นครแห่งบาป City of Sin – ตอนที่ 60 การจากลา

นครแห่งบาป City of Sin

หลังจากการแข่งขันจบลง สิ่งต่าง ๆ ก็กลับสู่ภาวะปกติในวันรุ่งขึ้น ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป เพราะวันนี้เป็นวันที่ริชาร์ดจะต้องกล่าวอำลาเม้าเทนซี

ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานางได้สร้างความประทับใจให้กับเขาอย่างมาก เมื่อถึงวันที่จะต้องอำลา เขาก็เลือกที่จะเดินทางไปส่งนางที่เชิงเขาเอฟเวอร์วินเทอร์ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ชาวรูสแลนด์มักทำอยู่เป็นประจำ

เมื่อถึงทางแยกสำหรับมุ่งหน้าไปทิศตะวันออกจู่ ๆ เม้าเทนซีก็หยุดเดินในขณะที่สตีลร็อคและคนอื่น ๆ ที่เหลือยังคงเคลื่อนตัวไปด้านหน้า พวกเขาทิ้งระยะห่างเกือบ 100 เมตรเพื่อให้ทั้งสองได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว

“ข้าต้องไปแล้ว เจ้าอย่าคิดถึงข้าให้มากนักล่ะ” ในที่สุดนางก็พูดออกมาหลังจากที่เงียบมาตลอดการเดินทาง

“ไม่ต้องกังวล ข้าควบคุมตัวเองได้เสมอ” ริชาร์ดเอ่ย บทสนทนาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอึดอัด อาจเป็นเพราะช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมามันยาวนานมากจนทำให้ยากเกินกว่าจะกล่าวคำอำลาได้ง่าย ๆ

“ทำไมเจ้าถึงไม่ไปกับข้า ทำไมถึงไม่อยากเป็นผู้ชายของข้า ? พวกเราอยู่ด้วยกันมาเกือบจะ 3 เดือนแล้วนะ เพียงแค่ปีเดียวข้าก็สามารถตัดสินใจได้แล้ว ไม่ต้องกังวลหรอก ข้ารู้สึกได้ว่าข้าจะไม่โยนเจ้าทิ้งทะเลเมื่อถึงเวลานั้นจริง ๆ” เม้าเทนซีพยายามพูดชักจูงเขาอีกครั้ง

“ไม่ได้ !” ริชาร์ดปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นเหมือนทุกครั้งที่เขาทำ ตั้งแต่ที่นางย้ายเข้ามาอยู่กับเขา นางเอ่ยถามถึงเรื่องนี้กับเขาก็หลายครั้งแต่เขาก็เลือกที่จะตอบปฏิเสธทุกครั้งโดยไม่คิดไตร่ตรองหรือลังเลแม้แต่น้อย เพราะเขาเชื่อว่าตัวเขาเองคิดดีแล้ว เม้าเทนซีขมวดคิ้วกับสิ่งที่นางได้รับหลังจากที่ยอมเสียเงินเพื่อเล่าเรียนที่นี่ให้ชารอนไปกว่า 10,000,000 เหรียญ

“ริชาร์ด… เจ้าจะทำยังไงหากข้าลากเจ้ากลับไปพร้อมข้าตอนนี้เลย ?” นางถาม ทันใดนั้นความเงียบก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เขาตระหนักขึ้นมาทันทีว่าแม้ในตอนนี้เขาจะสามารถสร้างรูนได้ ทว่าความสามารถของเขาก็ยังไม่เพียงพอที่จะต่อต้านนางได้ อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้จึงทำให้นางได้รับ ‘ของขวัญ’ จากเขาในทุก ๆ วัน

ในที่สุดเขาก็ฝืนหัวเราะ “ฮ่า ๆ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดว่าข้าเหมาะสมกับเจ้า แต่เจ้ายังสามารถหาคนที่เหมาะสมกับเจ้าได้มากกว่าข้า”

เม้าเทนซีส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ถึงจะมี ข้าก็ไม่สนใจหรอก ไปกับข้า ! พลังโทเท็มศักดิ์สิทธิ์ของพวกข้ายอดเยี่ยมกว่ารูนเวทมนตร์ของเจ้าอีก เจ้าสามารถเรียนรู้มันได้ตลอดชีวิต !”

ริชาร์ดหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขายังคงยืนยันคำตอบเดิมและส่ายหน้าปฏิเสธนางเหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา “ข้าไม่สามารถไปกับเจ้าได้ ตอนนี้มีเรื่องอื่นที่ข้าสนใจและอยากจะทำ เจ้าอาจจะสามารถใช้กำลังเพื่อพาข้าไปได้ แต่เจ้าจะไม่มีทางได้รับความยินยอมจากข้า”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เม้าเทนซีก็เงียบไป นางจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่งซึ่งเขาก็จ้องมองกลับไป และเมื่อเขาเห็นสีหน้าของนาง เขาก็ตระหนักได้ว่านางดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดสักเท่าไหร่นัก

หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง นางก็ยกมือขึ้นแกะงาช้างที่มัดผมหางม้าของนางออกมาแล้ววางมันลงบนฝ่ามือของเขา งาชิ้นนั้นมีขนาดใหญ่และมีรูตรงกลาง รูปทรงของมันดูคล้ายจะมีลักษณะเช่นเดียวกับนกหวีด

“ข้าให้เจ้า เก็บมันไว้กับตัวเจ้าตลอดเวลา อย่าให้หายล่ะ”

ริชาร์ดก้มลงมองงาขนาดใหญ่ที่นางมอบให้ เขาหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนสวมมันไว้ที่ข้อมือซ้ายของเขา เมื่อเห็นเช่นนั้น นางก็ยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าผู้ชายนัวแลนด์ต่างก็ต้องการที่จะแข็งแกร่งกว่าภรรยาของพวกเขา หากเจ้าต้องการจะครอบครองข้าตามธรรมเนียมนัวแลนด์ ข้า… ข้าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ข้าจะรอวันที่เจ้ายินยอมที่จะมาเป็นคู่ครองของข้าก็แล้วกันแต่เจ้าจงจำไว้ หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เจ้าเพียงแค่เป่าสิ่ง ๆ นี้ ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ใด หากเจ้าได้รับอันตรายในภายภาคหน้า ข้าจะกลับมาปกป้องเจ้าเอง และหากเจ้าตัดสินใจมาเป็นผู้ชายของข้า เจ้าก็เพียงแค่เป่านกหวีดนี้ เมื่อใดที่เจ้าตัดสินใจก้าวเข้ามาสู่ทวีปแคลนเดอร์ ข้าจะออกมาต่อสู้กับเจ้า”

หลังจากฟังในสิ่งที่นางกล่าวออกมา เขาก็หมดคำพูดในทันที สิ่งเดียวในตอนนี้ที่เขารู้สึกคือความร้อนของงาซึ่งเป็นเหมือนดั่งเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผาจนทำให้เขาแทบจะหายใจไม่ออก

เม้าเทนซีเผยรอยยิ้มที่สว่างไสวราวกับแสงอาทิตย์ นางหัวเราะและพูดขึ้นอีกครั้ง “แต่หากเจ้าพ่ายแพ้ให้กับข้า ข้าจะโยนเจ้าทิ้งลงทะเล !”

สิ้นคำพูดนั้น นางก็หัวเราะลั่น ส่วนเขายังคงทำหน้าตาขึงขังแม้ว่าบรรยากาศในตอนนี้จะผ่อนคลายลงแล้วก็ตาม

“เอาล่ะ ถึงเวลาได้รับของขวัญแล้ว !” หญิงสาวพุ่งเข้ามาหาริชาร์ดอย่างรวดเร็วจนเขาทำอะไรไม่ถูก ทว่าเขาเลือกที่จะไม่ต่อต้านหรือขัดขืนนาง

แต่ในครั้งนี้นางกลับไม่ได้ ‘จูบ’ เขาเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่ผ่านมา นางเลือกที่จะกอดเขาไว้แน่น ๆ แทนเพื่อเป็นการอำลาครั้งสุดท้าย

“ข้าไปล่ะ !” นางกล่าวลาก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไปเพื่อขึ้นรถม้าที่จอดรออยู่ด้านหน้า รอยเท้าของนางเต็มไปด้วยความหนักแน่น แต่ละก้าวที่นางเดินนั้นดูเหมือนยักษ์ใหญ่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านด้วยความกลัว ในเวลานี้สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการโบกมือลา แม้ว่านางจะไม่ได้หันกลับมามองก็ตามแต่มือขวาของนางก็ถูกยกขึ้นเพื่อโบกลาเขาเช่นกัน เงาของนางค่อย ๆ ยืดเข้าหาเขาเพราะองศาของแสงอาทิตย์ราวกับว่านางยังไม่ได้หายไปไหน…

ในวันต่อมา พระอาทิตย์ส่องแสงเหนืออ่าวโฟลตามปกติ ดวงจันทร์เสี้ยวสีน้ำเงินมองเห็นได้จาง ๆ บนขอบฟ้า ลมที่พัดผ่านเริ่มหนาวเหน็บอีกครั้งและเศษน้ำแข็งก็เริ่มลอยอยู่บนผิวน้ำทะเล วันนี้มีเรือเข้าและออกจากท่าเรือน้อยกว่าทุก ๆ วันที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะเรือไม่สามารถทนต่อผลกระทบจากภูเขาน้ำแข็งได้จึงทำให้เรือจำนวนมากไม่ได้เข้ามาเทียบท่าเหมือนที่ควรจะเป็น แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น การค้าขายก็ไม่ได้ต่างไปจากทุกวันเท่าไหร่นัก และดูเหมือนว่าตั้งแต่มีเทศกาลกลางฤดูร้อน เรือที่สามารถผ่านน้ำแข็งมาได้จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก

เมื่อฤดูหนาวมาเยือน ในที่สุดเขาก็สามารถสร้างรูนเสร็จสมบูรณ์ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต มันเป็นรูนที่สร้างขึ้นจาก[รูนอจิลิตี้ขั้นพื้นฐาน] ซึ่งเคยเป็นสิ่งแรกที่เขาคิดค้นขึ้น จากการเลือกสรรวัสดุไปจนถึงการสร้างส่วนประกอบต่าง ๆ เพื่อใช้งาน ทุกขั้นตอนในการสร้างช่องรูนนี้เขาทำมันขึ้นมาเพียงคนเดียวโดยที่เขาไม่เคยขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเลย รูนมาสเตอร์ทั่วไปมักจะใช้วัสดุสำเร็จรูปเพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการสร้าง ทว่าสำหรับเขาแล้ว เขาเลือกที่จะทำมันตั้งแต่เริ่มต้น หรือเรียกได้ว่าเริ่มทำตั้งแต่ตัดชิ้นส่วนของหนังเลยทีเดียว

โดยทั่วไปแล้วการที่เขาจะสร้างรูน เขาจะต้องใช้เวลา 2 อาทิตย์เต็ม ๆ และกระบวนการทั้งหมดต่างก็ถูกบันทึกไว้ในใจของเขา เมื่อทำทุกขั้นตอนได้สำเร็จ เขาก็จะสามารถเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับรูนที่เขาสร้างขึ้นได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องกลับไปทบทวนอีก

รูนอันนี้มีคุณภาพสูง มันสามารถเพิ่มความว่องไวได้ถึง 41% และในครั้งนี้วงเวทย์ก็มีความมั่นคงและขยายช่วงการใช้งานได้มาก หากมันถูกใส่ลงบนร่างของม้าศึกอีกครั้ง ม้าที่เขาใช้ก็จะไม่ตายเพราะขาดพลังงานเหมือนตอนก่อนหน้านี้แล้ว

รูนมีส่วนพื้นฐานทั้งหมด 3 ส่วนนั่นก็คือตัวควบคุม พลังมานา และพลังเวทมนตร์หลัก รูนระดับ 1 และ 2 ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการดูดซับพลังงานจากคริสตัลเวทมนตร์ การใช้พลังชีวิต หรือแม้แต่พลังมานาภายในตัวของผู้ที่แบกรับรูน รูนชิ้นแรกที่เขาพยายามสร้างออกมามีปัญหาในส่วนของพลังมานา จึงทำให้มันดูดซับพลังชีวิตมากจนเกินไปโดยไม่ได้มีการตรวจสอบ ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้ม้าออกแรงอย่างดุเดือดและต้องตายเพราะความเหนื่อยล้า จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้เป็นบทเรียนที่ทำให้เขานำมาปรับใช้เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดแบบเดิมขึ้นอีก

ในเวลานี้เขาเลือกที่จะวาดรูปแบบที่เหมือนกับที่เคยใช้มาก่อน แม้ว่าจะไม่มีการออกแบบที่แปลกใหม่อะไรทว่าความแม่นยำของรูนในครั้งนี้มีความน่ากลัวอย่างมาก และความแม่นยำถึงขนาดนี้ดูเหมือนจะเป็นไปได้แค่เพียงทฤษฎี หากใครก็ตามที่มีความรู้เรื่องรูนได้มาเห็นผลงานชิ้นนี้ของเขาก็อาจจะเหงื่อตกได้ เพราะสิ่งที่เขาออกแบบอยู่นั้นมีความเหมือนกับต้นฉบับมากทีเดียว

ความแม่นยำของรูนนี้สูงมากจนแม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะสร้างมันขึ้นมาอีกครั้งได้หรือไม่ หลังจากที่เวลาผ่านไป ทักษะของเขาก็เพิ่มขึ้นทำให้เขารู้สึกมั่นใจในเสถียรภาพของผลงานที่มีความแม่นยำของตัวเขาเองอยู่ไม่น้อย

ในตอนนี้เขายังไม่ค่อยเข้าใจถึงนัยสำคัญของผลงานของเขาเท่าไหร่นัก เขายังคงมองว่ามันเป็นส่วนที่ไว้ใช้สำหรับการฝึกฝนเพื่อให้มีความสามารถมากยิ่งขึ้น หลังจากที่เขาสร้างรูนสำเร็จแล้ว เขาทำเพียงแค่นำรูนเหล่านั้นส่งมอบให้กับแบล็คโกลด์ในราคา 30,000 เหรียญอย่างไม่ใส่ใจ ในนัวแลนด์ [รูนอจิลิตี้ขั้นพื้นฐาน]แบบมาตรฐานนั้นจะมีราคาอยู่ที่ 100,000 ถึง 150,000 เหรียญ ทว่าก็เป็นไปตามที่แบล็คโกลด์ตัดสินใจไปก่อนหน้านี้ สุดท้ายเขาก็เสนอราคาให้ริชาร์ดเพียง 20-30% ของราคาตลาดอยู่ดี

นครแห่งบาป City of Sin

นครแห่งบาป City of Sin

Status: Ongoing
เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมกับสายเลือดของเอลฟ์และปีศาจ ต้องเดินบนสมรภูมิแห่งการทำลายล้าง เพื่อที่จะลากพวกที่สูงส่งให้ลงมา วันหนึ่งเมื่อเขาสำรวจรอบๆตัวเอง และจะพบว่า—-ไม่หลงเหลือศัตรูให้ฆ่าอีก

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท