เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – บทที่ 19 ความบังเอิญ

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

หลังจากที่เธอโดนผีหลอก ไป๋มู่ชิงก็รู้สึกอยู่ในบ้านนี้ยากขึ้น เหมือนถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา แต่พอมองไปรอบๆกลับไม่เห็นจะมีอะไรเลย

พออยู่ที่นี่ไปสักพัก ไป๋มู่ชิงรู้สึกหมดหวังมาก เธอเฝ้ารอทุกวินาทีที่จะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้

ด้วยความที่เพื่อนสนิทอย่างเหยาเหม่ยโทรหาเธอทั้งวัน เธอจึงตัดสินใจที่จะพูดกับคุณหญิงบนโต๊ะอาหารเช้าว่า “คุณยายคะ หนูอยากออกไปเดินเล่นข้างนอก ได้ไหมคะ……?

“ไปไหน?” คุณหญิงถามด้วยเสียงเข้มไม่เปลี่ยนเหมือนทุกวัน

“ก็……แค่ไปเดินเล่นน่ะค่ะ”

ผู่เหลียนเหยาที่นั่งอยู่ข้างๆ มองไปที่คุณหญิงแล้วก็มองไปที่ไป๋มู่ชิงผู้น่าสงสาร มุมปากเธอยิ้มอ่อนพร้อมกอดแขนคุณหญิง “คุณยายอยากให้พี่สะใภ้ตั้งครรภ์เร็วๆไม่ใช่หรอคะ งั้นก็ให้เธอออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างสิคะ ถ้าอารมณ์ดีอาจจะมีโอกาสมากกว่านะคะ”

โดยปกติบนโต๊ะอาหารก็จะมีแค่คุณหญิงกับเซิ่งซิน นานๆครั้งว่าที่ภรรยาของคุณชายน้อยอย่างผู่เหลียนเหยาถึงจะมาร่วมด้วย

ไป๋มู่ชิงมองสาวสวยผู้งดงามใบหน้าดูเป็นมิตรคนนี้ ด้วยความตื้นตันใจ

เมื่อพูดที่เรื่องตั้งครรภ์ คุณหญิงก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทางทันที เน้นย้ำกับเธอว่า “ตอนออกไปข้างนอก ใครที่ควรพบ อะไรที่ควรพูด เธอควรพึงนึกไว้ตลอด”

“ค่ะคุณยาย” ไป๋มู่ชิงรู้สึกตื่นเต้น คาดไม่ถึงเลยว่าคุณหญิงจะตอบรับคำขอของเธอ

เธอแอบขอบคุณไปทางผู่เหลียนเหยา แล้วลุกขึ้นด้วยความดีใจออกจากโต๊ะอาหารเช้าไป

20นาทีผ่านไป เธอเล่าความเป็นมาทั้งหมดของเรื่องที่เกิดขึ้นให้เหยาเหม่ยฟังพร้อมทั้งเช็ดน้ำตาไปสั่งน้ำมูกไปด้วย แต่เธอรู้ดีว่าไม่ควรพูดถึงความลับของตระกูลหนานกง

พอฟังไปเรื่อยๆ เหยาเหม่ยอารมณ์ร้อนจนดีดตัวขึ้นจากโซฟา “นังไป๋ยิ่งอันทำเกินไปหรือเปล่า ทั้งแย่งหลินอันหนานไป ทั้งให้เธอแต่ง……”

“ชู่……” ไป๋มู่ชิงรีบตัดคำพูดของเธอด้วยการเอามือมาปิดปาก แล้วดึงเธอลงมานั่งเหมือนเดิม “เสียงเบาหน่อยสิ ถ้าคนในตระกูลหนานกงรู้ว่าฉันแต่งงานแทน คงล่มบริษัทของตระกูลไป๋แล้วบีบคอฉันตายแน่ๆ”

“จนตอนนี้แล้วเธอยังนึกถึงตระกูลไป๋อีกเหรอ?” เหยาเหม่ยพูดด้วยสีหน้าเอือมระอา “คิดดูดีๆสิว่าพวกเขาทำกับเธอยังไง ดูสภาพเธอตอนนี้ด้วย ทั้งโดนแย่งแฟน ยังโดนบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่น่ากลัวอย่างนั้นอีก ถ้าเป็นฉันล่ะก็ ฉันคงบอกความจริงไปแล้วฆ่านังไป๋ยิ่งอันทิ้งซะ!”

“เสี่ยวเหม่ย เธอไม่เคยเจอคนในตระกูลหนานกง เธอไม่รู้หรอกว่าพวกเขาน่ากลัวขนาดไหน เพราะฉะนั้น……” ไป๋มู่ชิงสูดหายใจเข้าลึกๆ”เพราะฉะนั้นถ้าแม้จะเพื่อตัวเอง ฉันก็บอกความจริงกับพวกเขาไม่ได้”

“งั้นเธอก็จะยอมทนอยู่อย่างนี้หรอ? หลินอันหนานก็จะตัดใจละ?”

“ตอนนี้หลินอันหนานคงมีความสุขอยู่กับไป๋ยิ่งอัน ไม่ตัดใจจะให้ทำยังไงได้ล่ะ อีกอย่างไป๋ยิ่งอันจงใจจะใส่ร้ายฉันอีก ฉันจะรับมือไหวเหรอ สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ก็คือการที่ฉันมีชีวิตที่ดีขึ้น จะทำให้พวกเขาไม่ได้ดั่งใจก็แค่นั้น”

“เธอแต่งงานกับผู้ชายแบบนั้น ชีวิตเธอจะดีได้ยังไงกัน?” เหยาเหม่ยหมดคำพูดพร้อมมองบนใส่เธอ จากนั้นก็ก็ลุกขึ้นมาจ้องถามเธอว่า “หนานกงเฉินเหมือนในข่าวลือหรือเปล่าที่ทั้งขี้เหร่แถมร่างกายยังอ่อนแอไม่แข็งแรงอีกแล้วผู้หญิงที่เคยแต่งงานกับเขาก็ไม่มีใครรอดเกินหนึ่งเดือน? แต่ดูเธอตอนนี้ก็สบายดีหนิ”

สีหน้าของเธอหม่นหมองลงเล็กน้อย หนานกงเฉินร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจริง แต่ขี้เหร่แค่ไหนเธอเองก็ไม่แน่ใจ ถึงแม้จะแต่งงานกับเขามาครึ่งเดือนแล้ว แต่ส่วนมากเขาก็พักข้างนอกบ้าน บางครั้งเขาก็แค่มาทำภารกิจของเขา พอเสร็จก็ออกห้องไป แล้วตอนเช้าก็ให้หญิงรับใช้นำยามาให้เธอกินและเขาก็จะออกไปทำงานแต่เช้า

เธอไม่แน่ใจว่าเขาตั้งใจที่จะไม่พบเธอหรือแค่ความบังเอิญ สรุปแล้วยังไงเธอก็ยังไม่เคยพบกับเขาจริงๆจังๆสักครั้ง

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

Status: Ongoing
ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท