The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1318 – สระสวรรค์

ตอนที่ 1318 - สระสวรรค์

ตอนที่ 1318 – สระสวรรค์

   แม้แต่พ่อข้าเองก็ไม่รู้เรื่องข้าเก็บมันเป็นความลับมาจนถึงเวลานี้ 

  ลั่วเฟยกล่าว

  นางพูดต่อ

   ส่วนเรื่องการใช้งานข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน แต่ข้าเคยช้มันที่สระสวรรค์ในพันธมิตรประจิมมาก่อน ข้าตกได้สมุนไพรอมตะ 

  สมุนไพรอมตะ…มันคือสิ่งที่ทำให้กงซุนหวูซื่อคงสภาพร่างกายที่สิบปีไม่ใช่หรอกหรือ?

  จากที่ซือหยูเก็บรวบรวมข้อมูลมาได้จักรวาลในตอนนี้ไม่เคยมีบันทึกว่ามีผู้ใดปลูกสมุนไพรอมตะได้มาก่อน

  สุดท้ายเขาก็ได้คำอธิบายถึงที่มาของสมุนไพรอมตะจากลั่วเฟย

  แต่สระสวรรค์นั่นอยู่ที่ใดกัน?

  มีสถานที่นั้นอยู่ในพันธมิตรประจิมด้วยหรือ?

  ซือหยูคิดครู่หนึ่งก่อนจะคืนคันเบ็ดไป

   มันล้ำค่าเกินไปข้ารับไว้ไม่ได้หรอก 

  ลั่วเฟยยิ้มอย่างอ่อนโยน

   ข้าเลือกจะให้ท่านเป็นของขวัญก็เพราะว่ามันมีค่าหากข้าไม่ให้ พวกเราจะใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจหลังจากหนีไปจากพันธมิตรประจิมหรือ? 

  กงซุนหยาพูดขึ้นบ้าง

   สิ่งนี้แทนคำขอบคุณจากครอบครัวเราอย่าได้ปฏิเสธเลย 

   ถ้าเช่นนั้นก็ขอบคุณมาก 

  ซือหยูรับคันเบ็ดเอาไว้

   เทพอวี่ไปส่งพวกเขาด้วย 

  เทพอวี่เรียกเรือบินออกมาส่งครอบครัวกงซุนไปจากพันธมิตรทั้งสามเดินทางไปสู่จักรวาลอันไกลโพ้น

   ข้าขออวยพรให้พวกเจ้าโชคดีแทนท่านเจ้าพันธมิตร 

  เทพอวี่กล่าว

  กงซุนหวูซื่อน้ำตาไหล

   ทำไมเขาถึงไม่ให้ข้าอยู่กัน?ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดนะ! 

  เทพอวี่ยิ้มอย่างอบอุ่น

   นี่ก็เพื่อตัวเจ้าเองท่านเจ้าพันธมิตรกำลังจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ มิอาจถูกเบี่ยงเบนความสนใจมาดูแลเจ้าได้ ถ้าหากท่านเจ้าพันธมิตรไม่ห่วงใยเจ้า ท่านก็คงไม่ส่งเจ้าไป! ข้าพูดได้เพียงเท่านี้ โปรดถนอมตัวด้วย 

  ที่ตำหนักเจ้าพันธมิตรซือหยูถอนหายใจอย่างเงียบเชียบ เขารู้สึกท้อใจ

  ใบหน้าอันคุ้นเคยของคนในอดีตได้หายไปจากชีวิตเขาไปทีละคนไม่มีใครมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้พบเจอกันหรือไม่ในชีวิตนี้

   เมื่อไหร่กันที่ข้าจะได้อยู่บนจุดสูงสุดของโลกจุดที่คนที่ข้ารักจะไม่ต้องอยู่ห่างไกลจากข้า?    เสียงอันเปล่าเปลี่ยวของซือหยูดังก้องในห้องอันว่างเปล่า

  ตู้ม!

  เสียงระเบิดดังลั่นพันธมิตรประจิมสั่นอย่างรุนแรง ดูเหมือนจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ของพันธมิตรได้หลุดออกไป

  ซือหยูเหลือบมองเป็นตระกูลหลินหลางที่เป็นผู้นำการเคลื่อนย้ายโลกของตัวเอง

  ร่างซือหยูเปล่งแสงห้าสีเขาก้าวพริบตาไปที่เหนือโลกหลินหลาง

  เขาก้มลงมองจากด้านบนเขาได้เห็นโลกหลินหลางที่มีรากฐานเป็นสระสีขาวนวล

   เอ๋?รากฐานพันธมิตรประจิมคือสิ่งนี้รึ? 

  ซือหยูทึ่งในใจ

  เขามองโลกฉีเหมินที่กำลังจะหลุดออกไปเช่นเดียวกันเขาเห็นผิวสระสีขาวนวลด้วย

   ข้าชักอยากจะรู้แล้วว่าสิ่งใดที่เป็นรากฐานของพันธมิตรประจิม…    ซือหยูสงสัย

  หลังจากกลับไปยังตำหนักเจ้าพันธมิตรเขาพลิกหน้าบันทึกโบราณที่ส่งต่อจากเจ้าพันธมิตรคนก่อนขึ้นอ่าน

  หลายวันต่อมาซือหยูก็ได้ข้อมูลถึงเรื่องรากฐานของพันธมิตรประจิมจากบันทึกเล่มหนึ่ง

   สระสวรรค์?มันคือสระสวรรค์ที่ลั่วเฟยตกสมุนไพรอมตะขึ้นมางั้นรึ? 

  ซือหยูตกใจ

  หรือว่าสระสวรรค์ที่ลั่วเฟยพูดถึงจะเป็นรากฐานของพันธมิตรประจิม…คือสระสีขาวนวลที่เขาเห็น?

  ที่มาของสระสวรรค์นั้นไม่มีบันทึกเอาไว้เพราะมันตั้งอยู่ก่อนที่พันธมิตรประจิมจะถือกำเนิดขึ้น

  แต่แปลกมากที่แม้สระจะถูกรายล้อมไปด้วยวารีจักรวาลสระก็ไม่เคยล้นไม่ว่าจะมีวารีจักรวาลไหลไปมากเท่าใด ระดับน้ำในสระไม่เคยเพิ่มขึ้นเลย

  ราวกับว่ามีก้นบึ้งไร้ที่สิ้นสุดอยู่ใต้สระที่ดูดทุกสิ่งทุกอย่างลงไปได้

  นี่เป็นเหตุที่โลกหลายใบตั้งอยู่บนผิวสระได้อย่างแน่นหนา

   ไม่คิดเลยว่าจะตกของขึ้นมาจากสระได้ลั่วเฟยได้พบสิ่งที่ไม่ตำราไม่เคยกล่าวถึงเสียแล้ว 

  ซือหยูหัวเราะเบาๆ

  หลังจากอ่านข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับสระสวรรค์ทั้งหมดซือหยูถือตำราเก่าเล่มหนึ่งเอาไว้

  ตำรานี้กล่าวถึงสระสวรรค์โดยเฉพาะความเข้าใจในเรื่องสระสวรรค์นั้นมาจากบันทึกเล่มนี้

  ซือหยูกำลังเพ่งสมาธิอยู่กับหน้าหนึ่ง

  เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดแต่หน้าที่เขากำลังสนใจได้ถูกใครบางคนฉีกออกไป

  ซือหยูคงไม่ต้องกังวลนักถ้าหากกลิ่นอายที่ทิ้งเอาไว้บนบันทึกเล่มนี้เป็นของคนที่เขารู้จัก

  ถ้าเขาเดาไม่ผิดคนที่ฉีกหน้านี้ไปคือลั่วหวน

  ทำไมลั่วหวนต้องฉีกหน้านี้ออกกัน?มีบางอย่างที่ลั่วหวนอยากปิดเอาไว้รึ?

  มีเจ้าพันธมิตรมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยคนในอดีตทำไมลั่วหวนจึงเป็นคนเดียวที่ฉีกหน้านี้?

  สัญชาตญาณบอกซือหยูว่าหน้าที่ลั่วหวนฉีกออกไปนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากและลั่วหวนก็ไม่อยากให้ซือหยูได้อ่านมัน

  หลังจากไตร่ตรองดวงตาของซือหยูเปล่งแสงออกมาส่องหน้าที่หายไป

  เวลามิติ และดวงวิญญาณ พลังทั้งสามได้สร้างมิติใหม่ขึ้นมา

  การย้อนเวลาเกิดขึ้นในพื้นที่เล็กๆ บนหน้ากระดาษที่ถูกฉีก

  เวลาไหลย้อนกลับไปสามเดือนก่อนเขาได้เห็นมือข้างหนึ่งฉีกกระดาษอย่างรุนแรงจากตำรา

  เขาได้เห็นเจ้าของมือจะเป็นใครไปได้นอกจากลั่วหวน?

  เวลาย้อนกลับไปอีกซือหยูได้อ่านเนื้อหาที่ถูกฉีกออกไปอย่างชัดเจน ทุกบรรทัดปรากฏต่อสายตา

  เขาจดจำมันทันทีเพราะเวลาการย้อนเวลากำลังจะหมดลงแล้ว

  เมื่อกลับสู่ความเป็นจริงซือหยูตกตะลึง

   มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวซ่อนเอาไว้อยู่ในสระสวรรค์ด้วยรึ? 

  เรื่องเล่าอันน่ากลัวถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าที่ถูกฉีกทิ้งมันเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่พันธมิตรประจิมได้เลือกที่นี่เป็นที่ตั้ง

  วันหนึ่งสระสวรรค์ได้เดือดพล่าน พลังทำลายล้างปลดปล่อยออกมาพุ่งตรงเข้าสู่โลกอสูร มันทะลวงโลกอสูรจนยักษ์ทะเลขมบาดเจ็บสาหัส

  มันเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อนซึ่งเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ในหน้าที่ถูกฉีกออกไป

  ในเวลานั้นยาวนานมากแทบจะไม่มีใครรู้ว่ามีพลังทำลายล้างปล่อยออกมาจากสระสวรรค์ ยกเว้นแต่คนที่ได้อ่านเรื่องราวนี้

   ฮื่มลั่วหวนช่างระวังตัวดีนัก มันลบบันทึกสำคัญเพื่อที่ฉีเหมินเจี้ยนที่อาจได้เป็นเจ้าพันธมิตรจะไม่รู้เรื่อง! 

  ถ้าหากลั่วหวนไม่ฉีกมันทิ้งไปซือหยูอาจจะไม่สนใจมันเลยก็ได้

  แต่น่าเสียดายเขารู้เรื่องแล้ว!

  เขารู้ว่ามีพลังอันน่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่ในสระสวรรค์แต่การใช้พลังนั้นยังคงเป็นสิ่งที่เขาไม่รู้

   ข้าต้องตรวจสอบสระสวรรค์ 

  ซือหยูก้าวพริบตาไปยังสระสวรรค์ในเวลาต่อมา

  หลายวันผ่านไปแล้วเทพหลายคนเองก็เคลื่อนโลกของตัวเองไป เผยให้เห็นพื้นที่ที่เป็นสระสวรรค์  ซือหยูก้าวพริบตาไปยังข้างสระและจ้องมองมัน

  ตามบันทึกสระสวรรค์เป็นวารีที่มิอาจสัมผัสได้ ไม่มีบันทึกว่าผู้ที่จมลงไปแล้วมีชีวิตกลับมา

  ต่อให้เป็นสิ่งไม่มีชีวิตหากตกลงไปยังสระสวรรค์ มันจะถูกพลังไม่ทราบที่มาดูดลงไป

  ซือหยูเรียกสมบัติที่ไม่ใช้แล้วออกมา

  เขาปล่อยพลังเซียนมัดรอบสมบัติเอาไว้และค่อย ๆ หย่อนมันลงสู่สระสวรรค์

  ทันทีที่มันสัมผัสกับสระสวรรค์สมบัติได้ถูกแรงดึงมหาศาลดึงลงไปและหายไปใต้ผิวสระ

  แรงดูดส่งมาถึงซือหยูผ่านพลังเซียน

  ซือหยูดวงตาแข็งกร้าวเขาไม่ถูกดูดลงไปเพราะตัดพลังได้ทัน

   พลังอะไรกัน… 

  ซือหยูตัวแข็งทื่อ  ไม่นานหลังจากนั้นซือหยูโยนอย่างอื่นลงไปอีก พวกมันหายไปเหมือนกับครั้งแรก

  ผิวสระสวรรค์มิอาจถูกสัมผัสได้เลยหากมีสิ่งใดสัมผัสจะไม่ได้กลับมาอีก

  แล้วลั่วเฟยตกปลาในสระสวรรค์ได้ยังไง?

  ซือหยูถือคันเบ็ดสีขาวด้วยมือซ้าย

  คันเบ็ดนี้ให้สัมผัสอันอบอุ่นมันมีกลิ่นอายที่ซือหยูคุ้นเคย

  เส้นเอ็นบางพันรอบคันเบ็ดตัวเบ็ดผูกเอาไว้ที่ปลายสาย

  ซือหยูไม่พบอะไรพิเศษในเบ็ดคันนี้เลย

   ขอลองหน่อยก็แล้วกัน 

  ซือหยูถือคันเบ็ดในมือเขาเหวี่ยงมันไปข้างหน้า มองปลายสายหย่อนลงสู่สระสวรรค์

  เขาเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าจะทิ้งเบ็ดคันนี้ถ้าหากมันจะดูดเขาลงไป

  แต่เขาก็ต้องตกใจที่ปลายสายหย่อนลงสู่ผิวสระได้อย่างสงบมันไม่จมลงสู่ก้นบึ้ง!

   อะไรกัน…เบ็ดคันนี้มันอะไรกัน? 

  ซือหยูงุนงง

  มันเขียนในบันทึกว่าสิ่งที่พยายามแตะผิวสระสวรรค์ในอดีตล้วนถูกดูดลงไป

  มันไม่มีข้อยกเว้นอยู่ในบันทึกไม่ว่าจะเป็นเจ้าพันธมิตรที่แข็งแกร่งหรือสิ่งมีชีวิตธรรมดา

  แต่เบ็ดคันนี้กลับเป็นข้อยกเว้น!

  ซือหยูลองดึงคันเบ็ดด้วยความสงสัยสิ่งที่เขาได้มาคือชิ้นเหล็กที่เป็นใบมีด!

  หลังจากลองตกอีกหลายครั้งซือหยูตกได้ของประหลาดมากมาย แม้มันจะเป็นแค่ของธรรมดา แต่ซือหยูก็ยิ่งคาดเดาเรื่องของสระสวรรค์ได้มากขึ้น

   ฮ่าๆๆๆข้าได้เจอของดีเข้าแล้ว! 

  ซือหยูกำลังตื่นเต้น

  ถ้าหากเขาคิดถูกก้นสระสวรรค์มีความลับอันยาวนานที่เกี่ยวโยงถึงทั้งจักรวาล รวมถึงความลับของการล่มสลายชั่วข้ามคืนของยุคโบราณ

  หลังจากเก็บคันเบ็ดซือหยูตาเป็นประกาย

  ในตอนนั้นเองเกิดโลหิตเทพตกลงมาจากฟ้าของโลกใบหนึ่งโดยไร้คำเตือน

  เทพหนึ่งคนตายไปแล้ว!

  ซือหยูแววตาหม่นหมอง

   พวกมันมาถึงแล้ว! 

  ฟึ่บ!

  ฉีเหมินเจี้ยนกับหลินหลางฟานปรากฏตัวต่อหน้าซือหยูและรายงานด้วยความตกตะลึง

   ท่านเจ้าพันธมิตรหนึ่งในเทพที่ถูกส่งไปสืบข่าวใกล้โลกอสูรของเราตายแล้ว 

  ก่อนที่ฉีเหมินเจี้ยนจะพูดจบวายุโลหิตของโลกอีกใบก็ตกลงมา

   เป็นไปได้ยังไง?เทพอีกคนตายตามกันมาแล้ว? 

  หลินหลางฟานมิอาจเชื่อสายตา

  แต่ก็ยิ่งน่าตกใจขึ้นไปอีกเพราะเทพคนที่สามก็ตาย!

   สามคนแล้ว! 

  ฉีเหมินเจี้ยนหัวใจหยุดเต้น

  เทพหกคนและว่าที่เทพหลายสิบคนคือกลุ่มที่แข็งแกร่งมากแต่เทพสามคนก็ตายในระยะเวลาอันสั้น

  ตามด้วยคนที่สี่และคนที่ห้า!

  สุดท้ายแม้แต่ซือหยูก็มิอาจหยุดรอได้อีก

  เทพห้าคนที่ตายพร้อมกันไม่ได้ทำให้ซือหยูตกใจเพราะโลกอสูรเต็มไปด้วยยอดฝีมือชั้นเยี่ยม เขารู้ว่ามันไม่แปลก

  แต่ที่แปลกคือไม่มีเทพคนใดเลยที่ส่งข่าวมาทันก่อนตาย

  ต่อให้เป็นองค์ชายหนึ่งฆ่าเทพทั้งห้าเขาก็รับประกันไม่ได้ว่าจะเร็วพอที่จะหยุดทุกคนไม่ให้ส่งข่าว!

   ศาลอสูรส่งใครมากันแน่?หรือว่าจะเป็นแม่ทัพใหญ่? 

  ซือหยูผงะ

  ปี๊บ!ปี๊บ!

  หยกสื่อสารที่เหน็บไว้ข้างเอวซือหยูส่องแสง

  มีภาพฉายจากทางไกลส่งมา

  ฉีเหมินเจี้ยนกับหลินหลางฟานดีใจ

   มีคนหนีออกมาได้แล้ว!มาดูกันว่าพวกนั้นเจออะไรบ้าง! 

  ซือหยูน้ำเสียงทุ้มต่ำ

   ข้ากลัวว่าที่ส่งมาจะไม่ได้มาจากเทพของเราแต่เป็น… 

  เขาทุบหยกสื่อสารเขาได้เห็นภาพเหตุการณ์อันสมจริง

  แต่มันไม่ใช่ภาพของเทพมันคือภาพเทพอสูรร่างแสงเข้มอันยิ่งใหญ่  ทั้งร่างมียันต์อัปลักษ์แปะเต็มตัวแววตาเด็ดเดี่ยวไม่สนใจผู้ใด

  เทพคนหนึ่งถูกเหยียบที่ใต้เท้าของเทพอสูรไม่ว่าจะขัดขืนอย่างไรก็มิอาจเป็นอิสระ

  เทพอสูรมองอย่างไม่แยแส

   เจ้าเมืองชมทะเลนานทีเดียว แต่ข้าก็มาถึงแล้ว 

  ผั่วะ!

  ภาพหายไปโลหิตเทพตกลงมาทันที

  เทพคนที่หกตายไปแล้ว

  ฉีเหมินเจี้ยนกับหลินหลางฟานตัวสั่นทั้งสองรู้สึกหนาวสั่นทันทีที่ได้เห็นสายตาของเทพอสูร ทั้งสองได้แต่ยืนนิ่ง

  ทั้งสองรู้สึกเหมือนกับคนธรรมดาที่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเทพ

   มะ…มันเป็นใคร? 

  ฉีเหมินเจี้ยนสั่นไปถึงกระดูก

  เขาเชื่อซือหยูแล้วว่าในโลกอสูรมีสิ่งที่น่าหวาดผวาที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่

  เทพอสูรที่พวกเขาเห็นคือหนึ่งในนั้น

  ซือหยูดวงตาดำมืดราวกับน้ำลึก

   มันคือแม่ทัพศาลอสูรเทพอสูรหกวิถี! 

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Status: Ongoing

หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท