หลังจากตอบรับความรักจากพี่เก่งฉันเองหลายครั้งก็ยังรู้สึกสับสนอยู่บ้าง นั่นเป็นเพราะเรื่องของอชิที่ฉันยังคงสงสัยตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ฉันยังรักเขาอยู่หรือเปล่า หากรักทำไมถึงไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด หรือ หากไม่รักแล้วทำไมถึงไม่สามารถลืมอชิไปได้ละ ระหว่างฉันกับอชิความรู้สึกที่ผูกพันกันจนไม่สามารถที่จะตัดได้นี่คืออะไร
ความรักลึกซึ้งหรือความห่วงใยในฐานะคนที่เติบโตมาด้วยกัน คนที่รู้จักกันดีทุกซอกทุกมุม จนไม่สามารถที่จะลืมอชิไปได้ใช่หรือเปล่า
ที่ฉันยังคงเป็นแบบนี้จึงทำให้ฉันรู้สึกไม่ยุติธรรมสำหรับพี่เก่งเลยสักนิด ฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ไม่น่าให้อภัย ฉันชอบพี่เก่งมากจนสามารถเรียกได้ว่าฉันรักเขาแม้จะเคยผลักไสเขา แต่ตอนนี้เพียงแค่คิดว่าจะไม่มีเขาอยู่ในชีวิตแล้วฉันกลับรู้สึกทนไม่ไหวและเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
เมื่อฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้รับความยุติธรรม ฉันจึงคิดว่าควรจะตรงไปตรงมากับเขาอย่างดีกว่า
เมื่อเขารู้แล้วจะอยู่หรือไปก็แล้วแต่เขาจะตัดสิน ฉันรู้ดีว่าไม่อาจรั้งเขาเอาไว้ได้ด้วยความเห็นแก่ตัวของตัวเอง ถึงจะเสียใจถ้าเกิดสุดท้ายแล้วต้องเลิกกัน ฉันก็ยินดีที่จะเจ็บปวดเพียงลำพังอีกครั้ง เหมือนกับว่าความเจ็บปวดนั้นมันคือเพื่อนของฉันไปแล้ว
ฉันตัดสินใจบอกความรู้สึกนี้ให้เขาฟังในวันหนึ่ง ฉันเล่าทั้ง ๆ ที่หัวใจสั่นระริกเพราะฉันกลัวว่าเขาจะทิ้งฉันไปอีก แต่พี่เก่งกับฉันให้ฉันประหลาด ใจเมื่อเขาถามฉันกลับมาว่า
“เรื่องของอชิก็วางเอาไว้แบบนั้นแหละ อย่าไปแตะต้องเลย กุ๊กไก่คิดกับเขาแบบไหนพี่เก่งไม่อยากเข้าไปแทรก เพียงแต่อยากถามกุ๊กไก่ว่า สำหรับพี่เก่งแล้วกุ๊กไก่ในตอนนี้คิดยังไงบ้างคะ การที่ตัดสินใจคบกับพี่เพราะอะไรกันแน่ ลองคิดดูให้ดี ๆ”
ฉันนิ่งคิดอยู่เล็กน้อย ก่อนจะสั่นหัวแรง ๆ แล้วบอกเขา
“ไม่รู้ค่ะว่าทำไมถึงคบพี่เก่ง เพียงแต่รู้สึกว่าใช่ค่ะ ต้องเป็นพี่เก่งเท่านั้น รู้แต่ว่าตอนนี้อยู่กับพี่เก่งแล้วมีความสุขและชอบมาก ๆ ค่ะ”
เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและลูบหัวฉันเบา ๆ แบบที่ชอบทำเสมอ พี่เก่งเลื่อนมือมาจนถึงไหล่ของฉันแล้วพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มห้าวของเขา
“พี่ดีใจนะคะ ถ้ากุ๊กไก่มีเหตุผลที่ชอบพี่คงคิดหนัก”
ฉันก็ไม่เข้าใจเขานักหรอกแต่ดูเหมือนเขาจะมีความสุขมากเหลือเกิน
“พี่ไม่ถือที่กุ๊กยังคิดถึงอชิอยู่เหรอคะ”
“ไม่หรอกค่ะ สำหรับพี่แค่ตอนนี้ที่กุ๊กไก่คิดถึงเขาและไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไปก็นับว่าดีแล้ว คนบางคนก็มีเหตุผลของตัวเอง พี่คิดว่าเขาก็คงมีเหตุผลของเขาที่หายไปแบบนั้น”
“ใช่ค่ะ กุ๊กไม่เจ็บปวดเมื่อคิดถึงเขาอีกแล้ว เพียงแต่ค่อนข้างแปลกที่ในใจกลับห่วงเขามากกว่า กุ๊กรู้สึกใจคอไม่ดีที่ผ่านมาอชิหายไปหลายปี ไม่เคยได้ยินข่าวของเขา แต่กุ๊กยังคิดว่าเขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลกนี้ แต่ตอนนี้แปลกนะคะที่กลับรู้สึกเหมือนว่างเปล่าทุกครั้งที่คิดถึงเขา”
ฉันไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้นัก จึงอธิบายได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พี่เก่งดึงฉันไปกอด เขานั่งอยู่บนโซฟาข้าง ๆ ฉัน และตอนนี้ฉันก็กำลังนั่งตักของเขาแล้ว ก้นของฉันสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของท่อนขาแข็งแรง เขาเชยคางของฉันขึ้น
“กุ๊กไก่คะ”
เสียงเรียกของเขาอ่อนหวานเหลือเกิน อ่อนหวานจนฉันต้องเงยหน้ามองเขา
“คะ”
“พี่เจ็บหัวใจจังเลย”
ฉันตกใจคิดว่าเขาเป็นอะไร ใบหน้าของเขาในตอนนี้เหมือนจะเจ็บปวดมาก เพราะแบบนี้ทำให้ฉันเป็นห่วงมาก มือของฉันสัมผัสที่อกข้างซ้ายของเขาแล้วลูบเบา ๆ
“ตรงนี้เหรอคะ ให้หมอตรวจสักหน่อยดีหรือเปล่าคะไปโรงพยาบาลกันค่ะ”
“หมออยู่ตรงนี้แล้วค่ะ ไม่ต้องไปไหนแล้ว”
และแล้วฉันก็รู้ตัวว่าถูกเขาแกล้งเสียแล้ว ฉันมองเขาและฟาดมือลงไปที่อกข้างซ้ายนั่นอย่างรวดเร็ว เพราะฉันห่วงเขาจริง ๆ แต่เขากลับมาล้อเล่นแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกโกรธเล็ก ๆ
“พี่เก่งอย่าล้อเล่นสิคะ กุ๊กตกใจจริง ๆ นะคะ”
เขายิ้มน้อย ๆ มือของเขาเลื่อนมือมาตรึงท้ายทอยของเธอเอาไว้แล้วเลื่อนใบหน้าเข้ามาช้า ๆ ริมฝีปากค่อนข้างหนาตามแบบฉบับของผู้ชายเกือบจะแตะเข้าที่ริมฝีปากของฉันแล้ว หัวใจฉันเต้นแรงแทบจะหลุดออกมาราวกับสาวน้อยอายุสิบห้าคนหนึ่ง
“มองแค่พี่ได้หรือเปล่าคะ จะคิดถึงใครก็ได้พี่ไม่ว่าแต่ต่อไปสายตาของกุ๊กไก่ พี่อนุญาตให้มองแค่พี่คนเดียวเท่านั้น”
เสียงของฉันขาดหายไปแล้วเมื่อริมฝีปากของเขาแตะลงมาสัมผัสฉัน ร่างกายของฉันกำลังจะละลาย เสียงทุ้มนุ่มของเขาวนเวียนอยู่ในหัว และนิ้วที่ตรึงท้ายทอยของฉันอยู่กำลังคลึงต้นคอของฉันช้า ๆ
เขาจูบฉันคล้ายกับจะอ้อนวอนและทะนุถนอมราวกับว่าริมฝีปากของฉันคือกลีบดอกไม้ที่หากลงมือรุนแรงจะบอบช้ำได้ ลิ้นของเขานั้นอ่อนนุ่มและเรียกร้องให้ฉันอ้าปากออกเพื่อต้อนรับความรักของเขา
ฉันหอบหายใจเล็กน้อย เป็นครั้งแรกที่สัมผัสอ่อนหวานทำให้ฉันหัวใจเต้นระรัวได้แบบนี้ ฉันเผยอปากให้เขาอย่างเต็มใจและแลบลิ้นออกมาสัมผัสกับปลายลิ้นของเขาเป็นการหยั่งเชิง
ราวกับว่าสิ่งที่ฉันทำ จะทำให้เขาต้องการจูบของฉันมากยิ่งขึ้น ที่ฉันทำนั้นยังน้อยไปใช่หรือเปล่า ฉันจึงเกี่ยวลิ้นกับลิ้นหนานุ่มของเขา จูบของพี่เก่งอ่อนหวานฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังสัมผัสฟองนมที่โปะอยู่บนช็อกโกแลตร้อนที่นุ่มนวลและอ่อนหวาน
พี่เก่งดึงฉันให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากที่บดลงมาคราวนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังกินช็อกโกแลตร้อนที่เข้มข้นทั้งอร่อยและให้ความเพลิดเพลินจนฉันลืมตัว แต่น่าแปลกประหลาดที่จูบของเขาในตอนนี้กลับคล้ายกำลังดูดเอาเรี่ยวแรงแห่งชีวิตของฉันออกจากร่างกายช้า ๆ
ฉันผู้ที่เคยคิดว่าตัวเองชำนาญในเรื่องนี้และที่ผ่านมาเก่งกล้าสามารถเป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่ากำลังถูกเขาทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนเป็นไก่อ่อนที่เพิ่งจะก้าวออกจากอกของแม่ไก่
ทั้งอ่อนแรงและกำลังจะพยุงตัวไม่ไหวจนต้องปล่อยตัวของตัวเองให้อยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนี้
เขากำลังทำให้ฉันคลั่งรักและรู้สึกว่าตัวเขาเองก็คลั่งฉันเหลือเกิน อารมณ์รักของเขากำลังระเบิดออกมาส่วนฉันที่ถูกทำให้กลายเป็นแป้งเปียกกำลังกำเสื้อบริเวณหัวใจของเขาเอาไว้ และสิ่งที่ฉันสัมผัสได้ในตอนนี้คือหัวใจของเขาที่เต้นแรงไม่ต่างจากหัวใจของฉันเลยสักนิด
ฉันอยากให้เขาปล่อยฉันก่อนที่ฉันจะตายเพราะจูบของเขา ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบแต่กลัวจะขายหน้ามากกว่า แต่อย่างที่บอกว่าฉันไม่มีแรงเลยสักนิด
ฝ่ามือของเขาที่กำลังนวดคลึงท้ายทอยกำลังเลื่อนมากุมแก้มของฉันแล้วใช้เขาก็ใช้หัวแม่มือคลึงริมฝีปากของฉันเบา ๆ เขาจูบที่มุมปากของฉันอย่างอ่อนโยน ดูดดื่มริมฝีปากของฉันช้า ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ฉันสัมผัสได้ถึงส่วนที่แข็งขึ้นมา เขาเร้าให้ฉันอ่อนแรงแต่กลับไม่ทำตามความต้องการในร่างกายที่เรียกร้องของตัวเองในทันที ฉันสอดมือเข้าไปในเสื้อของเขาแล้วค่อย ๆ แกะกระดุมของเขาออกมา ฉันล้วงมือเข้าไปข้างใน สัมผัสกับกล้ามเนื้อแข็งที่อยู่ด้านใน
เขาคลึงปากของฉันด้วยปากของเขาแล้วกระซิบเบา ๆ
“ถูกพี่จูบแบบนี้มีความสุขหรือเปล่าคะ”
คำพูดตรงไปตรงมาของพี่เก่งฉันอมยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าของฉันเห่อร้อนและยอมรับว่าการที่ถูกเขาจ้องด้วยสายตาแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเขินเป็นอย่างยิ่ง นิ้วของเขายังคงไล้ตามริมฝีปากของฉันอย่างแผ่วเบา
“มีความสุขค่ะ”
ฉันยอมรับว่าตอนนี้ฉันเองก็ต้องการเขาจนริมฝีปากสั่นระริก และเขาทำให้ฉันลืมอชิได้ทั้งยังมองเพียงเขาคนเดียว อย่างน้อยก็ในตอนนี้
“แล้วจะมองพี่แค่คนเดียวได้หรือเปล่าคะ ถ้าตอบว่าไม่ได้พี่จะจูบจนกว่ากุ๊กไก่จะยอมพี่”
คราวนี้ฉันหัวเราะออกมา
“แบบนี้ก็แย่สิคะ ปากอาจจะเปื่อยได้กุ๊กไม่อยากไปหาหมอเพราะเรื่องนี้นะคะ มันน่าอาย”
“ก็ใครใช้ให้กุ๊กไม่ยอมมองพี่ละคะ”
พี่เก่งทำเสียงเล็กเสียงน้อยและมันดูน่ารักมากในสายตาของฉัน พี่เก่งลูบปอยผมออกจากใบหน้าของฉัน เขาจูบที่แก้มเบา ๆ แล้วพูดต่อ
“ปากยังไม่บวมเลยนี่คะ ยังจูบได้อีกมาก”
ฉันดันหน้าเขาเอาไว้เมื่อเขาจะก้มลงมาจูบฉันอีก เพราะกลัวว่าตัวเองจะอดทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ถึงยังไม่บวมตอนนี้แต่ไม่นานก็บวมแล้วค่ะ พี่จะจูบจนกว่ากุ๊กไก่จะตกลง”
ฉันลูบหน้าของเขาด้วยความรู้สึกที่อ่อนหวาน
“แล้วถ้าบอกว่าตกลงละคะ ต่อไปกุ๊กจะปล่อยวางอชิแล้วมองแค่พี่คนเดียวในฐานะผู้ชายของกุ๊ก พี่เก่งจะหยุดจูบหรือเปล่าคะ”
ดวงตาของพี่เก่งเป็นประกาย ฉันไม่รู้ว่าเขากำลังดีใจมากน้อยขนาดไหน แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเขาก้มลงมาจูบฉันซ้ำ ๆ ไปทั่วหน้า
“พี่ไม่หยุดจูบค่ะ และจะทำมากกว่านี้อีก กุ๊กของพี่ กุ๊กไก่คนดีของพี่คนเดียวเท่านั้น พี่รักกุ๊กนะคะ”
พี่เก่งยิ้มหล่อเหลา คราวนี้เขาก้มลงจูบฉันอย่างดุดันและฉันเองก็ตอบโต้เขาอย่างเท่าเทียมกัน อารมณ์ของเราสองคนต่างเตลิดจนไม่สามารถจะหยุดได้อีกต่อไป มือของพี่เก่งเลื่อนลงมากำเต้านมของฉัน เขาบีบคลึงอย่างแรงและครางแผ่ว เขาแกะกระดุมเสื้อของฉันอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งกริ่งประตูดังขึ้น
เขาขยำหน้าอกของฉันแรง ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ไม่เคนก็คงเป็นสมชายมาได้จังหวะจริง ๆ พี่ไม่เปิดให้พวกมันได้ปะคะ”
ฉันหัวเราะและจูบที่มุมปากของเขา
“พี่อย่าทำบ้า ๆ สิคะ ข้างนอกนั่นก็มีเพื่อนกุ๊กอยู่ด้วยนะคะ เรื่องของเรายังมีเวลาอีกมากค่ะ”