ลี่หยิงโกรธจนตาลุกเป็นไฟเขารอที่จะจู่โจมซือหยูที่กำลังจะไม่พอใจ จากนั้นเขาจะจัดการซือหยูได้โดยข้ออ้างที่เป็นธรรม
สุนัขทุกตัวย่อมมีวันของมันรึ?เจ้ากำลังคิดหาวิธีการที่จะชิงเกียรติยศของลูกเจ้าเมืองคืนอยู่สิท่า…
ซือหยูตอบอย่างใจเย็นเขาดูไม่โกรธแค้นเลย
ลี่หยิงตะโกน
เจ้ามันเหลือทนจริงๆ! ข้าขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย! ตามข้าไปเจอเหล่าเทพ หรือจะให้ข้าลากเจ้าไป! ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งและถึงกับเอาชนะว่าที่เทพขั้นกลางได้ แต่สำหรับข้า พลังเจ้ามันไม่มีอะไรเลย! อย่าบังคับให้ข้าต้องทำอะไรเจ้า!
เพราะเรื่องเหลวไหลของเจ้าข้าจะขอลดเวลาเป็นครึ่งชั่วโมง ตอนนี้เจ้าเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงเท่านั้น!
ซือหยูไม่สนใจคำเตือนของลี่หยิงและพูดด้วยความใจเย็น
ลี่หยิงไม่พอใจคำพูดของซือหยูเป็นอย่างมากซือหยูไม่ได้ตอบสนองอย่างที่เขาต้องการเลย
ความอวดดีของซือหยูกำลังจะ‘บังคับ’ ให้เขาต้องใช้กำลัง
เจ้ารนหาที่เองนะ!
ลี่หยิงตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยวแท้แต่จริงเขากำลังยิ้มในใจเพราะนี่เป็นโอกาสที่เขากำลังรออยู่
แต่เมื่อเขาซัดซือหยูด้วยฝ่ามือร่างกายของซือหยูได้มีแสงหลากสีปกคลุม จากนั้นซือหยูก็หายตัวไป ลี่หยิงพลาดเป้า
ก้าวพริบตารึ?
ลี่หยิงตกใจจากนั้นเขาก็ยิ้มเหยียดหยาม
ใช้ก้าวพริบตาต่อหน้าข้าเรอะ?เจ้ากำลังสอนมัจฉาให้ว่ายน้ำ! เขามองไปยังจุดหนึ่งด้วยรอยยิ้มจากนั้นลี่หยิงก็หายตัวไปเช่นกัน
เมื่อซือหยูปรากฏตัวลี่หยิงก็ปรากฏตัวที่ด้านหลังของเขาและยื่นมือไปคว้าตัวซือหยูอย่างรวดเร็ว
ซือหยูไม่ตกใจแม้แต่น้อยร่างของเขาที่มีแสงหลากสีปกคลุมหายไปอีกครั้ง ลี่หยิงล้มเหลวอีกไปอีกหน
ลี่หยิงถอนหายใจแรงและก้าวพริบตาเพื่อจับตัวซือหยูอีก
ทั้งสองบินบนท้องนภาเหนือเมืองออกมาจากโรงโสเภณี
ยี่หลิงนั้นเป็นว่ที่เทพขั้นสูงเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ก้าวพริบตาของซือหยูก็ดีพอ ๆ กับลี่หยิง ดังนั้นลี่หยิงถึงยังจับตัวซือหยูไม่ได้
หมากไล่จับดำเนินต่อไปจนถึงครึ่งชั่วโมงซือหยูปรากฏตัวออกมาและกล่าว
หมดเวลาแล้วน่าเสียดายที่เทพเหล่านั้นมาไม่ทันเวลา! กลับไปบอกพวกมันว่าการนัดพบยกเลิกแล้ว
จากนั้นซือหยูก็ก้าวพริบตาไปที่ประตูมิติและจะกลับเมืองโดยใช้ประตู
ลี่หยิงย่อมไม่ยอมอยู่แล้วลี่หยิงไปที่ประตูมิติและพยายามหยุดซือหยู
แต่พลังปีศาจอันน่ากลัวก็ไหลออกมาจากหน้าผากของซือหยูอุ้งมือสุนัขซัดไปที่แผ่นหลังของลี่หยิง
หึหึ!เจ้าเป็นว่าที่เทพขั้นสูงเพราะวิถีเทพของพ่อเจ้าสินะ? เจ้ามันอ่อนแอ!
เทพปีศาจเข้าใจที่มาในพลังของลี่หยิงทันที
ส่วนใหญ่ว่าที่เทพที่สืบทอดวิถีเทพมาจากพ่อแม่จะเทียบพลังกับว่าที่เทพที่เป็นว่าที่เทพได้ด้วยตัวเอง การสืบทอดนั้นหมายถึงวิถีเทพที่อ่อนแอลง
เจ้าเป็นใคร?
ลี่หยิงตะโกน
เทพปีศาจตอบด้วยความเหยียดหยาม กลับไปซะ!ขอบคุณข้าเถอะที่ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้!
ลี่หยิงคงจะถูกซือหยูฆ่าตายไปแล้วหากได้จู่โจมซือหยู
ฮ่าๆๆๆ!น่าขัน! เจ้ามันก็แค่เสี้ยววิญญาณเทพ! เจ้ายังมีหน้ามาพูดขู่ข้าอีกเรอะ?
ลี่หยิงตะโกนและพยายามจะจู่โจมซือหยูอีกครั้ง
แต่ประตูมิติก็ทำงานแล้วเหลือเพียงคำพูดของซือหยูที่ดังก้องนภา
บอกพวกมันว่าข้าไม่อยากจะคุยกับพวกมันแล้วอย่าทำให้ข้าเสียเวลาอีก! หากพวกมันกล้าตีเมืองชมทะเล ข้าสัญญาว่าจะฆ่าพวกมันให้หมด! ฮื่ม! ไอ้พวกบัดซบไร้ยางอาย!
ลี่หยิงทั้งร้อนใจและโกรธแค้นเขาลงโทษซือหยูไม่ได้ ทั้งยังปล่อยให้ซือหยูหนีไปต่อหน้าต่อตา เขาไม่รู้จะกลับไปบอกกับเหล่าเทพยังไง ในเวลานั้นเองเทพทั้งเจ็ดก็ปรากฏตัวในบริเวณประตูมิติ
ทั้งเจ็ดรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างลี่หยิงและซือหยู
ทั้งเจ็ดมองลี่หยิงด้วยความหม่นหมองทั้งเจ็ดไม่คิดว่าซือหยูจะกลับไปจริง ๆ หลังจากหนึ่งชั่วยาม
ซือหยูไม่กลัวถูกพวกเขาฆ่าเพื่อยึดเมืองเมื่อหารือกันไม่ได้รึ?
การประชุมจบเสียก่อนตั้งแต่จะได้เริ่มนั่นทำให้เทพทั้งเจ็ดแปลกใจ
อสูรจันทร์ผ่องมองลี่หยิงด้วยความเย็นชา
เจ้าทำอะไรไม่ได้แต่ยังทำให้เรื่องมันพังไปหมดอีก!ทำเรื่องแค่นี้ยังไม่ได้! แล้วจะให้พวกข้าสนับสนุนเจ้าครองตำแหน่งเจ้าเมืองชมทะเลงั้นเรอะ?
จากนั้นเขาจึงหันไปมองเมฆาอสูรและพูดด้วยความโมโห การชุมนุมถูกยกเลิกตามที่เจ้าปรารถนาแล้ว!
ฮื่ม!ข้าไม่สน! ไม่มีใครโต้กลับเทพเจ็ดเมืองที่ส่งกำลังไปช่วยองค์หญิงได้! เราไม่กลัวมัน!
อสูรจันทร์ผ่องยิ้มอย่างเยือกเย็น
อย่าได้นับเมืองจันทร์ผ่องเลย!ข้าไม่อยากจะยุ่งด้วยตอนที่ตระกูลราชวงศ์มาสืบเรื่องเจ้า! ลาล่ะ!
เมืองไป่ยี่ก็จะไม่ส่งกำลังไปช่วยเจ้า!ลาก่อน!
เมืองฟางไซ่ขอถอนตัวจากพันธมิตร!เมฆาอสูร ขออภัยที่ทำให้เจ้าผิดหวัง!
เมฆาอสูรหงุดหงิดเป็นอย่างมากเมื่อเหล่าเทพพากันถอนตัวจากพันธมิตรตามอสูรจันทร์ผ่องเมื่ออสูรฟางไซ่ประกาศถอนตัว เมฆาอสูรก็ชักสีหน้า
ฟางไซ่นี่เจ้า?
ก่อนหน้านี้อสูรฟางไซ่สนับสนุนการเข้าตีเมืองชมทะเลมาโดยตลอด การตัดสินใจถอนตัวจากพันธมิตรของเขาทำให้เมฆาอสูรตกใจมกา
เมฆาอสูรรู้ว่าเทพทุกคนหวาดกลัวการกระทำของซือหยู
ซือหยูเอาแต่เสพสุขอยู่ในเมืองในตลอดสามวันจากนั้นเขาก็อวดดีก่อนที่จะถึงเวลานัดหมายและยังขู่พวกเขาทุกคนก่อนจะกลับไป นั่นทำให้ความมุ่งมั่นที่พวกเขามีสั่นคลอน
เขาถึงกับขู่ว่าจะฆ่าเทพทุกคนที่กล้าบุกไปเมืองชมทะเล!
เขาจะต้องมั่นใจในกำลังของตัวเองมากมิเช่นนั้นเขาคงจะไม่กล้าพูดเช่นนั้นออกมา
ดังนั้นอสูรฟางไซ่ที่เห็นด้วยกับแผนในคราแรกจึงหวาดกลัว
ภายในสามวันพันธมิตรเจ็ดเทพที่มีเป้าหมายเดียวกันก็ได้แตกพ่าย!
ความอับอายนี้ทำให้เมฆาอสูรไม่พอใจเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?
เมื่อสิ้นหวังลี่หยิงสับสน พันธมิตรเจ็ดเทพเคยหนักแน่น เทพทั้งเจ็ดอยากจะชิงตัวองค์หญิงกลับคืน พวกเขาถึงกับลืมเรื่องบาดหมางที่เคยมีต่อกัน!
แต่ซือหยูที่เสพสุขในเมืองสามวันกลับทำลายพันธมิตรนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดการรวมตัว!
ดี!ตอนนี้ข้าเชื่อเทพตำราแล้ว อสูรขนนกเจ้าอุบายนัก! มันเป็นศัตรูที่น่ากลัว…
เมฆาอสูรพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว
จากนั้นเมฆาอสูรก็กลับไปที่ห้องของเทพตำราในตำหนัก
เมื่อเทพตำราเห็นสีหน้าเมฆาอสูรเขาก็แปลกใจ
เกิดเรื่องร้ายขึ้นรึ?
เมฆาอสูรพยักหน้าและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสามวันให้เทพตำราฟัง
เทพตำราถอนหายใจและส่ายหน้า เจ้าไม่ควรให้เวลามันหายใจ!การตัดสินใจหารือกับมันของเจ้านั้นโง่เขลา! ไอ้คนเจ้าเล่ห์จะถูกฆ่าได้โดยการจู่โจมตรงไปตรงมาเท่านั้น ให้ตายเถอะ! เจ้าขุดหลุมฝังตัวเองเสียตั้งแต่ที่คิดแบบนั้นไปดีกว่า!
เมฆาอสูรพูดอย่างเยือกเย็น
ข้าไม่ต้องการคำพูดเย้ยหยันของเจ้าตอนนี้!บอกมาว่าเราควรทำอะไรต่อ? มีแค่สามเมืองที่ตกลงบุกเมืองชมทะเล การบุกครั้งนี้จะนับเป็นความขัดแย้งภายในและจะถูกตระกูลราชวงศ์ไตร่สวนแน่นอน!
เทพตำราผิดหวังเขาแอบคิด ‘ข้าไม่ต้องการพันธมิตรโง่ ๆ!’ เขาเตรียมแผนอันสมบูรณ์แบบให้เทพทั้งเจ็ด แต่เขาก็ไม่คิดว่าทั้งเจ็ดจะตัดสินใจจัดการนัดพบเพืิ่อหารือก่อนจะใช้กำลัง! แผนที่เขาวางไว้อย่างดีในพันธมิตรเจ็ดเทพพังไม่เป็นท่า!