แต่งรักมัดใจบอส – บทที่ 385 ความกลุ้มใจของบุณยอร

แต่งรักมัดใจบอส

ธาราวดีถามว่าลูกของบุณยอรเป็นยังไงบ้าง บุณยอรก็ได้ทอดถอนหายใจออกมา ลูกชายของตนก็ลอยชายไปวันๆ ลูกสาวก็เย็นชา เธอไม่กล้าพูดออกไปเลยสักนิดเดียว

“ก็พอโอเคอยู่แหละ ก็อย่างนั้นแหละนะ!” บุณยอรพูดออกมานิ่งๆ แต่เธอก็ได้พูดกับธาราวดีออกไป

“หยกเอ๋ย ให้ฉันเลี้ยงข้าวพวกเธอสองแม่ลูกแล้วกัน พวกเราไม่ได้เจอหน้ากันมานานแล้ว ยังไงก็มารวมตัวกันให้ดีๆสักหน่อย” บุณยอรดึงมือธาราวดีไปไม่ยอมปล่อย

เรียนจบกันมาหลายสิบปีแล้ว ทุกคนต่างก็มีครอบครัวและลูกของตัวเองกันไปหมดแล้ว โอกาสที่จะได้เจอหน้ากันก็น้อยมาก ความสัมพันธ์เมื่อก่อนเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นกันธรรมดาๆแต่ตอนนี้เจอหน้ากันก็รู้สึกว่ามันมีความสนิทสนมและอุ่นใจขึ้นมาเป็นพิเศษ

“ได้สิ งั้นฉันไม่เกรงใจแล้ว แต่พวกเราไปเดินช็อปกันอีกสักพักหนึ่ง ฉันอยากจะซื้อเสื้อผ้าให้ลูกสาวของฉันสักนิดนึงน่ะ!” ธาราวดีพูดกับบุณยอร แต่หลังจากที่เธอพูดจบ บุณยอรก็ได้เกิดความอิจฉาขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิม เมื่อไหร่ที่ระหว่างเธอกับธีรนัยน์จะสามารถดีกันได้อย่างนี้กัน

“ฉันอิจฉาเธอมากเลยนะ ยังสามารถซื้อผ้าให้กับลูกสาวได้ สิ่งที่น่าอิจฉาที่สุดเลยก็คือเสื้อผ้าที่เธอซื้อไปลูกสาวเธอก็จะสวม ลูกสาวของฉันคนนั้นนะ ไม่สวมของที่ฉันซื้อให้เลยสักนิด!” บุณยอรคิดว่าตนผู้เป็นแม่คนนี้ล้มเหลวอย่างมาก

“คุณป้า คุณป้าซื้ออันที่เธอชอบก็ได้นี่ เธอจะต้องสวมอยู่แล้ว” ตอนนี้จู่ๆมุกดาก็ได้พูดขึ้นมา

“ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบแบบไหนนี่ จะว่าไปแล้ว เสื้อผ้าพวกนั้นที่เธอสวมมันก็ไม่สวยทั้งนั้นเลย ฉันคิดว่าเด็กผู้หญิงก็ควรจะสวมชุดสวยๆสักหน่อย แต่เธอกลับทำตัวเองเหมือนกับผู้ชาย สิ่งที่น่าโมโหที่สุดเลยก็คือทำบัตรประชาชนของตัวเองให้เป็นเพศชายไปด้วย เธอว่าฉันโกรธหรือเปล่าล่ะ!” บุณยอรเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองผิดตรงไหนเลยด้วย เธอหวังดีกับลูกสาว แต่ลูกสาวกลับเห็นเธอเป็นเหมือนกับแม่เลี้ยงก็ไม่ปาน

“คุณป้าคะ อีกเดี๋ยวพวกเราไปเลือกเสื้อผ้ากันเถอะ ฉันจะช่วยคุณป้าเลือกให้ธีรนัยน์เอง เธอจะต้องสวมแน่” มุกดาพูดออกไปกับบุณยอรอย่างมีแผนหัวอยู่แล้ว

“จริงเหรอ? งั้นก็ดีมากเลย ฉันก็อยากให้เธอสวมเสื้อผ้าที่ฉันซื้อให้ด้วยเหมือนกัน!” บุณยอรพอได้ยินแล้ว เธอก็ความสุขขึ้นมา ถ้าลูกสาวสวมเสื้อผ้าที่เธอซื้อให้จริงๆ เธอจะไปขอบคุณอีกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือไปด้วยความจริงใจเลย

ดังนั้นแล้วผู้หญิงทั้งสามคนก็เริ่มการค้นหารอบใหม่กัน โดยที่ไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหญ่ให้มุกดาก่อน ตอนที่ธาราวดีจ่ายเงินก็ไม่ได้ย่นคิ้วออกมาเลย ขอเพียงแค่ลูกสาวชอบ ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อที่อยู่บนร่างของเธอก็ได้ทั้งนั้น

หลังจากนั้นมุกดาก็ได้พาบุณยอรไปที่ร้านหนึ่ง เสื้อผ้าที่ร้านนี้ค่อนข้างที่จะเป็นยูนิเซ็กส์อยู่บ้าง เป็นแบบที่ผู้ชายผู้หญิงสวมแล้วก็ดูดีกันหมดเลย

“คุณป้าคะ ความต้องการของคุณป้าในตอนนี้ก็คงจะอยากให้ธีรนัยน์สวมเสื้อผ้าที่คุณป้าซื้อ งั้นก็ต้องซื้อสไตล์ที่เธอชอบก่อนเลย พวกเราสามารถมาเปลี่ยนเธอไปทีละนิดๆก็ได้ ถ้ากะทันหันเกินไปเธอจะรับไม่ได้เอา” มุกดาได้ให้คำแนะนำบุณยอรออกไป

“ใช่แล้ว เด็กโตขึ้นแล้วต่างก็จะมีความคิดของตัวเองกันทั้งนั้น พวกเราไม่สามารถเอาความคิดของตัวเองไปบีบบังคับตัวของพวกเธอกันได้หรอก”ธาราวดีตอบรับพลางเอ่ยออกมาด้วย

ธาราวดีกับบุณยอรตอนที่อยู่ที่มหาวิทยาลัยพระนคร ไม่ใช่คนที่สวยแต่รูป แต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย ต่างก็เป็นคนที่จัดว่าเป็นคนจำพวกที่หน้าตาสวย สมองก็ฉลาดมากด้วย สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยพระนครได้ และก็เป็นผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือใครด้วยกันทั้งคู่

ดังนั้นแล้วทั้งสองคนจึงค่อนข้างที่จะเอาแต่ใจเลยพอสมควร!

“งั้นฉันก็จะลองเปลี่ยนตัวฉันเองแล้วกัน นี่มุก เธอช่วยฉันดูหน่อยแล้วกัน” บุณยอรคิดว่าตัวเองเหมือนกับว่าเมื่อก่อนจะทำเกินไปหน่อย เพื่อลูกสาวแล้วเธอยอมเปลี่ยน

มุกดาจึงได้ไปเดินช็อปเป็นเพื่อนบุณยอรที่ร้านนี้ บุณยอรคิดว่าเสื้อผ้าของที่นี่มันก็สวยดี ถึงแม้ว่าจะเป็นของแบบยูนิเซ็กส์ แต่มันก็มีด้านที่สวยละมุนของเพศหญิงอยู่ด้วย เธอเลือกมาหลากหลายแบบ แล้วให้มุกดาตรวจสอบดูอีกทีหนึ่ง มุกดาคิดว่าได้ ก็ซื้อไป มุกดาให้เธอลองซื้อเสื้อผ้าไปให้ธีรนัยน์ดูสักสองชุดก่อน ถ้าธีรนัยน์ชอบล่ะก็ หลังจากนี้ก็จะสามารถซื้อตามสไตล์แบบนี้ไปให้เยอะๆหน่อย

ซื้อของเสร็จ ทั้งสามคนก็ไปกินข้าวกัน

“ลูกสาวคนนี้ของฉันนี่นะ ตั้งแต่เด็กก็ฉลาดมาก เมื่อตอนนั้นฉันไม่ได้เรียนการเงิน ก็รู้สึกเสียเปรียบอยู่บ้างมาโดยตลอด ดังนั้นแล้วฉันจึงให้เธอไปเรียนการเงิน หลังจากนี้ไปไม่ว่าจะเปิดบริษัทเองหรือว่าทำงานที่บริษัทของตระกูลอมรถิรจินดาเอง เธอก็ไม่มีทางถูกรังแกได้” บุณยอรในตอนที่รออาหารอยู่นั้น ก็ได้เป็นฝ่ายเล่าเรื่องลูกสาวของตัวเองขึ้นมาก่อน

“ใช่ค่ะ ธีรนัยน์เป็นคนฉลาดมากคนหนึ่ง แต่ว่าฉันคิดว่าเหมือนกับว่าระหว่างพวกคุณมันจะต้องมีอะไรที่เข้าใจผิดกันแน่เลยล่ะมั้ง?” มุกดาพูดอ้อมๆออกไป เธอเองก็ไม่อยากให้ธีรนัยน์เข้าใจอะไรแม่ของตัวเองผิดไปหรอก ในความคิดของเธอแล้ว บุณยอรนั้นรักธีรนัยน์มากเลย

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็คิดให้เธอเสียเสร็จสรรพ พี่ชายของเธอคนนั้นฉันก็ไม่ชอบไปจ้ำจี้จ้ำไชด้วยนัก เด็กผู้ชายมั้ยล่ะ แล้วยังเกิดมาจากที่อมรถิรจินดากรุ๊ปด้วยอีก มักจะไม่ได้อดอยากอะไรได้หรอก เพราะว่าฉันชอบลูกสาวไง ฉันก็เลยเอาความสนใจทั้งหมดไปที่ตัวของธีรนัยน์ แต่ว่าเธอกลับแอบไปสืบว่าฉันใช่แม่แท้ๆของเธอหรือเปล่า แล้วยังนึกว่าฉันไม่รู้อีก มันช่างทำร้ายหัวใจฉันจริงๆเลย” ตอนที่บุณยอรพูดมาถึงตรงนี้ เธอก็รู้สึกน้อยใจมากจริงๆ

“เฮ้ ในใจของเด็กเขาจะคิดยังไง พวกเรายังไม่รู้กันจริงๆเลย!” ธาราวดีเอ่ยปลอบบุณยอรออกไป

“ฉันให้เธอเรียนศิลปะการต่อสู้ เธอว่ามั้ยว่า หน้าตาเธอไม่ได้น่าเกลียดอะไรเลยใช่มั้ยล่ะ เด็กผู้หญิงคนเดียวถ้าไม่ปกป้องตัวเองแล้วล่ะก็ หลังจากนี้ไปถูกรังแกขึ้นมาแล้วจะทำยังไง? เธอดูผอม แต่ว่าไขมันในเลือดค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เด็กดื้อไม่เป็นผู้ใหญ่ แล้วเธอยังมีไขมันในเลือดสูงอีก ฉันก็เลยไม่ให้เธอกินพวกเนื้อติดมัน แต่ว่าเธอก็ชอบกินมันอีก! ทุกครั้งที่กินอะไรจะต้องทะเลาะกันไปเสียทุกครั้ง ฉันซื้อกระโปรงเอย อะไรเอยให้เธอ เธอก็ไม่ใส่ ยังดีที่อาหารที่ฉันทำเธอยังกินอยู่!” บุณยอรพอได้เริ่มพูดขึ้นมาแล้วก็หลุดไม่ได้

บุณยอรเองก็เป็นคนที่พูดจาได้สนุกเลยคนหนึ่ง แต่กลับไม่มีใครฟังเธอปรับทุกข์เลย ก็คือว่าเธอพูดกับสามีของตัวเองไป สามีเพียงแค่บอกว่าลูกยังเด็กยังไม่รู้ความ แต่ก็ไม่เกิดผลอะไรเลยสักนิดเดียว ทำให้เธอไม่มีคนให้ระบายความในใจด้วยเลย

วันนี้บังเอิญเจอกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนของตัวเอง สิ่งที่ทำให้บุณยอรอยากจะพูดออกไปที่สุดเลยก็คือมุกดาเป็นเพื่อนของธีรนัยน์ เธอจึงได้พูดออกมา ให้มุกดาช่วยตนออกความคิดเห็นมาสักหน่อย เธอรักธีรนัยน์มากแค่ไหน ก็เจ็บเท่านั้น

“คุณป้าคะ ธีรนัยน์เธอชอบเรื่องที่คุณป้าวางแผนเอาไว้ให้เธอหรือเปล่าคะ?” มุกดาเองก็เป็นแม่คนแล้วเหมือนกัน เธอเองก็ได้สัมผัสมาบ้างเหมือนกัน

“เธอยังเด็กนี่นา แน่นอนว่าจะต้องให้ฉันคอยตัดสินใจให้เธออยู่แล้ว” บุณยอรพูดออกมา

“ธีรนัยน์เป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองชัดเจนเลยคนหนึ่ง เธอไม่ค่อยชอบให้คนอื่นมาคอยควบคุม” มุกดาเอ่ยเตือนสติบุณยอรไปจากอีกด้านหนึ่ง ต้องให้อิสระกับลูกสาวของตัวเองบ้าง

“ฉันไม่ได้ควบคุมอะไรเธอเสียหน่อย อยากไปไหนก็ให้ไป อยากอยู่คนเดียวฉันก็ซื้อบ้านให้เธอไป เธอว่าฉันยังต้องทำยังไงอีก?” บุณยอรไม่ทราบถึงความผิดพลาดของตัวเองเลยสักนิด

“คุณป้าคะ คุณป้าเอาอย่างนี้แล้วกันค่ะ อย่างเช่นตอนที่ธีรนัยน์เขาอยากจะทำอะไร คุณป้าก็ไม่ต้องไปชี้แนะเธอ รอให้เธอพบว่าตัวเองผิด แล้วเธอก็จะได้รู้ว่าคุณป้าถูกไปเอง” มุกดาออกความคิดเห็นให้กับบุณยอร

“แต่ว่าฉันทนเห็นเธอเสียเปรียบไม่ได้นี่นา แต่ว่าวิธีนี้ของเธอมันก็ไม่เลวเลยทีเดียว ฉันจะกลับไปลองดู” อาหารหนึ่งมื้อได้กินหมดไปในระหว่างที่กำลังหารือเรื่องธีรนัยน์กันอยู่ บุณยอรยังได้เชิญชวนมุกดาไปเที่ยวเล่นที่บ้านของธีรนัยน์บ่อยๆด้วย

“โอเคค่ะ ถ้าฉันว่างก็จะไปเยี่ยมธีรนัยน์บ่อยๆ คุณป้าลาก่อนค่ะ!” มุกดาบอกลาบุณยอรไป

“ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าธีรนัยน์จะเป็นลูกสาวของบุณยอรไปได้ ยังนึกอยู่เลยว่าเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งจริงๆน่ะ!” ระหว่างทางกลับไป ธาราวดีก็ได้พูดกับมุกดา

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

Status: Ongoing
ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท