เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – บทที่ 45 ติดพันเขา

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

“ก็กลัวเธอจะเป็นเหมือนตอนนี้ หลงไหลฉัน เกาะติดฉัน สุดท้ายก็เหมือนกับลูกอมที่ติดหนึบกับฉันจะแกะก็แกะไม่ออก”

“คุณ……หนานกงเฉินถ้าคุณไม่หลงตัวเองจะตายมั๊ย?” ไป๋มู่ชิงโกรธอย่างมาก เธอตะโกนออกไปจนไม่เป็นภาษา “ฉันไม่ทรมานตัวเองด้วยการไปติดพันกับคนอ่อนแอที่และคงมีอายุไม่ถึงสามสิบปีหรอก”

สีหน้าของหนานกงเฉินจริงจังขึ้น ชำเลืองตามองเธอ “รอฉันตายแล้ว เธอกับพวกคุณอาก็จะเข้าแถวรอรับมรดกด้วยกันล่ะซิ ?”

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นของเขา กลับค่อยๆทำให้สังเกตุเห็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ไป๋มู่ชิงที่กำลังโกรธ ไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์ที่แปรปวนของเขา เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น ตัวเองกลับยิ่งโกรธมากขึ้น เธอกัดฟันแน่น แสร้งทำเป็นรู้ตัว “อ้อ ใช่ ทำไมฉันถึงไม่คิดเรื่องนี้นะ? ใช่สิ เพื่อมรดกของตระกูลหนานกงฉันก็ต้องติดพันคุณ เกาะติดคุณจนกว่าคุรจะตาย!”

“อ๊ะ……!” เธอส่งเสียงร้องเบาๆ สักพักก็ถูกเขาผลักชนกำแพงอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดูว่าเธอจะมีชีวิตที่สนุกหรือเปล่า” เขาจูบเธอ ระหว่างริมฝีปากก็เต็มไปด้วยความเย็นชา สองมือก็ดึงผ้าขนหนูผืนใหญ่ออกจากตัวเธออย่างไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด

และเขาก็รู้ดีว่ามันคงจะไม่ใช่จุดจบที่ดีแน่!

ไป๋มู่ชิงหลับตาสนิท กัดฟันอดทนต่อความหยาบคายและการระรานของเขา

เมื่อไป๋ยิ่งอันเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยความโกรธ ซูวยาหยงที่กำลังดื่มชาอยู่ในห้องรับแขก เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ลูกสาวแล้วพูดด้วยความโมโห “ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้ว การจะแต่งเข้าบ้านตระกูลหลิน ครอบครัวที่ร่ำรวย เธอต้องสง่าผ่าเผยและมีความเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่เป็นคนขึ้นๆลงๆแบบนี้”

เมื่อโดนเธอพูดเช่นนี้ ไป๋ยิ่งอันก็ยิ่งโกรธมากขึ้น แล้วนั่งลงข้างๆเธอ “ยังจะแต่งเข้าตระกูลหลินอีกเหรอ ตระกูลหลินบ้าๆ”

“ทำไมเหรอ? ทะเลาะกับหลินอันหนานเหรอ?” ซูวยาหยงยกชาดอกไม้ขึ้นมาจิบ

“คุณแม่ คุณแม่ยังมีกระจิตกระใจดื่มชาอยู่อีกเหรอ ฉันร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว”

“ยังไงล่ะ” ในที่สุดซูวยาหยงก็วางถ้วยชาลง แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

ไป๋ยิ่งอันถอนหายใจ “แม่รู้ไหมคุณหญิงหลินทำเกินไปขนาดไหน ลากฉันกับอันหนานไปบ้านตระกูลหนานกงตั้งแต่เช้าเพื่อไปขอโทษนังตัวดี และที่น่าตกใจที่สุดก็คือผู้ชายที่ปรากฏตัวในงานเลี้ยงเมื่อวานนี้คือ หนานกงเฉิน แต่ว่ามันก็ทำให้นังตัวดีหน้าเสียไปเลย”

“เอ๊ะ?” ซูวยาหยงประหลาดใจ “เขาคือหนานกงเฉินจริงเหรอ? ไม่ใช่นังตัวดีให้ใครมาสวมรอยหรอกนะ”

เรื่องงานเลี้ยงเมื่อคืนวาน เธอคิดว่าทั้งหมดเป็นฉากตอบโต้ที่กำกับและแสดงโดยไป่มู่ชิงเลยไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด คิดไม่ถึงว่า……

“ข่าวลือพูดกันว่า……หนานกงเฉินทั้งหน้าตาอัปลักษณ์ ทั้งอ่อนแอไม่ใช่เหรอ? จะเป็นเขาได้ยังไง” เมื่อคืนวานนี้ผู้ชายคนนั้นไม่เพียงแต่หน้าตาไม่อัปลักษณ์ กลับหล่อเหลามากอีกด้วย

“สรุปว่าข่าวลือนี้มาจากที่ไหนกัน?” ไป๋ยิ่งอันจะร้องไห้ “คุณแม่ เป็นเพราะแม่นั้นแหละ เพราะแม่เสนอความคิดแย่ๆให้ฉัน ชักนำให้ฉันไปหาหลินอันหนาน ทำให้พลาดจากคนที่ดีขนาดนี้อย่างหนานกงเฉิน ฮือ เป็นเพราะแม่”

นึกถึงหนานกงเฉินกับไป๋มู่ชิงกอดจูบกันในงานเลี้ยงเมื่อคืน ทั้งยังภาพที่ทั้งสองคนจูงมือกันที่บ้านตระกูลหนานกง เธอทั้งเสียดายทั้งเคียดแค้น

การแต่งงานนี้เดิมทีเป็นของเธอ ผู้ชายคนนี้เดิมทีเป็นของเธอ ตอนนี้เธอเป็นคนหยิบยื่นมันให้กับไป๋มู่ชิงคนนั้น!

“ใช่ใช่ใช่…….ทั้งหมดเป็นเพราะแม่ไม่ดี แม่ไม่ควรไปเชื่อข่าวลือพวกนั้น” ซูวยาหยงจับมือเพื่อปลอบใจเธอ “แต่ว่ายิ่งอัน ลูกก็อย่างเพิ่งรีบร้อน แม้ว่าหนานกงเฉินจะร่ำรวย และหล่อเหลา แต่ลูกไม่เห็นสีหน้าที่ซีดขาวของเขาหรอ ดูก็รู้ว่าร่างกายไม่แข็งแรง ตอนนี้พวกเรามีหลินอันหนาน คู่หมั้นที่รูปหล่อ แข็งแรง และร่ำรวย ลูกไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องรำคาญใจพวกนี้ดีมั๊ย?”

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

Status: Ongoing
ไป๋มู่ชิงเคยได้ยินเรื่องเล่าตั้งแต่เด็กว่า ตระกูลหนานกงในเมืองซีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด แต่น่าเสียดายที่คุณชายใหญ่ของตระกูลกลับป่วยเป็นโรคประหลาด โรคที่เขาเป็นจะทำให้เขามีอายุอยู่ได้ไม่ถึงอายุ30ปี ไป๋มู่ชิงยังได้ยินมาอีกว่า คุณชายหนานกงเฉินแต่งงานใหม่ทุกๆปี แต่เจ้าสาวของเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวันต่อมาหลังคืนเข้าหอ แต่ไม่ทราบสาเหตุของการแต่งงานและยังไม่ทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเจ้าสาวด้วย เมื่อตระกูลหนานกงได้ส่งของหมั้นมาให้ตระกูลไป๋ ไป๋มู่ชิงก็คิดไม่ถึงว่าพ่อของเธออยากจะปกป้องชีวิตพี่ของเธอไว้ถึงขนาดผลักเธอเข้าไปในประตูนรกอย่างโหดร้าย บังคับให้เธอแต่งงานกับหนานกงเฉินเป็นเจ้าสาวคนที่เจ็ดของเขา แทนพี่สาวของเธอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท