เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – บทที่ 41 มาขอโทษถึงบ้าน

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

“ช่วยด้วย……ช่วยด้วย……!” เธอพยายามทุบประตูอย่างสุดแรง ทำไมชายน่ารังเกียจผู้นั้นถึงคิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป แต่เธอกลับยังคงต้องคุกเข่าอยู่ที่นี่ ช่างไม่ยุติธรรมเลย!

ข้างนอกประตู พ่อบ้านได้ผลักประตูใหญ่ออก มองเธออย่างไม่ละสายตา “นายหญิงน้อย คุณเป็นอะไรอีก”

“ผี…… เลือด……เลือด……” ไป๋มู่ชิงกลัวว่าเขาไม่เชื่อ จึงยกแขนของตัวเองสูงขึ้น

พ่อบ้านกวาดตามองจุดสีแดงขนาดเท่ากับเหรียญบนมือของเธอ จากความโกรธกลับเปลี่ยนเป็นความกลัว “คุณหญิงน้อย อย่าหาว่าผมาไม่เตือนคุณเลย หากคุณผู้หญิงได้ยินคุณพูดคำว่าผีอีก ต้องโมโหคุณแน่ คุณคงได้คุกเข่าทั่งวันทั้งคืน”

“แต่ว่า… มันคือเลือดจริงๆ……”

“เลือดมันน่ากลัวตรงไหน ? อาจจะมีแมวจับหนูบนหลังคา เลือดหนูก็เลยบังเอิญหยดลงบนมือคุณ” ถึงแม้ว่าพ่อบ้านจะพูดอย่างนั้น แต่สีหน้าของเขากลับซีดขาวเช่นกัน สายตายังคงชำเลืองมองไปที่หยดเลือดบนแขนของเธออยู่บ่อยครั้ง

เขาพูดอย่างมีเหตุผล แต่ไป๋มู่ชิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกขึ้นทั้งตัว

“คุณหญิงน้อย ได้โปรดล่ะ กลับไปคุกเข่าต่อจนถึงหนึ่งทุ่ม” พ่อบ้านผลักเธอให้กลับไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง

“ฉันไม่อยาก……ฉันกลัว……”​

“นี่คือคำสั่งของคุณผู้หญิง”

ขณะที่ทั้งสองกำลังดึงดันกันอยู่นั้น สาวรับใช้คนหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของทั้งคู่ เพื่อแจ้งว่าคุณผู้หญิงเรียกให้ไป๋มู่ชิงไปที่บ้านใหญ่

ไป๋มู่ชิงโล่งใจ จึงรีบตามสาวใช้ไปที่บ้านใหญ่ในทันที

ขอเพียงแค่ไม่ใช่ที่ศาลบรรพบุรุษ จะให้ไปที่ไหนก็ได้ แม้ว่าไปถึงบ้านใหญ่จะโดนลงโทษหรือโดนดุด่าก็ไม่เป็นไร

เมื่อเธอไปถึงบ้านใหญ่ ก็ต้องประหลาดใจที่ได้พบกับหลินอันหนานและไป๋ยิ่งอันคนสารเลวคู่นั้นที่ห้องรับแขก และนอกจากนั้นก็ยังมีคุณหญิงหลิน

พวกเขาทำไมถึงได้มาที่บ้านตระกูลหนานกงตั้งแต่เช้า ? ไป๋มู่ชิงสงสัย

หลินอันหนานและไป๋ยิ่งอันก็มองมาที่เธอ สีหน้าของทั้งคู่ดูไม่ค่อยสู้ดี แต่ถ้าเทียบกับความหยิ่งทะนงตนของเมื่อวาน วันนี้ถือว่าอ่อนน้อมขึ้นมาก

บนโซฟา คุณผู้หญิงยังคงนั่งตัวตรงอย่างเดิมเช่นเคย คุณหญิงหลินคุกเข่าลงเบื้องหน้าของคุณผู้หญิงสองมือจับที่เข่าของเธอแล้วพูดทั้งน้ำตาว่า “คุณหญิงแม่ นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว คุณแม่ยังไม่ยอมยกโทษให้ลูกอีกหรอ? ลูกสำนึกผิดแล้วจริงๆ”

“เธอสำนึกผิดแล้วหรอ?” คุณผู้หญิงชายตามองเธอแล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น : “ฉันคิดว่าเธอจะทนได้แล้ว ถึงได้ยังปล่อยให้ลูกชาย ลูกสะใภ้ มาดูถูกอาเฉิน ผลักดันให้เขาไปบนปากเหว”

“ไม่ใช่อย่างนั้น” คุณหญิงหลินส่ายหน้าอย่างรีบร้อน : “อันหนานและมู่ชิงอายุยังน้อย ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว พวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี วันนี้ลูกได้พาพวกเขามาเพื่อขอโทษอาเฉินและยิ่งอัน”

คุญผู้หญิงหลินกวักมือเรียกหลินอันหนานและไป๋ยิ่งอันอย่างรีบร้อน “พวกเธอสองคนรีบขอโทษคุณหญิงยายซะ”

หลินอันหนานและไป๋ยิ่งอันมองตากัน ช่วงเวลาหนึ่งมันยากที่จะยอมรับเรื่องนี้ โดยเฉพาะหลินอันหนาน เขาโตมาจนขนาดนี้ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแม่ของเขาหนานกงหรูแท้จริงแล้วเป็นลูกสาวแท้ๆของตระกูลหนานกง

ความจริงที่ว่าเขากลายเป็นพี่สะใภ้ของตัวเอง การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันกระทันหันเกินไป

“ขอโทษหรอ ไม่จำเป็นหรอก” คุณผู้หญิงดูถูก

“ใช่แล้ว อาเฉินกับยิ่งอันล่ะ ? พวกเขาทำไมยังไม่ลงมา ? ” คุณหญิงหลินเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วถาม

“คุณชายใหญ่กำลังลงมาค่ะ คุณหญิงน้อยมาแล้ว” พี่เหอกล่าว

ไป๋มู่ชิงได้สติกลับมา ก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมพูดขึ้นอย่างสุภาพว่า : “คุณย่า คุณหญิงหลิน อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

Status: Ongoing
ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท