The Divine Nine Dragon Cauldron

　　แน่นอนว่าอสูรรูปงามที่เดินไปหานางก็ซือหยูนั่นเอง

　　เขามองเด็กสาวตรงหน้าที่ดูไม่เหมือนกับอสูรและพูดด้วยความใจเย็น

　　 ทั้งหมดก็เพราะองค์หญิงหกที่ทำให้พวกเราต้องมาเจอกันอีกในแดนอสูร

　　คนที่บอกให้ซือหยูมาเจอไม่ใช่ใครนอกจากองค์หญิงหก!!

　　 หึหึเจ้างดงามนักในรูปลักษณ์อสูร มากจนข้าจะตกหลุมรักเจ้า

　　องค์หญิงหกหัวเราะคิกคัก

　　ซือหยูไม่สนใจสีหน้าเขาไม่แปรเปลี่ยน

　　 หึหึหน้าตายของเจ้าทำข้าไม่พอใจเอาซะเลย

　　องค์หญิงหกหัวเราะเบาๆ ขณะที่พูด

　　ซือหยูตอบ　　 ข้าไม่คิดว่าผู้หญิงที่ส่งเทพตำรามาจับตัวข้าจะชื่นชมข้าแบบนี้

　　 ข้าชื่นชมเจ้ามากเชียวล่ะ!

　　องค์หญิงหกยิ้ม

　　 ดูจากที่มเหสีหยุนเซี่ยให้ความสำคัญกบัเจ้าเจ้าก็น่าจะจินตนาการได้ว่าข้าชื่นชมเจ้าเพียงใด

　　ซือหยูจ้ององค์หญิงหก

　　 เจ้ามาเพราะมเหสี!

　　ก่อนหน้านี้องค์หญิงหกสนใจซือหยูเพราะพลังอสูรที่เขามี

　　แต่ตอนนี้นางสนใจในความสัมพันธ์ระหว่างซือหยูกับมเหสีหยุนเซี่ย

　　 เจ้าจะว่าอย่างนั้นก็ได้แต่ข้ามาก็เพื่อเจ้า

　　องค์หญิงหกกล่าวนางพูดต่อ

　　 เจ้ารู้หรือไม่ว่ามเหสีหยุนเซี่ยเป็นสตรีแบบใด? 　　ซือหยูถามเรื่องราวเกี่ยวกับมเหสีหยุนเซี่ยตลอดสามวันที่ผ่านมา

　　นางมายังโลกอสูรเมื่อร้อยปีก่อนจักรพรรดิอสูรชอบนาง จากนั้นจึงอภิเษกสมรสกับนาง

　　จักรพรรดิอสูรหลงรักนางอย่างออกหน้าออกตาฐานะนางเหนือกว่ามเหสีทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ราชินี

　　หน้าที่จักรพรรดิอสูรทั้งหมดถูกดูแลโดยนางและนางยังแสดงความสามารถอันโดดเด่นออกมาได้ดีอรกด้วย ลักษณะการปกครองของนางนั้นคือการกดขี่ข่มเหงองค์หญิงและองค์ชายทุกคนในโลกอสูร

　　นางยังกดดันเจ้าเมืองในแดนอื่นจนแทบจะมิอาจหายใจเพื่อที่จะได้ความเคารพนับถือมา

　　แม้แต่ศาลอสูรที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดยังไม่กล้าต่อกรกับมเหสีหยุนเซี่ย

　　ทั้งโลกอสูรใบนี้ไม่มีใครกล้าที่จะดูหมิ่นนางเลย

　　 ใช้อำนาจเด็ดขาดและยังมีไหวพริบอันไร้ปรานี…

　　ซือหยูกล่าว

　　องค์หญิงหกตอบ

　　 ไม่ต่างจากที่ข้าคิดนักนี่คือทั้งหมดที่เจ้ารู้เกี่ยวกับนางสินะ?

　　หือ?ซือหยูเลิกคิ้ว ดูเหมือนว่าองค์หญิงหกมีเรื่องอื่นที่จะพูด

　　 ในสายตาชาวโลกอสูรนางคือราชินีที่แข็งแกร่ง แต่ในสายตาองค์หญิงองค์ชายอย่างเรา เจ้ารู้หรือไม่ว่านิสัยใจคอที่แท้จริงของนางเป็นเช่นใด?

　　องค์หญิงหกเดินมาข้างหน้าอย่างสง่างามท่ามกลางต้นไผ่

　　ซือหยูไม่สนใจท่าทางยั่วยวนของนางเขาถามนางอย่างไร้อารมณ์

　　 นิสัยใจคอนางเกี่ยวกับข้ายังไงกัน? 　　 แน่นอน!เพราะถ้าเจ้าไปในครั้งนี้ มันก็เป็นไปได้มากว่าเจ้าจะไม่ได้กลับมาอีกเลย…

　　นางกล่าว

　　หา!ซือหยูแววตาหม่นหมอง แต่เขายังใจเย็น

　　 เจ้าขู่ข้าเรอะ?

　　 ข้าไม่ได้ขู่เจ้าแต่เป็นเรื่องจริงที่เจ้าจะไม่ได้กลับมาอีก! มเหสีหยุนเซี่ยจะต้องคิดร้ายต่อเจ้าแน่นอน

　　องค์หญิงหกกล่าวอย่างชัดเจนดวงตาสีม่วงของนางแน่วแน่และจริงจัง

　　ซือหยูนิ่งเงียบ

　　เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้รับการยอมรับจากมเหสีหยุนเซี่ยเพียงเพราะเขาเป็นผู้ช่วยเทียนจี่จื้อมาบอกคำสั่งเสีย

　　เพราะเขาเป็นเพียงตัวแทนปากของอีกคนเท่านั้นไม่มีค่าใดให้ต้องยอมรับ

　　แต่ซือหยูไม่อยากจะเชื่อว่ามเหสีหยุนเซี่ยจะทำร้ายเขา　　 บางทีเจ้าอาจจะไม่รู้แต่นอกจากข้ารับใช้อันดับหนึ่ง ข้ารับใช้อันดับสองสามสี่ก็มาที่แดนจิงหยูด้วย ไค่หลินไม่ได้กลับไปจริง ๆ นางยังอยู่ที่ชายแดนแดนจิงหยูกับข้ารับใช้ที่เหลือ!

　　ไค่หลินไม่ได้กลับไปรึ?ซือหยูหรี่ตา

　　 หึหึเจ้าคิดว่าข้ารับใช้ทั้งสี่มาปิดล้อมแดนจิงหยูเพื่ออะไรล่ะ? พวกนางคงไม่ได้มาชมทิวทัศน์ใช่ไหม?

　　นางว่าต่อ

　　จู่ๆ ซือหยูก็เริ่มระวังตัวขึ้นมาทันที

　　พวกนางเข้ามาล้อมเมืองเอาไว้เพราะกลัวว่าซือหยูจะหนีไป

　　ถ้ามเหสีหยุนเซี่ยเพียงต้องการคำสั่งเสียจากเทียนจี่จื้อจริงนางจะต้องทำถึงเพียงนี้หรือ?

　　นางจะต้องมีแผนอื่นอยู่ในใจ!

　　ซือหยูกำหมัดขวาด้วยหัวใจอันเยือกเย็น

　　หรือว่าจะเป็น…ทรายดาราทางช้างเผือก?!

　　เทียนจี่จื้อมีทรายดาราทางช้างเผือกซึ่งมเหสีหยุนเซี่ยน่าจะรู้เรื่องนี้!

　　เมื่อซือหยูมาตามหานางถ้านางไม่ไร้สมอง นางคงจะเดาได้ว่าทรายดาราทางช้างเผือกนั้นอยู่กับซือหยู

　　เพื่อความปลอดภัยนางไม่ได้ใช้วิธีรุนแรงใดเพื่อไม่ทำให้ซือหยูกังวลและหาทางซ่อนทรายดาราทางช้างเผือก นางใช้วิธีอันอ่อนโยนเพื่อทำให้ซือหยูไม่ทันระวัง

　　ซึ่งวิธีการนี้ยังเป็นวิธีการที่คล้ายกันมากที่นางชอบใช้ในบันทึก!

　　ถ้าหากองค์หญิงหกไม่เรียกเขามาและเตือนเรื่องความเคลื่อนไหวของข้ารับใช้ทั้งสี่ซือหยูคงจะไม่ทันระวัง

　　 เจ้าได้สติแล้วสินะ…

　　องค์หญิงหกหัวเราะ

　　 จริงๆ ข้าเองก็สงสัยมากไม่ต่างกับเจ้า นางส่งข้ารับใช้สี่คนที่เชื่อใจที่สุดมาจับตาดูเจ้า บอกตามตรง นอกจากพี่ใหญ่…เจ้าคือคนแรกที่นางทำเช่นนี้!

　　องค์ชายหนึ่งได้สืบทอดวิถีเทพจากจักรพรรดิอสูรและอาจจะได้เป็นหนึ่งในใต้หลบ้าแห่งยุคใหม่ที่เหนือกว่าจักรพรรดิอสูรในปัจจุบัน

　　ไม่แปลกใจที่มเหสีจะจับตามองเขาแต่มันแปลกอย่างมากที่นางจะระวังตัวต่อคนนอกอย่างซือหยูที่ไม่มีอำนาจอะไรเลย

　　หลังจากเงียบไปชั่วครู่ซือหยูพูดเบา ๆ

　　 จากที่พวกเจ้ารู้นางเป็นคนเช่นใด?

　　 นางคือคนช่วงชิงอำนาจ!

　　องค์หญิงหกกล่าวด้วยจิตสังหาร

　　ซือหยูหัวเราะเบาๆ

　　 ด้วยพลังของจักรพรรดิอสูรใครกันจะกล้าชิงตำแหน่งจักรพรรดิเล่า?

　　เขาถาม

　　 ไม่ใช่เจ้าดูถูกความโหดร้ายของนางไป!

　　องค์หญิงหกแววตาชิงชังและยังสะพรึงกลัว

　　 นางแตะต้องท่านพ่อไม่ได้ก็จริงแต่เป็นเรื่องง่ายที่นางจะจัดการองค์หญิงและองค์ชายอย่างพวกข้า!

　　ซือหยูถามด้วยความตกใจ

　　 เจ้าบอกว่านางอยากจะกำจัดพวกเจ้าทุกคนและทำให้จักรพรรดิอสูรเสียทายาทสืบบัลลังก์ทั้งหมดงั้นรึ?

　　 ใช่แล้ว!

　　องค์หญิงหกกล่าว

　　 นี่คือแผนการของนางและมันคือสิ่งที่นางกำลังทำอยู่! ตลอดร้อยปีที่ท่านพ่อปิดประตูฝึกตน นางวางแผนทุกอย่างเพื่อกดอำนาจของพวกข้า

　　 จากภายนอกพวกเราทั้งเก้ายังคงมีความเป็นเจ้าของของแดนแต่ละคน แต่เจ้าจะต้องเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องเก้าของข้า มีเจ้าเมืองใดช่วยนางหรือไม่? ไม่เลย!

　　องค์หญิงหกกล่าว

　　 เพราะตลอดร้อยปีที่ผ่านมามเหสีหยุนเซี่ยบอกกับเจ้าเมืองทุกคนว่านางคือผู้อยู่จุดสูงสุดของแดนอสูร มิใช่องค์หญิงองค์ชายที่เป็นตัวแทนในแต่ละดินแดน

　　ซือหยูพยักหน้าเงียบๆ สภาพของเจ้าหมาก็เป็นหลักฐานที่ดีพอ

　　 นางริดรอนอำนาจพวกเรานอกจากสิทธิ์ในการสั่งการเจ้าดินแดนในแต่ละเมืองแล้ว พวกเราไม่มีอำนาจเหนือเจ้าดินแดนเหล่านั้นในฐานะองค์หญิง พวกมันเลยไม่กลัวเราแม้แต่น้อย!

　　 ถ้าเจ้าคิดว่าข้าพูดไม่จริงกฎใหม่ที่นางประกาศจะคลายข้อกังขาของเจ้า!

　　 เหตุใจเมฆาอสูรหรือแม้แต่อสูรจันทร์ผ่องและเทพอื่นถึงกล้าจับตัวองค์หญิงเป็นตัวประกันและเตรียมตัวประกาศต่อโลกรึ?พวกมันไม่กลัวว่าตระกูลราชวงศ์จะโกรธแค้นรึ?ข้าว่าเจ้าคงสับสนเรื่องนี้มาก่อน

　　นางกล่าว

　　ซือหยูพยักหน้าใช่แล้ว เขาเคยคิดแบบนี้มาก่อนฃ

　　เหตุผลที่เขากล้าจับตัวเจ้าหมาเป็นตัวประกันก็เพราะว่าเขาไม่ได้วางแผนอยู่ในแดนอสูรเป็นระยะเวลานานเมื่อสะสางเรื่องราวทั้งหมดจบ เขาจะหนีออกไป

　　แต่เมฆาอสูรกับเทพที่เหลือนั้นมีรากฐานในแดนอสูรทำไมคนเหล่านั้นถึงไม่กลัวความพิโรธจากราชวงศ์กัน?

　　 นั่นก็เพราะนางประกาศกฎให้เจ้าเมืองทุกคนมีอำนาจในการปกครองเมืองแท้จริงแล้วมันคือการชิงอำนาจของพวกข้าในทางอ้อม

　　 ดังนั้นแล้วหากมีเจ้าเมืองใดกระทำผิดต่อเจ้าเมืองอื่น ราชวงศ์จะทำการไตร่สวน แต่ถ้าหากเรื่องเดียวกันเกิดกับเจ้าเมืองและเหล่าทายาท มันจะถือว่าไม่ผิดกฎ ราชวงศ์จะไม่ยุ่งเกี่ยว

　　 พวกเจ้าเมืองถึงกล้าฝันถึงการชิงตำแหน่งเจ้าเมืองยังไงล่ะ!

　　 กฎนี้มีแต่พวกเจ้าเมืองที่มีพลังระดับเทพที่รู้เช่นเดียวกับองค์หญิงและองค์หญิง เจ้าไม่รู้ก็ไม่แปลก

　　นางพูดต่อ

　　องค์หญิงหกหายใจเข้าลึกและมองซือหยูอย่างเย็นชา

　　 นี่คือสิ่งที่พวกข้ามองมเหสีหยุนเซี่ยผู้หญิงมากความทะเยอทะยานที่คิดจะกำจัดพวกเราทุกคน!

　　ซือหยูคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด

　　 แต่นางเพียงกดอำนาจพวกเจ้านางไม่ได้แสดงความตั้งใจที่จะสังหารเจ้า

　　 ฮ่าๆๆๆนั่นก็เพราะเจ้าไม่รู้เรื่องพิธีสังเวยทะเลขมยังไงล่ะ!

　　องค์หญิงหกกล่าวด้วยความสะพรึงกลัว　　พิธีสังเวยทะเลขมรึ?มันคืออะไรกัน?

　　 นี่คือกฎใหม่ที่ประกาศอย่างลับๆ เมื่อสิบปีก่อน ทะเลขมกัดกร่อนแผ่นดินในแดนอสูรมาช้านาน นางจึงจัดพิธีสังเวยทะเลขมในทุกสิบปีในนามคำสั่งท่านพ่อที่ปิดตัวจากโลกภายนอก

　　 ทุกครั้งจะมีทายาทหนึ่งคนในราชวงศ์ที่กลายเป็นเครื่องเซ่นของยักษ์ทะเลขม เพื่อช่วยบรรเทาพลังกัดเซาะของทะเล

　　 ในประวัติศาสตร์มีราชวงศ์ถูกลากจมสู่ทะเลและป้องกันการกัดเซาะได้ นางจึงบอกว่านางมีเหตุผล แต่ทะเลขมก็ไม่ได้กว้างใหญ่ขนาดทั้งแดนอสูร นอกจากจะกำจัดพวกข้า มันจะมีเหตุผลอื่นใดให้จัดพิธีสังเวยทะเลขมอีกเล่า?

　　นางกล่าว

　　หากจะต้องเสียทายาทหนึ่งคนในทุกสิบปีทายาททั้งหมดจะต้องตายในไม่ถึงหนึ่งศตวรรษ! 　　ขั้นแรกนางทำให้อำนาจของรัชทายาทอ่อนแอ ทำให้สูญเสียอำนาจในการสั่งการเทพ

　　สุดท้ายมีดได้เปิดเผย นางคิดจะส่งรัชทายาทให้กับยักษ์ทะเลขมไปทีละคน!

　　คำพูดหนึ่งแล่นขึ้นในสมองของซือหยู

　　พิษร้ายที่สุดคือจิตใจสตรี!

　　แม้แต่ซือหยูเองก็มิอาจห้ามตัวให้ไม่สั่นด้วยความกลัวได้มเหสีหยุนเซี่ยเป็นผู้หญิงที่ชั่วร้ายขนาดนี้เลยรึ?

　　 แล้วทำไมเจ้าถึงไม่บอกจักรพรรดิอสูรล่ะ?

　　ซือหยูถาม

　　องค์หญิงหกหัวเราะอย่างขมขื่น

　　 ท่านพ่อปิดตัวจากโลภายนอกไม่มีใครเข้าพบได้ แม้แต่รัชทายาท!

　　 ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะอธิบายยังไง ในตอนที่เจ้าขู่ว่าจักรพรรดิอสูรจะมาช่วยองค์ชายเจ็ดจากเทพแห่งความตาย? 　　เขาถาม

　　 ร่างเงาท่านพ่อต่างหากที่มาร่างเงาท่านพ่อเคลื่อนไปที่ใดก็ได้ในพริบตาเดียว ข้าไม่ได้พูดถึงในตอนนั้น

　　องค์หญิงหกตอบ

　　 หมดเวลาสิบปีแล้วรัชทายาทที่อ่อนแอที่สุดจะถูกส่งลงสู่ทะเล ใครก็ตามที่ขัดคำสั่งจะถูกศาลอสูรสังหาร รัชทายาทไม่เกียรติยศอีกแล้ว พวกข้าเป็นเพียงหุ่นเชิดมีชีวิตที่ไร้การปกป้อง!

　　เมื่อฟังจบซือหยูอดคิดหนักไม่ได้

　　นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รัชทายาทต้องประสบพบเจอกับชะตาอันโหดร้ายเช่นนี้

　　มันโหดร้ายเกินไป!

　　 แล้วเจ้าจะมาหาข้าทำไม?เพียงเพื่อเตือนไม่ให้ข้าไปเจอนางรึ?

　　ซือหยูถาม

　　องค์หญิงหกส่ายหน้านางมองซือหยูด้วยความคาดหวัง

　　 ข้าคิดว่าเจ้าจะช่วยข้าได้

　　 อยากให้ข้าฆ่านางรึ?

　　ซือหยูถามหากเป็นเช่นนั้น เขาก็ได้แต่ถอนหายใจแรงกลับคืนนาง

　　เขาจะสังหารมเหสีที่มีอำนาจมากมายอยู่ในมือได้ยังไง?

　　 ไม่ใช่!

　　องค์หญิงหกส่ายหน้าและมองซือหยูด้วยแววตาแน่วแน่