆมา ถ้านายมีแผนจะอยู่ที่นี่นายจะไม่ทิ้งพวกเธอแน่ นายจะรับทั้งสามคนเป็นผู้หญิงของนายและมีความสุขกับโอยาโกะด้ง*ทุกวัน”
«TLN: อาหารถ้วยของญี่ปุ่นที่ใส่ไก่และไข่ ค่อนข้างมีชื่อทางร้ายว่าเป็น ดงบุริ แม่-และ-ลูก»
นั่นวิธีแปลกๆที่จะพูดมัน แต่มาไม่พูดอะไรเถอะ
นั่น และผมไม่มีงานอดิเรกที่จะหลับนอนกับเด็กนะ
“ดังนั้นชั้นคิด อา ชายคนนี้ไปไปที่ไหนไกลๆ และเค้าจะไมพาชั้นไปแน่”
เธอหายใจ
“นายไม่รู้ว่าเธอหญิงจะทำอะไรถ้านายปล่อยทิ้งไว้ปีนึง นายรู้มั้ย? พวกเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล่นไปทั่ว”
“ถ้าเธออยากจะนอกใจงั้นก็เอาเลย ชั้นแค่ต้องขโมยเธอคืนเมื่อชั้นกลับมา”
“…………. นายเป็นคนดีจริงๆนะ หึ้ห์”
มาเรียนำน้ำที่มีผลไม้อยู่ข้างในมา น้ำร้อน และผ้าเปียก
เธอดูอายๆ รู้ดีว่าพวกมันจะถูกใช้ทำอะไร
“มาเรีย เราจะสร้างความรักตลอดทั้งวันดังนั้นมาเมื่อเธอเสร็จงาน”
มาเรียควันขึ้นและวิ่งหนีไป แต่พนักได้ตาเปิดกว้างในความตกใจเมื่อเห็นว่าเธอทำงานอย่างไรในวันนั้น
วันนั้น ระหว่าที่พระอาทิตย์ยังขึ้นอยู่คาร์ล่าและผมกระซิบคำหวานที่ไร้ความหมายให้กันและกัน ไม่จบไม่สิ้น แล้วเมื่อตอนเย็นมา มาเรียได้ร่วมกับเรา และผมได้สนุกกับทั้งสองคนอย่างต่อเนื่อง เกือบจะไม่ได้พัก
ผมนอนคาร์ล่า ผู้ที่สลบไป ลงที่พื้น
แน่นอนว่า ผมนำเธอไว้บนโซฟาหรือมุมเตียงได้ แต่มาเรียได้ยืนกรานว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นบ้ากาม
เหตุผลเพราะเมื่อมาเราเสร็จงานและเปิดประตูห้องด้วยหัวใจที่เต้น
“《อ๊าาา! ดุเดือดจัง! เอ็นเอเกอร์ที่หนาใหญ่ดีที่สุด! น้ำเหนียวของผู้หญิงของชั้นพุ่งออกมาแล้ว! ชั้นไม่ต้องการอะไรอื่นอีกต่อไปหลังจากนี้ ชั้นไม่ต้องการอะไรนอกจากเอ็นที่หนา ดุร้าย!!! มาเรีย ดู ชั้นเป็นบ้ากามที่ถูกทำโดยเอ็นใหญ่ ดูสิ!!!》
คาร์ล่าในเวลาต่อมาได้พูดต่อไป มาเรียทนที่จะฟังไม่ได้ ในท้ายที่สุดเธอใส่นิ้วเข้าไปในรูหลังเธอและพ่นน้ำจำนวนมากใส่มาเรีย
มาเรียได้มองคาร์ล่าเหมือนเธอเห็นบางอย่างสกปรกตั้งแต่นั้นมา
ผมหวังว่าเธอจะดูแลคาร์ล่าอย่างถูกต้องเหมือนที่ผมขอ?
มากกว่านั้น เธอดูเหมือนจะมีมันอยู่ในใจตั้งแต่แคลร์และเรียกร้องที่จะใส่ไม้เนื้อเข้าไปในรูหลังเธอ ซึ่งทำให้สายตาดูถูกของมาเรียแย่ขึ้นไปอีก
และที่พับหัว หลังจากที่เราเสร็จกิจในข้างหลังของเธอแล้ว เธอเรียกร้องให้มาเรียและผมดูเธอถ่ายอุจจาระในถัง{ฉุกเฉิน}ที่ถูกทิ้งไว้ในห้อง
แน่นอนว่าผมรู้สึกไม่สบายใจแต่มาเรียดูเธอเหมือนดูขยะ
ไม่มีใครมาส่งผม
มันเป็นเรื่องที่มันแน่นอนอยู่แล้ว คนรักของผมสองคนยังไม่ขึ้นมาจากเตียง
ผมกระซิบ “ชั้นจะไปแล้ว” ที่ห้องนอนและพวกเธอตอบในเสียงแหบและตาที่ยังเน้นไม่ได้ว่า “ระวังตัวด้วย”
ยังไง นั่นพอแล้ว แม้ว่าคาร์ล่าไม่ได้พูดกับหูผมแต่เป็นตรงหว่างขาผม นั่นโอเค
{ผู้หญิงอยู่ไหน? ทำไมนายอยู่คนเดียว?}
ชวาร์ซดูเหมือนจะอย่างตั้งคำถามผมขณะที่ผมขี่เขา และออกเดินทางไปทางเหนือจากโรเลล
อย่ากังวง ชะตาจะนำพาเรากลับมาซักวัน
ผมขึ้นเหนือจากโรเรล และถึงชายแดนอาร์คแลนด์ก่อนจบวัน
ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ปล่อยครั้งมันปะทุเป็นสงคราม
แต่ในทางกลับกัน เพราะมันเป็นเวลาสันติ มันเป็นไปได้ที่จะข้ามชายแดน
เพราะมีการแลกเปลี่ยนจากสหพันธรัฐผ่านหลายประเทศ
การปิดชายแดนอย่างสมบูรณ์นั้นไม่ถูกอนุญาตในเวลาสันติ โดยความเห็นตรงกันโดยปริยาย
จำนวนผู้คนของอาร์คแลนด์คือสองแสนคน น้อยกว่าเทรียแสนคน แต่อำนาจทางทหารของมันได้เหนือกว่าเทรีย เพราะการฝึกทางทหารของพวกเขา
เมืองหลวง ชื่อว่าอาร์คแลนด์เหมือนอาณาจักร คือที่โบราณที่มั้นตั้งอยู่ที่นั่น ตั้งแต่เวลาในตำนาน
การศึกษาประวัติศาสตร์ของปัจจุบัน ไม่พบพื้นฐานของมัน แต่ชื่อของที่นี่ และชื่อประเทศว่าอาร์คแลนด์ ได้กทิ้งไว้ข้างหลัง
สามประเทศที่ล้อมเมืองหลวง แต่ละประเทศมีกำแพงที่ทนทาน และใช้ในเวลาสงครามเพื่อเป็นป้อมปราการ
บางที เนื่องจากการไล่ตามแต่เรื่องของทางทหารอยู่เพียงอย่างเดียว จำนวนผู้คนและการพัฒนาของมัน ไม่ใช่บางอย่างที่น่ามอง
ทาเก็บภาษีที่แพงกว้าของเทรีย ได้เรียกเก็บบนหมู่บ้านเกษตรกร ทำให้ชาวนาและชาวบ้านต่ำๆ อยู่ในความยากจน
มากเท่านั้น คือที่ถูกสอนกับผม โดยลูซี่ แต่ผมมาเข้าใจว่านั่นมันเป็นอย่างนั้น ตอนนี้ ที่ผมมาที่นี่และเห็นมันด้วยตาของตัวเอง
เมื่อผมเข้าสู่เมื่องผมเจอกับโรงแรมและร้านค้าที่น้อยมาก ผมคิดว่านี่คือเมืองร้าง แต่จำนวนของทหารที่นี่มากกว่าโรเลล
ส่วนใหญ่ของเจ้าของร้านคือผู้หญิง หรือคนแก่ การที่ผมถามไปรอบๆ ผมได้พบว่าชายหนุ่ม ดูเหมือนจะถูกต้อนสำหรับการไปเป็นทหารเป็นเวลานาน
ไม่มีอะไรที่มีค่าแก่การมอง ดังนั้นผมรีบไป
ข้อดีของการที่พวกเขาพร้อมกับสงครามตลอดคือ อาหารม้าได้มีขายอยู่ตลอด
เมืองมันอ้างว้าง แต่หมู่บ้านนั้นอยู่ในสภาพที่น่ากลัวมากกว่า
ดินดูจะไม่ปราศจากพืชผล เหมือนหมู่บ้านชีร่า แต่เพราะภาษีที่สูง ผู้คนนั้นทรุดโทรม มันจะดูไม่แปลกถ้าผู้หญิงและเด็กต้องขายตัวเพื่อมีชีวิตรอด
แม้แต่ในหมู่บ้านที่ผมตัดสินใจจะค้างคืน ผู้หญิงได้เข้าหาผม แล้วพูดว่าเธอจะรับ 30 เหรียญสำหรับการที่ผมนอนกับเธอ
เมื่อผมถาม เธอพูดว่าเธอแต่งงานแล้ว แล้วมีลูก 3 คน และสามีเธอได้ถูกผลั้กดันเข้าไปเป็นราชการทหาร ดังนั้นเธอได้มีปัญหาเรื่องอาหาร ดังนั้นเธอแหกขาของเธอให้นักเดินทาง
“ชั้นทิ้งเด็กไว้กับเพื่อนบ้านจนถึงพรุ่งนี้ ดังนั้นนายไม่ต้องออมมือ”
ผมรู้สึกแย่ที่จะให้ทองแดงกับเธอเมื่อเธอจำทำมันมากขนาดนั้น ผมเลยมอบเงินให้เธอ
“จริงเหรอ!? นายช่วยชั้นไว้เลย แต่ตัวของชั้นไม่ได้มีค่าขนาดนั้นนะรู้มั้ย?”
เธอขึ้นไปบนเตียงและถอดเสื้อผ้าของเธอ แน่นอน ว่าตัวของเธอไม่ได้ดูเชิญชวนขนาดนั้น
เพราะเธอกินไม่พอแล้วเธอผอม และก้นของเธอไม่มีเนื้อมากอยู่บนมัน
ที่มันทำให้แย่มากกว่านั้น คือการที่ผมได้ลิ้มรสตัวที่ยั่วยวนของคาร์ล่า
แต่ ยัง เธอดูเหมือนเธอมุ่งมั่นจะทำงานหนักเพื่อเหรียญเงิน เธอนำหน้าของเธอไปที่หว่างขาของผม แล้วเริ่มเลียและดูดเจ้าหนูผม
“แม้ชั้นมีตัวที่ดูทรุดโทรมอย่างนี้ ชั้นจะทำเต็มที่ด้วยลิ้นของชั้น ดังนั้นถ้านายต้องการอะไร แค่พูดมันนะ”
เธอไม่ถือ และเธอไม่สำลัก แม้ว่าผมกดหัวของเธอลง เธอรับมันลึกเข้าไปในคอเธอ
“เธอทำได้ดี ตอนนี้ให้ชั้นได้กินจานหลักนะ”
“ใช่ แต่ยังไง ของนายมันใหญ่ ชั้นไม่เคยเห็นบางคน{โอฬาร}มากขนาดนี้บ่อยๆ”
แต่ มันยังไกลจากการเป็นใหญ่ที่สุด นะ
หนึ่งเหตุผลก็คือนั่น เมื่อผมเปิดเผย ของผมที่ลุกครึ่งหนี่งและกอดเธอใกล้ ผมรู้สึกถึงกระดูก
มีความรู้สึกว่าผมไม่อินกับมัน ผู้หญิงคิดอะไรบางอย่าง เพื่อความหลากหลาย
“อืม ให้ชั้นได้ขอโทษสามีชั้นก่อนใส่มันเข้าไปได้ไม่ ตัว{ชั้น}ไม่ซื่อสัตย์ แม้ว่ามันเพื่อความอยู่รอด ….ที่รัก ชั้นตอนนี้จะนอนกับชายอื่น ชั้นจะเจ็บปวดในการถูกแทงด้วยกระดอที่ใหญ่กว่าของนายมากมาก ดังนั้นได้โปรดยกโทษให้ชั้น ชั้นคิดถึงนาย แม้ว่าชั้นได้รับกระดอชายอื่นเข้ามาในมดลูกชั้น”
นั้นไม่ใช่การขอโทษจริงๆ นั่นคือการแสดง เพื่อเพิ่มความใคร่ที่ผิดศีลธรรมของผม
ผลของมัน ผมได้ออมมือไม่ไหวทันที ผมเอียงตัวไปเหนือเธอ เหวี่ยงสะโพกของผมอย่างดุร้าย และสามารถจะมีความสุขสองยกกับเธอ
เช้าวันต่อมา ผมให้เธอทำอาหารกับวัตถุดิบที่ผมนำมา และกินอาหารเช้า
เธอซ่อนส่วนหนึ่งของวัตถุดิน น่าจะเพื่อลูกของเธอ ดังนั้นผมแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น และดื่มซุปเนื้อ
ยังไง เธอดูเหมือนจะรูสึกผิด และมุดไปใต้โต๊ะมอบบริการทางปากโดยไม่พูดซักคำ
ผมคิดว่ามันอาจจะดีสำหรับเติมสารอาหารให้เธอ ดัวนั้นผมกดหัวของเธอลงและเทน้ำกามจำนวนมากลงคอของเธอ
“มันออกมาเยอะเลย….นายได้รุนแรงและทักษะสูงด้วย เมื่อคืนน่ะ ชั้นลืมสามีชั้นไปจริงๆเลย”
เธอเยินยอผมระหว่างทำความสะอาดไม้เนื้อของผม
ยังไงซะ ผมควรจะรีบไป
“อืม ยังมีซุปและขนมปังอยู่อีก…”
“ชั้นอิ่มแล้ว เธอกินที่เหลือได้เลย”
เธอคำนับ ผมชำเลืองมองกลับไป และออกจากบ้าน
มีเด็กน้ำลายไหลจากกลิ่นที่ลอยมาผ่านทางเข้า น่าจะลูกเธอ
พวกเขาเข้าบ้านอย่างมีความสุขเมื่อแม่เรียก
ตัวของพวกเขาผอมมากมันดูเหมือนมีแต่หนังและกระดูก ผมแม้แต่บอกก็ไม่ได้ว่าเป็นเด็กชายหรือเด็กหญิง
ผู้หญิงนั้นดี แต่บรรยาการของประเทศนี้ทำให้ผมรู้สึกเกลียด
ผมมาคิดว่าผมได้พอแล้วกับประเทศนี้ ผมเลยตัดสินใจที่จะออกจาอาร์คแลนด์
ทันทีที่ผมออกจากดินแดนชนบท ผมเห็นกลุ่มของชาวนาหลายร้อยคน เดินกันเป็นหมู่คณะ
ผมคิดว่าพวกเขาเป็นโจร แต่มีคนแก่และผู้หญิงอยู่ร่วมกับพวกเขาด้วย
“คืนลูกชายของเรามานะ!”
“ลดภาษีของเราลงซะ!”
พวกเขาได้เรียกร้องคนงานที่ถูกเกณฑ์ ให้กลับบ้านและลดภาษี
ขณะที่พวกเขาตะโกนและตะโกน พวกเขามุ่งหน้าไปด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวกัน สู่เมืองหลวงอาร์คแลนด์
พวกเค้าน่าจะอยากจะแสดงให้เห็นกับตาเรื่องความจนของพวกเขา ต่อราชาหรือขุนนางสูง
เข้าใจได้ เมื่อเห็นว่าพวกเขาจนแค่ไหน ผมได้ออกห่างจากพวกเขา เพื่อที่ผมจะไม่ไปเกี่ยวข้อง
พวกเขาและผมได้ไปทางเดียวกัน แต่ไม่มีทางที่ว่าพวกเขาจะยืนขวางทางชวาร์ซ
กลุ่มคนแบบนี้มักจะใช้กำลัง ในแบบนี้ว่ามันไม่เกี่ยวกับเป้าหมายของพวกเขา ยิ่งเวลาผ่านไปนาน ดังนั้นผมควรจะอยู่ห่างๆจากพวกเขามากที่สุดเท่าที่ทำได้ดีกว่า
ในความจริงแล้ว พวกเขาบางคน ได้ติดอาวุธด้วยอุปกรณ์ที่ฟาร์มแล้วด้วย
แค่เมื่อกลุ่มก้อนที่เคลื่อนที่อืดๆ ผ่านภูเขา ผมได้ยินเสียงโหยหวยของทรัมเป็ต ชาวนาสั่นในความตกใจ
ที่อยู่ตรงหน้าเขา ถือแบนเนอร์ประจำชาติของอาร์คแลน
ด้านข้างของเขาประกอบไปด้วย นักธนูและพลเดินเท้า และตรงกลางมี ผู้ขี่ม้า 50 คน
“มันคือหอกเหล็ก!!”
บางคนตะโกน ในเวลาเดียวกับกันเสียงกรีดร้องที่ขึ้นมาของกลุ่มคน
ดูเหมือนหน่วยที่ติดอาวุธอย่างหนักนี้ คือทหารที่รู้จักกันดี
ทหารผู้ขี่ม้า หอกเหล็ก ชื่อนั้นเหรอ? เริ่มการบุก ดั่งมีเสียงกรีดร้องนั้นดังเป็นสัญญาน
ทหารม้าและม้าห่อหุ้มด้วยชุดเกราะ ด้วย หอกเหล็กยาว 2 เมตรขี่ตามกัน วางหอกมาข้างหน้า แล้วแบบนั้นเลย แทงกลุ่มก้อนของชาวนา
มันเป็นการสังหารหมู่ที่สยดสยอง
ชาวนาไม่มีชุดเกราะที่ถูกต้อง ได้ถูกเสียบไม้และถูกเหยียบย่ำด้วยเกือกม้า
ชาวนาเป็นร้อยได้ลดลงในแค่พริบตา และที่เหลือได้ถูกเสียบไม้ เมื่อพวกเขาพยายามจะหนี
มีแค่ชาวนาไม่กี่คนที่สามารถจะกระจายออกไป แต่เมื่องพวกเขาออกมาจากทหารม้า ธนูลงมาเป็นห่าฝนใส่พวกเขา
ได้เคลื่อนทัพจนพอใจ ทหารม้าเดินอย่างช้าๆ แทงหอกลงไปกับสิ่งใดๆ ที่ยังขยับอยู่
ช่างเสียของ พวกเขาเก็บผู้หญิงก็ได้
“แกเป็นหนึ่งในพวกนั้นมั้ย”
ผมน่าจะโดดเด่น การที่ขี่อยู่บนม้า ทหารม้าของอาร์คแลนเลยเรียกผมวิ่งเข้ามา
“ไม่ ชั้นเป็นนักเดินทาง ชั้นไม่ต่อต้านนาย”
ผมมองตัวของผมเองอีกครั้ง
ผมใส่เกราะหนังถุงมือหนังรองเท้าบูท ตัวของผมปรกไปด้วยผ้าคลุม และแบกหอกใหญ่อยู่บนไหล่ แต่ดาบสั้นสองเล่มอยู่ที่เอว
ผมได้ขี่ชวาร์ซ ที่ใหญ่กว้าม้าของพวกเขาและมันอยู่ในชุดเกราะหนัง
ไม่ว่าจะมองผมยังไง ผมดูเหมือนผู้บัญชาการของคนพวกนั้นหรือคนที่เริ่มยั่วยุ
นี่มันแย่
“อย่าโกหกกับเรา! ทิ้งอาวุธแล้วยอมแพ้ซะ! เราจะจับแกไปคุมขัง!”
ยังไงซะ นั่น มันเป็นอย่างนั้น
มันดูไม่เหมือนว่าผมจะสามารถลบความเข้าใจผิดใดๆได้ แม้ว่าผมเข้าคุกไปอย่างเชื่อฟัง
ที่มากกว่านั้นพวกนี้เครียดพอที่จะฆ่ากลุ่มของชาวนาที่มีผู้หญิงได้ ไม่มีทาง ที่พวกเขาจะคุยกับผมโดยไม่เอะอะ
นอกจากนั้น ผมไม่สนในประเทศนี้ ผมน่าจะไม่กลับมาอีกครั้ง
ผมมอบคำตอบให้เขา
ด้วยเสียงเอี๊ยดของหอกม ผมเป่าสองคนร่วงลงจากม้า
ผมตัดเขาไม่ได้ดังนั้นผมตีด้วยหลังใบมีด
พวกเขาน่าจะกระดูกหักซักชิ้นสองชิ้น แต่เค้าไม่น่าจะตายเพราะเขามีพวกที่นี่
ขอบคุณความใจดีของผมซะเถอะนะ
เห็นว่าทหารม้าเบาได้ถูกซัดลง หอกเหล็กหยุดการล่าผู้รอดชีวิตของพวกเขา และตั้งขบวนใหม่ โดยการมีนักธนูอยู่ข้างหน้า
การตอบสนองเกินไปกับชายแค่คนเดียว
บางทีพวกเขาอาจจะคิดว่าผมมีกำลังเสริมอยู่ข้างหลังผม
พวกเขาปิดทางอย่างสมบูรณ์
ถ้าผมอ้อมศัตรูจะมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ และผมเพียงแค่ทำให้ชวาร์ซเหนื่อย ซึ่งมันไม่พึงปรารถนา
ดังนั้นผมเดาว่า ไม่มีทางเลือกนอกจากจะฝ่าไป
มีนักธนูอยู่ที่ข้างซ้ายและข้างขวา
ผมป้องกันธนูเป็นโหลๆที่ถูกปล่อยมาในทีเดียวกันไม่ได้
แทนทีจะไปผม ถ้าชวาร์ซโดนแล้วเสียขาไป ทั้งหมดมันจะจบ
งั้นมันมีแค่ทางเดียว
ถ้าผมกระโดดตรงกลางหอกเหล็ก นักธนูจะทำอะไรไม่ได้
หอกของเขายาวและบาง บางอย่างที่ใช้ไม่ได้ในระยะประชิดตัว
ผมเลยน่าจะสามารถทำอะไรได้ถ้าผมเข้าใกล้ได้
แต่นอนว่า มันเป็นการต่อสู้ที่อยู่บนความเป็น-และ-ความตาย
ผมดีใจที่ผมทิ้งคาร์ล่าไว้ข้างหลัง
“ไปกันเถอะ วิ่งด้วยทุกอย่างที่นายมี”
ลมสีดำได้พัด
หอกเหล็กบางคนได้เริ่มพุ่งวิ่งแล้ว ระยะระหว่างเราหายไปในพริบตา
นักธนู้รีบปล่อยลูกธนูออกมา แต่เพราะมีระยะอยู่บ้างระหว่างเรากับธนูที่บินในแนวโค้ง เมื่อเวลาที่มันตกมา ชวาร์ซได้ไปที่อื่นแล้ว
ระยะไม่ถึงแม้แต่ 10 เมตร ระหว่างผมและทหารม้าอีกแล้ว
ตอนนี้ธนูเคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว
หอกได้แทงมาหข้างหน้า ทำแถว
ถ้าผมวิ่งเข้าไปหาพวกเขาไม่ต้องสงสัยว่าผมจะถูกแทงตาย
แต่ก่อนที่ผมจะไปชนกับพวกเขา ผมเหวี่ยงหอกของผม
หอก พิเศษในการแทงมาข้างหน้า ไม่สามารถทนแรงกระแทกด้านข้างจากก้อนเหล็ก หลายอันของมันได้พังทันที สร้างรูในแถว
โดยไม่ช้าลงเลย ชวาร์ซตามแรงส่งของเขา และทะลุผ่านรูไป
{อย่างที่คาดกับม้าลามก ใจมันแข็งว่ะ} ผมคิดขณะที่ผมพร้อมหอกผมอีกครั้ง
ถ้าไม่ว่าผมหรือเขาได้พลาดขึ้นมา ไม่มีเราซักคนที่จะรอดชีวิต
ชวาร์ซพุ่งไปเหมือนหินกลิ้ง น่าประทับใจซะจนม้าของศัตรูหลีกทางให้
อย่างชัดเจน แม่แต่ผมก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับเจ้านี่ตรงๆ
ตอนนี้แนวแหน้าได้ทลายแล้ว ผมกระโดดเข้าไปกลางแถว
เมื่อผมเขาไปข้างในพวกเขาไม่อาจจะเหวี่ยงหอกที่มันหมุนยากได้
มันระยะเดียวกันกับของผม แต่ด้ามของผมสามารถใช้เพื่อน็อคศัตรูลงจากระยะใกล้ได้ หอกบางของพวกเขาไม่อาจทำบางอย่างแบบนั้น
เพิ่มเติมจานั้น ทุกอย่างรอบผมคือศัตรู ผมเหวี่ยงหอกได้โดยไม่ต้องคิดว่าจะโจมตีพวกเดียวกัน ไม่เหมือนพวกเขา
น้ำหนักและพลังที่ท่วมท้น ทำลายผ่านเกราะเหล็กได้เหมือนกล่องไม้
น้ำผลไม้สีแดงของแอปเปิ้ลที่อยู่ในกล่องดูไม่น่าอร่อยเลยซักนิด
ผมเสียบศัตรูที่ขวางทางผมขณะที่ผมพุ่งและยกเขาขึ้น เห็นสิ่งนั้น ทหารมาเอาโอกาสนี้และขยับมาล้อมผม ระหว่างที่หอกผมได้ติดเข้าไปในตัวของพวกเขา
มันโง่เง่าที่จะแทงศัตรูระหว่างสูระยะประชิด เวลาเดียวที่คุณทำนั้นได้ คือเมื่อคุณสามารถจะถอยได้ หรือหวังกับการสนับสนุนจากพวกเดียวกัน
ถ้า แบบผม คุณแทงศัตรูโดยไม่มีพวกเดียวกันรอบคุณ อาวุธจะถูกปลดประจำการซักพัก และคุณจะไร้การป้องกัน
คุณไม่สามารถเอาไปมีดที่มันยื่นเข้าไปลึกข้างในตัวคนออกมาง่ายๆ
เพราะพวกเขาเข้าใจสิ่งที่ ทหารม้าเข้ามาโจมตีผมพร้อมกัน
แต่อย่ามองผมผิด
ผมไม่ได้เสียอาวุธของผมไป
ผมแค่เปลี่ยนหอกของผมเป็น ค้อนศึกรุ่นน้ำหนักมากที่สุด
ผมเหวี่ยงหอกไปด้วยกันกันทหารที่ถูกแทงบนมัน
เกราะและหอกรวมกัน จะน้ำหนักประมาน100กก คุณไม่อาจป้องกันอาวุธที่มโหฬารแบบนี้ได้
ด้วยเสียง ‘ก๊อง’ ที่ดังระเบิด ทหารหกคน ลอยไปในอากาศ
แรงส่งจากการเหวี่ยง ชายที่โดนแทงลอยไปในอากาศ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น
ผมตัดอีกสองหรือสามคนต่อมาก จากนั้นชวาร์ซร้อง
มันดูเหืมอนเขาได้เหนื่อยจากการวิ่งและการเหวี่ยงหอก
ยังไงซะ ผมควรจะตัดไปตลอดทางแล้วตอนนี้ แต่ต่อนนั้นเอง ความเจ็บปวดที่ร้อนวิ่งมาสู้ด้านข้างของผม
หอกได้แทงผ่านเกราะหนังของผม
บางคนได้แทงด้านข้างผมขณะที่ผมวิ่งว่า มันคือเขาเก่งหรือเขาโชคดี
ทองของผมรู้สึกร้อนและชา แต่ตัวผมยังขยับได้ และมันไม่เหมือนว่าผมเลือดออกมาก
มันน่าจะไม่ใช่แผลถึงชีวิต
ดังนั้นผมควรทำให้ดีที่สุดเพื่อหนี
ผมถอนรากหอกและโยนมัน ไปที่ทหารม้าที่ขวางทางผม
มันลอยอย่างสมบูรณ์แบบไปที่หน้าเขา และเข้าได้ล้มไปและตาย แต่มีทหารม้าคนต่อไปอยู่ข้างหลังเขา
หลังจากฆ่าพวกเขาสามคน ในที่สุดผมก็ได้เจาะทะลุผ่านหอกเหล็กแล้วออกไปที่ที่ราบ
ธนูได้บินมา แต่การเล็งมันประปราย ดังนั้นผมได้ปัดมันทั้งหมดออกไป
หอกเหล็กได้อยู่ในความตื่นตกใจอย่างหนักตลอดทั้งหมด ดังนั้นพวกเขาดูไม่เหมือนว่าจะไล่ตามผม
พลเดินเท้านั้นก็แน่นอนว่าไม่ แต่ทหารม้าก็ไม่สามารถจะตามผมมาได้
ด้วยนี้ผมควรตะสามารถวิ่งหนีได้
หลังจากที่ได้สู้อย่างมากแล้วผมยังต้องออกจากอาร์แลนด์ตอนนี้เลย
ผมไม่ได้เลือดออกมาก แต่มันไม่หยุดด้วยเช่นกัน นี่มันไม่ใช่แผลเบาๆ
ถ้าผมมาล้มตายตรงนี้ คาร์ล่าน่าจะป๋อมลูกของคนอื่นออกมา
ผมสามารถได้ยินเธอพูดว่า “แม้ว่าชั้นมีผู้ชายแล้ว ชั้นได้ถูกเติมเต็มไปด้วยน้ำกามของชายอื่น! นี่มันดีที่สุด!
มีนั่นอยู่ในใจ ผมได้ขึ้นเหนือต่อไป
ชวาสซ์ควรจะเหนื่อยด้วย แต่เขาวิ่งต่อไปโดยไม่หยุดการก้าวเท้า
สี่ตาได้ดูทั้งหมดคลี่คลายจากข้างบนเนิน
“เจ้าเห็นนั่นมั้ย? หอกเหล็กได้ถูกเล่นไปรอบๆโดยแค่คนคนเดียว เหมือนพวกเขาไม่ใช่อะไรเลย”
“ดูเหมือนพวกเขาสิบคนตาย เคานต์มัลเน็ตรับความเสียหน้าเต็มที่เลยที่นี่”
“แล้วคนที่กลิ้งอยู่บนพื้นนั้น? ดูเหมือนเขาถูกตีแล้วหล่นจากม้า ช่างเป็นการดิ้นรนที่ไม่สง่างาม”
“เขาควรจะถูกผ่าครึ่ง มันจะสร้างเรื่องตลก”
“ยังไงก็ตาม ชายคนนั้นดูเหมือนจะมุ่งหน้าไปที่ประเทศของเรา เราควรจะรายงานทันที”
“ใช่เค้ามีม้าเร็วและวิ่ง แต่ชั้นไม่อยากจะสู้กับเขาต่อหน้าต่อตานะ”
“ชั้นก็ด้วย พลังของเขามันเหนือมนุษย์ สามารถเสียบและยกอัศวินได้ แต่ นั่นมันสำหรับให้คนนั้นคิด ทั้งหมดที่เราทำคือแค่รายง่านทุกอย่างอย่างถูกต้อง”
ชายออกไปและหายตัวไป ไม่ทิ้งเสียงไว้ข้างหลัง นอกจากเสียงร้องของทหารที่ล้มและเสียงตะโกนที่โมโห ของคนที่ดูเหมือนขุนนาง
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
—————————————————————
ชื่อ:│ เอเกอร์
—————————————————————
อาชีพ:│ ทหารรับจ้างอิสระ
—————————————————————
เงิน:│ 132 ทอง (เงินและต่ำลงมาไม่นับ เงินได้ถูกหักสำหรับค่าเดินทางโดยไม่ได้ถูกพูดถึงในเรือง ทั้งหมดนี่นี่คือ การประมาณการ)
—————————————————————
อาวุธ:│ บัลดิชใหญ่, ดาบเหล็ก (เอามาจากแคลร์), มีดเหล็ก × 2
—————————————————————
ชุดเกราะ:│ เกราะหนังสูง, ถุงมือหนังสูง, บูทหนังสูง, โล่หนังสูงและโซ่, ผ้าคลุมสีดำ(ต้องสาป)
—————————————————————
พวกพ้อง:│ ชวาร์ซ (ม้า)
—————————————————————
จำนวนคู่นอน:│ 12
—————————————————————
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord