ทำไมได้ยินคำพูดของทศพร จันวิภารับไม่ได้เลย เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นคนอบอุ่นที่สุดในจิตใจของเธอ มีผู้ชายตัวใหญ่แบบนี้โผล่มากะทันหัน ยังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยท่วงท่าที่หล่อเหลา บอกกับตัวเองว่า เขาเป็นเด็กผู้ชายที่ตัวเองคิดถึงมาตลอด ความรู้สึกดีใจและตกใจแบบนี้ ทำให้จันวิภายอมรับไม่ได้ในทันที
ทศพรพูดความคิดของตัวเองออกไปแล้ว ที่จันวิภายอมรับไม่ได้เขาก็เข้าใจ ถ้าเป็นเขา เขาคงไตร่ตรองคิดแล้วคิดอีก
“ได้ งั้นฉันออกไปก่อนนะ เธอคิดไปก่อน สร้อยเธอเก็บไว้แล้วกัน” ทศพรเอาสร้อยวางไว้บนโต๊ะจันวิภา และออกไปทันที
จันวิภาจะบ้าตายอยู่แล้ว เรื่องเป็นยังไงกันแน่ พระเจ้าช่วยลูกด้วย ภาพอันงดงามในตอนนั้นตอนนี้กลายเป็นจริงแล้ว พี่ชายที่หล่อเหลาคนนั้น พี่ชายที่ตัวเองฝันคะนึงหาทุกค่ำคืน ที่แท้ก็คือทศพรเองเหรอ!
คุณชายหน้าหม้อที่มีชื่อเสียงในพระนคร จันวิภามองดูสร้อยคอเส้นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าจะทิ้งไปก็คงเสียดาย เพราะยังไงก็เก็บรักษามาอย่างดีมานานหลายปี
ถ้าไม่ทิ้งละก็ แต่นี่มันเป็นของคุณชายหน้าหม้อนั้นนะ!
ในใจคิดแบบนี้อยู่นั้น จันวิภาก็กำสร้อยนั้นไว้แน่น เธอเสียดาย เสียดายภาพที่งดงามในใจนั้น เธอคอมปลอบใจตัวเองอยู่แบบนี้ ทศพรกับพี่ชายในตอนนั้นก็แบ่งเป็นสองคนแล้วกัน ให้ความทรงจำของพี่ชายคนนั้นหยุดอยู่ที่รอยยิ้มอันอบอุ่นนั้นดีกว่า
พอคิดได้แล้ว จันวิภาก็โล่งอก เธอเก็บสร้อยเส้นนั้นไว้อีกครั้ง
ตอนที่เธอมองไปที่คอมบนโต๊ะ โธรณีก็ส่งข้อความมาหาเธอ
“จันทร์ ทศพรมาหาเธอมีเรื่องอะไรเหรอ? ต้องการความช่วยเหลือไหม ถ้าต้องการก็บอกเลยนะเดี๋ยวฉันจะไป”
จันวิภาเห็นเพื่อนตัวเองส่งข้อความมา เธอก็ยิ้มอย่างพอใจ และเธอก็ส่งรูปสติกเกอร์ยิ้มกลับไป จากนั้นก็บอกว่าตัวเองไม่เป็นไร ทศพรแค่มาเยี่ยมตัวเอง ไม่ได้มาหาเรื่องเลย
“จันวิภา วันนี้เธอไปอสังหาลิมทรัพย์เจริญพรกับฉัน พวกเราจะให้พวกเขาใช้วัสดุก่อสร้างที่พวกเราผลิตเอง เพื่อสร้างบ้าน นี่เป็นรูปออกแบบฉัน เธอดูไปก่อน เดี๋ยวพวกเราจะรีบเดินทางกันเลย” ผู้อำนวยการแผนกการตลาดยื่นเอกสารมาให้จันวิภา ให้เธอรีบดูอ่านให้ละเอียด
จันวิภาก็ตั้งใจทำงานทันที เจริญพรกรุ๊ปเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในพระนคร ผู้ทำวัสดุก่อสร้างมากมายอยากจะร่วมมือกับเจริญพรกรุ๊ปกันทั้งนั้น
แต่ประธานของเจริญพรกรุ๊ปฉลาดมาก ลือกันว่าเขาไม่ได้อยู่บริษัทบ่อยๆ ดังนั้นจะตามหาเขานั้นไม่ง่ายเลย
“จันวิภา เธอจะต้องใช้ความสามารถตัวเองที่มีอยู่ทั้งหมดนะ ถ้าได้ร่วมงานกับเจริญพรกรุ๊ป ค่าคอมมิชชั่นของพวกเราก็พอใช้ทั้งชีวิตแล้วล่ะ” ผู้อำนวยการพูดกับจันวิภา
“ค่ะ ฉันจะพยายาม” จันวิภาได้ยินแล้วก็มีความสุขมาก ค่าคอมมิชชั่นที่พอใช้สำหรับทั้งชีวิต เธอจะต้องพยายามให้สุดความสามารถสิ
ทั้งสองนั่งรถไปที่บริษัทหลักของเจริญพรกรุ๊ป
บริษัทฮอนดากรุ๊ปเป็นพวกจำพวกชอบเปิดเผย สร้างบริษัทหลักไว้ที่ใจกลางเมือง แต่เจริญพรกรุ๊ปเป็นจำพวกชอบเก็บซ่อน สร้างบริษัทหลักไว้ที่ชานเมือง
บรรยากาศที่นี่ดีมาก รอบด้านไม่มีสิ่งก่อสร้าง มีแค่ตึกสูงเดียว รอบด้านเป็นพืชสีเขียวที่สวยงามทั้งหมด
จันวิภากับผู้อำนวยการเดินมาที่ประตูใหญ่ของเจริญพรกรุ๊ป ด้านในมีพนักงานต้อนรับอยู่
“ขอโทษนะคะ พวกคุณมาหาใครคะ?”
“อ้อ พวกเรามาหาประธานของพวกคุณน่ะครับ มีบางเรื่องต้องรบกวนท่านหน่อยน่ะครับ” ผู้อำนวยการบอกสาเหตุที่มากับพนักงานต้อนรับทันที
“อ้อ มาหาประธานต้องมีนัดมาก่อนนะคะ พวกคุณมีนัดไว้หรือเปล่าคะ?” พนักงานต้อนรับเชิญจันวิภาและผู้อำนวยมารอที่ห้องรับแขก และเทน้ำชาให้พวกเขา
“ไม่มีครับ พวกเราเป็นพนักงานของบริษัทฮอนดากรุ๊ป อยากจะมาคุยเรื่องธุรกิจกับประธานเจริญพรกรุ๊ปสักหน่อยน่ะครับ” ผู้อำนวยการไม่ได้นัดกับประธานของเจริญพรกรุ๊ปไว้ก่อนจริง มันนัดไม่ได้จริงๆ คนคนนี้เจอตัวได้ยากมากจริงๆ
แค่ฟังจากสายสืบของตัวเองว่าวันนี้ประธานเจริญพรกรุ๊ปอยู่บริษัทหลัก ดังนั้นเขาจึงรีบพาจันวิภามา
“อ้อ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ประธานของเราจะไม่เจอคนที่ไม่มีนัดค่ะ อีกอย่าง วันนี้มีการนัดของประธานบริษัทณัฐฐา ส่วนคนอื่นๆก็อยู่ด้านหลังๆ ประธานยุ่งมากเลยค่ะ” พนักงานต้อนรับอธิบายกับจันวิภาและผู้อำนวยการ
ความหมายก็คือไม่เจอ ไม่มีนัดก็เข้าพบไม่ได้
“คุณครับ ช่วยหน่อยสิครับ พวกเรามีธุรกิจสำคัญที่ต้องคุยจริงๆนะครับ” ผู้อำนวยการพูดกับคุณพี่คนนั้น
แต่พนักงานต้อนรับกลับหยิ่งมาก เธอก็เพิ่งเข้าทำงาน ไม่เคยได้ยินบริษัทฮอนดากรุ๊ปมาก่อน เห็นสองคนดึงดันจะเข้าพบประธานให้ได้ เธอก็ยิ่งหยิ่งยโสเข้าไปใหญ่
“บอกแล้วว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ ประธานไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะเข้าพบได้!” พนักงานต้อนรับหันหลังเดินออกไป ไม่อยากพูดกับจันวิภาและผู้อำนวยการอีก
“ผู้อำนวยการคะ คุณไม่ได้นัดไว้เหรอคะ ถึงว่าคนอื่นไม่ต้อนรับพวกเรา ครั้งหน้านัดก่อนแล้วค่อยมาดีกว่าไหมคะ?” จันวิภาก็อยากจะกลับแล้วเหมือนกัน
“ได้ยินว่าประธานคนนี้ขี้เกียจมาก มักจะไม่อยู่ในบริษัท จะตามหาเขาทีก็เป็นเรื่องที่ยากมาก” ผู้อำนวยการรู้สึกเหนื่อยใจ เขาเคยร่วมงานกับบริษัทมามากมาย แต่ยังไม่เคยร่วมงานกับเจริญพรกรุ๊ปเลย นี่เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งสำหรับเขา
“งั้นพวกเราก็รอปักหลักอยู่ตรงนี้เลยค่ะ ผู้อำนวยการกลับไปก่อนเถอะ เมื่อกี้พนักงานต้อนรับก็บอกแล้วว่า ประธานของพวกเขาวันนี้อยู่ในบริษัทจริง งั้นฉันก็จะรออยู่ที่โรงจอดรถ ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะไม่กลับไป” จันวิภาพูดกับผู้อำนวยการ
ผู้อำนวยการคดแล้วก็ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว เขายังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมาก จะคอยอยู่ตรงนี้ที่เดียวก็คงไม่ได้ งั้นในเมื่อจันวิภาจะปักหลักรออยู่ที่นี่ เขารู้สึกว่าเป็นวิธีที่ดีมาก
“ได้ ถ้าเรื่องในครั้งนี้สำเร็จ ฉันค่าคอมมิชชั่นให้เธอ” ผู้อำนวยการรู้สึกพอใจในตัวจันวิภามาก
แม้ยัยหนูจะนิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่การฝีมือทำงานเยี่ยมมาก มีลูกค้ามากมายที่พวกเขาจัดการไม่ได้ เธอก็จัดการได้หมด ดังนั้นเลยพาเธอมาที่เจริญพรกรุ๊ป
ผู้อำนวยการพูดกำชับเธออีกเล็กน้อย ก็คงเป็นเรื่องให้จันวิภาอย่าสติแตก ตอนนี้พวกเขาต้องมาขอร้องเจริญพรกรุ๊ป
จันวิภาตอบตกลง ตอนที่เธอคุยเรื่องร่วมงานด้วยเคยสติแตกซะที่ไหน แต่ในตอนที่ลูกค้าอยากลวนลามเธอ เธอก็จะไม่เกรงใจเหมือนกัน
ผู้อำนวยการไปแล้ว จันวิภาก็เลยรอประธานปรากฏตัวที่โรงจอดรถในเจริญพรกรุ๊ป
ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว พนักงานต่างก็ทยอยกันลงมา บางคนจะกลับไปกินที่บ้านก็เดินลงมาขับรถออกไปกันหมด
แต่กลับไม่เห็นคนที่ท่าทางเหมือนประธานออกมาเลย
ได้ยินว่าประธานของเจริญพรกรุ๊ปขับรถเฟอร์รารี่สีแดงสด จันวิภาสอดส่องอยู่นาน ก็ไม่เห็นรถคันนั้นอยู่ในโรงจอดรถเลย
“จัน? เธอมาทำอะไรที่นี่น่ะ?” ในตอนที่จันวิภายืนจนขาชาไปหมด มีบางคนเห็นเธอก็เลยตะโกนเรียกเธอไว้