มู่นวลนวลมองตาโต :“ซือ…..”
เธอยังไม่ทันได้พูดจบ ผู้ชายที่ใส่ผ้าแมสมองตาเหล่ขัดจังหวะเธอพูด “คำนี้ต้องเป็นฉันที่ควรถามเธอมากกว่าไม่ใช่หรอ?เธอทำอะไร?”
เสียงที่ไพเราะแอบแฝงความโหดอยู่เล็กน้อย ความเป็นห่วงที่แสดงออกมากำลังพอดี
มู่นวลนวลเกือบจะคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็น “ลูกพี่ลูกน้อง”เเท้ๆของเธอไปซะเเล้ว เธอจึงพูดไปว่า “ฉันกำลังคิดว่าจะกลับบ้าน”
“ฉันจะไปส่งเธอ” ชายที่สวมแมสพูดจบ ก็จับเเขนเธอเเล้วเดินออกไปข้างนอก
แต่เพื่อนร่วมงานผู้ชายที่มากับมู่นวลนวล เห็นได้ชัดว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เขาเดินไปข้างหน้าและขัดขวางมู่นวลนวลไว้: “พวกเรามาที่นี่เพื่อจะทำวิจัยการตลาด นี้เธอกำลังจะโดดงานงั้นเหรอ”
มู่นวลนวลมองเขาเเล้วยิ้ม “ ลูกพี่ลูกน้องฉันนานๆจะกลับประเทศ ขอฉันอยู่กับเขาหน่อยนะ ฝากลางานให้ฉันหน่อยนะ”
ชายคนนั้นยังอยากที่จะขัดขวางมู่นวลนวล เเต่ชายที่ส่วนแมสก็ค่อยๆหยิบโทรศัพท์ออกมา:“จะให้ฉันโทรเเจ้งตำรวจเหรอ?”
ชายคนดั่งกล่าวได้ยินเช่นนี้เเล้ว ก็รีบถอยห่างออกไปเลย
มู่นวลนวลเดินตามชายที่สวมแมสไปถึงในรถ เธอลังเลไปสักพัก ก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดถามไปว่า :”คุณคือซือเฉิงยวี่ใช่ไหมคะ?”
ซือเฉิงยวี่ถอดหน้ากากออก ยิ้มมองดูเธอ:“จำผมได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ”
มู่นวลนวลรีบส่ายหัว ด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย“ ไม่….ไม่ใช่ … ฉันก็แค่ … ”
มู่นวลนวลไม่กล้าบอกเขาว่า เธอเป็นแฟนคลับเขามา8ปี เธอเขินจนแก้มแดง
เธอดูละครทุกเรื่องที่เขาเล่นดังนั้นเธอจึงรู้จักดวงตาคู่นั้นเป็นอย่างดี
เมื่อซือเฉิงยวี่เห็นเธอหน้าแดง จึงได้แต่พยักหน้าเเละพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน: “ฉันเข้าใจ”
เขาหันกลับไปขับรถอย่างตั้งใจ เเละถามเธอว่า “เธอจะไปไหน”
“ข้างหน้าเนี่ยเเหละ ที่ที่มีคนเยอะๆ เดี่ยวฉันนั่งรถกลับเองได้” มู่นวลนวลไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เจอซือเฉิงยวี่ตัวเป็นๆ เธอมีความสุขมากที่ได้เจอเขา และที่เธอชอบเขาก็เพียงละครที่เขาเล่นเท่านั้น ครั้งนี้เขาได้ช่วยฉันไว้ เเละฉันก็ไม่ควรไปรบกวนเขาในนามของแฟนคลับ
เมื่อมาถึงสถานที่ที่มีผู้คนเยอะเเยะมู่นวลนวลก็ได้ถามก่อนลงจากรถ: “หลังจากที่กลับมาครั้งนี้ คุณจะรับละครเรื่องใหม่ไหม? ”
ซือเฉิงยวี่ตอบอย่างไม่ลังเล:”ถ้ามีบทที่ดี ผมก็จะรับละครไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเเก่จนไม่สามารถขยับตัวได้”
เเววตาของมู่นวลนวลเปล่งประกายขึ้นมาทันที แล้วพยักหน้าอย่างหนักเเน่น: “อึม! เเค่คุณเล่นละครได้ดีเเบบนี้ไปตลอด ฉันก็จะติดตามดูละครที่คุณเล่นไปตลอด”
ซือเฉิงยวี่หลุดหัวเราะออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะชอบละครของเขามาก และยังคงเป็นผู้ชมที่ตรงไปตรงมา
มู่นวลนวลก็ได้พูดอีกว่า:”เรื่องของวันนี้ขอบคุณนะคะ คุณมากๆเลย”
ซือเฉิงยวี่คิดย้อนกลับไปเรื่องเมื่อสักครู่นี้ เขาขมวดเเล้วพูดว่า:” เรื่องเเค่นี้เองครับ เเต่ว่าผู้หญิงเวลาไปไหนข้างนอกคนเดียวต้องระวังตัวด้วย”
“อื้ม ฉันรู้แล้ว” มู่นวลนวลพูดจบเเล้วยิ้มให้เขา จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไป
ซือเฉิงยวี่มองดูเงาข้างหลังของเธอ เเล้วเหม่อลอยสักพัก ก็ได้ถามเธอว่า :”เธอชื่ออะไร?”
มู่นวลนวลหันกลับไปด้วยความประหลาดใจ :”มู่นวลนวล”
“มู่นวลนวล……” ซือเฉิงยวี่พูดชื่อเธออย่างเบาๆ เเล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
ถ้าเขาจำไม่ผิด ภรรยาของโม่ถิงเซียวที่พึ่งเเต่งเข้ามา ก็คล้ายว่าจะชื่อนี้เหมือนกันนะ….
……
ณ คลับจินติง
ทันทีที่โม่ถิงเซียวเข้าไป ก็มองเห็นซือเย่เลย
ครั้งก่อนซือเย่ถูกเขาส่งตัวไปที่ต่างประเทศ เเล้วนี่พึ่งจะกลับมาถึง
ซือเย่เดินไปหาเขา พูดอย่างเคารพ:”นายน้อย”
โม่ถิงเซียวยกมือขึ้นและมองดูเวลาสักครู่: “พี่ใหญ่ถึงแล้วหรือยัง”
ซือเย่:”พึ่งถึงครับ”
โม่ถิงเซียวเดินตรงไปที่ห้อง
ซือเฉิงยวี่ได้ยินเสียงเปิดประตู เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ประตู เมื่อมองเห็นโม่ถิงเซียว เขาเผยรอยยิ้มที่อบอุ่นออกมา มันยิ่งทำให้เขาดูเหมือนสุภาพบุรุษมากขึ้น
เขาเรียก:”ถิงเซียว”
โม่ถิงเซียวได้เดินมาหาเขาแล้วนั่งลงตรงหน้าเขา แล้วยื่นเมนูให้:”พี่ใหญ่ยังไม่ได้สั่งอาหารเหรอ?”
ซือเฉิงยวี่เป็นลูกชายของน้าของโม่ถิงเซียว และก็เป็นซุปเปอร์สตาร์อันดับต้นๆของ Shengding Media อีกด้วย
“ไม่ต้องรีบ” ซือเฉิงยวี่ไม่ได้เปิดดูเมนู แต่ดูเหมือนจะถามด้วยความสมใจ:”นายกับภรรยาที่พึ่งเเต่งเข้ามาเป็นยังไงบ้าง”
เมื่อพูดถึงเรื่องของมู่นวลนวล โม่ถิงเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่อยากจะพูดเยอะ :ไม่ยังไง”
ซือเฉิงยวี่ยื่นมือออกไปจับแก้วน้ำตรงหน้าเขา และก็ถามไปอย่างั้น “ทำไม เซ้าซี้มากงั้นเหรอ?”
มู่นวลนวลเซ้าซี้ไม่เซ้าซี้เขาไม่รู้ เพราะเธอไม่เคยเซ้าซี้กับเขาเลย
ปกติแล้วซือเฉิงยวี่จะเป็นคนที่ค่อนข้างจะขี้เกียจ แต่วันนี้เขากลับมีคำถามมากมาย
โม่ถิงเซียวเอนหลังลงไปตรงที่นั่ง แล้วถามซือเฉิงยวี่อย่างสงสัย:”นี่พี่กลับมา เพียงเพราะสนใจชีวิตหลังแต่งงานของผมงั้นเหรอ?”
ซือเฉิงยวี่ก็รู้สึกได้ว่าเขาถามคำถามเยอะเกินไป เขายิ้ม แล้วก็เปลี่ยนเรื่องทันที: “แม่ฉันบอกว่า ถ้าฉันไม่หาแฟน เธอจะให้ฉันไปออกรายการหาคู่แทน”
โม่ถิงเซียวแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจและราวกับจะได้ดูละครที่น่าสนใจซะเเล้ว : “บริษัทไม่สามารถให้พี่ไปออกรายการหาคู่ได้ เเต่ในฐานะเจ้านายอย่างผมสามารถหาคู่ให้พี่ได้”
ซือเฉิงยวี่กระแอมเเล้วพูดว่า:”ถ้าฉันมีความรัก แฟนคลับของฉันก็จะลดน้อยลง”
โม่ถิงเซียวเงยหน้ามองเขาเเล้วพูดว่า:”นี่นายคิดว่าพี่เป็นไอดอลงั้นเหรอ?”
ซือเฉิงยวี่”………..” อายุ28ก็กลายเป็นนักแสดงดัง เป็นความผิดของเขางั้นหรอ?
……….
ตกกลางคืน โม่ถิงเซียวเลิกงานกลับบ้าน ก็ได้สังเกตเห็นมู่นวลนวลไม่เพียงแค่อยู่ที่บ้าน แถมยังทำทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
โดยปกติแล้ว เมื่อเขาเลิกงานกลับบ้าน มู่นวลนวลก็พึ่งจะกลับมาถึงเช่นเดียวกัน แต่ทำไหมวันนี้ถึงกลับมาไวขนาดนั้น?
ในตอนที่เขาเดินไปที่ประตูห้องครัว ก็ได้พบเห็นมู่นวลนวลกำลังยกน้ำซุปร้อนๆโดยใส่ถุงมือกันร้อนออกมาพอดี
มู่นวลนวลได้เห็นโม่ถิงเซียวแล้ว ขมวดคิ้ว:”โม่เจียเฉิน นายรีบหลบไปหน่อย”
โม่มู่ถิงเซียวไม่ได้หลบไปไหน แต่กลับเอาชุดสูทที่พาดไว้บนแขนเขามาใส่ไว้ในมือของมู่นวลนวล ยื่นมือไปยกซุปที่อยู่บนมือเธอ
มู่นวลนวลเห็นเขายกซุปร้อนๆด้วยมือเปล่า จึงอดเตือนไม่ได้:”เฮ้ นี่มันร้อนมากเลยนะ”
โม่ถิงเซียววางน้ำซุปไว้บนโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าที่เฉยชา
มู่นวลนวล:”…..”ตัวผู้ชายคนนี้ทำมาจากเหล็กแน่เลย
ในระหว่างที่ทั้งสองคนได้นั่งลงกินข้าว โม่ถิงเซียวก็ถามอย่างไม่ตั้งใจ:”ทำไมวันนี้กลับมาไวแบบนี้ละ?”
มู่นวลนวลที่กำลังตักน้ำซุปให้ตัวเองนั้นตอบกลับไปว่า:”ฉันจำเป็นต้องรายงานนายด้วยหรอ?”
โม่ถิงเซียวยิ้มอย่างโกรธเคือง:”ปากร้ายจริงๆ”
ในสถานะปัจจุบันของโม่ถิงเซียวในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้
“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ”มู่นวลนวลคิดไม่ผิด ตราบใดที่เธอไม่แสดงความอ่อนแอออกมา”โม่เจียเฉิน”ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้
โม่ถิงเซียวหรี่ตามองมู่นวลนวล
เขาหยิ่งผยองขึ้นมา แม้แต่สายตาที่มองคนอื่น ก็จะเต็มไปด้วยความรู้สึกที่แรงกล้ากว่าคนปกติ
มู่นวลนวลโดนสายตาที่เขามองจนรู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา และกำลังจะพูดกับเขา แต่ก็ได้ยินเสียงของโม่ถิงเซียวดังขึ้นมาทันที:”มู่นวลนวล ฉันก็คือโม่ถิงเซียว”
หมู่นวลนวล:”????”
ห้องอาหารเต็มไปด้วยความเงียบขรึม ทั้งสองคนนั่งห่างกันเพียงแค่โต๊ะอาหารโต๊ะเดียว สีหน้าของทั้งคู่ดูจริงจังมาก
มู่นวลนวลจับตะเกียบแน่นขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง:”นี่คือวิธีใหม่ที่นายเอามากลั่นแกล้งฉันงั้นหรอ?”