“สามี”
ทุกคนในห้องพูดออกมาแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน กุ๊กไก่กลัวว่าคนพวกนั้นจะไม่เชื่อจึงโอบแขนรอบเอวของอชิ
“ใช่สามี ฉันแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฏหมายเรียบร้อยเพียงแต่เรื่องงานแต่งอชิยังยุ่งเลยยังจัดเวลาไม่ได้”
เพื่อนผู้ชายอีกคนหัวเราะ ไม่มีใครเชื่อกุ๊กไก่คิดว่าเธอล้อเล่น ทุกคนต่างก็รู้ว่าอชิเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน และเคยถามในกลุ่มอยู่หลายครั้งก็ได้รับคำตอบว่าเขาโสดสนิท
กุ๊กไก่รำคาญเลยดึงอชิเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มเองก็ว่าง่ายเขากำลังตั้งใจดูว่ากุ๊กไก่จะทำยังไงต่อ แต่สิ่งที่ทำให้เขาถึงกับหน้าแดงก็เมื่อแม่สาวร่างบางคนนี้ดันจับหน้าเขาเอาไว้แล้วจูบลงมาเต็มรัก
“ว๊าว”
เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นอีกท่ามกลางสายตาอันตกตะลึงของทุกคน กุ๊กไก่ยังไม่ได้กินเหล้าแต่เธอใจกล้าที่จะโชว์เหนือให้เพื่อน ๆ ดู กระทั่งเธอปล่อยปากของเขา ยังแอบยัดเยียดปลายลิ้นให้นายอชิที่กำลังมัวแต่ตกใจอยู่ไปหลายรอบ
เธอหันมายิ้มให้ทุกคน มือยังโอบหลังอชิลามขึ้นไปจนถึงหัวแล้วลูบเบา ๆ ราวกับเขาเป็นหมาเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง
“เชื่อยังล่ะ ฉันกับเขาแต่งงานกันแล้วใช่ป่ะคะที่รักขา”
ตอนนี้ทุกคนเอาแต่นิ่งอึ้ง อชิยิ้มแหย ๆ พูดไม่ออก กุ๊กไก่กระซิบเบาๆ
“เห็นป่ะว่าทุกคนต่างก็อึ้งจนอ้าปากค้างแล้ว ตกใจที่เป็นความจริงล่ะสิ”
อชิยังหน้าแดงเล็กน้อย แสงไฟในห้องอาหารนี้ก็เป็นไฟที่ไม่ค่อยสว่างมากยังนวลตาอีกด้วย ในเวลาที่ส่องกระทบหน้าของอชิยิ่งทำให้ผิวของเขานวลเนียน
หล่อชะมัด
กุ๊กไก่คล้ายจะเพ้อกลาย ๆ
อชิตีก้นเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า
“เพื่อนๆ คงไม่ได้อึ้งเพราะเราแต่งงานกัน คงอึ้งเพราะเธอกล้าจูบฉันต่อหน้าทุกคนนี่แหละ ยัยเพี้ยนเอ๊ยไม่อายหรือยังไง”
กุ๊กไก่ยักไหล่
“ไม่แคร์ไม่มีใครหาข้าวให้แหลก ตอนนี้แคร์นายคนเดียวที่ให้เงินใช้”
อชิพูดไม่ออก ยัยนี่หน้าเงินแค่ไหนเขาย่อมรู้ดี
เพื่อนคนหนึ่งเห็นท่าทางของพวกเขาที่กระซิบกระซาบดูเหมือนจะเป็นคู่กัดมากกว่าคู่รักหรือคู่แต่งงานก็ไม่เกรงใจที่จะถามขึ้นมาอีก
“อชิแกตกลงแต่งกับกุ๊กไก่จริง ๆ เหรอวะ”
กุ๊กไก่ตัวยืดขึ้นมา เตรียมรับฟังคำตอบที่จะทำให้คนพวกนั้นหน้าหงาย แต่คำตอบของอชิทำให้เธอหันขวับไปมอง
“ไม่ ยัยนี้มันเพี้ยนอย่าเชื่อเลย กินเถอะปล่อยนางเพ้อเจ้อไปคนเดียว”
“ว่าแล้วเชียว แกเพิ่งกลับมาจะไปแต่งกันได้ไง ที่ผ่านมาข่าวกุ๊กไก่กับไฮโซนั่นก็ดังจะตายเพิ่งโดนเขาทิ้งไม่กี่วันจะเอาเวลาที่ไหนมาแต่งงาน”
อชิยิ้มแล้วหัวเราะราวกับเป็นเรื่องตลกที่สุดในชีวิต ในขณะที่กุ๊กไก่กำลังนั่งหน้าร้อนควันออกหูอยู่ข้างหลังเขา ยังมีสายตาของคนพวกนั้นอีกที่มองมา เบื้องหลังคงหัวเราะเยาะเธอแน่ ๆ
“ไอ้อชิบ้า อยากตายหรือไง”
ในที่สุดกุ๊กไก่ก็พ่นคำพูดออกมาจากปากได้ แต่ก่อนที่เธอจะลงมือจัดการเขาคราวนี้กลับถูกอชิตรึงท้ายทอยเอาไว้ และเป็นฝ่ายจูบเธอลงมาเสียเอง
เพล้ง
เสียงใครคนใดคนหนึ่งทำแก้วแตกเมื่อเห็นบทจูบอันดูดดื่มกว่าเมื่อสักครู่นี้เข้าเต็ม ๆ ไม่เพียงจูบแต่ยังเล่นลิ้นกันนัวเนียราวกับว่ารักกันหวานชื่น แต่น่าเสียดายที่เป็นการจูบที่สั้นจนยังไม่ทันได้ฟินเต็มที่อชิก็ปล่อยกุ๊กไก่แล้ว
“นายทำไรของนายห๊า”
กุ๊กไก่เสียงสูงถึงแม้ว่าเธอจะยอมรับว่าเขาจูบฟินขนาดไหนแต่ก็ยังคงไม่ลืมความโกรธ
เพื่อนทุกคนต่างก็งงเช่นเดียวกัน ตกลงมันคืออะไรกันแน่
อชิดึงกุ๊กไก่มากอดแนบแน่น แล้วหอมที่หน้าผากเบา ๆ
“เมื่อกี้ล้อเล่นน่ะ คราวนี้ของจริงเราแต่งงานแล้ว ฉันขอเขาแต่งงานเองเรื่องข่าวของกุ๊กไก่กับไฮโซนั่นความจริงก็ไม่ม่ีอะไรกันมานานแล้วแต่นักข่าวยังเล่นข่าวกันอยู่ ทั้งๆ ที่ความจริงกชมันกลายเป็นอดีตไปนานแล้ว ตอนนี้กุ๊กไก่เป็นของฉัน เป็นเมียฉัน เข้าใจตรงกันนะ”
อ้าว ตบหัวแล้วลูบหลัง ไอ้เลวฉันจะเผาพริกเผาเกลือแช่งแก
กุ๊กไก่คิด แต่ใบหน้าเฝื่อนกลายเป็นหน้ายิ้มไปแล้ว
อชิก้มลงมาขยิบตาให้อย่างรู้ทัน
“กำลังด่าฉันในใจล่ะสิ ก็แค่ล้อเล่นอย่าโกรธเลยนะเมียจ๋า”
กุ๊กไก่แหวเสียงเบา
“ใครเมียนาย เห๊อะ”
คราวนี้ในห้องเงียบเสียงกันจริง ๆ ไม่มีใครกล้าถามเรื่องนี้อีก พวกผู้ชายสามารถมูฟออนไปเรื่องอื่นได้รวดเร็วในขณะผู้หญิงที่กุ๊กไก่มองว่าเป็นขยะสังคมนั้นยังสงสัยไม่หาย สงสัยมีผัวเป็นโคนัน ดูสายตาที่มองมาสิแทบอยากจะผ่าร่างของเธอมาพิสูจน์ความจริงกันเลยทีเดียว
ในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหว
“พวกนายชอบกันตอนไหน แล้วทำไมถึงแต่งกันล่ะ”
อชิยิ้ม กุ๊กไก่ตอบ
“เขาแอบชอบฉันตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ จากนั้นเขาก็รอฉันคนเดียวและกลับมาหาฉันหลังจากเขาก่อตั้งบริษัทและกลายเป็นท่านประธานเป็นคนที่พร้อมสำหรับฉันจริง ๆ”
สาว ๆ ในนี้ถึงกับเพ้อ แน่ล่ะสิ ไอ้อ้วนอชิ ไอ้แว่น สมัยเด็กที่ไม่มีใครมองเห็นนอกจากการเรียนเก่ง ตอนนี้ ทั้งหล่อ รวย สมองระดับอัจฉริยะ กลายมาเป็นสามีของเธอ เขายังรอกุ๊กไก่ยึดมั่นในรักแท้มาหลายปี ใคร ๆ ที่ได้รู้เรื่องนี้ก็ต้องอิจฉา
นี่มันนิยายน้ำเน่าชัด ๆ โดยมีกุ๊กไก่ที่กลายเป็นซินเดอเรลล่า
อชินั่งฟังยิ้ม ๆ เขาไม่แกล้งเธอแล้วเพียงแต่กระซิบเบา ๆ
“แต่งเรื่องเก่งแบบนี้ควรไปเป็นนักเขียนนะ แต่ว่าพล็อตน้ำเน่าไปหน่อยเป็นฉันคงไม่ซื้อหนังสือเธอ”
กุ๊กไก่ใช้ศอกถองสีข้างของเขา ยิ้มให้รับคำชื่นชมและยังพยายามขยับให้กระเป๋าอยู่ในสายตาของคนอื่น ก่อนเธอมานั่งเธอยังเห็นหลายคนเอากระเป๋าแบรนด์เนมต่าง ๆ วางไว้บนโต๊ะ แต่ตอนนี้กระเป๋าพวกนั้นได้อันตรธานหายไปแล้ว
แน่หล่ะ ใครจะมาท้าชนกระเป๋าหลักล้านที่ยืมมาได้กันล่ะ
ในขณะที่กุ๊กไก่กำลังเริ่มได้รับความสำคัญและเป็นที่ชื่นชมจากคนอื่นแม้ว่าจะเป็นคนตกงานที่ดูเหมือนจะเกาะอชิกินไปวัน ๆ ก็ตาม นั้น จู่ ๆ ใครคนหนึ่งก็พูดขึ้นเมื่อเขากลับมาจากห้องน้ำ
“นี่กุ๊กไก่ฉันเห็นอดีตแฟนของเธอมาที่นี่ด้วย ที่แท้รู้จักกับยัยอ้อนเหรอ”
อ้อนยังมัวแต่รับแขกอยู่ข้างนอก จึงยังไม่ได้เข้ามาร่วมวงปล่อยให้เพื่อน ๆ คุยกันไปก่อน
“ไฮโซคนนั้นเหรอ”
เพื่อนอีกคนถามในขณะที่กุ๊กไก่นั่งนิ่งเธอสตั๊นไปหลายนาทีแล้ว
“ใช่มากับภรรยาด้วย สวยเชียวผิวเงี้ยยิ่งกว่าดูดแสงได้ขาวฉิบหายเหมือนกุ๊กไก่เลยขาว ๆ ตัวเล็ก ๆ หน้าสวย ๆ ดูซน ๆ หน่อย”
กุ๊กไก่ที่กำลังถูกเปรียบเทียบระหว่างตัวเองกับเมียของเขาคล้ายจะปากสั่น อชิจับมือของเธอเอาไว้แล้วลูบเบา ๆ
“ไม่เป็นไรนะฉันอยู่ตรงนี้ ฉันเป็นสามีของเธออย่าลืมสิ”
เพื่อนของเธอไม่รู้ว่าไม่คิดอะไร หรือว่าคิดไม่ดีกับเธอจึงยังเปรียบเทียบแบบไร้มารยาทต่อ
“เธอฉันอยากเห็นจังว่าระหว่างเมียคนนั้นกับกุ๊กไก่ใครจะสวยกว่า”
เพื่อนคนนั้นทำท่าคิด ไม่รู้ว่าด้วยเกรงใจเพื่อนตัวเองหรือตอบจริงยังมองหน้ากุ๊กไก่แล้วยิ้ม
“กุ๊กไก่สวยกว่าอ่ะ หน้าอกไม่ใหญ่เท่ากุ๊กไก่ ตาก็เล็กกว่า หน้ากุ๊กไก่ยังเล็กกว่าอีกชนะเลิศ”
ใครอีกคนรีบพูดแซะ
“ก็แหงล่ะยัยกุ๊กไก่ไปทำนมมานี่ ได้ข่าวหมดไปหลายแสนธรรมชาติก็ต้องสู้ไม่ได้”
กุ๊กไก่ที่กำลังอารมณ์ดี ๆ ถึงกับของขึ้น เธอตบโต๊ะแล้วพูดเสียงดัง
“ใครบอกว่าฉันไปทำนมมาห๊ะ ของจริงย่ะ ใครปากมากแม่งจะเอานมยัดหน้ามันให้ใจขาดไปเลย”
หลังจากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น บรรยากาศที่คล้ายจะตึงเครียดจึงเปลี่ยนไปเป็นครื้นเครง อชิมองกุ๊กไก่หน้าของเขายังเคร่งขรึมลงเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าท่าทางของเธอเองก็เปลี่ยนไป
ถึงจะดูไม่เป็นไร แต่ใจคงเจ็บสินะ
หน้ากุ๊กไก่ยิ้ม แต่ในใจกับปวดร้าวแน่นอนว่ากุ๊กไก่ที่เพิ่งเลิกกับเขาถึงคิดว่าตัวเองทำใจได้แล้วแต่เธอยังไม่ลืม ความสัมพันธ์กว่าเจ็ดปีที่อยู่ด้วยกันมามันไม่สามารถลืมกันได้ง่าย ๆ เป็นแน่
ยังไงเธอก็ยังเจ็บ ความรู้สึกปวดร้าววิ่งพล่านไปทั่วตัว เธอเทสาเกให้ตัวเองทั้ง ๆ ที่เพิ่งหายจากเมาค้างได้ไม่นานเธอก็สาดสาเกรสชาติร้อนแรงลงคอ
ความรู้สึกร้อนวาบไหลลงคออย่างช้า ๆ รสชาติฝาดเฝื่อนนั่นทำให้เธอรู้สึกมีสติขึ้นมาเล็กน้อย เธอฝืนยิ้มให้อชิ ในณะที่เขายังพูดคุยกับเพื่อนราวกับไม่ได้สนใจคนที่เคยเป็นอดีตของกุ๊กไก่ มือข้างหนึ่งยังโอบหลังเธอเอาไว้หลวม ๆ
“ไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า”