เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – บทที่ 34 พิธีหมั้น 3

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

นักเปียโนสาวสวยกำลังบรรเลงเพลงอันแสนไพเราะ รอบๆประดับด้วยดอกกุหลาบสีแชมเปญ ฮอลล์จัดงานดูสวยแพงมีระดับ เมื่อเห็นบรรยากาศตรงหน้า จู่ๆก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวไป๋มู่ชิง เธอสวมชุดราตรีงดงาม ยืนต้อนรับแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีหน้างาน ไม่ใช่ไป๋ยิ่งอัน แต่เป็นเธอ…ไป๋มู่ชิง

คล้องแขนเคียงไหล่หลินอันหนาน เดินผ่านเสียงอวยพรของแขกในงานขึ้นบนเวที นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เธอฝันไว้หรอ?

เธอส่ายหัวไปมา ทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ตัวเองก็แต่งงานแล้วด้วย ทำไมยังมีความคิดต่ำๆแบบนี้อีกนะ?

หลักจากทักทายกับไป๋จิ้งผิงและซูวยาหยงแล้ว ไป๋มูชิงก็หามุมนั่งเงียบๆ คิดหาโอกาสเหมาะสมที่จะหนีออกจากงานไป

เนื่องจากตระกูลหลินและตระกูลไป๋ล้วนเป็นตระกูลที่มีหน้ามีตาในสังคม ผู้ที่มาร่วมงานพิธีหมั้นก็ล้วนเป็นสังคมไฮโซ หลังจบพิธีหมั้น พิธีกรก็เชิญพระเอกนางเอกในคืนนี้เต้นรำเปิดฟลอร์

ไป๋ยิ่งอันรับไมค์มาอย่างใจกว้าง จูงมือหลินอันหนานมากลางเวที กวาดสายตาไปยังแขกที่มาในงาน ยิ้มบางๆแล้วพูดขึ้นว่า: “ขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานพิธีหมั้นของดิฉันกับอันหนาน ได้เห็นความกระตือรือร้นของทุกท่าน ดิฉันรู้สึกตื้นตันใจมาก แต่ในที่นี้ดิฉันอยากขอบคุณพี่สาวของฉันมากที่สุด……

ไป๋มู่ชิงที่หลบอยู่ในมุมนั้นตัวแข็งทันที สิ่งที่จะเกิดยังไงก็ต้องเกิดสินะ…….

ไป๋ยิ่งอันที่อยู่บนเวทีนั้นรู้อยู่แล้วว่าไป๋มู่ชิงหลบอยู่ในมุมห้อง เมื่อกวาดสายตามองเธอแล้วจึงยิ้มบางๆพร้อมพูดว่า: “แม้ว่าดิฉันกับพี่สาวไม่ได้เติมโตมาด้วยกัน แต่พี่สาวก็คอยดูแลดิฉันเป็นอย่างดีตั้งแต่ยังเด็ก สิ่งไหนดีก็นึกถึงดิฉันก่อนเสมอ เชื่อว่าทุกท่านในที่นี้ย่อมทราบอยู่แล้วว่า พี่สาวของดิฉันเพิ่งแต่งงานไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่งกับคุณชายหนานกงที่มีชื่อเสียงของเมืองC นับว่าพี่สาวและพี่เขยเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน ดังนั้น ดิฉันเลยอยากเชิญพี่สาวและพี่เขยเป็นคู่เต้นรำเปิดฟลอร์ค่ะ”

ไป๋มู่ชิงตัวแข็งอีกครั้ง ให้เธอกับหนานกงเฉินเต้นรำเปิดฟลอร์หรอ?ไป๋ยิ่งอันรู้ดีอยู่แล้วว่าวันนี้หนานกงเฉินไม่ได้มาด้วย และไม่มาอย่างแน่นอน

ผู้หญิงคนนี้ฉลาดจริงๆ จะหาเรื่องใครก็มีวิธีการเยอะซะด้วย

“พี่ มาทางนี้สิ” ไป๋ยิ่งอันยิ้มหวานพลางกวักมือเรียกเธอ

แขกในงานต่างมองตามสายตาของเธอ มาตกอยู่บนตัวไป๋มู่ชิง และเริ่มมองหาเงาของหนานกงเฉินข้างตัวเธอ

ทุกคนต่างช็อคและแปลกใจอย่างมาก ไป๋มู่ชิงย่อมรู้อยู่แล้วว่าพวกเขากำลังคาดหวังอะไร สีหน้าของเธอเริ่มแดงและร้อน ทุกสายตาจับจ้องมาขนาดนั้น ไม่ทำอะไรก็คงไม่ได้ แต่เธอควรทำอะไรดี? จะแก้ไขสถานการณ์ยังไงดี?

เสียงวิพากวิจารณ์เริ่มดังขึ้นรอบตัว: “หนานกงเฉินอยู่ไหนหรอ? คนไหนคือเขา?”

“ไม่รู้สิ ฉันก็ไม่เคยเจอเขาเหมือนกัน”

“ได้ยินมาว่าหน้าตาขี้เหร่มาก แต่ในงานนี้ก็ไม่มีผู้ชายหน้าตาขี้เหร่นะ”

“……”

ไป๋มู่ชิงสุดลมหายใจเข้าเบาๆ เดินไปยังกลางเวที

เธอสวมชุดราตรีเกาะอกสีฟ้า สวมรองเท้าส้นสูงราวสูง10ซม. เกล้าผมขึ้นเล็กน้อย ใบหน้างดงาม ผิวขาวผ่องราวหิมะ แต่งตัวขนาดนี้ก็สวยไม่แพ้ไป๋ยิ่งอันเลย

ชุดที่สวมนี้พี่เหอเป็นคนจัดการให้เธอเองทั้งหมด ราคาย่อมไม่เบาแน่นอน

เธอกวาดสายตามองไป๋ยิ่งอันที่ไม่หวังดีกับหลินอันหนานมียืนมองด้วยสายตาเย็นชา และยิ้มบางๆให้กับทุกคน: “ขอโทษทุกท่านด้วยค่ะ คุณชายหนานกงมีเหตุผลส่วนตัวจึงไม่ได้มากับดิฉันในวันนี้ ดังนั้น……”

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

Status: Ongoing
ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท