รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 699 นางเซียนงามวิลาสนางหนึ่งปรากฏ จะใช่ซีหรือไม่?

บทที่ 699 นางเซียนงามวิลาสนางหนึ่งปรากฏ จะใช่ซีหรือไม่?

บท​ที่​ 699 นาง​เซียน​งามวิลาส​นาง​หนึ่ง​ปรากฏ​ จะใช่ซีหรือไม่​?

หลัง​ขึ้น​มาบน​นาวา​สมุทร​ของ​เผ่า​วาฬ​สวรรค์​ หัวหน้า​เผ่า​ปลา​มังกร​ก็​สบายใจ​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​

มีเผ่า​วาฬ​สวรรค์​คอย​หนุนหลัง​มัน​ มัน​ไม่มีสิ่งใด​ต้อง​เกรงกลัว​อีก​

“ฮ่า ๆ เจ้าตะขอ​นั่น​ไม่กล้า​แล้ว​ใช่หรือไม่​!”

มัน​แหงน​มอง​อวกาศ​ ท้าทาย​ต่อไป​ นึก​อยาก​เรียก​เจ้าพวก​ที่​ตก​เผ่า​ปลา​มังกร​ของ​มัน​ออกมา​ให้​หมด​

“เดี๋ยว​สิ…นี่​มัน​ไม่ถูก​!”

ไม่นาน​นัก​ มัน​ก็​ตระหนักถึง​บางอย่าง​ สีหน้า​เปลี่ยนไป​ใน​บัดดล​

เหตุใด​ถึงไม่มีสมาชิก​เผ่า​วาฬ​สวรรค์​คุย​กับ​มัน​เลย​?

มัน​มอง​สมาชิก​เผ่า​วาฬ​สวรรค์​บน​เรือ​ด้วย​ความ​ฉงน​ ก่อน​จะร้องเรียก​ “สหาย​?”

กระนั้น​ก็​ยัง​ไม่มีสมาชิก​เผ่า​วาฬ​สวรรค์​คนใด​สนใจ​มัน​

“บัดซบ​! ข้า​ติดกับ​แล้ว​!”

มัน​สบถ​ออกมา​ อยาก​ร่ำไห้​นัก​ สถานการณ์​พิลึก​เกินไป​แล้ว​ มัน​อาจ​เจอ​เข้ากับ​ภาพลวงตา​เช่นกัน​!

ไม่ทัน​ได้คิด​ไป​มากกว่า​นี้​ มัน​กระโจน​ตัว​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​ หมาย​จะออก​ไป​จาก​นาวา​สมุทร​ลำ​นี้​

ทว่า​ตอนนั้น​เอง​ จู่ ๆ ก็​มีลำแสง​เจิดจ้า​มากมาย​พวยพุ่ง​ออกจาก​นาวา​สมุทร​ สิ่งมีชีวิต​ทั้งหมด​บน​นาวา​ รวมถึง​นาวา​ลำ​นี้​สลาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​!

“ติดกับ​เข้า​แล้ว​จริง ๆ​!”

หัวหน้า​เผ่า​ปลา​มังกร​ร่ำไห้​ อยาก​หนี​ไป​จาก​ที่นี่​อย่างยิ่งยวด​ แต่​มัน​หนี​ไป​ได้​ที่ไหน​ ท่ามกลาง​ม่าน​แสงที่​กำลัง​หาย​ไป​ ตะขอ​ตกปลา​อัน​โดดเด่น​ปรากฏ​

จากนั้น​ มัน​โดน​ตก​ขึ้นไป​ พลัง​ทั้งหมด​ถูก​สะกด​

ซ่า!

ริม​ทะเลสาบ​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เห็น​แล้ว​ปลื้ม​ปีติ​ยิ่ง​

ที่นี่​เป็นรัง​ปลา​มังกร​จริง ๆ​ ด้วย​ ดู​ที่​เขา​กับ​พวก​ลั่วสุ่ยตก​ขึ้น​มาสิ มีแต่​ปลา​มังกร​ทั้งนั้น​ ถังแล้ว​ถังเล่า​ เต็ม​ถังทุก​ใบ​

“ไม่เลว​เลย​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​หัวเราะ​ไม่หยุด​ คราวนี้​ ‘ขนม​’ ของ​ลั่วสุ่ย​ก็​เพียง​พอแล้ว​

ปลา​มังกร​มากมาย​เพียงนี้​ ลั่วสุ่ย​กิน​ทุกวัน​ยัง​ไม่เป็นปัญหา​

เขา​รู้สึก​ว่า​พอประมาณ​แล้ว​ ประกอบ​กับ​ฟ้าเริ่ม​มืด​ จึงเรียก​ให้​พวก​ลั่วสุ่ย​หยุด​

“เรา​มาดู​กัน​เถิด​ว่า​ผู้ใด​ตก​ได้​เยอะ​ที่สุด​”

ก่อนหน้านี้​เขา​กล่าว​ไว้​ว่า​ ผู้ใด​ตก​ได้​เยอะ​ที่สุด​มีรางวัล​

ระยะห่าง​ชัดเจน​ยิ่งนัก​ นอกจาก​เขา​แล้ว​ ลั่วสุ่ย​นั้น​ตก​ได้​เยอะ​สุด​ รอง​ลงมา​เป็น​ห​ลิง​อิน​ และ​ผู้​ที่​ตก​ได้​น้อยที่สุด​ก็​คือ​เซี่ยเหยียน​

นาง​มีความอดทน​ไม่พอ​ มัก​ดึง​ไม้ตกปลา​ขึ้น​ก่อน​เสมอ​ ทันทีที่​หย่อน​ตะขอ​ตกปลา​ลง​ไป​ ก็​รู้สึก​ว่า​มีปลา​มาติด​เบ็ด​ จึงเสียเวลา​ไป​ไม่น้อย​ ตกปลา​ได้​ไม่มาก​นัก​

“เซี่ยเหยียน​ เจ้าต้อง​ขัดเกลา​จิตใจ​ให้​ดี​ เจ้าดู​สิ พวก​อ้าย​ฉาน​ยัง​ตก​ได้​มากกว่า​เจ้าอีก​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เอ่ย​ เซี่ยเหยียน​นั้น​ดี​ทุกอย่าง​ เพียงแต่​ใจร้อน​เกินไป​

“ข้า​กับ​ลั่วสุ่ย​ไม่นับ​ เรา​สอง​คน​ตกปลา​กัน​บ่อย​แล้ว​ พวก​เจ้าทุกคน​ล้วน​เพิ่ง​เคย​ตกปลา​ครั้งแรก​”

ชายหนุ่ม​หยิบ​พวง​ห้อย​รูป​ตะขอ​ตกปลา​สีทอง​อัน​หนึ่ง​ออกมา​

“ที่​เหลือ​ก็​มีห​ลิง​อิน​ที่​ตก​ได้​เยอะ​สุด​ มาสิ นี่​เป็น​ของ​ที่​ให้​เจ้า”

เขา​ยื่น​พวง​ห้อย​รูป​ตะขอ​ตกปลา​สีทอง​ให้​ห​ลิง​อิน​

นี่​คือ​พวง​ห้อย​รูป​ตะขอ​ตกปลา​ทองคำ​แท้​ที่​เขา​ทำ​ขึ้น​เอง​ ยาม​ออกจาก​บ้าน​ เขา​ติดไม้ติดมือ​ของ​แบบนี้​มาไม่น้อย​

“ขอบคุณ​คุณชาย​!”

ห​ลิง​อิน​กล่าว​ขอบคุณ​คุณชาย​ และ​รับ​พวง​ห้อย​รูป​ตะขอ​ตกปลา​ทองคำ​แท้​มา

หลัง​นาง​รับ​มาไว้​ใน​มือ​ ก็​เกิด​ความรู้สึก​หนึ่ง​ขึ้น​ฉับพลัน​ ราวกับ​ไม่ว่า​สิ่งใด​ นาง​สามารถ​ตก​ได้​ทั้งสิ้น​!

ใช่แล้ว​ ความรู้สึก​ที่​ตก​ได้​ทุกสิ่ง​ ไม่ใช่แค่​ปลา​เท่านั้น​ หาก​แต่​รวมถึง​ทุกอย่าง​!

นาง​รู้สึก​ว่า​มีพวง​ห้อย​รูป​ตะขอ​ตกปลา​ทองคำ​แท้​นี้​อยู่​ หาก​ได้​ไป​ภพ​เซียน​อีกครั้ง​ นาง​แค่​หย่อน​ตะขอ​ทองคำ​แท้​นี้​ออก​ไป​ แม้แต่​จักรพรรดิ​เซียน​ยัง​ต้อง​ติด​เบ็ด​ โดน​นาง​ตก​ขึ้น​มา!

“ผลงาน​คุณชาย​ ล้วนแต่​ล้ำเลิศ​กัน​ทั้งสิ้น​!”

นาง​สะท้อนใจ​จาก​ใจจริง​

หาก​นาง​ต้อง​ต่อสู้​กับ​จักรพรรดิ​เซียน​จริง ๆ​ ความ​ห่าง​ชั้น​นั้น​คง​ไม่รู้​ตั้ง​เท่าไร​ บัดนี้​มีพวง​ห้อย​รูป​ตะขอ​ตกปลา​ทองคำ​แท้​นี้​ใน​มือ​ จักรพรรดิ​เซียน​ไม่เป็นอันตราย​สำหรับ​นาง​อีกต่อไป​ นาง​ตก​ได้​ตามที่​ต้องการ​

คืน​นั้น​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ยุ่ง​อยู่​ทั้งคืน​ จับ​ปลา​มังกร​เหล่านี้​ทำเป็น​ปลา​ตากแห้ง​ เก็บ​ไว้​ให้​ลั่วสุ่ย​กิน​เป็น​ขนม​

เซี่ยเหยียน​เห็น​แล้ว​อิจฉา​สุด​ ๆ

ใน​ใจคุณชาย​ ลั่วสุ่ย​มีความสำคัญ​มาก​จริง ๆ​ นาง​รู้สึก​ว่า​ทั้ง​นาง​ทั้ง​ห​ลิง​อิน​ต่าง​เทียบ​กับ​ความสำคัญ​ของ​ลั่วสุ่ย​ใน​ใจไม่ได้​

ทะเลสาบ​แห่ง​นั้น​ไฉน​เลย​จะตก​ขึ้น​มาได้​แต่​ปลา​มังกร​เล่า​ ไม่ต้อง​คิด​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ทั้งหมด​นี้​คง​เกี่ยวข้อง​กับ​คุณชาย​

เห็นได้ชัด​ว่า​คุณชาย​ทำ​เช่นนี้​ก็​เพื่อ​ลั่วสุ่ย​

การ​เดินทาง​ดำเนินต่อไป​ อสูร​ทั้ง​เก้า​ลาก​รถ​บิน​ผ่าน​ภูเขา​ลูก​แล้ว​ลูก​เล่า​ คูเมือง​แห่ง​แล้ว​แห่ง​เล่า​อย่าง​ช้า ๆ แล่น​อยู่​ใน​ชั้น​เมฆ

“สหาย​ พวก​ท่าน​ก็​จะไป​เขา​เฟิ่งหวา​เช่นกัน​หรือ​”

ระหว่างทาง​ เด็กหนุ่ม​ผู้​หนึ่ง​ขี่​กระบี่​เข้ามา​ เอ่ย​กับ​ผู้​คนใน​รถลาก​

“เขา​เฟิ่งหวา​หรือ​?”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ยืน​อยู่​ข้าง​หน้าต่าง​ ถามด้วย​ความ​ใคร่รู้​ “ที่นั่น​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​หรือ​”

“สหาย​ไม่ทราบ​หรอก​หรือ​”

เด็กหนุ่ม​ผงะ​ “ข้า​เห็น​ทิศ​ที่​พวก​สหาย​มุ่งหน้า​ไป​คือ​ด้าน​เขา​เฟิ่งหวา​ จึงคิด​ว่า​พวก​สหาย​กำลังจะ​ไป​ที่นั่น​”

จากนั้น​ เขา​ก็​เล่า​เหตุการณ์​ใน​เขา​เฟิ่งหวา​ให้​ฟัง

“ใน​แดน​ทักษิณ​ทิศ​มีนาง​เซียน​งามพิลาส​นาง​หนึ่ง​ปรากฏ​ ไม่เพียงแต่​มีรูปโฉม​เป็นหนึ่ง​ ขอบเขต​พลัง​ยัง​ลึกล้ำ​เกิน​หยั่ง​ บัดนี้​ ที่​เขา​เฟิ่งหวา​คึกคัก​อย่าง​มาก​ สิ่งมีชีวิต​ผู้ฝึก​ตน​มากมาย​ต่าง​อยาก​ยล​โฉมนาง​เซียน​งามพิลาส​นาง​นี้​”

เขา​กล่าว​ต่อ​ “ข้า​เอง​ก็​จะไป​ที่นั่น​”

“นาง​เซียน​งามพิลาส​หรือ​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ตา​เป็นประกาย​ จะใช่ซีหรือไม่​

เขา​ถามเด็กหนุ่ม​ “เจ้าเคย​เจอ​นาง​เซียน​ท่าน​นี้​หรือไม่​”

“ไม่เคย​!”

เด็กหนุ่ม​ส่าย​หัว​ “นาง​เซียน​ไฉน​เลย​จะเจอกัน​ได้​ง่าย ๆ​ ที่​ข้า​ไป​ครา​นี้​ ก็​เพื่อ​ยล​โฉมของ​นาง​เซียน​ ที่​เหลือ​ข้า​มิกล้า​คิด​หรอก​”

“เข้าใจ​แล้ว​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ชัก​สนใจ​ อยาก​ไป​ที่​เขา​เฟิ่งหวา​

“สหาย​อยาก​เข้ามา​หรือไม่​ เรา​ไป​ที่​เขา​เฟิ่งหวา​ด้วยกัน​เถิด​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เอ่ย​ยิ้ม​ ๆ

“ไม่เป็นไร​”

เด็กหนุ่ม​หัวเราะ​ “ข้า​ชอบ​ความรู้สึก​ที่​ได้​ขี่​กระบี่​โต้​ลม​ มิฉะนั้น​ ข้า​คง​เลือก​เดินทาง​ด้วย​รถลาก​เฉกเช่น​พวก​สหาย​แล้ว​”

“ขี่​กระบี่​โต้​ลม​หรือ​…ดี​ยิ่ง​” ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​กล่าว​

ขี่​กระบี่​โต้​ลม​ เป็นเรื่อง​ที่​เขา​อยาก​ทำ​มาตลอด​

อนิจจา​ แม้เขา​จะได้​ศาสตรา​มาไม่น้อย​ที่​เหาะ​เหิน​เดินอากาศ​ได้​เช่นกัน​ อย่างเช่น​ธงฮุ่น​หยวน​ ทว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​การขี่​กระบี่​โต้​ลม​ ก็​ยัง​ต่างกัน​มาก​นัก​

เขา​อยาก​ขี่​กระบี่​โต้​ลม​มากกว่า​

ทว่า​น่าเสียดาย​ ใน​บรรดา​ศาสตรา​ของ​เขา​ ไม่มีกระบี่​เหิน​ฟ้า

‘ยัง​เด็ก​นัก​ ยัง​เด็ก​จริง ๆ​!’

ห​ลิง​อิน​คิดในใจ​ เด็กหนุ่ม​ผู้​นี้​พลาดโอกาส​วาสนา​ชั้นดี​ คุณชาย​ออกปาก​เชื้อเชิญ​เชียว​นะ​ หลัง​ขึ้น​มาบน​รถลาก​ ลำพัง​น้ำชา​สัก​ถ้วย​ที่​คุณชาย​ประทาน​ให้​ก็​เป็นประโยชน์​ต่อ​เด็กหนุ่ม​มหาศาล​แล้ว​

เด็กหนุ่ม​ขี่​กระบี่​อยู่​ด้านนอก​ มุ่งหน้า​ไป​ทาง​เขา​เฟิ่งหวา​พร้อมกับ​รถลาก​เก้า​อสูร​

ระหว่างทาง​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​สนทนา​กับ​เด็กหนุ่ม​ถึงเรื่องราว​ต่าง ๆ​ และ​ได้​รู้​ชื่อ​แซ่ของ​เด็กหนุ่ม​

เด็กหนุ่ม​มีนาม​ว่า​ฉิน​หวาย​เฟิง มาจาก​สำนัก​ฝึก​ตน​ขนาดเล็ก​ใน​แดน​ทักษิณ​ทิศ​ ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ลอง​ถามเซี่ยเหยียน​ดู​แล้ว​ นาง​บอ​กว่า​ไม่รู้จัก​

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​จึงนึกในใจ​ว่า​สำนัก​ฝึก​ตน​แห่ง​นี้​เล็ก​จริง ๆ​ ด้วย​

หาก​ใหญ่​กว่า​นี้​หน่อย​ คง​ไม่ถึงขั้น​ที่​เซี่ยเหยียน​ไม่เคย​ได้ยิน​

ทว่า​เขา​มิได้​ใส่ใจ ผู้​ที่​เขา​ต้อง​การสาน​ไมตรี​คือ​ฉิน​หวาย​เฟิง หา​ใช่กลุ่ม​อำนาจ​เบื้องหลัง​ฉิน​หวาย​เฟิง

และ​หากว่า​กัน​จริง ๆ​ เขา​ยัง​สู้ฉิน​หวาย​เฟิงไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ เขา​เป็น​เพียง​ปุถุชน​ธรรมดา​ผู้​หนึ่ง​เท่านั้น​

ฉิน​หวาย​เฟิงเอง​ก็​ตกตะลึง​ไป​เหมือนกัน​ รู้สึก​ได้​จาก​วาจา​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ว่า​ตัว​เขา​ไม่ธรรมดา​ อาจ​มีภูมิหลัง​ยิ่งใหญ่​

ทว่า​เขา​สัมผัส​พลัง​ปราณ​จาก​ตัว​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​มิได้​เลย​ นี่​เป็น​เพราะ​ขอบเขต​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​สูงชั้น​กว่า​เขา​มากเกินไป​หรือ​

เขา​ไม่เชื่อ​หรอ​กว่า​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​เป็น​ปุถุชน​…

ด้าน​เขา​เฟิ่งหวา​คึกคัก​อย่าง​แท้จริง​ พวกเขา​ยัง​ไป​ไม่ถึงเขา​เฟิ่งหวา​ ขนาด​ยัง​ห่าง​กัน​สัก​ระยะ​ ก็ได้​เจอะ​เจอ​ผู้ฝึก​ตน​ระหว่างทาง​ไม่น้อย​ ทั้งหมด​ต่าง​เดินทาง​ไป​ยัง​เขา​เฟิ่งหวา​

เริ่มแรก​ฉิน​หวาย​เฟิงมิได้​เป็นอัน​ใด​ ขี่​กระบี่​อยู่​ข้างนอก​ไป​เรื่อย ๆ​ ทว่า​ จู่ ๆ สีหน้า​เขา​ก็​เปลี่ยนไป​ เอ่ย​ถามต่อ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ใน​รถลาก​ “สหาย​ ข้า​เข้าไป​ได้​หรือไม่​”

ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​แปลกใจ​นิดหน่อย​ จู่ ๆ เหตุใด​ฉิน​หวาย​เฟิงถึงอยาก​เข้ามา​ใน​รถลาก​

ที่นี่​ยัง​ห่าง​จาก​เขา​เฟิ่งหวา​อยู่​ระยะ​หนึ่ง​ ฉิน​หวาย​เฟิงไม่อยาก​ขี่​กระบี่​แล้ว​หรือ​

กระนั้น​เขา​ยัง​ตอบ​ออก​ไป​ว่า​ “ได้​สิ”

“ขอบคุณ​สหาย​!”

ฉิน​หวาย​เฟิงกล่าว​ขอบคุณ​รัว​ กำลังจะ​เข้ามา​ใน​รถลาก​

แต่​แล้ว​ใน​ตอนนั้น​เอง​ เสียง​อสูร​คำราม​ดัง​ขึ้น​ ฉิน​หวาย​เฟิงกระเทือน​จน​ตัว​โอนเอน​ เกือบ​ล้ม​ลง​ไป​จาก​กระบี่​

“ฉิน​หวาย​เฟิง ข้า​เคย​บอก​แล้ว​ใช่หรือไม่​ ห้าม​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​ข้า​อีก​ มิฉะนั้น​ ข้า​จะเล่นงาน​เจ้าทุกครั้งที่​เจอ​!”

เสียง​แค่น​จมูก​เย็น​ ๆ ดัง​มาจาก​ด้านหลัง​ เห็นได้ชัด​ว่า​รู้จัก​ฉิน​หวาย​เฟิง มาถึงก็​เรียกชื่อ​เขา​

ฉิน​หวาย​เฟิงถอนหายใจ​ สุดท้าย​ก็​หนี​ไม่พ้น​หรือ​?

ใช่แล้ว​ ที่​จู่ ๆ เขา​อยาก​เข้าไป​ใน​รถลาก​ ก็​เพราะ​ก่อนหน้านี้​เขา​บังเอิญ​เห็น​เจ้าของ​สัตว์​อสูร​ตอน​หันกลับ​ไป​มอง​ และ​เพื่อ​หลบหน้า​เจ้าของ​สัตว์​อสูร​ด้านหลัง​ผู้​นั้น​ ถึงได้​อยาก​เข้าไป​ใน​รถลาก​

แต่​ก็​ยัง​ช้าไป​ก้าว​หนึ่ง​ เจ้าของ​สัตว์​อสูร​ด้านหลัง​เห็น​เขา​เสีย​ก่อน​

“สหาย​ พวก​เจ้าไป​ก่อน​เถิด​ เรื่อง​นี้​ไม่เกี่ยวกับ​พวก​เจ้า”

ฉิน​หวาย​เฟิงบอก​กับ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ ไม่ต้องการ​ให้​พวก​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ต้อง​ติดร่างแห​ไป​ด้วย​

เจ้าของ​สัตว์​อสูร​มีฐานะ​ไม่ธรรมดา​ ภูมิหลัง​ยิ่งใหญ่​ หาก​พวก​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​พัวพัน​เข้ามา​ด้วย​ ย่อม​ต้อง​ตกระกำลำบาก​

จากนั้น​ เขา​เหิน​ไป​ด้านหลัง​คนเดียว​ ประจันหน้า​กับ​เจ้าของ​สัตว์​อสูร​

ใช่ว่า​เขา​ไม่อยาก​หนี​ แต่​เขา​รู้ดี​ว่า​ ใน​สถานการณ์​ที่​เจ้าของ​สัตว์​อสูร​พบ​เขา​แล้ว​ เขา​ไม่มีทาง​หนี​พ้น​ ความต่าง​ของ​พลัง​มากเกินไป​

“ข้า​ก็​อยาก​ไป​ แต่​พวก​เจ้าไม่ให้โอกาส​ข้า​”

ฉิน​หวาย​เฟิงบอก​กับ​เจ้าของ​สัตว์​อสูร​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​

สัตว์​อสูร​มหึมา​ยืน​ตระหง่าน​อยู่​กลางอากาศ​ นี่​คือ​อสูร​ทอง​ที่​เนื้อตัว​ทอง​อร่าม​ องอาจ​ไม่ธรรมดา​ และ​บน​หลัง​ของ​มัน​ มีหนุ่มสาว​วัยเยาว์​คู่​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​

ผู้​ที่​แค่น​เสียง​ผ่าน​จมูก​ใส่ฉิน​หวาย​เฟิงเมื่อ​ครู่​ก็​คือ​บุรุษ​วัยเยาว์​ผู้​ขี่​อยู่​บน​หลัง​อสูร​ทอง​ เขา​กอด​สตรี​วัยเยาว์​นาง​นั้น​ใน​อ้อม​อก​

“ไม่ว่า​อย่างไร​ เจ้าก็​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​ข้า​แล้ว​ เจ้าคง​รู้ดี​ว่า​จะพบจุดจบ​เช่นไร​”

บุรุษ​วัยเยาว์​ปรายตา​มอง​ฉิน​หวาย​เฟิงด้วย​หน้าตา​เย็นชา​

เขา​ไม่สน​เรื่อง​เหตุผล​ ตราบใดที่​ฉิน​หวาย​เฟิงปรากฏตัว​เบื้องหน้า​เขา​ เขา​ก็​จะไม่ยอม​ปล่อย​ฉิน​หวาย​เฟิงไป​ง่าย ๆ​

“ท่าน​พี่​จง คิก ๆ​ พวกเรา​สั่งสอน​หมอ​นี่​มาหลาย​ต่อ​หลายครั้ง​แล้ว​ ครั้งนี้​ปล่อย​เขา​ไป​เถิด​”

สตรี​ใน​อ้อมกอด​บุรุษ​วัยเยาว์​เอ่ย​ด้วย​ใบหน้า​แย้มยิ้ม​

สตรี​นาง​นี้​ช่วย​ออกหน้า​แทน​เขา​หรือ​

ฉิน​หวาย​เฟิงประหลาดใจ​อย่าง​มาก​ คิดไม่ถึง​เลย​

“ขอบคุณ​”

เขา​กล่าว​ขอบคุณ​สตรี​นาง​นั้น​ พลาง​หันหลัง​จะไป​จาก​ที่นี่​

“ช้าก่อน​ อย่า​เพิ่ง​รีบ​ไป​สิ ข้า​บอก​ให้​เจ้าไป​แล้ว​หรือ​”

สตรี​นาง​นั้น​คลี่​ยิ้ม​ เรียก​ฉิน​หวาย​เฟิงไว้​

ฉิน​หวาย​เฟิงชะงัก​ หันกลับ​ไป​มอง​นาง​ คิ้ว​ขมวด​มุ่น​ นี่​นาง​หมายความว่า​อย่างไร​

“แค่​ขอบคุณ​คำ​เดียว​ก็​จบ​แล้ว​หรือ​”

สตรี​นาง​นั้น​หัวเราะ​ “แบบนี้​ ข้า​ไม่รู้สึก​ถึงความจริงใจ​เลย​สักนิด​…”

“เจ้าต้องการ​อัน​ใด​”

ฉิน​หวาย​เฟิงถาม

เขา​ทอดถอนใจ​ นึก​เย้ยหยัน​ตนเอง​ที่​ไร้เดียงสา​นัก​

ด้วย​นิสัยใจคอ​ของ​สตรี​นาง​นี้​ ไฉน​เลย​จะช่วย​ออกหน้า​แทน​เขา​

เขา​คิด​มากเกินไป​จริง ๆ​!

อย่าง​ที่​คิด​ นาง​คลี่​ยิ้ม​ละมุน​ วาจา​ที่​เอื้อนเอ่ย​ออกมา​ทำเอา​เขา​โกรธ​จน​ตัวสั่น​

“ใน​เมื่อ​จะขอบคุณ​ข้า​ ก็​ต้อง​ทำให้​ข้า​พอ​ใจถึงจะถูก​”

นาง​กล่าว​ “ข้า​อยาก​เห็น​เจ้าทำตัว​เลียนแบบ​สุนัข​ หมอบ​อยู่​กับ​พื้น​แล้ว​เห่า​ แบบนี้​ข้า​ก็​จะรู้สึก​ถึงความจริงใจ​ของ​เจ้า”

จากนั้น​ นาง​ก็​เสริม​อีก​ประโยค​

“ผู้​ได้​พาน​พบกัน​ล้วน​มีวาสนา​ต่อกัน​ เจ้าอย่า​ปล่อย​ให้​สหาย​ของ​เจ้าอยู่​ว่าง ๆ​ เลย​ เรียก​พวกเขา​ออกมา​เลีย​แบบ​สุนัข​ให้​ข้า​ดู​พร้อมกับ​เจ้าเลย​แล้วกัน​”

นาง​ชี้ไป​ทาง​รถลาก​ เอ่ย​เสียง​สงบ​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท