The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1286 – หายลงสู่ทะเลขม

ตอนที่ 1286 - หายลงสู่ทะเลขม

  เทพอสูรห้าคนไร้สีหน้าราวกับถูกคนควบคุมจิตใจแม้ข้างในจะเจ็บปวด พวกเขาก็ไม่ต่อต้านและรีบพุ่งไปหายักษ์ทะเลขม

  ยักษ์หันมามองด้วยสายตาเฉียบคมและอ้าปากดูดเทพทั้งห้าไปข้างในจากนั้นจึงเคี้ยวกลืนทั้งเป็น

  เทพอสูรทั้งห้ามิได้ต่อต้านแม้แต่น้อย

  เมฆาอสูรชาไปทั้งตัวนี่คือวาระสุดท้ายของการดื่มของเหลวสีเขียวนั่น มันจะเสียตัวตนทั้งหมดไป รู้จักแต่เพียงการยอมรับคำสั่ง

  เมื่อกินเสร็จยักษ์ทะเลขมราวกับอยากจะกินต่อ มันยื่นมือใหญ่ยักษ์ที่ปิดได้ทั้งนภาชี้ไปยังทะเลขมที่พวกซือหยูอยู่

  ที่นั่นมีองค์ชายหนึ่งองค์หญิงสอง และองค์หญิงหก ทั้งสามคือรัชทายาทที่มีพลังยอดเยี่ยมที่สุด

  หรือก็คือทั้งสามคือร่างอวตาลของยักษ์ทะเลขมที่แข็งแกร่งที่สุดหลังจากจักรพรรดิอสูรรุ่นปัจจุบัน ดังนั้นจึงต้องถูกกิน

  มเหสีหยุนเซี่ยจ้องทะเลขมรอยยิ้มชั่วร้ายเบ่งบานบนใบหน้า

   มาจับเต่าในเหยือกกันดีกว่า! 

  เหล่าเทพศาลอสูรก้าวออกไป

   จับรัชทายาททั้งเป็นเอาศพซือหยูมาให้ข้า 

  เมื่อนางพูดจบนางตามเหล่าเทพศาลอสูรไปด้วย

  …

  ที่ชายฝั่งทะเลขม

  เรือลำเล็กที่ต่อจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำใกล้เสร็จแล้วมันกว้างสามสิบศอกและจุคนได้มากกว่าสามสิบคน

  เพื่อไม่ให้น้ำทะเลขมกระเด็นเข้ามาในเรือพวกเขาต้องใช้ไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำมากขึ้นในการทำเกราะ ซึ่งสร้างโดยเทพสิบคน  เมื่อพวกเขานั่งเรือและปกคลุมกายด้วยเกราะน้ำทะเลขมก็ถูกป้องกันโดยสมบูรณ์

  แม้แต่ซือหยูก็แปลกใจเมื่อได้เห็นเรือทั้งลำ

  มันดูเหมือนกับเรือดำน้ำในชีวิตที่แล้วของเขา…

  แต่ที่ทะเลขมมันคือเรือประเภทเดียวเท่านั้นที่จะแล่นออกไปได้อย่างปลอดภัย

   เอาล่ะขึ้นเรือพร้อมออกเดินทางเดี๋ยวนี้ พวกมันจะต้องเริ่มรู้ตัวแล้ว! 

  ซือหยูกล่าว

  ฟึ่บ!

  กลุ่มคนกระโดดขึ้นเรือลำเล็กและรีบกางเกราะขึ้นมา

  เมื่อเสร็จสิ้นแสงเทพเรืองรองเป็นคลื่นมาจากชายฝั่ง

   เจ้ามาที่ทะเลขมจริงๆ พวกเจ้าถึงทางตันแล้ว!    เมฆาอสูรพูดก่อนที่จะเห็นทั้งหมด

  แต่เมื่อลืมตาเขาก็ตกตะลึงเมื่อเห็นเรือสีทองที่กำลังลงสู่ทะเลขม

   นั่นมัน…ไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำงั้นรึ? 

  มเหสีหยุนเซี่ยเองก็เห็นพอดีรอยยิ้มมั่นใจของนางแตกสลายเมื่อเห็นเรือครึ่งลำลงไปยังทะเลขม ใบหน้าแทนที่ด้วยความตกตะลึง

  จะมีเรือที่ต่อจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำเกิดขึ้นได้ยังไง?

  มันถูกองค์ชายสักคนปลูกมาตลอดหลายปีเพื่ออุบายวันนี้หรือ?

  ไม่ไม่มีทาง! ไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำรอดชีวิตในโลกอสูรไม่ได้

  เทพตำราแววตาดำมืด

   มันปิดบังวิธีหนีเอาไว้!ท่านมเหสี สั่งพวกนั้นให้จัดการเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นจะสายเกินไป! 

  มเหสีหยุนเซี่ยสั่งการอย่างเด็ดขาดนางเปลี่ยนคำสั่ง   เปลี่ยนแผน!ฆ่าพวกมันให้หมด อย่าให้มีใครรอดไปได้! 

  พวกเขากำลังจะหนีจะยังมีใครเมตตาอีกเล่า?

  แม่ทัพศาลอสูรและเทพอสูรหกวิถีตะโกนนำหน้าก้าวพริบตามาถึงเรือลำเล็กที่กำลังจะจมลงสู่ทะเลทั้งลำและคว้าท้ายเรือเอาไว้!

  สีหน้าคนบนเรือไม่สู้ดี

   เทพอสูรหกวิถี! 

  องค์ชายหนึ่งหวาดผวาเทพอสูรหกวิถีคืออาจารย์ของเขา เขารู้ดีกว่าใครว่าเทพอสูรหกวิถีน่ากลัวเพียงใด

  ต่อให้เหล่ารัชทายาทร่วมมือกันพวกเขาก็ไม่มีทางเก่งกว่าเทพอสูรหกวิถี เทพอสูรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรองจากจักรพรรดิอสูร

  ใบหน้างดงามขององค์หญิงหกเยือกเย็นดั่งน้ำแข็งสุดท้ายพวกนางก็ถูกจับได้ในวาระสุดท้าย!

  ที่แย่ที่สุดก็คือ…เป็นเทพอสูรหกวิถีที่มาจับพวกนาง

  เขาสามารถกำจัดพวกนางทุกคนได้ด้วยตัวเอง!

  คนเดียวที่ยังใจเย็นอยู่บนเรือก็คือซือหยู

   คุกเทวะห้าธาตุ! 

  ซือหยูเรียกเบาๆ

  หอคอยเล็กห้าสีผุดขึ้นมาจากใต้ดินริมฝั่งทะเลขม

  จากนั้นหอคอยได้กดลงไปที่หัวของเทพอสูรหกวิถีอย่างแรง

  ตู้ม!ตู้ม!

  พื้นส่งเสียงสายฟ้าคำรามแรงกดมหาศาลกดทับเทพอสูรหกวิถี เพียงไม่นานครึ่งร่างก็จมใต้พื้น

  รอยแผลฉีกที่ผิวเทพอสูรแตกร้าวราวกับใยแมงมุม

  ถ้าหากเป็นเทพอสูรทั่วไปพลังรุนแรงขนาดนี้คงสังหารไปแล้ว  แต่เทพอสูรหกวิถีนั้นไม่สะทกสะท้านและจับเรือไว้อย่างมั่นคง

  มเหสีหยุนเซี่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอกดูเหมือนว่าซือหยูจะประเมินเทพอสูรหกวิถีต่ำไป ถ้าหากเป็นฝีมือเทพอสูรคนอื่น พวกซือหยูคงจะหนีไปได้แล้ว

  แต่ทันทีที่นางรู้สึกโล่งใจเสียงของซือหยูก็ดังมาจากเรืออีกครั้ง

   บันทึกธารดารา! 

  โลหิตเทพหยาดหยดเสียงคำรามดังก้อง

  สัตว์อสูรระดับเทพตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากเรือมันร้องคำรามด้วยโทสะพร้อมกระชากแขนเทพอศูรหกวิถีข้างที่กำลังจับเรือ

  เทพตำราสีหน้าหม่นหมองมันคือสัตว์อสูรที่เขาสะสมมาทีละตัวด้วยความยากลำบาก!

  ซือหยูชิงมันไปในคราวที่แล้วแต่เทพตำราไม่เคยคิดว่าซือหยูจะใช้มันที่นี่!

  แต่แขนของเทพอสูรหกวิถีนั้นเกิดรอยแยกเพียงเล็กน้อยจากการกัดของสัตว์อสูร  กายหยาบของเขาแข็งแกร่ง!

  เทพอสูรหกวิถีอ้าปากค้างและพ่นพลังอสูรออกมาใส่สัตว์อสูร

  เทพอสูรหกวิถีปล่อยจิตสังหารและออกแรงที่แขนเขาเกือบจะลากเรือขึ้นจากทะเลได้แล้ว

  มันเป็นจังหวะวิกฤติ

  เสียงตะโกนดังมาจากเรืออีกครั้ง

   อัญเชิญอสูรศักดิ์สิทธิ์! 

  ซือหยูตะโกนดังลั่นค่ายกลหมุนวนจากท้องนภา

  เสียงคำรามสั่นคลอนทั้งฟ้าดินดังก้องไม่ขาดสาย

  ทุกคนรวมถึงองค์ชายหนึ่งที่อยู่บนเรือตกตะลึง

   วิชาลับราชวงศ์อัญเชิญอสูรศักดิ์สิทธิ์! นี่เจ้า… 

  องค์หญิงหกจ้องซือหยูอย่างไม่เชื่อสายตาซือหยูมีโลหิตเทพขององค์ชายเจ็ดมากมาย เขาถึงกับปล่อบพลังขององค์ชายเจ็ดออกมา

  องค์ชายหนึ่งตกใจองค์หญิงสองกรีดร้องด้วยความกลัว

   เจ้าเป็นญาติของราชวงศ์อสูรงั้นเรอะ? 

  วิชาอัญเชิญอสูรศักดิ์สิทธิ์เป็นวิชาลับสุดท้ายที่มีเพียงราชวงศ์เผ่าอสูรที่จะฝึกฝนได้นอกจากจักรพรรดิอสูรแล้วไม่มีใครเลยที่ได้ฝึกฝนมันมาก่อน

  พวกเขาไม่มีทางได้รู้จักวิธีใช้วิชาแต่ซือหยู ชายจากธารดารากลับบ่มเพาะมันได้สำเร็จ

  นอกเหนือจากนั้นกลิ่นอายพลังขององค์ชายเจ็ดที่เขามีมันคืออะไรกัน?

  ท่ามกลางความสงสัยและตกใจหัวอัปลักษณ์ของสัตว์ป่าเก้าหัวปรากฏออกมาจากวงวิชา

  พวกมันดุร้ายกระหายเลือดมันร้องคำรามเสียงดังลั่น  เมื่อมันเห็นเทพอสูรหกวิถียืนอยู่ตรงหน้ามันก็ร้องโหยหวนด้วยความดีใจและกระโจนเข้าใจ!

   ตัวโกลาหล!! 

  ศาลอสูรและมเหสีหยุนเซี่ยตกตะลึงพร้อมก้าวไปข้างหลัง

  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในมิติอสูรมันคือตัวโกลาหล!

  มีตัวโกลาหลทั้งหมดสิบแปดตัวเก้าตัวเป็นสัตว์วิญญาณของจักรพรรดิอสูร ส่วนอีกเก้าตัวถูกเนรเทศออกสู่จักรวาล

  พวกมันมาปรากฏตัวในโลกอสูรได้ยังไง?

  แต่ก่อนที่จะมีเวลาให้คิดเทพอสูรหกวิถีก็ถูกตัวโกลาหลล้อมเอาไว้แล้ว

  อ๊ากกกก!

  ตัวโกลาหลกัดมือข้างที่จับเรือของเทพอสูรหกวิถี!

  สัตว์อสูรระดับเทพทำได้เพียงฉีกผิวชั้นเดียวแต่ตัวโกลาหลกัดมือเทพอสูรหกวิถีขาดได้ในคราเดียว

  เทพอสูรหกวิถีตกใจมากเขาเปลี่ยนมือจับเรือ แต่ตัวโกลาหลก็กระโจนเข้าใส่มืออย่างโหดเหี้ยมและฉีกมือเขาทิ้งด้วยเขี้ยวอันแหลมคม

  มืออีกข้างที่ยืนเข้ามาขาดในพริบตาเดียว

  เมื่อไร้สิ่งฉุดรั้งเรือก็ได้ไถลลงสู่ทะเลขมอย่างรวดเร็ว

  ต่อให้มีเทพมากกว่านี้ฝ่ายของมเหสีหยุนเซี่ยก็ไม่กล้าไปจับคนที่อยู่ในทะเลอีกแล้ว

  เทพอสูรหกวิถีถูกคุกเทวะห้าธาตุหยุดจนขยับไม่ได้ตัวโกลาหลเองก็กัดกินเหยื่ออย่างเอร็ดอร่อย เพียงไม่กี่ลมหายใจ เทพอสูรหกวิถีก็ถูกกินไปครึ่งตัว

  เคราะห์ดีที่มเหสีหยุนเซี่ยสั่งเทพศาลอสูรให้จู่โจมพร้อมกันและขับไล่ตัวโกลาหลออกไป

  แม้จะสังหารไม่ได้พวกตัวโกลาหลก็เป็นสิ่งที่ถูกอัญเชิญมา เมื่อหมดเวลา พวกมันจะถูกส่งกลับไปยังที่ที่พวกมันมา

  มังกรวารีในคุกเทวะห้าธาตุใช้โอกาสนี้ควบคุมคุกเทวะห้าธาตุเช่นกันมันจมหอคอยลงในทะเลขมและไล่ตามเรือที่อยู่ใต้น้ำ

  เมื่อคลื่นระลอกสุดท้ายหายไปจากทะเลใบหน้าแข็งกร้าวของมเหสีหยุนเซี่ยได้เปลี่ยนเป็นความหม่นหมอง

  เทพตำราและเมฆาอสูรสีหน้าไม่สู่ดีเช่นกัน

  เทพอสูรหกวิถีที่มีบาดแผลและบาดเจ็บไปทั่วร่างโกรธแค้นยิ่งกว่า

  ที่ชายฝั่งมีแต่ความเงียบสงบ

  ด้วยพรรคพวกมากมายพวกเขาคิดว่าจะเป็นการไล่จับเต่าในอ่างแคบ แต่ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะหลอกพวกเขาได้อย่างนี้?

  ปั้ง!ปั้ง!

  ในตอนนั้นเองร่างยักษ์ทะเลขมอันยิ่งใหญ่ได้มาถึงชายฝั่งและค่อย ๆ ย่อตัวลง  มเหสีหยุนเซี่ยตาเป็นประกาย

   ขึ้นไหล่ยักษ์ 

  ฟึ่บ!ฟึ่บ! ฟึ่บ!

  เทพมากกว่าร้อยคนจากศาลอสูรบินขึ้นไป

  ไม่มีใครคิดว่ายักษ์ทะเลขมจะไม่กินพวกเขาอย่างที่คิด

  เทพที่อยู่ไม่ไกลนักจ้องมองยักษ์ทะเลขมพร้อมตัวสั่นด้วยความกลัวยักษ์ทะเลขมคือฝันร้ายแห่งโลกอสูรมานับล้านปี

  ถ้าหากยักษ์หันมากินพวกเขาเล่า?

  หรือถ้าหากยักษ์ทะเลขมจมลงสู่ทะเลพวกเขาจะจมน้ำทะเลขม พวกเขาจะทำอะไรได้เล่า?

  แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ตามยักษ์ทะเลขมที่ก้าวลงสู่ทะเล

  …

  ลึกลงในทะเลขม  เรือสีทองแล่นอย่างรวดเร็วราวกับปลาตัวน้อยทิ้งร่องรอยเป็นเงาไหว

  ในเรือมีแต่ความเงียบกริบ

  องค์หญิงหกมองซือหยูด้วยดวงตาน่ารักสีสันแปลกตาแสดงผ่านแววตา

  สุดท้ายนางก็ได้เข้าใจว่าเหตุใดซือหยูถึงไม่ช่วยต่อเรือแม้แต่น้อยและอ้างว่าเขามีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ

  เขานั้นเตรียมหนทางหนีไว้สามวิธี

  ถ้าหากไร้ซึ่งสามวิธีที่เขาใช้ผลที่ตามมาก็มากพอที่จะให้นางหนาวสั่นถึงกระดูก

  ถ้าหากซือหยูนอนใจพวกเขาจะทำอะไรเทพอสูรหกวิถีได้?

  ไม่เลย!

  นางอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกออกมาอย่างไร

  กลับเป็นซือหยูที่ทำลายความเงียบงันนี้

   พวกเขาหนีมาได้ชั่วขณะแล้ว!     ใช่แล้ว 

  แม้จะเป็นองค์หญิงสองที่ไม่มีปัญญานักก็มีความเขินอายบนใบหน้าเมื่อมองซือหยูนางมองเขาราวกับคนธรรมดาที่มองเทพ

  องค์ชายหนึ่งปรบมือ

   น้องหยูมีอุบายยอดเยี่ยมซุกซ่อนเอาไว้เสมอข้านับถือเจ้ายิ่งนัก! 

  ซือหยูอาจเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้องค์ชายหนึ่งแห่งราชวงศ์อสูรกล่าวชมเช่นนี้

  ปี้หวังชิงประทับใจนางเข้าใกล้ซือหยูมากขึ้น ใต้ผ้าคลุมหน้ามีใบหน้านางที่แดงระเรื่อ นางพูดเบา ๆ

   ท่านฉลาดหลักแหลมนักหวังชิงยินดีติดตามตลอดชีวิต 

  ยากที่จะไม่ได้อะไรเลยจากการติดตามคนฉลาดที่วางแผนได้ไร้ข้อบกพร่องอย่างเขา

  ซือหยูมองนางและตัดสินใจลืมเรื่องในอดีตที่นางเคยพูดกับเขา

   ชื่อจริงข้าคือซือหยูเจ้าเรียกข้าว่าซือหยูก็ได้ 

  ซือหยูกล่าวอย่างไม่ถือตัว

   เรายังวางใจไม่ได้การเข้าสู่ทะเลขมเป็นเพียงการเลี่ยงการตามล่าของมเหสีหยุนเซี่ย เรายังต้องเจอการตามฆ่าของยักษ์อยู่! อย่าลืมว่าเจ้าสามคนคือเป้าหมายของมัน 

  องค์ชายหนึ่งองค์หญิงสอง และองค์หญิงหกเงียบไป

  มเหสีหยุนเซี่ยอาจจะดำลึกลงสู่ทะเลขมไม่ได้แต่ยักษ์ทะเลขมย่อมทำได้แน่นอน

  ยักษ์จะไม่มีทางนั่งรอมองให้พวกเขาหนีไปโดยไม่ทำอะไรเลย

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท