แต่งรักมัดใจบอส – บทที่ 160 บ้านที่ไม่สงบสุข

แต่งรักมัดใจบอส

“คุณยายครับ ผมเคารพคุณยาย คุณยายก็ต้องเคารพภรรยาของผมเหมือนกัน” ชลธีอุ้มมุกดาเอาไว้ และตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย จากนั้นก็เดินเข้าห้องไป

“ฉัน ฉัน นังสุนัขจิ้งจอกพวกนี้คิดว่าตัวเองสวย แล้วจะทำให้ผู้ชายหลงจนหัวปักหัวปำได้งั้นเหรอ? สามีก็ไม่สนใจฉัน ลูกชายก็ยังมาโกรธฉันอีก ดูตอนนี้สิ หลานชายของฉันก็ยังเป็นแบบนี้อีก ฉัน……” ย่านิ่มอยากจะพูดอะไร แต่กลับถูกสิริกรห้ามไว้ก่อน

“แม่คะ อย่าโกรธไปเลย ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว พวกเราควรพักผ่อนแล้วนะคะ”

สิริกรเพิ่งมา ก็ทำตัวให้ใจกว้างได้มากที่สุด เธอไม่อยากเหมือนกับย่านิ่ม ที่เอาแต่ก่นด่า ย่านิ่มเป็นผู้อาวุโสในบ้านหลังนี้ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แต่เธอไม่เหมือนกัน เธอเป็นแค่อดีตภรรยา ดังนั้นจึงต้องนอบน้อมหน่อย

“มีแต่เธอสินะที่ดี หลายปีมานี้ไม่ทิ้งฉันไปไหนเลย และไม่เหมือนพวกนั้นที่ไปหาคนใหม่ ต้องขอโทษเธอด้วยนะ” ย่านิ่มตบมือสิริกรเบาๆ

สิริกรคบกับชุติภาส เธอก็ไม่เคยมองชายใดอีกเลย แน่นอนเธอไม่ได้หาคนใหม่ด้วย

“แม่คะ หนูควรดูแลแม่อยู่แล้วค่ะ หาคนใหม่อะไรกันคะ ไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าแม่หรอกค่ะ” สิริกรจะต้องได้ใจย่านิ่มมาให้ได้ เธอจะต้องปากหวานเหมือนน้ำตาลเชื่อม

ทั้งสองพูดคุยอยู่นั้นก็เดินมาถึงห้องของพวกเขา ย่านิ่มเดินไปด้วยก็ด่านีรชาและมุกดาไปด้วย แม้จะสวยแค่ไหนเธอเห็นแล้วก็ไม่สบายใจอยู่ดี

ตอนเช้า ชลธีขยับตัวเล็กน้อยมุกดาก็ตื่นแล้ว วันนี้เธอต้องไปเยี่ยมชมวัฒนธรรมชาของประเทศจีนกับคุณนายโรส ดังนั้นต้องตื่นเช้าหน่อย จะสายไม่ได้เด็ดขาด

“มุก วันนี้เธอจะต้องไปกับคุณนายโรส ต้องระวังให้มากนะ คุณนายโรสไม่ได้นิสัยดีขนาดนั้น อาจจะจัดการกับหล่อนยากหน่อย” ชลธีพูดกับมุกดา

“อืม ฉันรู้แล้ว” มุกดาตอบรับ

แต่ว่าชลธีก็แอบนับถือมุกดาอยู่เหมือนกัน เมื่อวานเธอได้อยู่กับคุณนายโรสและคุณนายเจนนี่ทั้งคืนเลย สองคนนั้นเป็นคนที่ทั้งหยิ่งและเข้มงวด

มุกดาเลือกกระโปรงสีชมพูที่คุณนายเจนนี่ให้มา เธอชอบกระโปรงตัวนี้มาก เรียบง่ายและถูกกาลเทศะ เธอม้วนผมยาวสลวยของตนขึ้นมา แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่

ไม่มีเครื่องประดับอะไรมากมาย ใส่แค่กำไลที่นีรชาให้ตนเองบนข้อมือ

มองดูตนเองบนกระจก มุกดาก็รู้สึกพอใจมาก แต่เธอก็ยังมีความไม่มั่นใจเล็กน้อย เลยถามชลธี

“ชล นายคิดว่าวันนี้ฉันใส่แบบนี้ไปได้ไหม? ดูถูกกาลเทศะไหม?”

“ถูกกาลเทศะแล้วล่ะ ภรรยาของฉัน ไม่แย่ขนาดนั้นหรอกนะ” ชลธีพูดอย่างภูมิใจ

เขาเห็นมุกดาแล้วก็ยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก เธอทั้งสวยทั้งสง่าและยังใจกว้าง ไม่รู้ว่าธีรเมทนั่นตาบอดหรือเปล่า ถึงทิ้งสาวสวยที่เพียบพร้อมแบบนี้ไปได้

“งั้นก็ดี ลงไปกินอาหารเช้ากันเถอะ” มุกดารู้ว่าชลธีชมเกินจริง แต่ว่าได้ยินแล้วก็สบายใจมาก

“พวกเรารออยู่ตรงนี้ตั้งนาน พวกเธอคิดจะให้พวกเรารอจนถึงเมื่อไหร่กัน?” ย่านิ่มเห็นมุกดาแต่งตัวสวยและเดินลงมาพร้อมชลธี เธอก็ไม่พอใจอีกแล้ว

ปู่ปรัณมองค้อนเธอ

“มุก มากินข้าวสิ กินข้าวแล้วค่อยไปทำงาน” ปู่ปรัณเรียกมุกดา เขาจะให้เด็กพวกนี้กินข้าวให้เสร็จก่อนค่อยไป ไม่ต้องสนใจย่านิ่ม

“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณปู่ คุณยาย” มุกดาทักทายทั้งสองท่านอย่างมีมารยาท

“ไม่เช้าแล้วล่ะ แดดออกจนจะเที่ยงแล้ว” ย่านิ่มกินโจ๊ก และพูดด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

วรรณวิมลได้ยินย่านิ่มด่ามุกดา ก็ดีใจมาก จนกินหมั่นโถวไปทั้งลูก

ธีร์ธวัชกับนิตย์รวีร์มองชลธีด้วยแววตาที่สะใจ ในใจก็สมน้ำหน้าเขา

ชลธีไม่ได้พูดอะไร แค่ยกเก้าอี้ให้มุกดาอย่างใส่ใจ ให้เธอนั่งลงก่อน ตนเองค่อยนั่งลงข้างๆเธอ

มุกดาก็ทำเป็นไม่ได้ยิน เธอไม่อยากให้ชลธีลำบากใจ ไม่ใช่ว่าเธอกลัวหรอกนะ แต่เธอแค่อยากถนอมบรรยากาศภายในครอบครัวไว้

ตอนที่กินข้าวนั้นย่านิ่มไม่ได้พูดอะไร ทุกคนกินข้าวให้หมดเงียบๆ จากนั้นก็แยกย้ายกันออกไป

มุกดายังไม่มีรถของตัวเอง ชลธีก็สั่งให้คนขับรถอยู่กับมุกดาตลอดทั้งวัน

มุกดามาถึงโรงแรมที่คุณนายโรสพักอยู่ รอเธออยู่ที่หน้าประตู ดูเวลาแล้วยังเช้าอยู่ มุกดาก็หยิบนิตยสารขึ้นมาดู

คุณนายโรสตื่นขึ้นมาตั้งนานแล้ว กินข้าวเช้าเสร็จ เธอก็นั่งรอมุกดาอยู่ นัดกันแปดโมงครึ่ง แต่ตอนนี้พึ่งแปดโมงสิบนาทีอยู่เลย

ตั้งแต่มุกดาเดินเข้ามาในโรงแรม เธอก็เห็นแล้ว ไม่เลวเลยนะ เป็นเด็กที่ตรงเวลาจริงๆ

ในตอนที่เธอคิดว่ามุกดาจะโทรศัพท์หาตน มุกดากลับนั่งลงบนโซฟาในล็อบบี้ของโรงแรมและอ่านนิตยสารขึ้นมา

โรสก็ไม่ออกไป เธอกลับไปที่ห้องของตน นั่งลงสักพัก ดื่มน้ำสักหน่อย โรสเห็นว่าเวลาถึงแปดโมงครึ่งแล้ว โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นมาทันที พอดูแล้วก็เป็นเบอร์โทรแปลกๆ

“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ คุณนายโรสใช่ไหมคะ ดิฉันมุกดานะคะ มารอคุณอยู่หน้าประตูโรงแรมแล้วนะคะ คุณพร้อมหรือยังคะ?”

เสียงอ่อนหวานของมุกดา โรสฟังแล้วก็รู้สึกเพลินมาก

“อ้อ ฉันพร้อมแล้วล่ะ เธอคงรอนานเลยสิท่า?” คุณนายโรสพูด

“ไม่หรอกค่ะ ดิฉันก็เพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน งั้นดิฉันรอคุณอยู่ด้านล่างนะคะ” มุกดาพูดจบก็วางสายทันที

เป็นเด็กที่รู้กาลเทศะจริงๆ เธอไม่ได้เอาตนเองเป็นหลัก ในเมื่อบอกว่าแปดโรงครึ่ง เธอมาเช้าเอง และไม่รบกวนคุณนายโรสด้วย พอถึงเวลาแล้วก็ค่อยโทรหาคุณนายโรส

ข้อนี้ทำให้คุณนายโรสพอใจมากจริงๆ

คุณนายโรสแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินออกไป เธอยังพาเพื่อนเก่ายูริสไปด้วย ยังไงทุกคนก็มาเที่ยวเล่นประเทศจีนหลายวัน มีมัคคุเทศก์ที่ใจตรงกัน ก็พอดีเลย

“สวัสดีค่ะ คุณนายโรส สวัสดีค่ะคุณยูริส ตามดิฉันมาได้เลยค่ะ” มุกดายิ้มทักทายนักลงทุนทั้งสองคน เธอเชิญสองท่านนี้มาได้ก็พอใจมากแล้วล่ะ

“คุณนายโรส คุณยูริส วันนี้ดิฉันจัดแพลนเที่ยวไว้แบบนี้ค่ะ ตอนเช้าอากาศค่อนข้างดี ดิฉันจะพาพวกคุณไปเที่ยวชมไร่ชาที่ชานเมืองในพระนคร ตอนกลางวันพวกเราจะทานอาหารกันที่ไร่ชา ตอนบ่ายอากาศค่อนข้างร้อน ดิฉันจะพาพวกคุณไปโรงน้ำชาที่จับใจ ชาที่นั่นมีเยอะมาก พวกคุณสามารถไปทดลองได้ช้าๆ” มุกดาบอกแผนการของตนให้สองท่านฟัง

“ได้ ในเมื่อพวกเราตกลงกับเธอแล้ว เธอก็วางแผนเที่ยวให้พวกเราก็พอแล้วล่ะ” คุณนายโรสกับคุณยูริสพยักหน้าตกลง

“ขอบคุณที่เชื่อใจดิฉันนะคะ งั้นพี่โชเฟอร์คะ พวกเราไปโรงน้ำชาทุ่งมิตรก่อนค่ะ” มุกดาหันไปพูดกับคนขับรถ ขับรถตรงไปที่โรงน้ำชาทุ่งมิตรที่เธอบอก

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

Status: Ongoing
ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท