“ชลธี คุณกินอะไรโตมาเนี่ย?” เช้าวันรุ่งขึ้น พอมุกดาลืมตามาก็มองเห็นหน้าหล่อเหลาใบนั้นกำลังมองสำรวจตนเองอยู่
เธอจึงโมโหขึ้นมา ขยับตัวนิดหน่อย เอวนั้นแทบจะหักไปหมด
มองท่าทางโกรธเคืองของมุกดา ชลธีที่กินอิ่มหนำสำราญจึงยิ้มกริ่มพลิกตัวให้มุกดาแล้ว
“คุณจะทำอะไร?” มุกดามองชลธีอย่างระวัง แต่ว่ายังปวดไปทั้งตัว เธอไม่มีแรงจะต้านทานได้แล้ว
“ผมก็คิดอยู่ เพียงแต่คุณอาจจะไม่ไหวแล้ว” ชลธีกำลังหยอกล้อมุกดา ฝ่ามือใหญ่ของเขาวางอยู่บนเอวของมุกดา กำลังช่วยนวดให้เธอ
ฝีมือของพ่อหนุ่มคนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว นวดให้ตนเองจนรู้สึกสบายตัวมาก มุกดาหลับตาลงแล้วดื่มด่ำกับการนวดไป
พอได้สัมผัสเนื้อและผิวที่เนียนนุ่มของมุกดาเข้า ชลธีรู้สึกว่าตนเองมีปฏิกิริยาตอบสนองมานิดหน่อยอีกครั้ง หลังจากพยายามรวบรวมสมาธิ มือของชลธีก็หยุดลงมาแล้ว
“ต่อสิ อย่ามัวแต่อู้” มุกดากำลังสบายตัวอยู่เลย พอหยุดลงมากะทันหัน จึงทำให้เธอไม่พอใจนัก
“ได้” ชลธีนวดเอวให้มุกดาต่อไปอีก ส่วนเอวของเธออ่อนนุ่มมาก เหมาะที่จะปลดปล่อยหลากหลายท่วงท่า คงเกี่ยวกับการที่เธอเต้นบัลเลต์มาตั้งแต่เด็กด้วยมั้ง?
ในใจของชลธีกำลังนึกอยู่ ถ้ามุกดารู้ความคิดของเขาเข้า ต้องอยากตบเขาให้ตายไปเลยทีเดียว
มุกดาถือว่าสบายตัวแล้ว ชลธีคนนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อก่อนปฏิบัติต่อธินิดาอย่างไรบ้าง จะไม่รู้จักทะนุถนอมแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า
“พอแล้ว อืม ประธานชลธี ทำไมวันนี้คุณถึงไม่ไปทำงานอีกล่ะ?” มุกดาพลิกตัวมา เธออยากลุกไปทำงานแล้ว
“ความจริงผมคิดว่าคุณเรียกผมว่าชลหรือที่รักน่าจะเหมาะกับบุคลิกของคุณมากกว่านะ” สำหรับมุกดาที่เรียกตนเองว่าประธานชลธีนั้น ชลธีไม่ชอบใจเอามากๆ
มุกดามองค้อนเขาไปทีหนึ่ง ไม่รู้จะพูดดีอะไรกับเขาได้จริงๆ พอลุกขึ้นจากเตียง มุกดาก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วเริ่มหวีผมยาวสลวยนั้นของตนเอง ผมของเธอดีมาก ยาวจนใกล้ถึงเอวแล้ว แต่ว่ายังคงทั้งดำทั้งเงาอยู่
“ผมช่วยคุณหวีแล้วกัน” ชลธีแย่งหวีเข้ามา ช่วยมุกดาหวีผมขึ้นมาอย่างเบาๆ
“ประธานชลธี คุณช่วยสาวๆ หวีผมให้บ่อยหรือเปล่า ดูจากฝีมือของคุณยังชำนาญมากเลยนะ” มุกดามองเห็นจากด้านในกระจก ฝีมือของชลธีเบามือและคล่องแคล่วมาก
ชลธีไม่ได้พูดอะไร แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาหวีผมให้หญิงสาวสักคน เขาเม้มริมฝีปากด้วยความประหม่า กลัวว่าจะทำมุกดาเจ็บ
ไม่ง่ายเลยที่เขาจะหวีผมของมุกดาเสร็จเรียบร้อยได้ เขาถึงกับโล่งอกไปทีหนึ่ง
เห็นผมของตนเองหวีได้อย่างพลิ้วไหวเป็นระเบียบดีแล้ว มุกดาจึงมัดเป็นผมหางม้าอันหนึ่ง เรียบง่ายและดูดี
ชลธีกำลังอยากจะชมมุกดาสักหน่อย โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาก่อน เขามองแวบหนึ่งว่าเป็นสายโทรศัพท์ของผู้ช่วยที่โทรเข้ามา จึงเดินออกไปรับโทรศัพท์บริเวณด้านข้าง
หลังจากรับโทรศัพท์เสร็จ ชลธีก็ออกไปแล้ว มุกดาแต่งตัวเรียบร้อย เธอจึงลงมาทานข้าว โดนชลธีทรมานมาคืนหนึ่ง หิวจนท้องร้องจ๊อกๆ แล้ว
ยังไม่ทันทานซาลาเปาลูกหนึ่งหมด โทรศัพท์ของมุกดาก็ดังขึ้นมา แถมดังอย่างดื้อรั้นมากด้วย
พอมองดูว่าเป็นจันวิภาโทรมา มุกดาจึงรีบรับสายทันที
“ฮัลโหล มุก เธอเจอโชคดีเข้าแล้วเหรอ? ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้ได้รับรางวัลใหญ่เลยนี่ หุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของโจนส์กรุ๊ป โอ้มายก๊อด นี่เป็นรางวัลใหญ่ที่ทำคนช็อกตายได้เลยนะ” จันวิภากำลังพูดขึ้นมาในสายโทรศัพท์นั้น
“อืม ใช่” ในปากมุกดาอมซาลาเปาไว้ ตอบรับอืมไปทีหนึ่ง
“แต่ทำไมเธอถึงไม่เอาล่ะ? เงินมากขนาดนั้น เพียงพอสำหรับชีวิตต่อจากนี้ของเธอเลยนะ ถ้าเธอกับชลธีหย่ากัน ก็สามารถทำให้พ่อของเธอหวนกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งด้วย เธอโง่หรือเปล่าเนี่ย?” จันวิภาไม่เข้าใจความคิดของมุกดาเหมือนกัน
“จันทร์ ฉันได้รับรางวัลแล้ว วันนี้จะเลี้ยงข้าวพวกเธอ ตอนที่เจอหน้ากันเอาไว้ฉันจะค่อยๆ เล่าให้เธอฟังนะ เธออยากกินอะไร บอกมาได้เลย!” ในสายโทรศัพท์นั้น มุกดาไม่อยากคุยปัญหาแบบนี้ เพราะอย่างไรก็พูดกับหล่อนไม่กระจ่าง
“ว้าว วันนี้เป็นเศรษฐีเลยสิท่า งั้นได้ ฉันจะสั่งแล้วนะ ฉันอยากกินกุ้งมังกร เย็นวันนี้พวกเราจะกินให้หนำใจไปเลย!” จันวิภาสั่งกุ้งมังกรเล็กไป
“อันนี้เหรอ? ฉันคิดว่าเธอจะสั่งอาหารหรูอะไรเสียอีก! เธออยากกินกุ้งมังกรเล็กจริงๆ?” มุกดาคำนวณเงินในบัตรของตนเองดูแล้ว ยังเพียงพอเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ได้
“ใช่สิ ฉันอยากกินกุ้งมังกรเล็ก แสนดีก็อยากกิน พวกเราอยู่ด้วยกันพอดีเลย เธอไม่ต้องโทรไปหาแสนดีแล้วนะ” จันวิภารายงานที่อยู่ของตนเองไปโดยตรงแล้ว
“งั้นก็ได้ ฉันจะไปจองที่ให้เรียบร้อย เธอ แสนดี ฉันจะชวนพี่ประวีร์มาอีกคน ยังมีฉันด้วย พวกเราสามสี่คนนี้ก็แล้วกัน” มุกดาคิดอยู่ว่าถึงปากชลธีจะบอกว่าอยากให้ตนเองเลี้ยงข้าวเขามื้อหนึ่ง แต่ดูท่าทางกุ้งมังกรนี้เขาคงไม่ไปหรอก
ไว้คราวหลังเถอะ ต่อไปมีโอกาสแล้ว ค่อยเลี้ยงข้าวเขาสักมื้อ
ทานข้าวเสร็จแล้ว มุกดาจึงไปทำงาน แต่ละวันเธอตื่นเช้ามากเพื่อมาทำงาน แต่พอชลธีกลับมาแล้ว กลับมาทำให้งานของตนเองล่าช้าลง
มองภาษาเยอรมันที่ทั้งมากและถี่ยิบนั้น ความคิดของมุกดากลับไปอยู่ที่ชลธี ทำไมชลธีถึงกลับบ้านล่ะ? เขาน่าจะอยู่ด้วยกันกับธินิดาสิ ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนั้น แต่พอชลธีกลับมาบ้านแล้ว ในใจของมุกดากลับดีใจและมีความสุขมากๆ
ที่บ้านนี้ไม่ใช่มีเพียงเธอที่มีความสุข เห็นคุณชายของตนเองตอนเช้าถึงออกมาจากห้องนอน นัทธ์ก็มีความสุขมากเหมือนกัน คุณชายในตอนนี้นับวันยิ่งใส่ใจต่อคุณนายยิ่งขึ้น เขาคงบอกกับคุณผู้หญิงได้เช่นกันแล้ว
คุณผู้หญิงคาดหวังจะอุ้มหลานมาโดยตลอด ดูท่าทางคงน่าจะใกล้แล้ว นัทธ์ไปโทรศัพท์หานีรชาด้วยความเบิกบานใจ
“มุก มุก แม่มาดูหนูแล้ว” มุกดายังยุ่งอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงของนีรชาลอยเข้ามาจากหน้าประตู
“มาแล้วค่ะ มาแล้วค่ะ” นีรชาดีต่อตนเองมาก ในใจมุกดาเข้าใจดี ตอนนี้ที่ตระกูลสุวรรณเลิศ นอกจากชลธีที่ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อตนเอง คนอื่นๆ เหมือนว่าจะดีต่อตนเองมาก
ที่หน้าประตู ในมือของนีรชาหิ้วของบำรุงมามากมาย ยิ้มกริ่มมองมุกดาอยู่
“คุณน้าคะ ทำไมคุณน้าถึงเอาของมามากขนาดนี้คะ?” มุกดารีบรับเข้ามาทันที
“ยังเรียกคุณน้าอะไรกันอีก เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว รีบเรียกแม่สิ!” นีรชาวางข้าวของลงมา ต้องให้มุกดาเรียกตนเองว่าแม่ให้ได้
“แม่!” นานมากแล้วที่มุกดาไม่เคยเรียกคำว่าแม่ออกมา ตอนเด็กมากๆ แม่ก็จากไปแล้ว เธอแทบจะไม่เคยเรียกแม่แต่อย่างใด
“เอ๋! เด็กดี มุกจ๊ะ แม่จะบอกหนูนะ นี่คือเขากวางอ่อน เอาให้ชลกิน นี่คือตังกุย นี่คือเทียนหม่า ที่คือรังนก นี่คือเป๋าฮื้อ……” นีรชานำของที่ตนเองนำมาให้มุกดาดูทั้งหมด
มุกดามองของกองใหญ่นั้นอยู่ ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไร พวกนี้เป็นของบำรุงขนานใหญ่สินะ
“แม่คะ ร่างกายของหนูสบายดีค่ะ แข็งแรงมาก ไม่ต้องบำรุงหรอกค่ะ ประธานชลธีเขาคงไม่ต้องการมั้งคะ?” มุกดาคิดว่าชลธีไม่กินของบำรุงยังมีกำลังวังชามากขนาดนั้น ถ้ากินของบำรุงเข้าไป งั้นตนเองคงทรมานหนักกว่าเดิมไปอีกน่ะสิ!