แต่งรักมัดใจบอส – บทที่ 297 งานเลี้ยงค็อกเทลที่ฉุกละหุก

แต่งรักมัดใจบอส

วรกัญญาไม่รู้ทำไมวันนี้มีงานด่วน บอกว่าต้องไป ถ้าไม่ได้ไปจะต้องโดนลงโทษ

ถึงแม้ว่าวรกัญญาจะไม่ค่อยสนใจการลงโทษเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจเข้าร่วมงานเลี้ยงอย่างกะทันหันเพื่อดูว่ามันหมายถึงอะไร บังเอิญธีรนัยน์ก็มาที่นี่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์แล้ว และเธอก็สามารถพาเขาออกไปลองใช้ความสามารถได้

ธีรนัยน์สวมชุดสูทสีดำซึ่งทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาดูเคร่งขรึมยิ่งขึ้น วรกัญญาสวมกระโปรงสีดำและทั้งสองก็ดูเข้ากันดี

เมื่อปถึงแผนกต้อนรับ หลายคนรีบไปที่แผนกต้อนรับอย่างเร่งรีบ จะเห็นได้ว่าแผนกต้อนรับนี้ไม่ได้แจ้งให้ใครทราบล่วงหน้าเป็นการแจ้งเตือนแบบกะทันหัน

วรกัญญาเห็นคุ้นตาเยอะมาก มีชลธี ประวีร์ คุณชายทั้งสองคนของตระกูลนวลอ่อน แล้วก็มีอุไรภัสร์

ภาพพยักหน้าให้ทุกคน วรกัญญาก็ไม่ได้ไปยืนกับใครเลย , เธอเดินตามธีรนัยน์ และสำรวจบุฟเฟ่ต์ก่อน และกำหนดตำแหน่งของอาหารที่เธอโปรดปราน จากนั้นยืนดื่มเครื่องดื่มและรออาหาร

ธีรนัยน์ก็ชอบวรกัญญามากขึ้นเรื่อยๆ ประธานหญิงคนนี้ไม่โอ้อวด เธอดูอร่อยเหมือนตัวเอง เธอดูสะอาด สวย และดูเหมือนผู้หญิงแบบที่เขาชอบ

แต่ว่าเขาก็แค่ชอบเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความหมายอื่น

ทั้งสองดื่มเครื่องดื่มกันที่นั่น และหัวหน้าคณะกรรมการพรรคการเมืองของผู้จัดงานก็ปรากฏตัวขึ้น คราวนี้ ไม่ใช่แค่ผู้นำที่ปรากฏตัว แถมยังมาเป็นกลุ่ม

“ธีรนัยน์ งานเลี้ยงวันนี้มันกะทันหันมาก มีเรื่องอะไรเหรอ?”วรกัญญากระซิบถามธีรนัยน์

“น่าจะเป็นตระกูลอมรถิรจินดาในเมืองสระมังกร ดูเหมือนว่ากำลังจะประกาศการมาของจักรพรรดิ” ธีรนัยน์พูดกับวรกัญญา

“ตระกูลอมรถิรจินดาแห่งเมืองสระมังกรอย่างนั้นเหรอ? แล้วก็คือตระกูลของอนุชิตไม่ใช่เหรอ? การพัฒนาของพวกเขาในเมืองสระมังกรเจริญรุ่งเรืองมาก ทำไมพวกเขาถึงต้องการเข้าสู่พระนครด้วย?

แต่ว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวรกัญญามากเท่าไหร่นะ ตระกูลอมรถิรจินดานั้นเป็นตระกูลที่โดดเด่น อยากจะพัฒนาในสถานที่ไหนก็พัฒนาและสถานที่นั้นได้ เพราะว่าพวกเขามีเงินทุน

บรรดาผู้นำเริ่มพูด และก็พูดเหมือนกับที่ธีรนัยน์ไม่ผิดเลย ก็คือตระกูลอมรถิรจินดาแห่งเมืองสระมังกรกำลังจะย้ายเข้ามาสู่พระนคร ครอบครัวของเขามีธุรกิจครอบครัวใหญ่และมีลูกหลายคน แต่ว่าคนที่จะรับหน้าที่ดูแลพระนครงั้นจะเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจมากที่สุดแห่งตระกูลอนุชิต

“ฉันไม่อนุชิตเลยนิ? ชายชราคนนั้นเป็นหัวหน้าของตระกูลอมรถิรจินดาใช่ไหม? “วรกัญญาเงยหน้าขึ้นมองบนเวที มีเพียงชายชราคนนี้เท่านั้นที่เธอไม่รู้จัก และคนอื่นๆ ต่างก็เป็นผู้นำของเมืองหลวงพระนคร

“อืม นั่นคือปู่นิธิ เขาเป็นคนที่พูดจาได้ดีที่สุดในตระกูลอมรถิรจินดา ตอนนี้ตระกูลอมรถิรจินดาอยู่ภายใต้การดูแลของเขา ไม่อย่างนั้นก็คงกระเด็นไปตั้งแต่แรกแล้ว” ธีรนัยน์คุ้นเคยกับข้อมูลภายในของตระกูลอมรถิรจินดาเป็นอย่างดี

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาพระนครเพื่อพบกับเพื่อนร่วมงานของฉันทุกคน จากนี้ไปพวกเรา…” หลังจากที่หัวหน้าคณะกรรมการเทศบาลพูดจบ ปู่นิธิก็เริ่มพูดต่อ แม้ว่าเขาจะแก่แล้วก็ตาม มีจิตจุดตันเถียนมันแข็งแกร่งมาก น้ำเสียงของเขามีพลังและมีพลังซึ่งไม่สอดคล้องกับบุคคลในวัยนี้มากนัก

“ตระกูลอมรถิรจินดายังคงมีอำนาจมาก หัวหน้าคณะกรรมการเทศบาลแห่งพระนครของเรายังเรียกพวกเราเราให้ต้อนรับพวกเขาทันที แต่เขาไม่ได้บอกว่าอนุชิตจะมารับกิจการในพระนครไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่เห็นเขาด้วยล่ะ? “วรกัญญาคิดว่าธีรนัยน์ผู้ใหญ่มาก

“เขาเหรอ?ต้องมาอยู่แล้วล่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านที่อบอุ่นหลังไหนกัน เดี๋ยวพอคุณท่านพูดจบ แล้วเริ่มทานอาหารเขาก็มาแล้ว”ธีรนัยน์เยาะเย้ยอนุชิต

วรกัญญาก็ไม่ได้ทำอะไรอีก นิสัยของอนุชิตที่ธีรนัยน์พูดเธอก็เคยเห็นมาก่อนแล้ว คนคนนั้น เขาเป็นแค่คนที่ใช้ชีวิตอย่างเมาเหล้าและเพ้อฝันโดยอาศัยความมั่งคั่งของครอบครัว

ปู่นิธิพูดสั้นมาก คือฝากให้ทุกคนดูแลหลานชายอนุชิต ในอนาคตทุกคนจะร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ร่วมกัน การต้อนรับของวันนี้ค่อนข้างฉุกละหุก แต่สถานที่ยังใหญ่มาก ตระกูลอมรถิรจินดาจัดให้อย่างชั่วคราว

ที่ปู่นิธิรีบร้อนขนาดนี้ก็เพราะว่าอนุชิตรับปากจะมาดูแลกิจการของตระกูลอมรถิรจินดาที่พระนคร ยากมากกว่าที่ไอ้บื้อคนนี้จะตกลง ปู่นิธิก็เลยรีบจัดการงานเลี้ยงในครั้งนี้ ทำให้อนุชิตไม่มีโอกาสที่จะได้กลับลำ

งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว วรกัญญาพบว่าอาหารในงานเลี้ยงค็อกเทลวันนี้มีราคาแพงมาก บางอย่างวรกัญญายังไม่เคยกินมาก่อนเลย

แต่ว่าวรกัญญาเป็นเด็กดีที่ไม่จู้จี้จุกจิกเรื่องการกิน เธอชิมอาหารทุกจาน ก็ที่ต่อไปจะได้มีอะไรไปโม้

ธีรนัยน์อยู่ข้างๆ วรกัญญาตลอดเวลา เขาสังเกตรอบๆ อย่างระมัดระวัง และก็พยายามหลบหลีกสายตาของคนพวกนี้ โชคดีที่คุณท่านนิธิพูดจบก็จากไปทันที ไม่อย่างนั้นวันนี้ธีรนัยน์คงจะกระอักกระอ่วนน่าดู

“ตายแล้ว ผมมาสายเกินไปใช่ไหม ขอโทษจริงๆ นะครับ”อนุชิตปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด การปรากฏตัวของเขาทำให้ผู้นำจับมือกับเขา หน้าตาของตระกูลอมรถิรจินดาค่อนข้างที่จะใหญ่โตเลย

หลายคนไปคุยกับอนุชิต เผื่อพวกเขาสามารถบรรลุความสัมพันธ์แบบร่วมมือร่วมงานกับตระกูลอมรถิรจินดาได้ มันเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ

“ได้ยินมาว่าช่วงนี้ประธานวรกัญญารับสมัครผู้ช่วยหลายคน? เป็นยังไง ชินหรือยัง มีอะไรที่โดดเด่นกว่าฉันไหม? ” ชลธีหาโอกาสลบจากประวีร์แล้วก็เดินเข้ามาหาวรกัญญา

“ชินมาก ฉันรู้สึกว่ามีประโยชน์อย่างมาก” วรกัญญาพูดกับชลธี

“มีประโยชน์ก็ดีแล้ว นี่คือผู้ช่วยที่เธอเพิ่งหามาเหรอ?”ชลธีมองธีรนัยน์ที่อยู่ด้านหลังของวรกัญญา ธีรนัยน์เองก็มองเขาเหมือนกัน

“ใช่ เป็นยังไงบ้างเหรอ? ไม่ค่อยต่างจากหลายเท่าไหร่นะ”วรกัญญาแนะนำธีรนัยน์ให้ชลธีรู้จักอย่างพึงพอใจ

“อืม สายตาของประธานวรกัญญาดีมากเลย ฉันก็ว่าไม่เลว ต่อไปประธานวรกัญญาก็สามารถพาเขาไปงานเลี้ยงค็อกเทลบ่อยๆ จะได้ปลอดภัยขึ้น”ระหว่างที่พูดชลธีก็ยิ้มไปด้วย ทำให้วรกัญญารู้สึกสับสน เธอเชิญผู้ช่วยของตัวเองมา แล้วทำไมเขาถึงได้ดูมีความสุขขนาดนั้น หรือคิดว่าต่อไปตัวเองจะมีเรื่องให้ต้องรบกวนเขาอย่างนั้นเหรอ?

“เรื่องนี้ฉันรู้ดี ไม่ต้องให้ประธานชลธีมาเป็นห่วงดอก ถ้าเกิดว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันไปดูตรงนั้นก่อนนะ”วรกัญญาเตรียมจะเดินจากไป

“โอเค” วันนี้ชลธีก็เดินจากไปแบบสุภาพบุรุษ เขานั่งลงที่มุมเงียบๆ แล้วก็มองดูวรกัญญา

วรกัญญาก็เดินไปแบบไร้จุดหมาย แล้วก็หาที่เงียบๆ นั่งลงกับธีรนัยน์

“ประธานวรกัญญา!คุณคือประธานวรกัญญาแห่งโจนส์กรุ๊ปใช่ไหม? ผมอยากจะได้พบคุณมานานแล้ว พวกเราเคยเจอกันมาตั้งหลายครั้ง แต่ว่ายังไม่มีโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกันเลย” ไม่รู้ว่าอนุชิตโผล่มาจากไหน วรกัญญาไม่ทันจะระวังตัว ธีรนัยน์ก็ต้องไปที่อนุชิตยังกังวลเหมือนกัน

วันนี้เป็นเรื่องที่หาได้ยากสำหรับ อนุชิตที่จะไม่พาผู้หญิงมาด้วย เขาจะพาผู้หญิงไปทุกที่ วันนี้เป็นเรื่องที่หาได้ยากจริงๆ

สายตาของ อนุชิตเหลือบมองมาที่ธีรนัยน์ สายตาของเขาดูสงบมากแต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไร เขาชอบมองวรกัญญามากกว่า

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

Status: Ongoing
ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท