แต่งรักมัดใจบอส – บทที่ 460 ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว

แต่งรักมัดใจบอส

ภายใต้ความมืดมิดคนคนนั้นกำลังสั่งให้คนขับรถเตรียมขับรถชนชลธีกับทศพร

ชลธีกับทศพรดื่มเหล้าแล้ว เลยเรียกใช้บริการคนขับรถ ทั้งสองขึ้นรถไปอย่างเร่งรีบ ต่างก็กลัวว่าภรรยาตัวเองจะโกรธ

ด้านหลังมีรถคันสีดำยี่ห้อฮัมเมอร์ขับตามพวกเขามา กำลังหาโอกาสลงมือ

“ท่านประธานครับ พวกเราถูกคนสะกดรอยตามแล้วครับ ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะทำอะไร” คนขับรถเห็นมีฮัมเมอร์ตามหลังมา

ชลธีกับทศพรมองรถคันหลังจากกระจกมองหลัง พวกเขาถูกคนสะกดรอยตามจริงด้วย ไม่นานโทรศัพท์ทั้งสองก็ดังขึ้น เป็นสายจากอนุชิต

“พวกนายสองคนโดนคนสะกดรอยตามแล้ว แต่ไม่เป็นไร ฉันอยู่ด้านหลังพวกมัน ฮ่าๆ พวกเรามีพรหมลิขิตต่อกันจริงๆ?” เวลานี้อนุชิตยังล้อเล่นได้อยู่อีก

“อืม พกวเรามีพรหมลิขิตต่อกัน แต่พวกเรามาคิดหาวิธีสลัดรถคันด้านหลังทิ้งไปก่อนไหม พวกนายไม่เจอคนอื่นๆเหรอ?” ตอนนี้เองชลธีก็สร่างเมาแล้ว

“ก็เห็นน่ะสิ ประวีร์ไม่ไว้ในพวกนาย เขาเลยไปสะกดรอยตามธีรเมท ส่วนฉันก็มาช่วยพวกนายนี่ไง” ตอนนี้แม้อนุชิตจะยังหยอกล้อได้อยู่ แต่เขาก็บอกแผนการให้กับชลธีทุกอย่าง

“ได้ งั้นฉันรู้แล้วว่าควรทำยังไง คุณชายอนุชิต นายไม่ต้องติดตามรถคันนี้แล้ว นายไปรวมตัวกับประวีร์ เดี๋ยวพวกเราจัดการที่นี่เอง” ชลธีบอกแผนการตัวเองให้กับอนุชิต อนุชิตรู้สึกตื่นเต้นมาก เขากลับรถไปช่วยประวีร์

“เดี๋ยวฉันขับรถเอง ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว เป็นเหตุเร่งด่วนน่ะ” ชลธีขอสลับตำแหน่งที่นั่งกับคนขับ

คนขับรถมองหน้าชลธี พอแน่ใจแล้วว่าเขาพูดจริง ก็ถึงตอบตกลง

ฝีมือการขับรถของชลธีไร้ที่ติเลยล่ะ รถของเขาก็ดีมากด้วย พอเหยียบคันเร่งจนสุด รถก็พุ่งออกไปเหมือนบินได้เลยล่ะ

รถคันด้านหลังตามมาช้าๆ เตรียมลงมือตรงที่ไม่มีคนอยู่ แต่ทันใดนั้นรถตรงหน้าก็หายไปแล้ว เขาก็เลยรีบเหยียบคันเร่งตามไป

แต่รถของเขาดีไม่เท่าชลธี เขารู้สึกว่าการที่จะไล่ตามชลธีเป็นเรื่องที่ยากมาก

คนด้านหลังก็เลยรายงานกับธีรเมทว่าตามชลธีไปไม่ทัน

ตอนนี้ธีรเมทก็ดูแลตัวเองไม่ได้แล้วเหมือนกัน มีรถสองคันกำลังขนาบข้างตัวเองอยู่ ตัวเองไปซ้ายหรือขวาไม่ได้เลย เขาเห็นใบหน้าเยาะเย้ยของอนุชิต

“ฮัลโหล ประธานธีรเมทผู้ยิ่งใหญ่ ไม่เจอกันนานเลยนะ ไปดื่มกันสักแก้วดีไหม?” อนุชิตเปิดกระจกรถคุยกับธีรเมท

ตอนนี้ธีรเมทไม่มีอารมณ์มาคุยกับเขาหรอกนะ รถของตัวเองถูกชนตั้งหลายครั้งแล้ว หน้ารถสุดที่รักของเขาก็เสียหายหนักมากแล้ว

“ฉันว่ารถของนายเหมือนกับนายเลย เป็นได้แค่ไอ้ขี้แพ้ ที่ชนแค่ไม่กี่ก็ยุบแล้ว ไม่เห็นจะสนุกเลย” อนุชิตมองดูรถของธีรเมท แล้วก็พูดจาเยาะเย้ยเขา

“ปัง!” รถของธีรเมทถูกรถของประวีร์ชนอีกครั้ง

“พวกนายจะทำอะไรกันแน่?” ธีรเมทโมโห

“ไม่ทำอะไรนี่ ก็แค่ว่างน่ะ เลยออกมาเดินเล่นกับหมาสักหน่อย” อนุชิตขับรถชนธีรเมทอีกครั้ง

ครั้งนี้ชนแรงไปหน่อย ทำเอารถของธีรเมทเกือบกระเด็นออกไปนอกถนน

ธีรเมทโมโห เขาชนรถของอนุชิตกลับไปแรงๆ แต่อนุชิตกลับชะลอรถช้าลง ในตอนที่ธีรเมทจะชนนั้น เขาก็เหยียบเบรก รถของอนุชิตก็เฉียดกับรถของธีรเมท สุดท้ายรถของธีรเมทก็พุ่งบินออกไปนอกสะพานลอย

อนุชิตกับประวีร์ก็จอดรถไว้ข้างทาง มองลงไปจากสะพานลอย ให้ตายสิ สูงมากเลย!

“ไม่รู้ว่าเป็นยังไงแล้วบ้าง จริงๆเล้ย แผนการของพวกเรายังไม่ทันได้เริ่มเลย จะอายุสั้นไปไหนนะ ไม่สนุกเลย ไปกันเถอะ พวกเราไปดื่มเหล้าร้านอื่นต่อกัน” อนุชิตเห็นว่ารอบๆนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด ก็เลยพูดเสนอแนะประวีร์

“ไม่สนุกเลย ไปดื่มเหล้ายังจะสนุกกว่าอีก” ประวีร์ก็ตอบตกลง ทั้งสองขับรถแล้วจากไปทันที

“แม่เจ้า ดูสิรถคันนั้นเละหมดเลย ตอนนี้คนที่มาซิ่งที่สะพานลอยตอนกลางคืนเยอะขึ้นทุกวันเลย แค่รถตัวเองดีหน่อย ก็เลยกล้าทำอะไรแบบไม่คิดงั้นเหรอ” คนทั้งบ้านกำลังดูโทรทัศน์อยู่ นีรชาก็กำลังดูข่าวอุบัติเหตุรถ เธอเห็นแค่เศษซากของชิ้นเหล็ก มีภาพบรรยากาศมากมายที่ถูกเบลอเอาไว้

“จึ๊ๆๆ น่าตกใจจริงๆ ตกลงมาจากสะพานลอยสูงๆ คงเละตุ้มเป๊ะไปหมดแน่เลย คงช่วยชีวิตไม่ได้แล้วด้วย” มุกดาดื่มนมสด กินผลไม้ และดูข่าวไปด้วย

มีเพียงชลธีที่เงียบไม่พูดอะไร เขาดื่มชาอย่างเรียบเฉย ชาของวันนี้หอมมากเลย

“ชล นายเห็นข่าวหรือยัง เหมือนกำลังพูดเรื่องรถที่ซิ่งตกลงไปจากสะพานลอย ต่อไปนายอย่าขับรถเร็วเกินไปล่ะ และจะอารมณ์ร้อนตอนขับรถไม่ได้ด้วย!” มุกดาเห็นภาพที่น่าสลดใจ ก็อดไม่ได้พูดเตือนชลธี

“อืม เข้าใจแล้ว ฉันรู้แล้วน่า ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” ชลธีอารมณ์ดี และกินผลไม้ตามเข้าไปด้วย

นีรชากับมุกดาอึ้ง น้อยครั้งที่เขาจะกินผลไม้กับพวกเธอ วันนี้ดูเขาจะสดใสและอารมณ์ดีผิดปกติ

“ว่าไงนะ? ธีรเมท ธีรเมทตกลงไปจากสะพานลอยสูงงั้นเหรอ? ตอนนี้ยังช่วยชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาล?” เมธพรได้ยินข่าวนี้แล้ว เธอก็ตกใจจนอ้าปากค้าง

ธีรเมทเป็นผู้ชายที่เขารักมาตลอด ถ้าผู้ชายคนนี้ตายแล้ว เธอจะมีชีวิตอยู่ไปได้ยังไงกัน

“นั่นสิ ตกลงมาจากที่สูงขนาดนั้น เหมือนจะไม่……” คนคนนั้นยังพูดไม่จบ เมธพรก็ตบหน้าเขาไปแรงๆ

“หุบปากเลยนะ!” เมธพรมองค้อน เธอจะไม่ยอมให้ใครมาสาปแช่งผู้ชายของตัวเองเด็ดขาด

คนคนนั้นยังไม่ทันได้พูดอะไร เมธพรก็รีบพุ่งออกจากห้องอย่างบ้าคลั่ง เธอจะต้องไปเจอธีรเมทที่โรงพยาบาล

“หมอคะ เป็นยังไงแล้วบ้าง เป็นยังไงบ้างคะ ทำไมถึงยังไม่ออกมาล่ะคะ?” หน้าห้องผ่าตัด เมธพรถามหมอคนหนึ่งไม่หยุด หมอคนนั้นก็ถูกเธอถามคำถามจนรำคาญจะแย่อยู่แล้ว

“เดี๋ยวถึงเวลาก็ออกมาเอง ตอนนี้ยังออกมาไม่ได้” ตอนแรกเขายังอยู่ในห้องทำงาน แต่กลับถูกผู้หญิงคนนี้ลากตัวออกมาก่อน

“แต่นี่เป็นโรงพยาบาลของพวกคุณ เป็นสถานที่ที่หมอต้องรักษาคนไข้ไม่ใช่เหรอ? พวกคุณควรไปช่วยชีวิตเขาสิ!” เมธพรเริ่มงี่เง่าขึ้นทุกที

“นั่นก็ไม่แน่ ทุกปีก็มีคนตายเยอะอยู่แล้วนี่? พวกเราจะพยายามช่วยชีวิตคนไข้ให้ได้มากที่สุด จะกลับมามีชีวิตหรือเปล่า นั่นก็ต้องพึ่งตัวเขาเอง” หมอพูดจนปากแห้งหมดแล้ว แต่เมธพรก็ไม่ยอมปล่อยเขาไปสักที

“ถ้าเขาตาย ฉันจะให้พวกคุณตายไปพร้อมกับเขาด้วย!” เมธพรดึงแขนเสื้อหมอไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปไหน

หลังจากสิบชั่วโมงผ่านไป ไฟหน้าห้องผ่าตัดก็ดับลง

เมธพรรีบวิ่งตรงไปที่หน้าประตูห้องผ่าตัด รอคนเข็นธีรเมทที่ยังมีชีวิตอยู่ออกมา

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

Status: Ongoing
ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท