หลังจากถูกเก่งขอแต่งงานอย่างเป็นทางการแล้วกุ๊กไก่ก็ได้รับเชิญมาในฐานะแฟนของเก่งในการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้ขององค์กรเพื่อสิทธิเด็ก และบริษัทของพ่อแม่เก่งยังเป็นผู้บริจาครายใหญ่ของงานนี้อีกด้วย
เธอมาร่วมงานพร้อมกับพี่สาวของเก่งทั้งสองคนที่เป็นตัวแทนของบริษัท ในขณะที่เก่งติดงานจะตามมารับเธอหลังจากเสร็จธุระ กุ๊กไก่มองขึ้นไปบนเวทีที่มีครอบครัวของเก่งยืนอยู่กันพร้อมหน้า ทั้งพี่สาวทั้งสองคนของเขาและสามีของพวกเธอ
หลังจากประธานในงานกล่าวเปิดงานและมอบของที่ระลึกให้กับผู้บริจากแล้ว ดนตรีในงานก็เริ่มบรรเลง กุ๊กไก่อยู่ในชุดเดรสสีขาวสุภาพ เธอแต่งหน้าบาง ๆ และใส่รองเท้าส้นสูง ดูสวยสง่าจนดึงสายตาของผู้ชายในงานหลายคนให้จ้องมองมาที่เธอ
แต่เพราะบอดี้การ์ดที่เก่งให้ตามเธอห่าง ๆ ยืนอยู่ข้าง ๆ จึงไม่มีใครกล้าเข้ามาทักสักคน จนกระทั่งหลายคนได้รู้ว่ากุ๊กไก่คือว่าที่เจ้าสาวของเก่ง ชื่อของเธอจึงถูกพูดถึงในงานอยู่หลายครั้ง
ทั้งในแง่ดีและแง่ไม่ดี กุ๊กไก่วางเฉยกับคำพูดของคนแล้ว เมื่อครอบครัวของเก่งยอมรับเธอโดยไม่มีข้อแม้ เธอเองก็ไม่สนใจใครเช่นกัน
ครอบครัวนี้นับวันยิ่งใจบุญมากขึ้น นั่นเป็นเพราะหลังจากอชิตายด้วยมะเร็ง และยังทิ้งมูลนิธิเอาไว้ ทำให้เก่งรู้สึกถึงการแบ่งปัน เขาจึงเอาเรื่องนี้ไปคุยกับครอบครัว และหลังจากนั้นครอบครัวของเก่งก็เข้ามาสนับสนุนการกุศลอย่างเต็มตัว
พี่กิ่งกับพี่ก้อยพี่สาวทั้งสองของเก่งหลังจากลงจากเวทีก็เดินเข้ามาทักทายกุ๊กไก่ทันที
“รอเก่งหน่อยนะ ขานั้นเป็นแบบนี้แหละงานเยอะ อึดอัดหรือเปล่า”
กุ๊กไก่ส่ายหน้า
“ไม่อึดอัดเลยค่ะ รู้สึกมีความสุขที่ได้มาร่วมงานนี้ค่ะ”
พี่กิ่งยิ้มสดใส
“ความจริงกุ๊กไก่น่าจะขึ้นเวทีไปกับพวกพี่นะ ในฐานะว่าที่น้องสะใภ้ของพี่”
กุ๊กไก่รีบส่ายหน้า
“อย่าดีกว่าค่ะ ตอนนี้ก็ยังเป็นแค่แฟนนี่คะ”
พี่สาวของเก่งหัวเราะ
“จะอายอะไรล่ะ เขารู้กันหมดแล้วว่าตาเก่งขอเราแต่งงานน่ะ ทำซะเว่อร์เชียวพี่ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าเก่งจะทำอะไรแบบนี้ได้”
กุ๊กไก่ยิ้มเขิน
“กุ๊กก็คิดไม่ถึงค่ะ ว่าพี่เก่งจะเป็นคนโรแมนติกแบบนี้”
สามสาวยืนคุยกันอย่างออกรสชาติ กระทั่งใครคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทาย กุ๊กไก่มองผู้ชายคนนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา เขายังไม่หย่าจากภรรยาและอยู่ในโอวาทเป็นอย่างดี หลังจากมีเรื่องกับเธอและเคลียร์กันจนเรียบร้อย
ที่แท้พี่กิ่งก็เป็นรุ่นพี่ที่สนิทกันกับภรรยาของไฮโซณัฐ และรู้จักกันมานานเพราะอยู่ในแวดวงไฮโซด้วยกัน
“ต๊ายพี่กิ่งคะ ใครขอใครแต่งงานนะคะ อย่าบอกนะว่า”
ผู้หญิงปากมากคนนั้นชี้มาที่กุ๊กไก่ เธอเองก็หน้าเสียเล็กน้อย เรื่องของเธอกับไฮโซณัฐจบลงไปแล้ว แม้จะจบไม่สวยแต่ก็ไม่ควรมีใครมารื้อฟื้น ยิ่งต่อหน้าพี่สาวแท้ ๆ ทั้งสองคนของเก่งเอง
“ทำไมล่ะ นี่ว่าที่น้องสะใภ้พี่กุ๊กไก่รู้จักกันเอาไว้สิ”
พี่กิ่งแนะนำกุ๊กไก่ให้รู้จักกับภรรยาของณัฐด้วยรอยยิ้ม ผู้หญิงคนนั้นส่ายหน้า
“น้องอรไม่อยากจะขุดคุ้ยนะคะ แต่เป็นห่วงพี่กิ่งค่ะจะถูกหลอกเอา”
ว่าแล้วผู้หญิงคนนั้นก็กระซิบกระซาบด้วยคำที่ทำให้กุ๊กไก่ได้ยิน
“ผู้หญิงคนนี้เคยเป็นเมียน้อยของณัฐมาก่อนนะคะ พี่กิ่งอย่าหลงเชื่อนางเด็ดขาด”
กุ๊กไก่กำมือแน่น แทบอยากจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น ในขณะที่พี่กิ่งเองก็มองหน้าเธอด้วยความตกใจ แต่แล้วสิ่งที่กุ๊กไก่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเก่งเดินเข้ามาในงานและได้ฟังคำพูดของผู้หญิงคนนั้นพอดี
“ผมว่าคุณจะใส่ร้ายแฟนของผมมากไปแล้วนะครับ จริงอยู่ที่สองคนเคยคบกันแต่ก็เลิกกันแล้ว และเลิกกันก่อนที่คุณจะแต่งกับคุณณัฐไม่ใช่เหรอครับ จะมาเที่ยวพูดจามั่ว ๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน”
พี่กิ่งยิ้มและเข้าข้างน้องชาย
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ แหมน้องอรคงเข้าใจผิดค่ะ พี่น่ะเชื่อใจน้องชายพี่และเท่าที่พี่รู้จักกุ๊กไก่มา น้องกุ๊กไก่เป็นคนน่ารักนะคะและไม่มีนิสัยแบบนั้นแน่นอน พี่ว่าน้องอรคุมคนของตัวเองให้อยู่เฉย ๆ อย่าหาเรื่องลำบากอีกดีกว่าค่ะ”
“แต่พี่กิ่งคะ อรแค่เป็นห่วง อรหวังดีนะคะ ไม่ได้ใส่ร้ายใคร”
เก่งมองหน้าผู้หญิงคนนั้น ในขณะที่ณัฐเองก็เข็ดหลาบเขาพยายามดึงมือของภรรยาให้หยุดพูด แต่เธอกลับไม่ยอมหยุด
“ความจริงใคร ๆ ก็รู้ไม่ใช่เหรอคะ แม่นี่ขายตัวตั้งแต่ยังเรียนอยู่เลยให้ณัฐ”
ทั้งพี่กิ่งและพี่แก้วยกมือทาบอกด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะกล้าพูดคำนี้ในงานการกุศล โชคดีที่เสียงดนตรียังดังจนคนที่อยู่นอกวงสนทนาไม่ได้ยิน
เก่งยิ้มเย็น
“คุณนี่ท่าจะหูหนวกนะครับ เรื่องมันจบไปแล้วแค่คนที่เคยคบกันและเลิกกันก็ควรจะจบตั้งแต่ตอนนั้น ดูเหมือนฝ่ายคุณทั้งสามีของคุณและตัวคุณยังไม่เลิกอีก ผมชักไม่ชอบใจแล้วสิครับความจริงคืออะไร คุณเองก็รู้ดีนี่ครับ”
ท่าทางของเก่งที่เอาเรื่องทำให้ณัฐดึงแขนภรรยาของเขากลับ
“ไม่เอาน่าอย่ามีเรื่องเลย ผมขอโทษนะครับภรรยาผมดื่มมากไปหน่อย”
แต่เธอไม่ยอมหยุด “ปล่อยฉัน ฉันจะแฉยัยนี่เอง”
เก่งจับมือของกุ๊กไก่เอาไว้ มือของเธอเหมือนจะสั่นและยังกัดริมฝีปากเพื่อระงับสติอารมณ์ กระทั่งเก่งพูดขึ้น
“พี่กิ่งครับ เซ็นสัญญาการใช้ท่าเรือกับบริษัทของพ่อคุณอรไปหรือยังครับ”
พี่กิ่งส่ายหน้า
“ยัง เพิ่งเริ่มคุยกันยังไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ทำไมเหรอเก่ง”
เก่งยิ้มเย็น
“ก็ไม่มีอะไรครับ บังเอิญผมแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานไม่ออก ใครดูถูกแฟนของผม ผมยิ่งไม่ชอบใจ พี่กิ่งไม่ต้องให้เขาใช้ท่าเรือและใช้เรือของเราขนสินค้านะครับ ผมไม่ตกลง”
ณัฐหน้าเสียในขณะที่ภรรยาของเขาแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ไม่ได้นะคะพี่กิ่ง ถ้าทำแบบนี้ทางเราจะทำยังไงคะ ในเวลานี้จะให้เราหาคนอื่นไม่ทันแล้วค่ะ ไหนจะเรือขนสินค้าไหนจะท่าเรือที่จะขึ้นของ”
กิ่งยิ้มบาง ๆ
“ยังไงดีล่ะคะพี่แก้ว”
แก้วเองก็พยักหน้า
“ก็เก่งไม่ชอบ พี่ก็ไม่ชอบ มาดูถูกน้องสะใภ้พี่ได้ยังไง เอาเป็นว่าสัญญาก็อย่าเพิ่งเซ็นเลยไว้ค่อยพิจารณากันทีหลัง”
“ไม่ได้นะคะพี่ก้อย พี่กิ่งน้องอรจะทำยังไงคะ ถ้าคุณพ่อรู้เรื่องนี้น้องอรแย่แน่ค่ะ ช่วยน้องอรสักครั้งนะคะพี่กิ่ง”
ในเมื่อเก่งไม่ตกลง พี่สาวของเขาก็ไม่ใจอ่อนเช่นกัน
“พี่กิ่งว่าน้องอรก็ควรพิจารณาตัวเองนะคะ คำพูดคำจาบางครั้งก็ต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร น้องกุ๊กเป็นว่าที่น้องสะใภ้พี่ น้องอรไม่ควรพูดถึงน้องกุ๊กด้วยคำพูดแบบนี้ และยังเป็นคำที่ใส่ร้ายอีกพี่กิ่งเองก็รับไม่ได้ค่ะ”
“พี่กิ่งคะ น้องอรว่า”
พี่แก้วดึงมือของพี่กิ่งเอาไว้แล้วพูดเสียงดัง
“นั่นท่านประธานมูลนิธิกำลังจะกลับแล้ว เราไปลาท่านกันดีกว่าไปกิ่ง อ้อตาเก่งพากุ๊กไก่กลับบ้านได้แล้วดึกแล้วพี่เป็นห่วง”
ทั่งพี่กิ่งและพี่แก้วไม่สนใจณัฐและภรรยาตัวร้ายของเขาอีกต่อไป ต่างจูงมือกันไปหาผู้ใหญ่ในงานในขณะที่สองคนสามีภรรยานั่นตามไปติด ๆ เพื่อขอโทษ แต่ดูเหมือนว่าพี่สาวของเก่งจะไม่สนใจเลยสักนิด
ว่าแล้วกุ๊กไก่ที่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นก็ถูกเก่งจูงออกมาโดยที่เธอไม่รู้สึกตัว เรื่องมันเกิดเร็วมากจนกุ๊กไก่ตามไม่ทัน เธอเพิ่งตกใจกลัวพี่สาวของเก่งจะเข้าใจผิด แต่สองคนนั่นกระโดดร่วมวงกับเก่งมาปกป้องเธอ กระทั่งเก่งพาเธอออกจากงานเลี้ยงกุ๊กไก่ก็ยังงงอยู่
“เป็นอะไรนิ่งเชียว เสียใจเหรอคะที่ถูกคนว่า โอ๋นะคะไม่ต้องเสียใจพี่จัดการให้แล้วเห็นหรือเปล่าคะ”
เก่งดึงกุ๊กไก่เข้าไปกอดหลังจากพาเธอขึ้นรถเรียบร้อย เขาตบหลังของเธอเบา ๆ แล้วจูบที่ซอกคอหอม ๆ ของเธอ
“เรื่องธุรกิจไม่น่าจะเกี่ยวกันนะคะ ทำแบบนั้นได้เหรอคะ”
เก่งลูบผมของเธอ
“ได้สิคะ มีอะไรไม่ได้ล่ะ เราเป็นเจ้าของท่าเรือย่อมมีสิทธิ์เลือกลูกค้า อีกอย่างตอนนี้ท่าเรือของพี่ก็คิวเต็มแล้วทางนั้นคิดจะขอคิวพิเศษ พี่กิ่งเองก็ลำบากใจอยู่มาก ดีที่ลูกสาวเขาทำเรื่องเอง พี่ไม่โอเคค่ะ ตัดขาดไปเลยก็ได้ไม่ได้กระทบอะไรกับเราอยู่แล้ว”
“พี่เก่งคะ ทั้งพี่กิ่งและพี่แก้วดีกับกุ๊กจนกุ๊กเกรงใจมาก ๆ ค่ะ ยิ่งเหมือนเรื่องจะใหญ่ขึ้นด้วย กุ๊กไม่สบายใจอย่าให้เรื่องนี้กระทบธุรกิจเลยนะคะ”
เก่งยิ้ม
“จะเกรงใจอะไร ครอบครัวพี่ก็คือครอบครัวกุ๊กไก่ ไม่มีใครยอมให้คนอื่นมาดูถูกกุ๊กของพี่เป็นอันขาดเข้าใจหรือเปล่าคะ อย่าคิดมากเลยค่ะ เรื่องนี้จะไม่จบง่าย ๆ จนกว่าฝ่ายนั้นจะมาขอโทษ แต่พี่จะไม่ยุ่งแล้วค่ะปล่อยให้พี่กิ่งกับพี่แก้วจัดการ พี่รอดูดีกว่าว่าพี่สาวของพี่จะทำยังไง”
“เพราะกุ๊กแท้ ๆ เรื่องถึงยุ่ง”
“ไม่ใช่เพราะกุ๊กค่ะ แต่เพราะคนพวกนั้นไม่มีมารยาทเอง คนไม่มีมารยาททำไมเราต้องร่วมธุรกิจด้วยคะ”
“พี่เก่งก็”
กุ๊กไก่พูดไม่ออกแล้ว ครอบครัวของเก่งดีกับเธอมากและไม่เคยสนใจอดีตของเธอเลยแม้แต่น้อย ไม่เคยพูดจาให้เธอน้อยเนื้อต่ำใจมีแต่ความอบอุ่นและความรักที่มอบให้
เพราะเขาโตขึ้นมาในสภาพครอบครัวแบบนี้ เก่งจึงเป็นผู้ชายที่อบอุ่นกับเธอเป็นอย่างยิ่ง กุ๊กไก่โผเข้ากอดเขา ลูบมือไล้มือไปที่หน้าอกของเขา
“พี่เก่งคะ ขอบคุณนะคะที่เข้ามาในชีวิตของกุ๊ก”
เก่งจูบหน้าผากของเธอซ้ำ ๆ
“พี่ก็ขอบคุณกุ๊กไก่ที่ให้โอกาสพี่เหมือนกันค่ะ พี่มันแย่ที่ช้าไปจนเกือบจะเสียกุ๊กไก่ไปแล้ว”
กุ๊กไก่จูบที่ปลายคางของเขา ปลายคางสากสัมผัสกับริมฝีปากนุ่ม ๆ ของเธอทำร่างกายของเก่งเริ่มเร่าร้อน
“อย่าจูบพี่บ่อยเดี๋ยวอดใจไม่ไหว นี่มันรถเก๋งเอากุ๊กไก่ในนี้ไม่ได้นะคะ”
เก่งกระซิบเสียงเบา
กุ๊กไก่ตีเข้าที่แผงอกของเขา
“คนลามก คิดเรื่องนี้ตลอดเวลาเลยหรือเปล่าคะ”
“เปล่านะคะ แค่เห็นหน้ากุ๊กไก่พี่ก็อดคิดถึงตัวหอม ๆ นุ่มนิ่มและเสียงครางของกุ๊กไก่ไม่ได้ค่ะ”
เก่งก้มลงใกล้ใบหูของเธอ แล้วแลบลิ้นเลียเบา ๆ กุ๊กไก่ตีเขาอีกครั้ง คำพูดหวาน ๆ และการกระทำของเขาที่คอยปกป้องเธอ ยิ่งทำให้เธอรักเขามากขึ้นทุกวัน
มือของเก่งโอบรอบร่างเธอและคลึงสะโพกของเธอช้า ๆ หัวใจของกุ๊กไก่เต้นแรง เธอเงยหน้าขึ้นถามเขาเสียงเบา
“พี่เก่งคะ เอาไม่ได้จูบได้หรือเปล่าคะ”
เก่งยิ้มแล้วฉกริมฝีปากลงมาจูบดูดดื่มกับเธอทันใด สองคนต่างแลกลิ้นกันอย่างกระหายปนนุ่มนวล เก่งบดคลึงริมฝีปากของตัวเองกับริมฝีปากของกุ๊กไก่ช้า ๆ ละเลียดชิมรสความหวานและค่อย ๆ ไต่ลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอ
“อื้ม หวานจังเลยกุ๊กไก่คนดีของพี่ พี่รักกุ๊กมากนะคะ”
กุ๊กไก่ตอบรับคำพูดของเขาด้วยการจูบตอบเขาอย่างนุ่มนวลและแสนเนิ่นนาน เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าตัวเองจะได้พบกับความสุขเหมือนคนอื่นเขาเช่นกัน
“ขอบคุณนะคะพี่เก่ง กุ๊กเองก็รักพี่เก่งมากค่ะ”
