เขาจงใจซ้ำเติมคำว่า “คนไร้ค่า” ด้วยเสียงลงท้ายที่ต่ำพร้อมกับคำพูดยั่วยุ
เขาคนนั้นจงใจเข้าใกล้เธอ พร้อมลมหายใจที่แรงขึ้นเรื่อยๆ
มู่นวลนวลขยับตัวออกไป สงสัยอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็เชื่อคำพูดของเขา
ถึงอย่างไร คฤหาสน์ของโม่ถิงเซียว ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถเข้ามา
“เขาคือพี่ชายของคุณ โปรดอย่าพูดแบบนี้ถึงเขา” แม้แต่น้องชายตัวเองยังพูดแบบนี้ คาดว่าปกติมู่ถิงเซียวก็ใช้ชีวิตผ่านไปได้ไม่ดี
ในใจของมู่นวลนวลมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ
ถึงแม้ตระกูลโม่จะเป็นตระกูลที่มีเงินมากมาย แต่ด้วยสถานการณ์ของโม่ถิงเซียว หลายปีมานี้เขาจะต้องผ่านไปด้วยความยากลำบากแน่นอน
ความประหลาดใจแวบผ่านดวงตาสีดำของโม่ถิงเซียว เขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงขี้เหร่คนนี้จะพูดอะไรแบบนี้
เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เธออีกครั้ง
ผมยุ่งๆ แว่นตากรอบสีดำและเสื้อโค้ทตัวยาว ผมหน้าม้าบนหน้าผากหนามากจนแทบจะปกปิดตา แถมยังมีริ้วรอยเล็ก ๆ น้อย ๆบนหน้า มองนานๆแล้วรู้สึกมันน่ารังเกียจจริงๆ
รู้ได้เลยว่าเลยว่าผู้หญิงขี้เหร่คนนี้ไม่ใช่คู่หมั้นสาวสวยในข่าวลือนั่นแน่นอน
แต่คนในตระกูลโม่ไม่สนใจว่าผู้หญิงที่แต่งงานกับเขาจะขี้เหร่หรือสวย แค่ผู้หญิงที่สามารถมีทายาทเพื่อสืบเชื้อสายของวงศ์ตระกูลก็พอแล้ว ก็เหมือนเปลี่ยนบุคคล พวกเขาก็ไม่มาคอยซักถาม
แสงสีดำสว่างวาบในดวงตาของโม่ถิงเซียว เขายื่นมือออกไปเพื่อผลักมู่นวลนวลลงบนเตียงอย่างรุ่นแรงด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยามและเจตนาร้าย “ ที่นี่ไม่มีคนอื่น เธอไม่จำเป็นต้องแสแสร้ง ท่าทางเธอแบบนี้คงยังเป็นสาวบริสุทธุิ์อยู่สินะ ฉันจะถือเป็นเรื่องที่ดี และจะทำให้คุณพอใจ”
พูดจบ เขาก็ยื่นมือไปหาเธอ
ความรู้สึกสัมผัสที่ละเอียดอ่อน แทบจะเสพติดเมื่อได้สัมผัสมัน
“เพี้ย!”
มู่นวลนวลพยายามตบไปที่หน้าของเขา “อย่าคิดว่าคนอื่นจะใจแคบเหมือนคุณ ก่อนที่พี่ชายของคุณจะมา คุณรีบไปซะ แล้วฉันจะคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
แม้ว่าเธอจะพยายามสงบสติอารมณ์ แต่มือที่สั่นเทาของเธอก็ยังทรยศต่อเธอ
ระหว่างทางที่เธอมา เธอจินตนาการไว้แล้วว่าโม่ถิงเซียวจะน่าเกลียดขนาดไหน แต่คิดไม่ถึงว่าจะเจอเรื่องแบบนี้
โม่ถิงเซียวทำใบหน้าบึ้งตึง ร่างกายหนาวสั่นถึงกระดูก “ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำกับฉันแบบนี้”
เพราะการต่อสู้ แว่นตาของเธอจึงตกลงมาดวงตาคู่หนึ่งถูกเปิดเผย และชัดเจนอย่างไม่คาดคิด สายตาที่สั่นไหวแสดงให้เห็นถึงความตึงเครียดและความกลัว
โม่ถิงเซียวขยับตัว แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกใจอ่อน
เขาลุกขึ้นยืน และดึงที่เสื้อของเธอ มองเธออย่างเย็นชา “ทนรอคนไร้ค่าที่นี่ต่อไปเถอะ”
ปึ้ง!
จนกระทั่งประตูปิดลง ความตึงเครียดของมู่นวลนวลก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
……
ประตูด้านนอก
มีบอดี้การ์ดเห็นรอยแดงบนใบหน้าของโม่ถิงเซียจึงถามว่า “คุณชาย ใบหน้าของคุณ …”
โม่ถิงเซียวสัมผัสที่หน้าของตัวเอง พูดอย่างไร้อารมณ์ ว่า “ชนประตู”
ประตูอะไรมีรอยนิ้วมือบนใบหน้า?
แต่บอดี้การ์ดไม่กล้าถามมาก ได้แต่ยื่นเอกสารให้ด้วยความเคารพเท่านั้น “นี่คือประวัติของนายหญิงครับ”
มู่ถิงเซียวเปิดดูเอกสาร มองไปที่ชื่อด้านบน : มู่นวลนวล
ผู้หญิงขี้เหร่คนนี้ดูเป็นคนเย็นชา คาดไม่ถึงว่าจะชื่อ “นวลนวล”
แม่ผู้ให้กำเนิดของมู่นวลนวลคนนี้น่าสนใจ เลี้ยงลูกติดเหมือนอัญมณี แต่โหดเหี้ยมกับลูกสาวตัวเอง
พอมาบรรทัดต่อไป เขาขมวดคิ้ว ถามบอดี้การ์ดว่า “เธอเป็นคนโง่เหรอ?”
บอดี้การ์ดพยักหน้า
โม่ถิงเซียวพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “ไปตรวจสอบมาใหม่”
ตอนที่มู่นวลนวลพูดจา แสดงออกได้อย่างชัดเจน
พูดอีกครั้ง เขาไม่เคยเห็นคนโง่ที่ไหนลุกขึ้นสู้กับการตบที่รุนแรง
เขาก้มหน้าลงและโยนเอกสารในมือให้บอดี้การ์ด “ถ้าหาข้อมูลที่ฉันพอใจมาไม่ได้ ก็ไม่ต้องกลับมาหาฉัน”