เซิ่งอันหรานไม่มีทางเลือกอื่น จึงทำได้เพียงวางอาหารลง แล้วหันกลับไปลูบหัวเด็กน้อยน่ารักพร้อมพูดว่า
“หนูอยากให้ป้าอยู่เป็นเพื่อนกับหนูที่นี่ด้วยใช่ไหม ?”
เด็กน้อยน่ารักพยักหน้า
“โอเค งั้นป้าจะอยู่ต่อ”
เด็กน้อยน่ารักตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ราวกับคิดไม่ถึงว่าเธอจะตอบตกลงง่ายๆแบบนี้
“แต่ว่า พวกเราจะนั่งพื้นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ พื้นมันเย็นมาก จะป่วยเอาได้ ไปนั่งบนโซฟาดีกว่าตกลงไหม ?”
เด็กน้อยน่ารักรีบพยักหน้า อย่างเชื่อฟัง
เซิ่งอันหรานยิ้มอย่างพอใจ และโน้มตัวไปอุ้มเขามานั่งบนโซฟา
สำหรับความวุ่นวายที่นี่ เธอเมินเฉยต่อมัน และเล่าเรื่องตลกสองสามเรื่องให้เด็กน้อยน่ารักฟัง ทำให้ใบหน้าที่บึ้งตึงของเขาเปลี่ยนเป็นสดใส และในที่สุดก็หัวเราะออกมาไม่หยุด
แต่เด็กคนนี้ก็ยังคงไม่ยอมพูด
เมื่อรู้สึกดีขึ้น เซิ่งอันหรานก็ลองถามดูอีกครั้ง
“บอกป้าได้ไหมคะ ? ว่าทำไมถึงอารมณ์เสียขนาดนี้ เป็นเพราะว่าไม่มีคนอยู่เล่นกับหนูหรือเปล่า ?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ก็ราวกับว่าไปจี้จุดความไม่พอใจของเด็กน้อยน่ารักเข้า เขากัดฟันและจิกเล็บ ในที่สุดเซิ่งอันหรานก็รู้ว่าเขาอยากได้กระดาษกับปากกา เมื่อหันไป ก็เห็นกระดาษกับปากกาที่ราวกับเตรียมไว้แล้ว แล้วบนกระดาษยังเขียนตัวอักษรไว้เยอะ
เธอหยิบมันขึ้นมาและส่งให้กับเด็กน้อยน่ารัก
เด็กน้อยวาดตัวอักษรลงไปบนกระดาษว่า “พ่อ นิสัยไม่ดี บอกว่าจะพาไปเที่ยว แต่ไม่เลย”
เซิ่งอันหรานแปลกใจที่เด็กตัวเล็กแค่นี้จะสามารถเขียนตัวอักษรได้เยอะขนาดนี้ เธอตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนที่สติจะกลับคืนมา และคิดว่าพ่อแม่น่าจะเป็นคนสอนเขา และดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะพูดไม่ได้จริงๆ
“หนูหมายความว่า เดิมทีคุณพ่อจะพาหนูไปเที่ยว แต่ไม่ได้พาไป ดังนั้นหนูเลยโกรธใช่ไหม ?”
เด็กน้อยน่ารักพยักหน้าอย่างหนักแน่น คิ้วที่ขมวดของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
เซิ่งอันหรานถอนหายใจ ลูบหัวของเขาแล้วปลอบว่า
“บางทีคุณพ่ออาจจะยุ่งจริงๆก็ได้นะ ? คุณพ่อก็คงอยากใหหนูมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้นเลยยุ่งจนไม่มีเวลาพัก และไม่มีเวลามาเล่นกับหนู”
เด็กน้อยดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ เขากรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ และเขียนลงบนกระดาษว่า “ไม่เจอคุณพ่อมาหลายวันแล้ว เขาไม่กลับมา เกลียดเขา ”
สามารถทิ้งเด็กไว้ที่โรงแรมคนเดียวตั้งหลายวัน?
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว ผู้ใหญ่บ้านนี้ใจกว้างขนาดไหนกันเนี่ย ?
“รอคุณพ่อหนูกลับมาแล้ว ฉันจะช่วยหนูพูดให้นะ”เซิ่งอันหรานจับมือของเด็กน้อยน่ารัก “ปล่อยให้เด็กเล็กอยู่บ้านคนเดียวได้อย่างไร อีกอย่างที่นี่ก็ไม่ใช่บ้าน แต่เป็นโรงแรม ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจะทำยังไง”
เด็กน้อยน่ารักพยักหน้าซ้ำๆ
หลายวันมานี้คุณอยู่ในห้องนี้คนเดียวเหรอ ?
เด็กน้อยน่ารักพยักหน้าอีกครั้ง
เมื่อเห็นแบบนี้ เซิ่งอันหรานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “หนูอยากให้ฉันพาออกไปเดินเล่นไหม ? สูดอากาศหน่อย”
เด็กน้อยน่ารักรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
นิสัยของเด็กน้อย ก็ยังชอบเล่นอยู่ ถึงแม้ว่าห้องในโรงแรมจะกว้าง แต่ให้ผู้ใหญ่อยู่ทั้งวันก็คงจะทนไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเด็กเล็กเลย ดังนั้นเซิ่งอันหรานจึงตัดสินใจพาเขาออกไป
“ใช่แล้ว หนูชื่ออะไรเอ่ย ?”
ก่อนจะออกไปเซิ่งอันหรานก็ถามขึ้นมา แต่ก็นึกได้ว่าเขาพูดไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงหยุดอยู่ที่ห้องนั่งเล่น “รอเดี๋ยวนะ ป้าไปหยิบกระดาษกับปากกาก่อน แบบนี้พวกเราจะได้พูดคุยกันได้สะดวก”
จากนั้นเธอก็ทิ้งเด็กน้อยน่ารักไว้ที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะกลับเข้าไปเอาของในห้องนอน
ผู้คนมากมายที่อยู่ข้างนอกประตูหายไปเยอะแล้ว เหลือแต่เพียงเด็กเสิร์ฟ พนักงานต้อนรับและผู้ช่วยของเซิ่งอันหรานที่ยังไม่ไปไหน คนที่อยู่ข้างหลังทั้งหลายล้วนเตรียมที่จะจากไปแล้ว
ด้วยเสียง “กรุ๊งกริ๊ง” ใครบางคนในกลุ่มคนตะโกนมาว่า “แชนเดอเรีย!”
ทันทีที่เซิ่งอันหรานหยิบกระดาษกับปากกาออกมาจากห้องนอน หลังจากได้ยินเสียงดังกล่าว เธอก็ตกตะลึงเมื่อเห็นแชนเดอเรียคริสทัลบนศีรษะของเด็กน้อยน่ารัก การเสียดสีและการกระแทกทำให้เกิดเสียงดังสั่นไหวอย่างรุนแรง
“อ๊ะ !”
ผู้คนที่อยู่หน้าประตูล้วนหน้าซีดเซียว มองแชนเดอเรียคริสทัลที่ร่วงลงมา