รถสีดำจอดที่ประตูหน้าบ้านตระกูลมู่
มู่นวลนวลกำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัย โม่ถิงเซียวที่อยู่ข้างๆเอนตัวเข้ามาใกล้เธอ นิ้วเรียวสวยกดเบาๆ ที่หัวเข็มขัดนิรภัย “แป๊ก”! เข็มขัดนิรภัยปลดล็อกแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ใกล้แค่นิดเดียว แม้ว่าหัวใจของมู่นวลนวลจะเหมือนน้ำ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหน้าแดงและใจเต้น บวกกับร่องรอยของความลุกลี้ลุกลนที่ไหลออกมาจากดวงตา
แค่เพียงใบหน้าผู้ชายคนนี้ ก็สามารถทำให้ผู้หญิงทุกคนใจเต้น
แต่พอนึกถึงพฤติกรรมของเขาาเมื่อวาน สีหน้าของมู่นวลนวลก็กลับมาสู่ปกติ
เพียงแค่คนรวยที่มีรสนิยมไม่ดีและอยากได้พี่สะใภ้ของตัวเอง จะมีประโยชน์อะไร
เธอเงยหน้าขึ้น และดันแว่นตา สีหน้าของเขาดูหมองคล้ำเล็กน้อยและดวงตาที่ไร้สติของเขาก็ดูงี่เง่าเล็กน้อย “ฉันจะลงจากรถแล้ว”
ดวงตาของโม่ถิงเซียวก็หดลง ความอ่อร่าก่อนหน้านี้หายไป กลิ่นไออันตรายเข้ามาแทนที่
มู่นวลนวลรีบพูดเมื่อสังเกตเห็นเขากำลังเปลี่ยนแปลง เธอเปิดประตูและจะลงจากรถ แต่แขนข้างหนึ่งรีบคว้ามือของเธอเพื่อเปิดประตู
ร่างของเขาที่อ้าแขนยาวอยู่ข้างหน้าเธอ มองจากด้านนอกเขาแทบจะโอบเธอไว้ในอ้อมแขน
เขามองทะลุแว่นของเธอ มองตรงไปที่ดวงตาใสของเธอเหมือนน้ำในฤดูใบไม้ร่วง จึงพูดอย่างลึกซึ้ง “ฉันช่วยส่งพี่สะใภ้กลับมา พี่สะใภ้จะไม่ขอบคุณฉันหรอ?”
เธอก้มหน้าลง สีหน้าท่าทางที่กลัวนิดหน่อย พูดอย่างอ้ำๆอึ้งๆ “ขอบคุณ”
คนในตระกูลมู่เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ก็รู้สึกไม่อยากสนใจเธอ และหวังว่า “โม่เจียเฉิน” จะรู้สึกเช่นเดียวกัน
โม่ถิงเซียวมองไปที่ริมฝีปากสีชมพูของเธอเล็กน้อย และสีหน้าท่าทางของเขาก็ค่อยๆดิ่งลึกลง “ขอบคุณแบบไม่จริงใจแบบนี้ ฉันก็ได้แค่รับคำขอบคุณไว้”
เห็นได้ชัดว่าเป็นใบหน้าที่หมองคล้ำ แต่ด้วยริมฝีปากสีชมพู มันยิ่งทำให้เขาใจร้อน
ในเมื่อเธอเป็นภรรยาที่ถูกต้อง ทำไมต้องอดทน?
ด้วยความคิด เขาโน้มตัวไปและกดริมฝีปากเพื่อจูบเธอ
มู่นวลนวลรู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่ม ๆ ปิดริมฝีปากของเธอ
เธอจ้องมองไปที่ใบหน้าที่ขยายใหญ่ตรงหน้าของเธอด้วยความตะลึง เอื้อมมือไปผลักเขาออกไป ปรากฎว่ามือของเธอถูกเขากำไว้แน่น
โม่ถิงเซียวพอใจในปฏิกิริยาตอบรับของเธอ เขาเอามือหนึ่งข้าง ถอดแว่นตาของเธอออก เหลือเพียงแววตาที่ชัดเจน
มองแบบนี้ เจริญตามากขึ้นเยอะ
แก้มของมู่นวลนวลแดง ชายคนนี้ไม่เจียมตัว กล้าลวนลามเธอที่หน้าประตูบ้านตระกูลมู่
เมื่อจูบเสร็จ เขาละริมฝีปากของเธออย่างไม่ใยดี พร้อมสั่งเธอ “หลักจากนี้ไม่ต้องใส่แว่น ไม่เช่นนั้น เห็นหนึ่งครั้ง จะจูบหนึ่งครั้ง”
สัมผัสที่ทั้งอบอุ่นและอ่อนหวาน มีโอกาสอยากจะลองอีกสักครั้ง
ในช่วงครึ่งหลังของประโยคเขาจงใจลดระดับเสียงลง แต่เพิ่มน้ำเสียงอีกครั้ง สายตาไล่มองไปที่ร่างกายของเธออย่างไร้ยางอาย
มันเหมือนสัตว์ร้ายที่ลาดตระเวนในอาณาเขตของตัวเองที่เต็มไปด้วยการรุกล้ำ
มู่นวลนวลด่าเขาไม่หยุด เสียงผู้หญิงนั้นทำลายความเงียบในรถ
“นวลนวล?”
เมื่อได้ยินเสียง มู่นวลนวลก็หันมองออกไปนอกหน้าต่างรถที่เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง
สายตาของเสี่ยวชูเหอมีความตกใจ ทั้งประหลาดใจ ทั้งหนึ่งก็โกรธ “ทำไมเธออยู่ที่นี่?”
มู่นวลนวลกำมือแน่น ร่องรอยของความลุกลี้ลุกลนแวบเข้ามาในดวงตาของเธออย่างรวดเร็ว
ในวันแรกของงานแต่งงาน ฉันถูกแม่ของฉันเห็นที่หน้าบ้านตัวเอง
ถึงอย่างไรเสี่ยวชูเหอก็คำนึกถึงหน้าตา มองไป ปรากฏไม่เห็นใคร เขากล่าวด้วยใบหน้าบึ้งตึง “ลงมา”
มู่นวลนวลเปิดประตูรถลงไป
เมื่อเธอลงไป เสี่ยวชูเหอก็ดึงเธอเข้าไปในบ้าน
ไม่คาดคิด โม่ถิงเซียวที่อยู่ในรถโผล่หัวออกไปนอกหน้าต่างในขณะนี้ใช้นิ้วถูริมฝีปากของเขาอย่างชั่วร้ายและพูดอย่างสบายๆ ว่า “พี่สะใภ้ฉันจะรอเธอนะ”