โม่จียเฉินได้ยิน ค่อยๆหันมองเธอ หน้าตายังคงเฉยๆ : “มารับเธอ”
โม่นวลนวลเม้มปาก น้ำเสียงชั่วร้าย : “นายอย่ามากวน”
“แล้วแต่เธอจะคิด” โม่เจียเฉินยิ้ม ดูแล้วไม่สนใจว่าเธอจะคิดอย่างไร
เขารับมารับมู่นวลนวลโดยเฉพาะจริงๆ
เขาแค่อยากมาเยี่ยมตระกูลมู่เท่านั้น เรื่องในอินเทอร์เน็ตค่อนข้างใหญ่ ถึงจะได้ไม่มีผลกระทบต่อเขา แต่ก็วุ่นวายมาก
มู่นวลนวลเป็นภรรยาที่ไม่วุ่นวาย แต่ตระกูลมู่ค่อนข้างวุ่นวาย เขาไม่แคร์ที่จะแก้ไขด้วยตัวเอง
มู่นวลนวลยังคิดจะพูดอะไร ก็เห็นเสี่ยวชูเหอกับมู่ลี่หยานลงมาจากข้างบนแล้ว ด้านหลังตามด้วยมู่หวันฉี
สองคนไม่รู้ว่าคุยอะไร ดูสายตามู่นวลนวลค่อยเป็นมิตร
“หวั่นฉี มาคุยเป็นเพื่อนคุณชายโม่หน่อย” มู่ลี่หยานพูดจบ ก็หันไปมองมู่นวลนวล : “นวลนวล พ่อมีเรื่องจะคุยกับเธอหน่อย มากับฉันแปปนึง”
มู่นวลนวลมองมู่หวั่นฉี ก็ลุกขึ้นตามออกไป
มู่หวั่นฉีไปนั่งข้างๆโม่เจียเฉิน จะไปนั่งตรงที่มู่นวลนวลนั่งก่อนหน้านี้ คาดไม่ถึง โม่เจียเฉินบอกว่า : “ห่างฉันไกลๆหน่อย”
มู่หวันฉีสีหน้าหยุดชะงัก เธอนึกถึงตอนที่เจอผู้ชายคนนี้ครั้งก่อน เธอเป็นคนริเริ่มชวนเขาเข้าไปนั่งในบ้าน โดยผู้ชายคนนี้ไม่ซาบซึ้งน้ำใจ
ผู้ชายคนนี้นิสัยแปลกจากคนทั่วไป!
ก็ไม่รู้ว่าคนบ้านนอกคอกนาอย่างมู่นวลนวลมีอะไรดี เขาถึงยอมมารับเธอ
……
มู่นวลนวลตามมู่ลี่หยานไปที่ห้องหนังสือ
มู่ลี่หยานถามเธออย่างจริงจัง : “เธอและโม่เจียเฉินเป็นอะไรกัน?”
“ไม่ได้เป็นอะไรกัน” มู่นวลนวลส่ายหัว หน้าตาไม่มีความผิด
“ครั้งที่แล้วที่เธอกลับบ้านมา เรื่องที่พวกเธอทำในรถ แม่ของเธอกับหวั่นฉีเห็นหมดแล้ว! “มู่ลี่หยานโกรธจนตบโต๊ะ
“ปัง” เสียงดัง มู่นวลนวลตกใจจนคอหด
“เธอแต่งงานกับโม่ถิงเซียว ก็ต้องเป็นลูกสะใภ้ของเธออย่างสบายใจ ไปสมคบอยู่ด้วยกันกับน้องชายแบบนี้มันคืออะไร?”
มู่นวลนวลยิ้มในใจ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นมู่ลี่หยานให้ความสนใจเธอขนาดนี้มาก่อน
ตอนเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่มีความผิด : “ฉันไม่มีอะไร”
มู่ลี่หยานมองไปที่มู่นวลนวล สายตามองที่ใบหน้าเธอ สายตาที่รังเกียจ
เขากับเสี่ยวชูเหอนับว่าเธอเป็นคนที่คนสวย จะให้มู่นวลนวลเป็นลูกสาวที่ขี้เหร่ได้ยัง?
ถ้าไม่ใช่เมื่อก่อนเคยตรวจ DNA เขาจึงสงสัยว่ามู่นวลนวลไม่ใช่ลูกของเขา
เธอโตมาแบบนี้ ไม่มีทุนสามารถสมคบกับผู้ชายได้
ความคิดนี้ในใจเขาไม่สามารถแสดงออกมาได้อย่างธรรมชาติ ถึงอย่างไรมู่นวลนวลก็ยังมีประโยชน์กับเขา
“ไม่มีอะไรก็โอเค มีเวลาก็พาพี่สาวเธอไปดูบ้านโม่ถิงเซียวบ้าง ให้เธอมีเพื่อนเยอะๆ” น้ำเสียงเปลี่ยน เขากล่าวอย่างไม่เป็นทางการ : “น้องชายโม่ถิงเซียวคนนี้ก็ไม่เลว”
คำพูดนี้มู่ลี่หยานเคยพูดก่อนหน้านี้แล้ว มู่นวลนวลถามอย่างโง่เขลา : “พี่เขามีเพื่อนเยอะแล้วไม่ใช่หรอ? เขายังมีซินชูฮันนะ”
“เธอจะเข้าใจอะไร!” มู่ลี่หยานมองเธออย่างเย็นชา : “ลงไป”
“อ่อ”
มู่นวลนวลคอหด ท่าทางเหมือนกลัว หันหลังลงไป
……
บนโต๊ะอาหาร มู่ลี่หยานถามโม่เจียเฉินอย่างอ้อมๆว่าทำตำแหน่งอะไรในบริษัท พ่อแม่เป็นใครในตระกูลโม่
“ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นคุณชายน้อยโม่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศหรอ?
โม่เจียเฉินเหลือบสายตามองที่มู่ลี่หยาน ตอบอย่างช้าๆ : “เพิ่งกลับมา มาเป็นที่ปรึกษาของบริษัทครับ”
แววตาของมู่ลี่หยานมีความว่างเปล่า และใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยน : “แล้วพ่อแม่เธอล่ะ? ยังไม่กลับมาหรอ?”
โม่เจียเฉินขี้เกียจจะสนใจเขา หยิบถ้วยให้มู่นวลนวล : “พี่สะใภ้ ช่วยเติมซุปให้ฉันหน่อย”
มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นก็เห็นถ้วยที่เขายื่นมา
มือของเขาสะอาดและเรียวยาว ที่ขอบชามสีขาวมองแล้วดูดี
มู่นวลนวลถึงกับผงะ เธอรู้สึกตัวอีกครั้ง “โม่เจียเฉิน” เป็นชายหนุ่มจากตระกูลที่ร่ำรวยที่หยิ่งผยองตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงๆ
เธอรับถ้วยมา ลุกขึ้นไปเติมซุปแล้ววางให้ตรงหน้าเขา
“ขอบคุณ” มุมริมฝีปากของเขายกขึ้นเหมือนไม่มีอะไร เหมือนกำลังยิ้มอยู่ แต่ไม่แสดงออกชัดเจน
มู่นวลนวลมองเขาอย่างงงงวย : “ไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มจากตระกูลร่ำรวย คุณชายตระกูลนี้จะทำตัวแบบนี้ได้เหรอ?
คำพูดของมู่ลี่หยานถูกโม่เจียเฉินเมิน สีหน้าของเขาไม่ดีเอามากๆ
เขามองอย่างคลุมเครือ “โม่เจียเฉิน” มีความสนิทสนมกับมู่นวลนวลแบบนี้ เขาก็อยากให้มู่นวลนวลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมู่หวันฉีกับโม่เจียเฉินอย่างถูกวิธี
สำหรับซินชูฮันเแฟนตอนนี้ของมู่หวันฉี ก็เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น
มู่ลี่หยานมีความในใจ อยากจะพูด
โม่เจียเฉินชำเลืองมองหมู่ลี่หยานอย่างไม่แสดงออก แย่งพูดกับนวลนวลตรงหน้าว่า : “ฉันอิ่มแล้ว ไปกันเถอะ”
เขาพูดจบ ก็ลุกขึ้นพร้อมพูดหนึ่งประโยค : “ขอบคุณที่ต้อนรับอย่างดีครับ”
ถึงแม้ปากจะเอ่ยคำขอบคุณ แต่การแสดงออกของเขาดูเหมือนออกคำสั่งแทน
อารมณ์แบบนี้ มีมาตั้งแต่เกิด
และท่าทางเขาเหมือนไม่มีใครอยู่ในสายตา เย่อหยิ่งมาก
แต่ว่า ก็น่าหลงใหล
มู่นวลนวลรู้สึกว่าตัวเองอาจจะถูกมู่หวันฉีตบ มิเช่นนัเธอจะรู้สึกว่า “โม่เจียเฉิน” คนนี้จะน่าหลงใหลได้ยังไง
“พ่อ นั้นฉัน…..ไปก่อนแล้วนะ” ถึงแม้ว่ามู่นวลนวลจะอยากไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่เล่นเกมก็ต้องทำให้สมบูรณ์
มู่ลี่หยานพูดสิ่งที่อยากพูดไม่ทัน มีความอึดอัดนิดหน่อย มู่นวลนวลก็ชนกับประตู
เขาจ้องมู่นวลนวล ตะโกนใส่เธอด้วยความโกรธ : “ยังไม่รีบไป!”
มู่นวลนวลก้มหน้าอดทน หยิบกระเป๋าเดินออกไป
มู่ลี่หยานทั้งสามคนก็เดินตามออกไปส่งพวกเธอ
ถึงจะไม่พูด อำนาจและอิทธิพลเป็นสิ่งที่ดี ถึงแม้ “โม่เจียเฉิน”เมื่อกี้ไม่ไว้หน้ามู่ลี่หยาน มู่ลี่หยานก็ยังต้องยิ้มเข้าไว้
พวกเขาสามคนยืนอยู่หน้าประตูบ้าน : “คุณชายโม่ ครั้งหน้ามาใหม่นะ”
โม่เจียเฉินยิ้มและมองไปที่พวกเขา ก็หันไปมองมู่นวลนวลที่ยืนอยู่หน้ารถ น้ำเสียงต่ำและเย็นชา : “ยังไม่ขึ้นมาอีก?”
มู่นวลนวลได้ยิน เปิดประตูรถจะเข้าไปนั่ง แต่พบว่าเปิดไม่ได้
เธอมองโม่เจียเฉินอย่างประหลาดใจ
โม่เจียเฉินขมวดคิ้ว ความไม่อดทนฉายในดวงตาสีดำสนิท : “ยัยโง่ เธอยังคิดจะให้ฉันเป็นคนขับรถ?”
เธอแค่ใสซื่อบริสุทธิ์ไม่อยากนั่งข้างๆเขาเท่านั้น!
เขามักจำพูดแบบนี้ เธอได้แค่เปิดประตูเข้าไปนั่งข้างคนขับ
รถขับออกไปอย่างช้าๆ ในรถเงียบสงบ
มู่นวลนวลสงสัยมาตลอดว่า “โม่เจียเฉิน” มาตระกูลมู่วันนี้อย่างน่าสงสัย
“โม่ถิงเซียวเป็นคนให้มารับฉันจริงๆหรอ?” คิดไปคิดมา เธอก็คิดไม่ออกว่าเขามีเป้าหมายอะไรที่มาบ้านหมู่
โม่เจียเฉินมองทางข้างหน้า น้ำเสียงเย็นชาพูดว่า : “ไม่อย่างงั้นล่ะ? เธอคิดว่าฉันอยากมาเอง?”
“อ้อ นั่นก็ดี”