อชิหน้าตึง เขาเดินมาข้างหลังกุ๊กไก่ใช้ตัวของตัวเองดันเก่งเข้าไปด้านในอย่างแนบเนียน ในขณะที่ตัวเองมาซ้อนหลังกุ๊กไก่แทน มือของเขายังโอบรอบร่างของกุ๊กไก่ซบหน้าลงมาแล้วถามเสียงเบา
“ทำอะไรอยู่”
เป็นเพราะว่าอชิเบียดเก่งจึงขยับไปซ้อนหลังของติ๊กแทน ติ๊กไม่ได้รู้สึกอะไรยังหันมาสวัสดีอชิเก่งขืนตัวเองเอาไว้ไม่ให้เขาตัวติดกับติ๊กมากเกินไป กุ๊กไก่ย่นจมูกใช้ศอกถองอชิแล้วบ่นเบา ๆ
“พี่เก่งเขาก็มีน้ำใจแบบนี้แหละ แต่ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณมากค่ะเดี๋ยวกุ๊กดูแลเองค่ะ”
กุ๊กไก่จับน้ำเสียงของอชิได้ว่าเขากำลังไม่พอใจ เธออดปลื้มไม่ได้คงไม่เป็นไรถ้าเธอจะเข้าข้างตัวเองว่าเขากำลังหึงเธออยู่ แต่เธอก็แสร้งทำรำคาญเมื่อคนสี่คนอยู่ด้วยกันในช่องแคบ ๆ แบบนี้
“อชิขยับออกไปหน่อย อึดอัดฉันจะทำขนม นายคอยชิมนะ”
อชิมองเธออย่างไม่พอใจ อยากจะด่าเธอนักว่าเมื่อกี้ที่เก่งยืนซ้อนหลังของเธออยู่มันหมายความว่ายังไง
“ไม่กินอะไรทั้งนั้น เธอมานี่เลย”
ว่าแล้วเขาก็รวบร่างเธอมาทั้งยืนแล้วอุ้มตัวลอยมาข้างนอกห้องครัว กุ๊กไก่ร้องโวยวาย
“อชิ ฉันกำลังหัดทำขนมอยู่นะ ปล่อย”
อชิจึงหาเรื่องให้เธอ
“เธอมาชงกาแฟให้ฉัน ที่สอนไปเมื่อวานจำได้หรือเปล่าเครื่องใช้ยังไง”
กุ๊กไก่ยิ้มแหย เธอลืมไปจริง ๆ ด้วยจึงลืมเรื่องทำขนมเสียสนิท ตะโกนบอกคนที่อยู่ในห้องครัวด้วยความเกรงใจ
“พี่เก่งคะ เอาไรหรือเปล่าคะกุ๊กจะชงให้พี่ทาน”
อชิโมโหแต่เขายังมีมารยาทพอ จึงทำได้แค่ยืนกอดอกกันกุ๊กไก่ไม่ให้เข้าใกล้เก่ง
“อะไรก็ได้ครับพี่ทานได้หมด”
“ได้ค่ะ”
กุ๊กไก่กำลังคิดว่าจะทำอะไรให้เก่งดี อชิขยับเข้ามาใกล้
“ทำลาเต้ให้กินหน่อย”
กุ๊กไก่มองเขา
“นายไม่กินลาเต้ นายกินอเมริกาโน่”
อชิยิ้มเมื่อกุ๊กไก่รู้ว่าเขาชอบอะไร
“ก็ให้เธอเทสไง อเมริกาโน่ทำง่ายเอาลาเต้แล้วกัน”
กุ๊กไก่บิดแขนเขา
“ตั้งใจแกล้งว่างั้น”
อชิยังไม่ปล่อยเธอ เขาขยับแขนรัดร่างของเธอแน่นขึ้น
“ใช่จะทำไม แกล้งเมียเล่นมีปัญหาเหรอ”
อชิเสียงสูง กุ๊กไก่ได้ยินเขาเรียกตัวเองว่าเมียแบบนี้ถึงกลับหน้าแดงขึ้นมา
“ไอ้บ้า ปล่อยเลยจะไปชงกาแฟแล้ว”
เขาปล่อยกุ๊กไก่แล้วเดินตามเธอไปที่เคาเตอร์กาแฟซึ่งเป็นเครื่องรุ่นใหม่ราคาหลายแสนที่อชิลงทุนเปลี่ยนให้เธอ ต่อให้ไม่ใช่บาริสต้าก็สามารถใช้เครื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่ปุ่มมันเยอะจึงทำให้เธอค่อนข้างงงเล็กน้อย
เก่งคิดจะออกจากห้องครัวแต่ถูกติ๊กดึงตัวเอาไว้ เธอชวนเขาคุยเพราะรู้ว่าอชิกำลังไม่พอใจ ยังไงอชิก็คือคนที่จ่ายเงินเดือนเธอจึงต้องเป็นไม้กันหมาให้อชิ ไม่ให้เก่งเข้าไปขัดจังหวะของสองผัวเมียนั่น
“พี่เก่งช่วยติ๊กก่อนนะคะ ทาเนยให้เสร็จแล้วชิมอีกรอบนะคะ”
เก่งมองประตูครัวและหันมามองหน้าติ๊ก ยัยหมวยน้อยนี่กำลังมองเขาอย่างคาดหวัง เขาเองก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ใจร้ายจึงพยักหน้า
“ก็ได้ค่ะ พี่ช่วยติ๊กเอง ว่าแต่ว่านี่ทำยังไงนะคะ”
หลังจากนั้นติ๊กก็ตั้งใจอธิบายเรื่องขนม ยังเล่าเรื่องของตัวเองให้เก่งฟังทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ถามกระทั่งเก่งเพลิดเพลินกับเรื่องเล่าของเธอจนลืมคนข้างนอกไปชั่วครู่
กุ๊กไก่ยืนกาแฟให้อชิ เขาชิมดูเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม
“คิดไม่ผิดที่ซื้อเครื่องนี้ ดูสิขนาดคนไม่ได้เรื่องอย่างเธอยังทำได้ดีเลย”
กุ๊กไก่ตื่นเต้น เมื่อสักครู่อชิไม่ได้อธิบายปุ่มต่าง ๆ อีก เธอนึกอยู่นานกว่าจะกดปุ่มและได้กาแฟที่สำเร็จออกมา
“จริงสิ ขยัน ๆ เข้านะสาวน้อยเธอน่าจะรอดหลังจากผ่านการเทรนจากฉันอย่างหนัก”
กุ๊กไก่ย่นคิ้ว
“เทรนของนายคือไร เทรนบนเตียงเหรอฉันเห็นว่างไม่ได้”
อชิหัวเราะ เมื่อกุ๊กไก่พูดตรง ๆ โดยไม่อายแม้แต่น้อย
“ก็เธอมันจอมยั่ว คราวหลังก็อย่ายั่วกันฉันมันเป็นผู้ชายกลัดมันยังหนุ่มขนาดนี้ มีเมียแล้วก็ไม่อยากไปหากินกับคนอื่น”
“อ้อ เพิ่งรู้ว่าเห็นฉันเป็นเมียด้วย”
อชิเสียงเย็น
“แน่สิฉันน่ะเห็นตลอด ไม่เหมือนเธอไม่เคยเห็นเลยว่าฉันเป็นผัว ทั้งแชทหาคู่ทั้งคุณเก่งไหนจะแฟนเก่าวุ่นวายไปหมด จะดีกว่านี้ถ้าให้เกียรติกันบ้าง”
กุ๊กไก่กอดอก ขยับตัวเข้าไปจนชนเขา
“อชิถามจริงเถอะ นายจะหย่ากับฉันเมื่อไหร่ หนึ่งปี สองปี หรือกี่ปี”
อชิวางแก้วกาแฟลง เขาถอนหายใจ
“เวลาฉันมีไม่มากแล้ว เร็วที่สุดก็ไม่เกินห้าหกเดือนนี้ เธออย่ากดดันฉันเลยฉันหย่าให้แน่แต่เรื่องที่ดินต้องเรียบร้อยก่อน”
จู่ ๆ กุ๊กไก่ก็มือสั่น เธอถามเขาเพราะทำใจว่าอย่างน้อยคงสักปี แต่นี่อะไรเขาบอกว่าห้าหกเดือนเหรอ บ้าไปแล้ว ไอ้ห่าเอ๊ย ไปตายเลยไป เธออยากจะตะโกนแบบนี้ออกไป แต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือพยักหน้ารับ เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ในใจปวดแปลบราวกับว่ามีของมีคมปักลงกลางหัวใจของเธอ แต่กระนั้นเธอก็ยังคงรักษาใบหน้าเรียบเฉยพร้อมรอยยิ้มเอาไว้ได้
ใช่ สิ่งที่เธอทำได้คือ ไม่แคร์อะไร จบแล้วก็จบกันไป
“ก็ดี รีบหย่าจะได้รีบจบต่างคนต่างไปใช้ชีวิตของตัวเอง นายจะได้กลับไปหาคนที่รอนายอยู่ ฉันเองก็มีหลายอย่างที่อยากจะทำเลยล่ะ”
อชิยิ้มเศร้า ๆ ทั้งยังมองเธออย่างเหม่อลอย ท่าทางของกุ๊กไก่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะดีใจที่จะได้หย่ากับเขาแล้ว มีแต่เขาเสียอีกที่รู้สึกปวดแปลบในหัวใจ นี่เขาเสียใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเหรอ หรือว่าเป็นเพราะเขาเริ่มจะเคยชินที่มีกุ๊กไก่อีกครั้งเข้าไปแล้ว มันช่างเป็นความเคยชินที่ทำให้รู้สึกแย่เหลือเกิน
สายตาของเขาจึงดูเศร้าอย่างประหลาดแต่กุ๊กไก่ไม่เห็นเพราะเธอเดินเหม่อลอยไปชงกาแฟให้เก่งแล้ว อชิจึงพูดด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ ออกมา
“กุ๊กไม่รู้ว่าเธอจะคิดยังไง แต่ช่วยอดทนอยู่กับฉันอีกหน่อยนะ ขอโทษด้วยที่ลากเธอมายุ่งเรื่องของฉัน”
กุ๊กไก่เกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว อชิทำเหมือนกับว่าเธอรู้สึกแย่ที่อยู่กับเขา แต่เธอก็ไม่คิดจะอธิบาย ไอ้บ้านี่ควรเจ็บปวดบ้างไม่ใช่ปล่อยให้เธอเจ็บอยู่คนเดียว
“ไม่เป็นไร ฉันเองก็ได้ประโยชน์เต็ม ๆ นี่นา เพราะนายจึงทำให้ฉันมีเงินทุนต่อลมหายใจถึงได้ตั้งใจเรียนรู้และจะไม่ทำให้เงินของนายเสียเปล่าเป็นอันขาด ยังไงก็ขอบคุณนะเราสองคนถือว่าไม่มีอะไรติดค้าง ต่างคนต่างช่วยเหลือกันอย่างดีที่สุดแล้ว”
กระทั่งกาแฟของเก่งเสร็จ กุ๊กไก่เดินผ่านอชิที่ยังคงยืนนิ่งโดยไม่ทันได้สังเกตุสีหน้าของเขา เธอถือกาแฟของเก่งไปวางที่โต๊ะด้วยใบหน้าราบเรียบทั้ง ๆ ที่ในใจอยากจะร้องห้องจนแทบจะทนไม่ไหว
กุ๊กไก่หนีเข้าครัวเพื่อไปตามเก่ง
“คุยอะไรกันอยู่ ท่าทางสนุกเลย”
กุ๊กไก่ปรับสีหน้าและอารมณ์อย่างรวดเร็ว เก่งยิ้มให้เธอ เขากำลังคุยกับติ๊กอย่างสนุก อายุของคนสองคนห่างกันสิบกว่าปีแต่ดูแล้วกลับเข้ากันได้อย่างประหลาด
“ก็คุยหลายอย่างค่ะพี่กุ๊ก พี่เก่งตลกดีค่ะ”
ติ๊กมองหน้าเก่งแล้วหัวเราะจนตาเล็ก ๆ ของเธอยิ่งเล็กลงไปอีก ท่าทางของติ๊กน่ารักเหมือนเด็กน้อยจนเก่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ติ๊กพูดเก่งมาก แบบนี้กุ๊กไก่ไม่เหงาแน่เลย”
ติ๊กแย้ง
“แน๊ พี่เก่งหาว่าติ๊กพูดมากเหรอคะ”
“เปล่าค่ะ คนพูดเก่งกับพูดมากต่างกันอยู่นะคะ”
กุ๊กไก่มองคนสองคนที่ต่อปากต่อคำแล้วรู้สึกว่าคนสองคนดูเป็นกันเองและสนิทกันเร็วมาก
“พี่เก่งเหมือนพ่อของติ๊กเลยนะคะ อยู่ด้วยกันแบบนี้”
กุ๊กไก่แซวขำ ๆ เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแต่เธอต้องการพูดอะไรก็ได้ให้มันตลก ใช่ และยัยติ๊กจอมจ้อก็รู้สึกตลกจริง ๆ เด็กสาวหัวเราะออกมาอย่างสดใส
“พี่กุ๊กก็ว่าไป พี่เก่งยังหล่อล่ำขนาดนี้ไม่มีคุณพ่อที่ไหนจะหล่อแบบนี้ค่ะ”
เก่งยิ้ม ๆ เขาไม่ถือสาคำพูดของกุ๊กไก่ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นความรักหรือเปล่าเพราะไม่ว่ากุ๊กไก่จะพูดอะไรเขาก็รู้สึกดีจริง ๆ
“ขอบคุณนะคะน้องติ๊กที่บอกว่าพี่หล่อ”
“ยินดีค่ะ พี่เก่งยังชมว่าติ๊กทำขนมอร่อยด้วย คนหล่อพูดจาดีใคร ๆ ก็ชื่นชมค่ะ”
บรรยากาศในห้องครัวดูสนุกสนาน ในขณะที่บรรยากาศระหว่างเธอกับอชิคล้ายจะมีเมฆหมอกอึมครึมปกคลุมอยู่ กุ๊กไก่ดูหน้าตาไม่ค่อยสบายนักเก่งเห็นจึงถามด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ กุ๊กไก่หน้าซีด ๆ นะครับ”
“เปล่าค่ะ จริงเหรอคะ หน้าซีดเหรอคะ”
เก่งเดินเข้ามาใกล้เขาคิดจะจับหน้าผากของเธอดูว่ากุ๊กไก่ไม่สบายหรือเปล่า แต่ยังไม่ทันได้ถึงตัวเธออชิก็เปิดประตูเข้ามาแล้ว เก่งจึงได้หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเข้ามาใกล้จนเกินไป
ถึงกุ๊กไก่จะบอกว่าพวกเขาแต่งงานเพราะความจำเป็น เดี๋ยวก็จะหย่าแล้วแต่เธอในตอนนี้ก็ยังเป็นของอชิอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
“เป็นอะไร”
อชิถามเธอ แต่กุ๊กไก่ส่ายหน้า
“อะไรกันคะ ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย สบายดีค่ะ ไปค่ะพี่เก่งไปชิมกาแฟของกุ๊กสักหน่อย วิจารย์ได้เต็มที่เลยนะคะ”
กุ๊กไก่ยิ้มแย้มกลบเกลื่อนความรู้สึกที่ไม่ดีแปลก ๆ ในใจ คราวนี้เธอเป็นฝ่ายจับมืออชิแล้วลากเขาออกมาจากห้องครัวเล็กที่แสนอึดอัด เก่งตามออกมาชิมกาแฟ ยังมีติ๊กตามมาติด ๆ วันนี้กุ๊กไก่ต้องขอบคุณติ๊ก เพราะเด็กสาวเป็นคนพูดเก่งจึงทำให้บรรยากาศกลับมาครื้นเครงได้อีก ในขณะที่อชิเองก็ชำเลืองมองกุ๊กไก่อยู่หลายครั้ง ยิ่งเห็นเธอยิ้มกับเก่งเขาก็ยิ่งรู้สึกปวดแปลบในใจอยากจะฟาดเก้าอี้ทำลายข้าวของเพื่อระบายอารมณ์ แต่เขาไม่ใช่คนแบบนั้นอีกทั้งเก่งก็คือลูกค้าเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากดึงมือของกุ๊กไก่มากุมเอาไว้ และนั่งตัวติดกับเธอจนแทบจะดึงกุ๊กไก่มานั่งตัก
กระทั่งกุ๊กไก่หันมาถาม
“อชินายเป็นไรไป ดูแปลก ๆ นะ”
อชิหน้าแดงก่ำกระซิบชิดหูของเธอ
“หึงมั้ง อยากจะต่อยคนฉิบหาย”
กุ๊กไก่แทบจะหยุดหายใจกับคำพูดของเขา ยังมีมือที่บีบมือของเธอแน่นอีก เก่งเองเห็นท่าทางของอชิแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ เขาจึงขอตัวกลับ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกตั้งใจจะมาอยู่กับกุ๊กไก่ทั้งวันเพราะรู้ว่าอชิติดงาน แต่ไม่คิดว่าเขาจะเสร็จเร็วและตามมาแบบนี้
“พี่เก่งจะออกไปนอกตึกเหรอคะ ติ๊กติดรถไปที่ป้ายรถเมล์ได้หรือเปล่าคะขี้เกียจเดิน”
เก่งพยักหน้า
“ติ๊กจะไปไหน”
“ไปรามค่ะ ติ๊กจะเข้าไปคุยงานกลุ่มกับเพื่อนค่ะ”
“พี่ไปส่งก็ได้ค่ะ พี่่ว่างแล้ว”
เพราะผิดแผนเก่งไม่รู้จะทำอะไรเขาจึงอาสาไปส่งติ๊กเพราะรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้
“อ้าวเมื่อกี้พี่เก่งบอกว่ามีธุระด่วนนี่คะ”
เก่งส่ายหน้า
“ไม่มีแล้วค่ะ ถ้าติ๊กไม่ว่าพี่ไปส่งได้ค่ะ”
ติ๊กไม่ปฏิเสธแน่นอน นาน ๆ จะมีคนหล่อ ๆ มาอาสาไปส่งเธอแบบนี้ต้องคว้าโอกาสเอาไว้ และเธอก็สงสารเขาอยู่เหมือนกันเมื่อกี้พี่อชิหึงพี่กุ๊กไก่ออกนอกหน้าจนทำเอาคนอึดอัดไปหมด กระทั่งเธอเองยังอยู่ไม่ได้ ปล่อยให้สองคนผัวเมียอยู่ที่ร้านกันเอง
“ไปค่ะ ติ๊กจะปลอบพี่เองถ้าพี่ไม่มีความสุขรับรองคุยกับติ๊กแล้วสนุกค่ะ”
เก่งยิ้ม
“หมวยน้อย พี่เรียกเราแบบนี้ได้หรือเปล่า”
ติ๊กยิ้ม
“พ่อหนูก็เรียกหนูแบบนี้ค่ะ ตามสบายเลยค่ะ”
เก่งหุบยิ้มทันทีคิดถึงคำที่กุ๊กไก่แซวเขาว่าเหมือนเขากับติ๊กเป็นพ่อกับลูก ไม่ใช่ว่าเมื่อเขาไปส่งเธอที่มหาลัยเพื่อน ๆ ของเธอคงไม่คิดว่าเขาเป็นพ่อของติ๊กหรอกนะ