“ช่วยด้วย……ช่วยด้วย……!” เธอพยายามทุบประตูอย่างสุดแรง ทำไมชายน่ารังเกียจผู้นั้นถึงคิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป แต่เธอกลับยังคงต้องคุกเข่าอยู่ที่นี่ ช่างไม่ยุติธรรมเลย!
ข้างนอกประตู พ่อบ้านได้ผลักประตูใหญ่ออก มองเธออย่างไม่ละสายตา “นายหญิงน้อย คุณเป็นอะไรอีก”
“ผี…… เลือด……เลือด……” ไป๋มู่ชิงกลัวว่าเขาไม่เชื่อ จึงยกแขนของตัวเองสูงขึ้น
พ่อบ้านกวาดตามองจุดสีแดงขนาดเท่ากับเหรียญบนมือของเธอ จากความโกรธกลับเปลี่ยนเป็นความกลัว “คุณหญิงน้อย อย่าหาว่าผมาไม่เตือนคุณเลย หากคุณผู้หญิงได้ยินคุณพูดคำว่าผีอีก ต้องโมโหคุณแน่ คุณคงได้คุกเข่าทั่งวันทั้งคืน”
“แต่ว่า… มันคือเลือดจริงๆ……”
“เลือดมันน่ากลัวตรงไหน ? อาจจะมีแมวจับหนูบนหลังคา เลือดหนูก็เลยบังเอิญหยดลงบนมือคุณ” ถึงแม้ว่าพ่อบ้านจะพูดอย่างนั้น แต่สีหน้าของเขากลับซีดขาวเช่นกัน สายตายังคงชำเลืองมองไปที่หยดเลือดบนแขนของเธออยู่บ่อยครั้ง
เขาพูดอย่างมีเหตุผล แต่ไป๋มู่ชิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกขึ้นทั้งตัว
“คุณหญิงน้อย ได้โปรดล่ะ กลับไปคุกเข่าต่อจนถึงหนึ่งทุ่ม” พ่อบ้านผลักเธอให้กลับไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ฉันไม่อยาก……ฉันกลัว……”
“นี่คือคำสั่งของคุณผู้หญิง”
ขณะที่ทั้งสองกำลังดึงดันกันอยู่นั้น สาวรับใช้คนหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของทั้งคู่ เพื่อแจ้งว่าคุณผู้หญิงเรียกให้ไป๋มู่ชิงไปที่บ้านใหญ่
ไป๋มู่ชิงโล่งใจ จึงรีบตามสาวใช้ไปที่บ้านใหญ่ในทันที
ขอเพียงแค่ไม่ใช่ที่ศาลบรรพบุรุษ จะให้ไปที่ไหนก็ได้ แม้ว่าไปถึงบ้านใหญ่จะโดนลงโทษหรือโดนดุด่าก็ไม่เป็นไร
เมื่อเธอไปถึงบ้านใหญ่ ก็ต้องประหลาดใจที่ได้พบกับหลินอันหนานและไป๋ยิ่งอันคนสารเลวคู่นั้นที่ห้องรับแขก และนอกจากนั้นก็ยังมีคุณหญิงหลิน
พวกเขาทำไมถึงได้มาที่บ้านตระกูลหนานกงตั้งแต่เช้า ? ไป๋มู่ชิงสงสัย
หลินอันหนานและไป๋ยิ่งอันก็มองมาที่เธอ สีหน้าของทั้งคู่ดูไม่ค่อยสู้ดี แต่ถ้าเทียบกับความหยิ่งทะนงตนของเมื่อวาน วันนี้ถือว่าอ่อนน้อมขึ้นมาก
บนโซฟา คุณผู้หญิงยังคงนั่งตัวตรงอย่างเดิมเช่นเคย คุณหญิงหลินคุกเข่าลงเบื้องหน้าของคุณผู้หญิงสองมือจับที่เข่าของเธอแล้วพูดทั้งน้ำตาว่า “คุณหญิงแม่ นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว คุณแม่ยังไม่ยอมยกโทษให้ลูกอีกหรอ? ลูกสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
“เธอสำนึกผิดแล้วหรอ?” คุณผู้หญิงชายตามองเธอแล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น : “ฉันคิดว่าเธอจะทนได้แล้ว ถึงได้ยังปล่อยให้ลูกชาย ลูกสะใภ้ มาดูถูกอาเฉิน ผลักดันให้เขาไปบนปากเหว”
“ไม่ใช่อย่างนั้น” คุณหญิงหลินส่ายหน้าอย่างรีบร้อน : “อันหนานและมู่ชิงอายุยังน้อย ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว พวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี วันนี้ลูกได้พาพวกเขามาเพื่อขอโทษอาเฉินและยิ่งอัน”
คุญผู้หญิงหลินกวักมือเรียกหลินอันหนานและไป๋ยิ่งอันอย่างรีบร้อน “พวกเธอสองคนรีบขอโทษคุณหญิงยายซะ”
หลินอันหนานและไป๋ยิ่งอันมองตากัน ช่วงเวลาหนึ่งมันยากที่จะยอมรับเรื่องนี้ โดยเฉพาะหลินอันหนาน เขาโตมาจนขนาดนี้ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแม่ของเขาหนานกงหรูแท้จริงแล้วเป็นลูกสาวแท้ๆของตระกูลหนานกง
ความจริงที่ว่าเขากลายเป็นพี่สะใภ้ของตัวเอง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันกระทันหันเกินไป
“ขอโทษหรอ ไม่จำเป็นหรอก” คุณผู้หญิงดูถูก
“ใช่แล้ว อาเฉินกับยิ่งอันล่ะ ? พวกเขาทำไมยังไม่ลงมา ? ” คุณหญิงหลินเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วถาม
“คุณชายใหญ่กำลังลงมาค่ะ คุณหญิงน้อยมาแล้ว” พี่เหอกล่าว
ไป๋มู่ชิงได้สติกลับมา ก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมพูดขึ้นอย่างสุภาพว่า : “คุณย่า คุณหญิงหลิน อรุณสวัสดิ์ค่ะ”