กำจัดมันให้พ้นทางคงจะดีสำหรับข้า…
กระบี่เงินในมือซือหยูเปล่งแสงเขาบั่นคอของทูต ดวงวิญญาณและจิตวิญญาณเทพถูกคุกสวรรค์เทพอสูรดูดกลืนไป
ชาเอ๋อเก็บมันไว้ ถ้าทูตจากเมืองอื่นมา เจ้าต้องรับรองพวกเขา หากไม่เป็นมิตรพอ จงเอาสิ่งนั้นให้พวกมันดู
ซือหยูกล่าว
จะไม่มีทูตเพียงคนเดียวมาหาเขาแน่
แล้วเจ้าดินแดนเมฆาอสูรเล่า?เราจะบอกเรื่องนี้หรือไม่?
ชาเอ๋อถาม
ส่งข่าวไปก็พอแล้ว
…
อย่างที่ซือหยูคิดมีทูตอีกสองคนมาหาเขาในสามวันต่อมา เช่นเดียวกับเจ้าดินแดนเมฆาอสูรทูตทั้งสองถูกส่งมาคือว่าที่เทพที่จะมาเจรจาด้วย
ที่ห้องรับรองชาเอ๋อผู้อ่อนเยาว์รับว่าที่เทพทั้งสองราวกับเป็นผู้ใหญ่
เราเป็นตัวแทนเจ้าดินแดนเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาคุยกับพวกข้า? เจ้าเป็นแค่เซียนต่ำต้อย
ข้าเป็นตัวแทนท่านเจ้าเมืองเรามีฐานะเท่ากัน เจ้ามีปัญหาอะไรรึ?
ชาเอ๋อถามกลับ
ตลกสิ้นดี!เจ้าเมืองชมทะเลคิดว่ามันเป็นใครกันแน่? ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่มีสิทธิ์เทียบเท่าเรา! เรียกมันออกมา เรามีเรื่องจะหารือ!
ฮ่าๆๆๆเคยมีทูตมาแบบนี้เช่นเดียวกับเจ้า แต่มันจบไม่สวยเท่าไหร่หรอกนะ
ชาเอ๋อฉีกยิ้มครึ่งหน้า
หยุดพูดเหลวไหลสักทีข้าไม่สนใจทูตคนใด เรามาที่นี่เพื่อพบเจ้าเมืองชมทะเล ข้าให้เวลาเจ้าครึ่งชั่วโมงในการพาตัวมันออกมา!
ก็ได้ตอนที่ข้าไปเรียกเขามา เจ้าชมของขวัญชิ้นนี้ไปก่อนแล้วกัน
ชาเอ๋อลุกขึ้นอย่างสง่างามและวางกล่องหยกที่มีหัวของว่าที่เทพออกมา
อ๊ะ!เจ้าดินแดนอันดับหนึ่งเมืองเมฆาอสูร เฉาหยุนเฟย!
อะไรนะ?นั่นเขารึ! เขา…เขาตายได้ยังไง?
ชาเอ๋อหันมาตอบ
ดูหมิ่นเจ้าเมืองไม่ใช่สิ่งที่มีโทษถึงตายรึ?โอ้ นั่นเป็นฝีมือเจ้าเมืองของเรา! เจ้าดูมันไปในตอนที่ข้าไปหานายท่านเถอะ
นายท่านจะต้องยินดีมากแน่เพราะนายท่านบอกว่าถ้าหากได้เจอทูตหน้าโง่อย่างเฉาหยุนเฟยอีก เขาก็ยินดีที่จะได้พบ!
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง?เฉาหยุนเฟยเป็นคนที่มีพลังเหนือกว่าพวกเขา เขาคืออันดับหนึ่งในเมืองเมฆาอสูร แต่เฉาหยุนเฟยยังตายได้ แล้วพวกเขาล่ะ!
ช้าก่อนแม่นางชาเอ๋อ พวกเราทำใจแล้ว เราจะหารือกับแม่นาง แม่นางไม่ต้องไปเรียกท่านเจ้าเมืองหรอก
ทูตเหลือบมองตาเฉาหยุนเฟยและตัวสั่นอยู่ภายในเฉาหยุนเฟยที่ตายไปแล้วยังเบิกตากว้างอยู่เลย
ชาเอ๋อแสร้งสับสน
หืมเจ้าไม่ได้พูดว่าอยากเจอท่านเจ้าเมืองในครึ่งชั่วโมงหรอกหรือ?
แม่นางชาเอ๋อหูฝาดไปหรือไม่…ฮ่าๆๆๆๆ…
เช่นนั้นก็มาหารือกันเถอะ
…
ในอีกไม่กี่วันก็มีทูตมาอีกหกคนผู้ที่ไม่เป็นมิตรคือพวกที่ได้เห็นหัวของเฉาหยุนเฟย
ทูตบางคนไม่แม้แต่พูดถึงเรื่องพาตัวองค์หญิงเก้าไปพวกเขากลับรีบหนีออกจากตำหนักหลังจากคุยกับชาเอ๋อ
ในขณะเดียวกันข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองอสูรปราดเปรียวก็แพร่กระจายไปถึงหลายเมืองแล้ว
ทุกคนงุนงงกับความสำเร็จของซือหยูที่กำจัดว่าที่เทพขั้นต้นเกือบร้อยคนและว่าที่เทพขั้นกลางอีกสามคนด้วยตัวเอง
จากนั้นมาก็ไม่มีทูตมาหาเขาอีกการหารือเพื่อที่จะเอาตัวองค์หญิงไปนั้นได้จบลงแล้ว
เมืองชมทะเลกลับสู่ความสงบสุขดังเดิมแต่อันตรายที่ไม่มีใครรู้กำลังซ่อนอยู่ภายใน
ในตลาดมีชายวัยกลางคนไร้หนวดและมีรอยดำที่หน้าผากเขาสวมผ้าคลุม แววตาภายใต้ผ้าคลุมดูลึกล้ำ
เขาไม่ต่างกับชายคนใดไม่มีอะไรพิเศษในตัวเขา
เขามองตำหนักเจ้าเมืองจากระยะไกลเขาเก็บงำจิตสังหารเอาไว้ในดวงตา
เขารีบซ่อนจิตสังหารและเดินในตลาดต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นซึ่งเขากำลังเข้าใกล้ตำหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ
เทพตำรามีความภูมิใจที่เป็นผู้รอบรู้ทุกสิ่งบนโลกเขาได้ต่อสู้ประมือกับซือหยูมาหลายครั้ง แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าซือหยูฉลาดกว่าอย่างเหลือร้าย
อุบายของซือหยูรอบคอบพิถีพิถันมีกับดักในทุกย่างก้าว
เทพตำราที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบหลายครั้งไม่คิดถึงกลอุบายอีกแล้ว
เขาไม่แม้เแต่ห้ามตัวเองให้บุกไปหาซือหยูหลังจากรอมาเนิ่นนาน!
ขณะเดียวกันที่ตำหนัก…
ซือหยูกำลองรออยู่ไม่ใช่เทพตำราที่จะมาในท้ายสุด แต่เป็นเทพอื่นที่ซือหยูไม่คิดว่าจะมา
ในห้องรับรองซือหยูรับแขกด้วยตัวเอง
ผู้มาเยือนคือชายแก่ผมขาว
จากสัญชาตญาณซือหยูสัมผัสได้ว่าชายแก่นั้นอ่อนแออย่างที่เทพกระเรียนเคยเป็นในอดีต
เทพมีวันสิ้นสุดอายุขัยเช่นกันจิตวิญญาณเทพที่อ่อนแอลงคือสัญญาณว่าเทพกำลังจะตายจากความแก่เฒ่า
เทพอย่างเขาที่กำลังจะตายในอีกไม่นานตัดสินใจมาหาซือหยู
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นหนึ่งในเก้าเทพแห่งเมืองชมทะเล เขาคือเทพอสูรเนตรม่วง เขาอยู่ในอันดับที่เก้า เป็นเทพที่อ่อนแอที่สุดในหมู่เทพด้วยกัน
ซือหยูมิอาจเมินเขาคนนี้เพราะอย่างไรเขาก็เดินทางมาหาด้วยตัวเอง
เทพอสูรเนตรม่วงท่านมาที่นี่เพื่อหาที่พักอย่างนั้นหรือ?
ซือหยูแปลกใจเล็กน้อยตั้งแต่ที่มา เทพอสูรเนตรม่วงก็นั่งหลับตาอย่างเงียบงันมาโดยตลอด
เทพอสูรเนตรม่วงลืมตาแทนคำตอบ เนตรสีม่วงของเขาพบเห็นได้ยากมันดูยิ่งใหญ่และลึกลับ
เมื่อได้สบตาซือหยูใจสั่นเล็กน้อย เขาถึงกับคิดว่าชายแก่จะมองทะลุทะลวงเขา
ฮ่าๆๆๆ…
เสียงหัวเราะของเทพอสูรเนตรม่วงแหบพร่าโรยแรง
เสียงของเขาเปราะบางพร้อมจะแตกหักมันเป็นเอกลักษณ์พิเศษของเทพที่ใกล้หมดลมหายใจ
เป็นเรื่องดีที่จะมาพบคนแทนที่จะฟังจากปากคนอื่นไม่แปลกใจเลยที่เจ้าคือผู้ที่ช่วยเทพจากยักษ์ทะเลขมมาได้ เจ้ามีพลังกฎสวรรค์ทั้งกาลเวลาและมิติ
คำพูดของอสูรเนตรม่วงทำให้ซือหยูตกตะลึง
เขารู้ได้อย่างไรว่าซือหยูมีพลังเวลาและมิติในการมองครั้งเดียวเขาถึงกับรู้ด้วยว่าซือหยูช่วยชีวิตเทพไม้ออกมาจากปากของยักษ์ทะเลขม!
เทพอสูรเนตรม่วงไม่ได้อยู่ที่นั่นในครั้งนั้นเขารู้ได้ยังไง?
ซือหยูหรี่ตาจิตสังหารแผ่ออกมาช้า ๆ
ฮ่าๆๆอย่ารีบร้อนไปเลย กับดักที่เจ้าวางไว้เตรียมไว้สำหรับเทพอื่น หากเจ้าใช้มันตอนนี้ มันจะได้ผลน้อยกว่าที่เจ้าคิด
เทพอสูรเนตรม่วงยิ้ม
ซือหยูเบิกตากว้างเขาถึงกับรู้เรื่องนี้ด้วย!!
ซือหยูจับตามองการมาของเทพตำราอยู่ตลอดเวลาแต่ชายแก่ผู้นี้กลับมองแผนของเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
ตาเฒ่าเจ้ารู้มากเกินไป
เทพอสูรเนตรม่วงหัวเราะเบาๆ
เทพอื่นก็พูดเช่นนี้แต่ไม่มีใครเชื่อใจข้าเว้นแต่องค์หญิงเก้า
อืมเพราะนางมันโง่ ซือหยูกล่าวหลายคนไม่อยากจะให้คนที่รู้ความลับของตัวเองอยู่ใกล้ตัว ไม่ต้องพูดถึงการเชื่อใจ
แต่เจ้าหมาผู้ไร้เดียงสานั้นเป็นคนเดียวที่เสนอที่พักพิงแก่อสูรเทพชราและยังแต่งตั้งให้เป็นเจ้าดินแดนอีกด้วย
หึหึ…
เทพอสูรเนตรม่วงเหลือบมองเจ้าหมาที่นอนหงายท้องหน้าเท้าซือหยูเขาเห็นร่องรอยผนึกบนตัวเจ้าหมา แต่เขาก็ไม่สนใจมันนัก
เจ้ามาเพื่อเอาตัวองค์หญิงเก้าไปสินะ?
เทพอสูรเนตรม่วงส่ายหน้า
ข้าแก่เต็มทีแล้วข้าไม่มีความกล้าอย่างคนหนุ่มหรอก
ใครก็ตามที่มีองค์หญิงในมือจะตกเป็นเป้าหมายของทุกคนนี่เป็นสิ่งที่ทุกคนเชื่อใจแดนจิงหยู
โอ้?เช่นนั้นเจ้าก็มาหาเด็กอย่างข้าเพื่อพูดคุยแก้เหงาสินะ?
ซือหยูถามโดยไม่สนใจนัก
ถูกแล้ว
คำสอบของอสูรเนตรม่วงทำให้ซือหยูสำลัก
ข้ามาหาเจ้าเพื่อพูดถึงเรื่องชีวิต…
เทพอสูรเนตรม่วงเศร้าหมองและดูจริงจัง
ซือหยูแอบตกใจ
แต่คนแก่อย่างข้าไม่มีเรื่องชีวิตให้พูดถึงข้าอยากจะพูดถึงเรื่องลูกหลานของข้า
เทพอสูรเนตรม่วงบอกเขาเบาๆ
ซือหยูฟังอย่างอดทนเทพที่มาหาเขาด้วยตัวเองนั้นจะต้องอยากได้อะไรบางอย่าง
ทายาทข้าสืบทอดฎีกาสวรรค์ไปกำลังจะได้ครองตำแหน่งเทพ เมื่อข้าตาย ตำแหน่งเทพของข้าจะถูกสืบทอดไปยังทายาทตามปกติ
เทพอสูรเนตรม่วงกล่าว หากทุกอย่างเป็นไปตามปกติทายาทข้าจะได้กลายเป็นเจ้าดินแดนหลังข้าตาย แต่หลังจากการมาถึงโลกอสูรของเจ้า ไม่มีอะไรปกติอีกแล้ว
อย่างที่คิดเขากำลังจับตาดูซือหยู
พายักษ์ทะเลขมมาที่เมืองชมทะเลทำให้องค์หญิงเก้าบาดเจ็บสาหัส องค์หญิงหกร้อนรน…เทพทุกคนในแดนจิงหยูมีจุดมุ่งหมายซ่อนเร้น!
ที่นี่เคยเป็นแดนแห่งสันติสุขแต่เกิดเรื่องน่าหนักใจนับไม่ถ้วนตั้งแต่เจ้าเข้ามา ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเจ้าเองคือรากเหง้าแห่งความวุ่นวาย
เทพอสูรเนตรม่วงมองซือหยู
รากเหง้าแห่งความวุ่นวายหรือ?ซือหยูคิดตาม ความวุ่นวายต่าง ๆ เกิดขึ้นไม่ว่าซือหยูจะไปที่ใด
ไม่ว่าเขาจะไปที่เฉินหลงจิวโจว หรือจักรวาล ทุกแห่งมักจะมีลางร้ายและพิรุณโลหิตตามมาเสมอ
ตั้งแต่ยอดฝีมือจนถึงเทพผู้คนมากมายแตกดับสิ้นไปตามทาง
เทพอสูรเนตรม่วงเตือนซือหยูว่าชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความโกลาหล!
เมื่อซือหยูมาถึงพันธมิตรบูรพาเขาทำให้เทพนับร้อยต้องต่อสู้ เขาล้างบางพวกที่อยู่ฝ่ายอสูร เขาเป็นผู้นำความสะพรึงกลัว แม้แต่สวรรค์ยังร่ำไห้เป็นโลหิต
ในโลกเสี้ยววิญญาณเทพทุกคนตายหมด โลกแปดใบดับสูญ โลกเสี้ยววิญญาณไม่เหลืออยู่อีกแล้ว
พอมาถึงโลกอสูรเขาทำให้ยักษ์ทะเลขมขึ้นฝั่งก่อนที่สุดท้ายมันจะทำลายแดนจิงหยู
มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ซือหยูไม่จงใจสร้างหากเขาตั้งใจ ครึ่งโลกอสูรคงจะตกอยู่ในความวิปโยค
ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ไม่ได้มาเพื่อกำจัดรากเหง้าแห่งความวุ่นวายอย่างข้าใช่ไหม? ซือหยูสุขุมเยือกเย็นหากเทพอสูรเนตรม่วงต้องการสังหารเขา เขาคงจะทำไปแล้ว
อสูรเนตรม่วงหัวเราะ
แน่นอนว่าไม่!สังหารเจ้าจะไม่ได้สิ่งใดเลย และข้าก็ฆ่าเจ้าไม่ได้เพราะกับดักที่เจ้าสร้างขึ้นมา
หืม?แล้วเจ้าต้องการอะไร?
เทพอสูรเนตรม่วงยิ้ม
ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่รึ?ข้ามาพูดถึงเรื่องทายาทของข้า! ข้าอยากจะให้เจ้าได้ดูแลทายาทของข้า
คำพูดของเขาอุกอาจหากเขามองความลับของซือหยูออกหลายเรื่องเช่นนี้ เขาน่าจะรู้แล้วว่าซือหยูเป็นใครเหนือจักรวาลแห่งนี้ เขาจะส่งลูกหลานตัวเองมาให้ซือหยูทำไมกัน?
ข้าไม่เคยชอบทำอะไรให้มีปัญหา…
ซือหยูปฏิเสธโดยไม่ลังเล
ทายาทข้าสืบทอดวิถีเทพของข้าสามารถมองทุกอย่างบนโลกได้ นั่นยิ่งเป็นเหตุผลที่จะไม่เก็บมันเอาไว้ข้าดูเหมือนคนที่ชอบให้ใครรู้ความลับงั้นเรอะ?
เจ้าไม่ใช่!แต่เราตกลงกันได้ว่าทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเจ้าจะไม่ถูกมองออก
นั่นมันยุ่งยากเกินไป
ฮ่าๆๆๆเช่นนั้นข้าจะสนับสนุนเจ้าไม่ว่าเจ้าจะวางแผนทำสิ่งใด การจัดการเทพอื่นอีกแปดคนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แม้แต่แผนของเจ้าในโลกอสูรก็ตาม
ซือหยูเลิกคิ้วจ้องมองเทพอสูรเนตรม่วงเขาพูดอย่างใจเย็น
เนตรเจ้าน่ากลัวจริงๆ แต่มันคงจะดีถ้าหากใช้ความน่ากลัวนั้นกับศัตรู!
ซือหยูยินดีมาก
ทั้งสองตกลงกัน
ซือหยูจะช่วยเขาดูแลทายาทเทพอสูรเนตรม่วงจะช่วยซือหยูในขณะที่ยังมีชีวิต
ในเวลานี้ซือหยูมีศัตรูทั่วทุกมุมโลก เขากำลังต้องการเทพที่เชื่อใจได้
เทพอสูรเนตรม่วงคือพันธมิตรในอุดมคติ!
แต่ซือหยูยังคงมีข้อกังขาในใจ