มู่นวลนวลจ้องมองเสี่ยวชูเหอด้วยสายตาเย็นชา “ขอโทษเหรอ?ไม่มีทาง”
ในความทรงจำของเสี่ยวชูเหอ ช่วงวัยเด็กของหญิงสาวคนนี้นั้นช่างฉลาดและงดงาม แต่ว่าตอนนี้นั้นเธอทั้งโง่เขลาและหน้าตาอัปลักษณ์ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นมู่นวลนวลจ้องมองด้วยสายตาเย็นชาแบบนี้ ลุคนี้ทำให้เธอรู้สึกหนาวเพราะความกลัว
เธอได้แต่กลืนน้ำลาย พร้อมทั้งได้หันไปพูดกลับมู่หวันฉีด้วยเสียงเบาๆ ว่า “หวันฉี วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ” เป็นการบังคับเธอ
แม้ว่าในใจของหวันฉีไม่อยากทำ แต่ก็ไม่มีวิธีใด จึงทำได้เพียงแค่ตอบรับ
ในกรณีที่มู่นวลนวลทำอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดาจริงๆ และตระกูลโม่โกรธและเพ่งเล็งตระกูลมู่ เธอจะใช้ชีวิตได้อย่างไร?
มู่นวลนวลเห็นพวกเขาตกอยู่ในภวังความคิดของเธอ เธอจึงได้เดินกลับไปที่ห้องของตนเอง
ซึ่งเธอได้ใช้ชีวิตอยู่บ้านตระกูลมู่มาเป็นระยะเวลา20ปีแล้ว สิ่งของส่วนตัวน้อยมากจนดูเหมือนเป็นคนใช้
เธอถือกระเป๋าเดินทางมาที่ห้องรับแขก ซึ่งไม่มีผู้ใดอยู่ในนั้น
หลังจากที่เธอได้ลังเลอยู่ตรงนั้นซักพัก เธอจึงได้เดินออกจากบ้านโดยทางประตูหลัง
แม้ว่าไม่รู้ว่าทำไม ลูกพี่ลูกน้องของโม่ถิงเซียว ถึงทำท่าเหมือนสนใจเธอนัก แต่เธอคิดว่าควรอยู่ห่างจากเขาเป็นไว้จะดีที่สุด
………
โม่ถิงเซียว ยืนรออยู่ข้างนอกบ้านมาซักพัก เมื่อไม่เจอมู่นวลนวลสีหน้าที่เปลี่ยนของเขาก็ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน
เมื่อได้นึกถึงเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อวานนี้ ทำให้ให้เขาครุ่นคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะโดนคนในบ้านแกล้งรึป่าว แต่ภาพที่หญิงสาวเคยเอามือมาตบเขานั้นก็ผุดขึ้นมา เขาจึงย้อนคิดว่าหญิงสาวผู้นั้นคงไม่ยอมให้ใครกลั่นแกล้งได้ง่ายๆ
“คุณคะ มิทราบจะเข้าไปนั่งก่อนไหมคะ”
เสียงที่อ่อนนุ่ม แทรกขึ้นมาโม่ถิงเซียวหันกลับไปที่หน้าต่าง ก็เห็นผู้หญิงหน้าบอบบางน่ารักยืนอยู่ข้างรถ
เมื่อมู่หวั่นฉีเห็นแล้วนั้น ก็อดที่จะตะลึงไม่ได้
ตอนอยู่ชั้นบนนั้น เธอเห็นมู่นวลนวลกับผู้ชายคนหนึ่งกอดและจูบกันในรถ แต่เธอไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะหน้าตาดีและเจ้าอารมณ์ขนาดนี้
ผู้ชายที่แสนจะเพอร์เฟคทำไมคุณถึงตกหลุมรักยัยซาลาเปาที่โง่และน่าเกลียดอย่างมู่นวลนวลที่หน้าตาไม่สวยได้
ดูเหมือนว่าเธอคิดถูกแล้วที่ตัดสินใจออกมาเสี่ยงโชค
ความคิดของเธอไม่สามารถซ่อนจากสายตาของโม่ถิงเซียวไปได้
เขาจึงพูดขึ้นมา “คุณคือใคร”
“ฉันเป็นพี่สาวของมู่นวลนวล ฉันชื่อมู่หวันฉี “เธอไม่ได้รังเกียจความแยแสของโม่ถิงเซียว
มู่หวนฉีเหรอ?
