หนานซ่งตั้งสติ แล้วเปิดโน้ตบุ๊ก นิ้วทั้งสิบนิ้วก็เคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว แล้วทำการแฮกระบบกล้องวงจร จากนั้นก็ลบล้างร่องรอยของตัวเองทั้งหมด
เธอจากไปอย่างสะอาดหมดจด ก็เหมือนตอนนั้นที่เธอเข้ามาอย่างสะอาดสะอ้าน
“คุณชายครับ คุณหญิงไปแล้วครับ!”
เช้าวันรุ่งขึ้น ยวี่จิ้นเหวินที่ได้รับข่าวกลับมาที่คฤหาสน์จากโรงพยาบาล
วินาทีที่เปิดประตูห้อง ก็ได้กลิ่นน้ำหอมดอกกุหลาบลอยมา นี่เป็นกลิ่นบนตัวหนานซ่ง ได้กลิ่นมาสามปีจนเขาชินไปแล้ว
เขาไม่ค่อยเหยียบเข้ามาในห้องนอนหลัก หนานซ่งเป็นคนจัดการตกแต่งเอง โทนสีก็แตกต่างจากห้องอื่น ผ้าห่มสีเหลืองอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่นแล้วก็เงียบสงบ แล้วก็สะอาดมากด้วย นี่เป็นสไตล์ของเธอ
แต่เขาไม่ได้หยุดฝีเท้า ยิ่งไม่มีอารมณ์มาชื่นชมด้วย แต่กลับเดินตรงไปที่หัวเตียง
บนสัญญาหย่า เธอเซ็นชื่อแล้ว ส่วนเช็คสิบล้านที่เขาเซ็นไว้ให้ กลับอยู่ที่เดิมไม่ขยับเลย
มีตราประทับสีใสที่ดูดีวางอยู่บนหัวเตียง ข้างล่างแกะสลัก”ตราประทับของยวี่จิ้นเหวิน”ไว้ ด้านข้างก็แกะสลักลายดอกกุหลาบสีขาวได้สวย เหมือนของจริงมาก เขาอดมองสำรวจไม่ได้ หยกเป็นหยกขาวชั้นดี สะอาดใสมาก วางไว้ในอุ้มมือก็จะรู้สึกเย็นๆ แล้วที่สำคัญคือข้างล่างมีลวดลายสีแดงปนอยู่ด้วย ถ้าโดนแสงแดดส่องก็เหมือนดอกกุหลาบที่เบ่งบาน มหัศจรรย์แล้วก็สวยมากด้วย
เธอชอบดอกกุหลาบ เขารู้ ปลูกไว้เต็มสวนเลย แต่เขาไม่เคยมอบให้เธอเลยสักดอก
ข้างล่างมีกระดาษทับอยู่ เขาหยิบขึ้นมา แล้วเปิดดู เห็นแค่ลายมือที่ดูดีเขียนไว้ว่า “สุขสันต์วันครบรอบสามปี อาจิ้น ลาก่อน”
ยวี่จิ้นเหวินมองตัวหนังสือสองบรรทัดนี้ แววตาก็เปลี่ยนไป สายตาหันไปดูปฏิทินที่หัวเตียง วันที่สิบเดือนเมษา ดูเหมือนว่าเป็นวันที่พวกเขาจดทะเบียนสมรส นี่ผ่านมาสามปีแล้วเหรอ
เขาถือหยกขาวที่มูลค่าล้ำค่านี้ไว้ในมือ อยู่ๆในหัวก็มีความคิดบางอย่าง : เธอเอาเงินมาจากไหน?
ค่าใช้จ่ายในบ้านเขาให้ไว้เยอะทุกเดือน แต่เงินในนั้นกลับไม่ค่อยขยับเลย เธอบอกว่าเธออยู่ในบ้านมีกินมีใช้ ไม่มีอะไรต้องจ่าย ในบัญชีก็ไม่มียอดถอนจำนวนมากด้วย
ยวี่จิ้นเหวินฟังสิ่งที่ผู้ช่วยรายงาน แววตาลึกลับมาก แล้วเอ่ยเสียงเข้มว่า “ไปสืบว่าเธอไปที่ไหน ช่วงนี้ทำอะไรบ้าง ถ้าเป็นคนที่คู่แข่งยัดเข้ามา ต้องจับตัวกลับมาให้ได้”
เกิดในชนบท เด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ — ลู่หนานซ่ง เป็นอย่างนี้จริงเหรอ?
……
สามวันต่อมา เมืองหนาน
สำนักงานใหญ่บริษัทตระกูลหนานในตึกCBDวันนี้วุ่นวายมาก ฝีเท้าของเหล่าพนักงานต่างพากันวิ่งเข้าไปข้างใน ระดับหัวหน้าผู้จัดการต่างก็มารวมกันกันที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง กำลังรอประธานคนใหม่อยู่
เมื่อวานซืน หุ้นบริษัทตระกูลหนานที่ตกอย่างรุนแรงอยู่ๆก็ฟื้นตัว โดนบอสที่ลึกลับคนหนึ่งกวาดซื้อในราคาสูง ในขณะที่เหล่าพนักงานไม่ต้องตกงานแล้ว แต่กลับตกอยู่ในสภาวะที่หวาดระแวงแทน
“ประธานคนใหม่เป็นใครกันแน่ ผู้ชายหรือผู้หญิง เป็นใครมาจากไหน ไม่ได้ยินข่าวอะไรเลยเหรอ?”
“อย่าว่าแต่พวกเราเลย ระดับหัวหน้าก็ไม่รู้ว่าประธานคนใหม่เป็นใคร ไม่งั้นจะพูดว่าลึกลับได้ยังไงล่ะ ขอให้เป็นหนุ่มหล่อ รีบให้ประธานหนุ่มหล่อมาดเข้มมาช่วยฉันเถอะ!”
“เธอฝันกลางวันไปเถอะ ถ้าเป็นบอสผู้หญิงล่ะ”
“เธออย่าพูดตลกเลย จะเป็นไปได้ยังไง เธอภาวนาให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหนานตายแล้วฟื้นคืนชีพเหรอ……”
“มาแล้วมาแล้ว! หยุดซุบซิบกันได้แล้ว!”
ทุกคนกลั้นหายใจ แล้วสายตาก็มองไปที่ประตู อยู่ๆก็รู้สึกเกร็ง เห็นแค่รถโรลส์รอยซ์สีดำแล่นมาจอดที่หน้าประตู รองประธานเป็นคนเดินไปเปิดประตูรถด้วยตัวเอง จากนั้นก็มีคนเดินลงมาจากรถ
พูดให้ชัดๆคือ ผู้หญิงคนหนึ่ง
ส้นสูงสีดำที่สูงสิบเซนติเมตรเหยียบลงมาที่พื้นก่อน จากนั้นก็มีผู้หญิงผมสั้น ใส่ชุดสูทสีขาวเดินลงมาจากรถ ค่อยๆยืนตัวตรง จึงเห็นใบหน้าที่แต่งหน้าอย่างสวยงาม
ส่วนพนักงานระดับสูง ต่างก็เป็นพนักงานอาวุโสที่ทำงานมาเกือบสิบปีแล้ว มองใบหน้าที่คุ้นเคยนี้ ต่างก็พากันอุทานอย่างตกใจว่า “คุณ คุณหนูใหญ่……”
หนานซ่งยืนอยู่หน้าประตูบริษัทตระกูลหนาน ริมฝีปากสีแดงก็เลิกขึ้น “สวัสดี ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”