ในร้านอาหาร
มู่หวันฉีวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ เชิดคางขึ้นอย่างหยิ่งผยองและมองไปที่มู่นวลนวล : “มีอะไรก็รีบพูด อีกสักพักฉันมีนัดกับชูฮัน”
เธอพูดไป กระดกมือขึ้นไป ชื่นชมเล็บใหม่ที่ตัวเองเพิ่งทำมา
ชำเลืองมองมู่นวลนวลที่อยู่ตรงข้ามอย่างไม่ตั้งใจ เธอแต่งหน้าเหมือนสิบปีหนึ่งวันจริงๆ เสื้อโค้ดแจ๊คแก็ตยาวสีเรียบ ผิวเหลือง แว่นตากรอบสีดำ น่าตาขี้เหร่
ผู้หญิงแบบนี้ ยังกล้าที่จะแย่งผู้ชายของเธอ
ก็มีแค่คนโง่บนอินเทอร์เน็ตที่เชื่อ
มู่นวลนวลลดสายตาลง ถือแก้วน้ำ มือถูที่ขอบแก้ว แต่เธอก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มแต่งตัวธรรมดานั่งลงที่โต๊ะอาหารด้านหลัง
เธอระงับอารมณ์และคำพูดรีบพิมพ์ข้อความส่งไป : “เริ่มได้เลย”
การกระทำนี้ เธอทำอย่างระมัดระวัง ดังนั้นมู่หวันฉียังไม่รู้ตัว
มู่นวลนวลเงยหน้ามองมู่หวันฉีอย่างระมัดระวัง พูดอย่างอ้ำๆอึ้งๆ : “ฉันขอโทษไปใน weibo แล้ว พี่อย่าทำให้แม่ฉันรู้สึกลำบากใจเลยนะ”
เธอท่าทางกลัวหัวหด เหมือนครั้งที่แล้ว
มู่หวันฉีตะคอกอย่างเย็นชา เธอรู้ว่ามู่นวลนวลโง่มาตั้งแต่เด็กจนโต จะมาฉลาดแล้วได้อย่างไร
“ไม่ทำให้เสี่ยวชูเหอลำบากใจก็ได้ ฉันมีหนึ่งเงื่อนไข” มู่หวั่นฉีกอดอกแล้วยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“เงื่อน……เงื่อนไขอะไร?” เสียงของหมู่นวลนวลทั้งดีใจและกังวล
“โง่ ไม่รู้จริงๆทำไมเธอถึงเป็นห่วงเสี่ยวชูเหอขนาดนี้ เขาไม่เคยมองว่าเธอเป็นลูกสาวเลย”
มือของมู่นวลนวลที่วางตรงขาของเธอค่อยๆกำแน่น สีหน้าขาวโพล พูดอย่างกลุ้มใจ : “ไม่ว่าเธอจะพูดยังไง เขาก็คือแม่ของฉัน แม้จะทำอีกครั้ง ฉันรู้ว่าที่เขามาขอร้องฉันให้ฉันแต่งงานกับโม่ถิงเซียวก็เพราะเธอ ฉันก็จะตอบตกลงเหมือนเดิม”
มู่หวันฉีรังเกียจท่าทางอ่อนแอไร้ความสามารถของมู่นวลนวล ตอนเด็กๆมู่นวลนวลเรียนเก่งกว่าเธอ สวยกว่าเธอ เธอจึงเกลียดน้องสาวคนนี้
ต่อมามู่นวลนวลก็โง่และขี้เหร่ขึ้นมาทันที เธอยิ่งเกลียดน้องสาวคนนี้มากขึ้น
มีน้องสาวอย่างมู่นวลนวล ทำให้เธอรู้สึกขายหน้า
แต่ว่า ดีที่มู่นวลนวลเชื่อฟังเหมือนหมา สามารถให้งานเธอใช้ได้
มู่หวันฉียิ้มมุมปาก พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ : “เธอมันต้อยต่ำเหมือนแม่ของเธอ”
ในแววตาของมู่นวลนวลมีความเยาะเย้ย เสี่ยวชูเหอแต่งเข้าตระกูลมู่มา20กว่าปี จริงใจกับมู่หวันฉีอย่างดี แต่สุดท้ายมู่หวันฉีไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจความเมตตาของเสี่ยวชูเหอ แต่กลับด่าเธอว่าต้อยต่ำ
“เธอจะพูดยังไงฉันโอเค แต่อย่าพูดถึงแม่ฉันแบบนี้ เขาจริงใจและดีกับเธอ” มู่นวลนวลแกล้งทำเป็นเสียใจ โน้มน้าวเธอเบาๆ
มู่หวันฉีได้ยินคำพูดของมู่นวลนวล เหลือบสายตามองเธอ พูดอย่างเสียงดัง : “หุบปาก! เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้เธอต้องทำแค่เรื่องเดียว คือหย่ากับโม่ถิงเซียว”
“หย่าเหรอ?” มู่นวลนวลตกใจตาค้าง
ความตกใจนี้ ครึ่งหนึ่งคือปลอม ครึ่งนึงคือจริง
ไม่ต้องให้มู่หวันฉีพูด มู่นวลนวลก็เดาได้ว่าถึงจุดประสงค์ของเธอ
ตระกูลโม่ไม่สนใจว่าสุดท้ายแล้วใครจะแต่งงานกับโม่ถิงเซียว แต่ไม่สามารถอดทนกับมู่นวลนวลที่กลับกรอกได้ โดยเธอยัง “ทั้งโง่ทั้งขี้เหร่”
เธอพูดเรื่องหย่ากับโม่ถิงเซียว ก็เหมือนเป็นการตบหน้าตระกูลโม่
คนในตระกูลโม่ไม่ปล่อยเธอไปแน่!
มู่หวันฉีนี่โหดเหี้ยมจริงๆ ดึงความสนใจของตระกูลโม่มาที่มู่นวลนวลให้คนในตระกูลโม่จัดการกับมู่นวลนวลเพื่อระบายความเกลียดชัง แบบนี้ความรู้สึกของเธอที่มีอยู่ในหัวใจขอตระกูลโม่จะลดลงอย่างมาก และเธอสามารถอยู่กับซินชูฮันฉันได้โดยไม่มีแรงกดดันใด ๆ
มู่หวันฉีจัดผมรอบๆ หูของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ บนคอสีขาวมีรอยแดงโผล่ออกมานิดหน่อย : “แค่ทำเรื่องนี้ให้ได้ ฉันก็จะไม่ทำให้เสี่ยวชูเหอลำบากใจ”
มู่นวลนวลไม่เคยประสบกับตัวเอง แต่ก็เคยรู้มาบ้าง
รอยแดงบนคอของมูหวันฉี เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยดูด
นี่คือการโม้กับเธอหรอ?
มู่นวลนวลยกแก้วดื่มน้ำ ในใจมีความอึดอัดนิดหน่อย
ที่เธอเสียใจไม่ใช่เพราะมู่หวั่นฉีอยู่ด้วยกันกับเซินชูฮัน แต่เธอเสียใจคือ ผู้ชายที่เธอแอบชอบมานานหลายปี ก็เป็นเช่นนี้
“แต่ว่า ตระกูลโม่ไม่ยอมให้ฉันหย่ากับโม่ถิงเซียว…..” ก็คือถ้าจะหย่า ต้องแค่โม่ถิงเซียวเป็นคนเอ่ย
“นั้นคือเรื่องของเธอ ฉันขอเตือน ทางที่ดีก็เชื่อฟังดีๆ ไม่เช่นนั้นฉันจะทำให้เธอและแม่ของเธอไม่มีวันกินดีอยู่ดี”
จริงๆแล้วมู่หวันฉีไม่สามารถอดทนที่จะพูดกับมู่นวลนวลต่อไปกว่านี้ได้ เธอหยิบกระจกออกมาเติมลิปสติก จากนั้นก็กดโทรศัพท์โทรออกและพูดอย่างเบาๆ : “ชูฮัน”
สีหน้าของมู่นวลนวลหยุดชะงัก
ปฏิกิริยาของเธอทำให้มู่หวันฉีพอใจ
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่คุมคามอะไรต่อมู่นวลนวล แต่เธอมองดูมู่นวลนวลน่าสงสารเหมือนหมาตกน้ำ ก็รู้สึกว่าประสบความสําเร็จ
มองผ่านกระจก มู่นวลนวลมองมู่หวันฉีขับรถออกไปแล้ว ถึงหันกลับไปมองโต๊ะข้างหลัง
ชายคนนั้นเขย่าโทรศัพท์อย่างใจเย็น มู่นวลนวลก้มหน้า พบว่าในโทรศัพท์มีข้อความแจ้งเตือน
“ผมจะกลับไปก๊อปปี้วิดีโอส่งให้คุณหนึ่งชุด”
มู่นวลนวลตอบกลับ : “ขอบคุณ”
วางโทรศัพท์ลง เธอทานอาหารบนโต๊ะที่เย็นหมดแล้วอย่างเอื่อยเฉื่อย
เธอไม่รู้จริงๆว่ามู่หวันฉีถึงเปลี่ยนได้เป็นแบบนี้ได้ ตอนเด็กๆ เธอชอบมู่หวันฉีมาก
มู่หวันฉีก็ไม่เลว ตอนเด็กๆเธอชอบพี่สาวที่แสนสวย ดังนั้นจึงชอบตามหลังมู่หวันฉี
แต่ว่า มู่หวันฉีคนนี้เหมือนไม่มีหัวใจ
เสี่ยวชูเหอจริงใจกับเธอมา 20กว่าปี มู่หวันฉียังกล้าว่าเธอต้อยต่ำ ยิ่งไปกว่านั้นมู่นวลนวลไม่เคยอยู่ในสายตาเธอเหรอ?
เธอคิดว่าอย่างน้อยมู่หวันฉีต้องมีความรู้สึกกับเสี่ยวชูเหอบ้าง แต่…..
ในใจของมู่นวลนวลมีความอึดอัด อาหารที่เย็นหมดแล้วก็ไม่อร่อย มู่นวลนวลก็ถือโอกาสลุกออกไป
โม่ถิงเซียวก็ออกมาจากห้องส่วนตัวอีกฝั่ง ก็สกัดปาปารัสซีที่หน้าประตู
ปาปารัสซีเห็นโม่ถิงเซียวสูงสง่าไม่ธรรมดา รู้สึกกังวลเล็กน้อย : “คุณทำอะไร?”
“เอามาให้ฉันดู” สายตาของโม่ถิงเซียวมองไปที่บนกระเป๋าของเขา น้ำเสียงใจเย็น
“ผมไม่เข้าใจคุณกำลังพูดอะไรอยู่” นี่คือข่าวที่เขาถ่ายมา จะเอาลงพรุ่งนี้ แน่นอนไม่สามารถให้คนอื่นดูได้
“ใช่หรอ? คุณเชื่อไหมว่าผมสามารถทำให้คุณไม่สามารถอยู่ในเซี่ยงไฮ้และวงการบันเทิงต่อไปได้” ท่าทางของโม่ถิงเซียวยังคงไม่เปลี่ยน น้ำเสียงปกติและไม่มีความรู้สึกใดๆ
ปาปารัสซีเพิ่งพบว่า ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่เพียงแต่หล่อเหลาและเย็นชา แต่เขายังสวมชุดสูทมีระดับอีกด้วย เมื่อมองแวบแรกก็รู้ว่าเขาร่ำรวยหรือสูงส่ง ยิ่งไปกว่านั้นออร่าที่ทรงพลังและความรู้สึกบีบคั้นที่หลั่งออกมาจากเขา ทำให้ผู้คนอยากยอมจำนนโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่สงสัยความจริงในสิ่งที่โม่ถิงเซียวพูด ก็เอาวิดีโอให้โม่ถิงเซียวดูอย่างซื่อๆ
ภาพและเสียงชัดเจนมาก คำพูดของผู้หญิงทั้งสองคน เขาได้ยินหมดทุกอย่าง