โม่ถิงเซียวนึกขึ้นมาได้ว่าบ้านตระกูลหมู่มีลูกสาว2คน นอกจากมู่นวลนวลแล้ว ก็ยังมีคู่หมั้นราคาถูกของเขาอีกคน
จากสายตาของคนทั่วไปแน่นอนว่ามันสวยงามราวกับดอกไม้ แต่ในสายตาของเขา เขารู้สึกได้ว่ารูปลักษณ์ที่น่าเกลียดของมู่นวลนวลน่าดึงดูดใจกว่ามาก
เขาไม่มีความอดทนที่จะคุยกับเธอมากขึ้น เพียงแต่ถามอย่างว่างเปล่า“มู่นวลนวล ล่ะ?”
“เธอ…..เธอน่าจะทำความสะอาดห้องเธออยู่ค่ะ ให้ฉันลงมาเรียกคุณให้เข้าไปนั่งค่ะ” มู่หวันฉีไม่ต้องการปล่อยโอกาสนี้ไปให้กับคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนอื่น ในเมื่อชายคนนี้ก็ไม่มีอะไรแย่ และอีกอย่างหน้าตาของเขาก็ดีมากเช่นกัน
โม่ถิงเซียวที่เห็นผ่านความคิดของเธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มที่ มู่นวลนวลจะให้เขาเข้าไปนั่ง?
ป่านนี้คงหนีไปแล้วล่ะ
ชายหนุ่มไม่เสียเวลาแม้แต่จะคุยกับหญิงสาว เขาขับรถออกไปทันที
มู่หวันฉีไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชาจากผู้ชายมาก่อน ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมด้วยความโกรธผ่านในเสียววินาที
………
มู่นวลนวลได้กลับมาพักอยู่ในห้องเช่าเล็กๆห้องหนึ่ง
หลังจากไปมหาวิทยาลัย เธอมักจะพักอยู่ที่หอพักเสมอ หลังจากฝึกงานเสร็จ เธอก็เช่าห้องอยู่ข้างนอก
หากไม่ใช่เพราะเสี่ยวชูเหอต้องการที่จะให้เธอเข้ามาอยู่ในตระกูลโม่และให้เธออยู่ที่บ้าน ซึงเธอไม่ได้อยากที่จะก้าวเข้าไปแม้แต่นิดเดียว
ในเมื่อโม่ถิงเซียวไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านพักและไม่ต้องการพบเธอ ไม่ว่ายังไงก็คงไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
หลังจากทำความสะอาดเสร็จ ก็บ่ายโมงกว่าแล้ว เธอจึงเตรียมที่จะออกไปซื้อของกิน
เธออาศัยอยู่ในสลัมที่มีชื่อเสียงในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งการคมนาคมไม่สะดวก และคนดีเลวทุกประเภทอยู่ร่วมกัน
ทันทีที่เธอเลี้ยวเข้าไปในซอยเธอก็ได้ยินเสียงดัง “ปัง”
เหมื่อนจะเป็นเสียง….ปืน?
เมื่อเธอมองตรงไป เธอก็เห็นรถตู้สีขาวกำลังเผชิญหน้ากับเธอราวกับสุนัขป่าที่บ้าคลั่งวิ่งเข้าหาเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้
เธอพยายามหลบออกจากแสงไฟที่กำลังพุ่งเข้ามา ทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและชายร่างสูงก็กระโดดออกมา
เขากอดศีรษะเธอไว้และกลิ้งไปทางขวาของมู่นวลนวล
เธอกำลังจะถอยหนีเมื่อจู่ๆชายคนนั้นก็กระโดดขึ้นมาและมอบสัมผัสเย็น ๆ ที่ขมับของเธอ เสียงของชายคนนั้นค่อนข้างคุ้นเคย “พาฉันหนีไป รวดเร็ว ๆ ”
เมื่อมู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นเพื่อดูใบหน้าของชายคนนั้นเธอก็อุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว “โม่เจียเฉิน!”