ท่าทางของนัทธ์ดูมีมารยาทมาก แต่นั่นกลับไม่ได้ทำให้มุกดาเกิดความรู้สึกดีกับเขาสักเท่าไหร่นัก
ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นกลัวได้ง่ายเพราะเพิ่งเจอเรื่องไม่ดีมา ถ้าหากเธอไม่มีนิสัยที่เด็ดเดี่ยวและจิตใจที่เข้มแข็งละก็ จากเมื่อวานมาจนถึงตอนนี้ก็คงจะถูกเรื่องพวกนั้นทำร้ายจนได้รับความบอบช้ำทางจิตใจแล้ว
“คุยอะไร?” มุกดาถามด้วยความหวาดระแวง
“คุณมุกตา ระยะนี้คุณจำเป็นต้องใช้เงินมากใช่ไหมครับ พ่อของคุณจำเป็นต้องได้รับการรักษาด่วน ยังมีผู้ชายคนนั้นที่ทอดทิ้งคุณไปอีก คุณจะปล่อยให้เขามีชีวิตที่ดีตามใจชอบตลอดไปอย่างนั้นเหรอ?” นัทธ์เล่าเรื่องราวในสองวันนี้ของมุกดาออกมาหนึ่งรอบ
“ถ้าอย่างนั้นจะทำไม? คุณจะมาหัวเราะเยาะฉันอย่างนั้นเหรอ?” มุกดา เบนสายตาไปมองด้านข้าง ใช่ ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่เธออย่างจะจัดการ
“เปล่าครับ ผมมาช่วยคุณคุณมุกตา พวกเราสามารถร่วมมือกันได้ ถ้าหากคุณแต่งงานกับคุณชายของผม ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป” นัทธ์ยังคงพูดอย่างไม่ช้าแล้วก็ไม่เร็ว
พอมุกดาได้ฟังคำพูดนี้ เธอก็หันหน้ากลับมา ตัวเธอเองก็เพิ่งจะหย่าร้างไป ตอนนี้ก็มีคนรีบเข้ามาขอแต่งงานเสียแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหนจริง ๆ ที่มาสนใจคนที่โศกเศร้าเสียใจอย่างนี้แบบตนเองได้
“คุณชายของคุณแขนขาใช้การไม่ได้?” มุกดาถาม
“ไม่ คุณชายของผมแขนขาดีทุกอย่าง” นัทธ์ตอบ
“อย่างนั้นสมองก็มีปัญหา? หรือไม่ก็เป็นคนตาบอด!” มุกดาเอ่ยถาม
“ไม่ ไม่ใช่เลยครับ คุณชายของผมฉลาดมาก แล้วก็สายตาดีมากด้วย แต่ทำไมคุณมุกตาถึงได้ถามอย่างนี้ละครับ?” นัทธ์รู้สึกว่าคุณมุกตาคนนี้ไม่เพียงแต่จะสกปรกมอมแมม แล้วยังจู้จี้จุกจิกอีกด้วย มีคนออกเงินค่ารักษาให้พ่อของตัวเอง ก็ควรที่จะรีบตอบรับสิ จะถามให้มากไปทำไม
นัทธ์ยืนสงบไว้อาลัยให้กับคุณชายของตัวเองหนึ่งนาที คุณชายหาผู้หญิงแบบไหนกันนะ
“ก็เพราะว่า ตอนนี้ฉันซวยมากไง คนที่มีแขนขาครบสมบูรณ์ ไม่ได้ปัญหาอ่อนไม่ได้ตาบอด ทำไมถึงต้องมาขอฉันแต่งงานด้วย? ไหนคุณลองบอกมาสิว่าฉันยังมีค่ามีประโยชน์อะไรอยู่อีก? พอเถอะ คุณกลับไปบอกคุณชายของคุณซะ ว่าฉันมุกดายังไม่มีแผนจะแต่งงานใหม่อีกชั่วคราว ” พอมุกดาพูดจบแล้ว ก็พยักหน้าให้นัทธ์ ก่อนจะเดินจากไป
เธอเดินไปทางห้องผู้ป่วยของคุณพ่อ แต่นัทธ์ก็ไม่ได้จากไป คุณชายสั่งกำชับไว้แล้วว่าจะต้องจัดการเรื่องผู้หญิงคนนี้ เพียงแต่เขาไม่รีบร้อน บนโลกใบนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่ใช้เงินแก้ไขไม่ได้ เขามั่นใจในข้อนี้
ในตอนที่มุกดาเดินเข้าไปในห้องของผู้ป่วย ณิชพนก็อาการสงบลงแล้ว พวกคุณหมอก็ออกไปกันหมดแล้ว มีเพียงพยาบาลหนึ่งคนที่กำลังเฝ้าณิชพนอยู่
“คุณมุกตา คุณมาแล้ว เมื่อกี้นี้ทำเอาฉันตกใจแทบแย่เลย” พยาบาลเพียงแค่ออกไปซื้ออาหารเช้าให้ณิชพน ในตอนที่เธอกลับมา ก็มีคนอยู่ในห้องผู้ป่วยเต็มไปหมด ทำเอาเธอตกใจจนทำอาหารเช้าร่วงลงพื้น
“อืม เมื่อกี้ฉันเห็นแล้ว น่าตกใจจริง ๆ ” มุกดาเดินไปหยุดลงที่ข้างกายของบิดา
ตอนนี้ณิชพนมีสีหน้าที่ขาวซีด ไม่มีสีเลือดเลยแม้แต่นิดเดียว ร่างกายใส่ท่ออยู่เต็มไปหมด
เขานอนอย่างสงบอยู่บนเตียง หากด้านข้างไม่มีเครื่องที่แสดงว่าหัวใจของเขายังเต้นอยู่ ก็คงจะดูเหมือนกับคนใกล้ตายแล้ว
“คุณมุกตา เมื่อกี้นี้คุณหมอพูดว่านี่เป็นยาขวดสุดท้ายแล้ว รอให้คุณจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อน ถึงจะเติมน้ำเกลือให้ เขายังบอก ยังบอกอีกว่า…” เสียงของนางพยาบาลยิ่งต่ำลงไปทุกที
ไม่ต้องถามมุกดาก็รู้ว่าอะไร ถ้าพวกเขาไม่มีเงินก็คงจะให้ออกจากโรงพยาบาลสินะ น้ำตาของเอ่อล้นอยู่ที่ขอบตาของมุกดา
จะทำอย่างไรดีล่ะ? ถ้าออกจากโรงพยาบาล คุณพ่อก็คงจะไม่รอดแน่ ญาติเพียงคนเดียวของตนกำลังจะทิ้งตนไปแล้ว มุกดามองดูใบหน้าของพ่อ เธอกลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว