ผูกรักท่านประธานพันล้าน – บทที่ 42 เธอไม่ถือว่าเป็นคนนอก

ผูกรักท่านประธานพันล้าน

เช้าวันเสาร์ เซิ่งอันหรานยังนอนขี้เกียจอยู่ ก็ถูกเซิ่งเสี่ยวซิงดึงขึ้นจากเตียง

“หม่าม้า ตื่นได้แล้ว”

เซิ่งอันหรานมองที่นาฬิกาบนหัวเตียงอย่างสะลึมสะลือ พูดเหมือนสิ้นหวัง“ซิงซิงน้อยเพิ่ง7โมงเช้า ลูกจะทำอะไร?”

เซิ่งเสี่ยวซิงจับแขนเธอข้างหนึ่งไม่ยอมปล่อย พูดอย่างตรงไปตรงมา “หม่าม้าไปบ้านลุงอวี้ครั้งแรก ไม่ต้องแต่งตัวดีๆ เหรอ? รีบลุกมาอาบน้ำ แต่งหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าสิ”

เซิ่งอันหรานกอดหมอน หมดอาลัยตายอยาก

ทำไมถึงได้คลอดลูกที่ไม่สงวนตัวแบบนี้ ลูกสาวที่เห็นผู้ชายหนึ่งคนก็อยากยัดเยียดเธอให้กัน?

ภายใต้การกำกับของเซิ่งเสี่ยวซิง เซิ่งอันหรานแต่งหน้าอ่อนๆ อย่างลวกๆ หยิบเสื้อยืดกับกางเกงยีนที่ใส่ประจำทุกวันเสาร์ ยังไม่ทันได้สวม ก็ถูกเซิ่งเสี่ยวซิงแย่งไป

“ทำไมหม่าม้าสวมชุดนี้?”

“ไม่งั้น?”

“ชุดนี้”เซิ่งเสี่ยวซิงคว้าชุดเดรสสีแดงเปิดหลังชุดหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้า “ชุดนี้สวย”

“ลูกเป็นบ้าไปแล้ว?”เซิ่งอันหรานเคาะที่หัวเธออย่างโกรธเคือง “ไม่ได้ไปไนต์คลับ ยิ่งไปกว่านั้นนี้เป็นชุดราตรี ไปเล่นบ้านเพื่อนลูกเท่านั้น หม่าม้าต้องสวมชุดราตรีไปเหรอ?”

“งั้นชุดนี้”เซิ่งเสี่ยวซิงไม่ยอม หยิบชุดเดรสสีฟ้าอ่อนชุดหนึ่งออกมาอีกครั้ง“นี่น่าจะได้นะ”

เซิ่งอันหรานเอาชุดเดรสนั้นออกมาจากตู้แล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง สวยมันก็สวย แต่ลังเลอยู่นิดๆ

“สวมกระโปรงมันจะสะดวกเหรอ? พวกหนูสองคนโดดขึ้นลงตลอด”

“ไม่หรอก”เซิ่งเสี่ยวซิงยกมือสาบาน “หนูรับประกันวันนี้จะเป็นเด็กดี”

“เชื่อคำพูดลูกก็โง่แล้ว”

เซิ่งอันหรานไม่คิดจะสนใจเธอ เธอดึงและกระทืบเท้า จะทำอย่างไรก็ไม่ยอมให้ตัวเองสวมเสื้อยืดกางเกงยีน สุดท้ายไม่มีทางเลือก ทำได้แค่สวมชุดเดรสสีฟ้านั้น

9โมงเช้าเพิ่งทำข้าวเช้าเสร็จ พ่อบ้านของอวี้หนานเฉิงก็ขับรถมารับเธอไปที่วิลล่า

“เช้านี้คุณชายมีประชุมที่สำคัญเรื่องหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้ไม่อยู่บ้าน ให้ผมมารับคุณกับซิงซิงน้อยไป”

“ไม่เป็นไร”เซิ่งอันหรานแสดงความเข้าใจ

พ่อบ้านเป็นผู้ชายวัยกลางคนอายุ40ต้นๆ ดูแล้วสุขุมมาก ขับรถก็มั่นคงมากเหมือนกัน

“ช่วงนี้คุณชายน้อยเกิดอุบัติเหตุบ่อย ในใจคุณชายคงรู้สึกแย่เหมือนกัน คนใช้ในบ้านเปลี่ยนไปแล้วหนึ่งชุด ระมัดระวังไม่ว่ากับใคร ดังนั้นเชิญคุณเซิ่งไปเล่นที่บ้าน ผมค่อนข้างประหลาดใจ ”

“คงเป็นเพราะก่อนหน้านี้ฉันเคยช่วยจิ่งซี ดังนั้นเลยค่อนข้างวางใจมั้ง”

เซิ่งอันหรานยิ้ม แต่ในใจกลับแขวะอยู่ ใครไม่ประหลาดใจ เธอก็ประหลาดใจไม่ต่างกัน

พูดถึงเรื่องจิ่งซีได้รับบาดเจ็บ เซิ่งเสี่ยวซิงนั่งตัวตรงจากเก้าอี้นิรภัย ถอนหายใจทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ ดึงความสนใจจากเซิ่งอันหราน“ลูกถอนหายใจทำไม? ยังเป็นเด็กเป็นเล็ก”

“หนูถอนหายใจแทนพี่จิ่งซี”

เซิ่งเสี่ยวซิงขมวดคิ้ว “หม่าม้าคิดดูนะ พี่จิ่งซีพูดไม่ได้ แล้วยังโชคร้ายแบบนี้ หนูไม่เคยเห็นเด็กที่โชคร้ายกว่าเขาอีกแล้ว หม่าม้าครูที่โรงเรียนบอกว่า เปิ่นมิ่งเหนียนจะโชคร้ายใช่ไหม? เป็นเปิ่นมิ่งเหนียนของพี่จิ่งซีหรือเปล่า?”

“เปิ่นมิ่งเหนียนอะไรกัน พวกหนูยัง5 ขวบ ถึงเปิ่นมิ่งเหนียนได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นเป็นความเชื่องมงาย ครูคนไหนยังสอนเรื่องพวกนี้กับพวกลูก ลูกยังคิดว่าจริงอีก”

เซิ่งอันหรานเอือมระอา แต่ก็เห็นใจอวี้จิ่งซีจริงๆ

คำนวณขึ้นมาแล้ว รู้จักเขาไม่ถึง 2เดือน เขาก็เกิดอุบัติเหตุสองครั้งแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นสองครั้งต่างก็หนัก ตอนแรกหากเธอไม่กั้นแชนเดอเรียไว้ กลัวว่าเด็กน้อยคงไม่รอดแล้ว ครั้งนี้ดีที่ไม่ได้โดนหัว ไม่งั้นกลัวว่าจะไม่รอดเหมือนกัน

เรื่องพวกนี้ เป็นเพียงแค่อุบัติเหตุจริงๆ เหรอ? จู่ ๆ เธอก็เกิดความสงสัย

หลังจากที่ถึงอวี้ย่วนวิลล่า เพิ่งลงรถก็เห็นร่างเล็กหนึ่งวิ่งออกมาจากประตู กอดขาเซิ่งอันหรานไว้

ป้าคนใช้วิ่งตามออกมา “คุณชายน้อย โอ๊ย…หน้ายังล้างไม่เสร็จเลย”

เซิ่งอันหรานอุ้มอวี้จิ่งซีขึ้นจากพื้น “ยังไม่ได้ล้างหน้าเหรอ?ไม่เป็นไร คุณป้า ฉันพาเขาไปล้างเอง ห้องน้ำอยู่ไหนคะ?”

คนใช้รีบชี้ไปทิศหนึ่งในบ้าน เดินตามไปพลางประเมินเธอไปด้วย แล้วก็มองเด็กผู้หญิงที่เดินตามข้างหลัง พูดเศร้าๆ

“คุณคือคุณเซิ่งใช่ไหม ยังเด็กอยู่เลย ลูกโตขนาดนี้แล้วเหรอ?”

หลังจากเซิ่งเสี่ยวซิงเข้าไปก็มองซ้ายมองขวา ตาทั้งสองแทบจะประกายเป็นดาว

ในบ้านพี่จิ่งซีใหญ่เกินไปแล้วมั้ง คิดไม่ถึงว่าบันไดนี้ยังแบ่งซ้าย ขวา และตรงกลาง สามที่ให้ไป ยังมีลิฟต์!ตอนนี้เลยคุยกับสาวใช้ที่พาเธอเข้ามา

แน่นอนว่าเซิ่งอันหรานไม่รู้ว่าลูกสาวตัวเองวางแผนอยู่ในใจ พาอวี้จิ่งซีเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แล้วถามเขา

“ป้าเอาติ่มซำมา ทั้งหมดเพิ่งทำตอนเช้า จะกินด้วยกันไหม?”

อวี้จิ่งซีพยักหน้าอย่างดีใจ

1 ผู้ใหญ่ 2 เด็กนั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร เปิดกล่องข้าวที่เซิ่งอันหรานเอามา เห็นเซิ่งอันหรานจะป้อนของให้อวี้จิ่งซี สาวใช้ที่ดูแลเธอห้ามไว้ ใบหน้าตกใจ

“คุณเซิ่งรอก่อน คุณชายน้อยกินของจากข้างนอกไม่ได้”

“หา?”เซิ่งอันหรานคีบของว่าง อึ้งนิ่งไป

พ่อบ้านเห็นก็ถลึงตาให้คนใช้ ดุว่า

“พูดอะไรเหลวไหล? คุณชายเชิญคุณเซิ่งมาที่บ้าน เธอยังดูไม่ออกเหรอ? ของจากข้างนอกอะไร? ในสายตาของคุณชายกับคุณชายน้อย กลัวว่าของที่คุณเซิ่งทำจะปลอดภัยกว่าของที่พวกเธอทำอีก”

สาวใช้โดนตำหนิบนหน้าเดี๋ยวซีดเดี๋ยวขาว

พ่อบ้านสั่งต่อ

“พอแล้ว เธอไปทำงานเธอไป เธอไม่ต้องเฝ้าที่นี่ คุณชายสั่งไว้แล้ว อยากคุณเซิ่งกับซิงซิงน้อยมาเที่ยวเล่นอย่างสบายใจ หากต้องการพวกเธอจะเรียก”

คำพูดนี้จบลง สาวใช้4-5คนถึงออกไป

เซิ่งอันหรานรู้สึกโล่งอกอยู่ในใจ มองไปทางพ่อบ้านอย่างซาบซึ้งใจ “ไปได้สักทีฉันโดนคนจ้องตอนกินข้าว ไม่ชินจริงๆ”

พ่อบ้านก้มหัวขอโทษ “เมื่อกี้ผมกำชับไว้ไม่ดี คุณเซิ่งค่อยๆ ทาน หากมีเรื่องอะไรค่อยเรียกผมหรือคนใช้คนอื่นก็พอ”

“ค่ะ”

หลังจากเหตุการณ์เล็กๆ ผ่านไป เซิ่งอันหรานถึงได้กินข้าวอย่างผ่อนคลายจริงๆ

อวี้จิ่งซีกินมื้อเช้าไปไม่น้อย กินซาลาเปา 1 ลูก แล้วของหวาน 2ชิ้น ยังดื่มโจ๊ก 1 ถ้วย สาวใช้ที่มองอยู่ไกลๆ ต่างก็ตกใจ หลายคนกระซิบกระซาบกันไม่หยุด

หลังจากครั้งก่อนที่อวี้ย่วนเกิดเรื่อง ส่วนใหญ่ในที่นี้ต่างเป็นสาวใช้มาใหม่ ยังขาดกฎระเบียบ ใจกล้าแอบนินทาที่มาของเซิ่งอันหราน

“ทำไมคุณชายน้อยถึงชอบคุณเซิ่งคนนี้ขนาดนี้?”

“ได้ยินมาว่าเป็นแม่เพื่อนนักเรียนของคุณชายน้อย ก็คือเด็กผู้หญิงคนนั้น”

“โอ๊ย เด็กผู้หญิงคนนั้นน่าเอ็นดูมากๆ เมื่อกี้ยังให้ลูกอมฉันกิน ฉันว่าไม่ใช่คุณชายน้อยของเขาชอบเด็กผู้หญิงคนนั้นหรอกนะ”

“พูดอะไรไร้สาระ เด็กตัวนิดเดียวขนาดนี้นะ”

“ก็แค่ล้อเล่นเอง แต่ฉันเห็นคุณชายปฏิบัติต่อคุณเซิ่งก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ฉันเคยได้ยินจากสาวใช้ที่เคยทำงานที่นี่ คุณชายไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนกลับมา คุณเกาว่าที่คู่หมั้นคนนั้น 5-6ปีแล้วมั้ง เคยมาที่นี่ไม่กี่ครั้ง”

“เฮ้อ คุณชายกับคุณเซิ่งคงไม่ได้เป็น…”

ผูกรักท่านประธานพันล้าน

ผูกรักท่านประธานพันล้าน

Status: Ongoing
เซิ่งอันหรานถูกกพี่สาวต่างมารดาให้ร้าย ว่าเธอไปนอนค้างคืนกับชายแปลกหน้า และยังตั้งท้อง! เธอไปโรงพยาบาล แต่มีคนสั่งว่าให้รักษาชีวิตของเด็กเอาไว้ และไม่อนุญาตให้เธอทำแท้ง เธอตั้งครรภ์สิบเดือน ชีวิตเซิ่งอันหรานต้องเผชิญกับอันตรายถึงชีวิต แต่สุดท้ายเธอก็ได้แค่มองดูเด็กคนนั้นถูกอุ้มตัวไป ไม่กี่ปีต่อมาเซิ่งอันหรานเดินทางกลับจากต่างประเทศ ในขณะที่เซิ่งอันหรานกำลังจูงมือเด็กน้อยหน้าตาน่ารัก เธอก็บังเอิญได้พบกับชายคนหนึ่ง ชายคนนั้นเดินเข้ามาคว้าแขนของเธอและพูดด้วยความโมโหว่า “คุณกล้าดียังไงที่ขโมยลูกของผมไป” เด็กน้อยผลักชายคนนั้นออกและพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “คุณไม่ได้รับอนุญาตให้มาแตะต้องตัวหม่าม้าของผม เธอเป็นของผม!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท