ระหว่างที่ซินชูฮันขับรถออกไป มู่นวลนวลเห็นพวกนักข่าวหายไปแล้ว จึงได้กล่าวว่า:”ช่วยจอดรถข้างทางหน่อยค่ะ ฉันจะลงไป เรื่องวันนี้ต้องขอบใจนายมากๆนะ”
ซินชูฮันเงียบขรึมเเล้วขับรถไปจอดข้างทาง มู่นวลนวลเอื้อมมือไปเปิดประตู เเต่ลองเเล้วสองครั้งประตูรถเปิดไม่ออก
เธอหันหน้าไปถามซินชูหัน:”ประตูรถล็อกค่ะ”
ซินชูฮันก็หันหน้ามามองเธอเช่นกัน สีหน้าแปลกประหลาด:”นวลนวล เธอเลือกฉันยังปลอดภัยกว่าที่ไปเลือก ลูกพี่ลูกน้องของโม่ถิงเซียวอีกนะ”
“?????”มันหมายถึงสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่ใช่ไหม!
เห็นว่ามู่นวลนวลไม่ได้จะขัดเขา น้ำเสียงของซินชูหันยิ่งดูมีความมั่นใจเข้าไปอีก:”เราทั้งสองต่างก็รักอีกฝ่าย อยู่ด้วยกันจะมีเเต่ความสุข ที่สำคัญฉันจะไม่ให้คนอื่นรับรู้เรื่องราวของเรา”
“ฉันกับนายคบกันเหรอ?”มู่นวลนวลชี้ที่ตัวเขาเเล้วชี้ตัวเอง
เซนชูฮันพยักหน้า เผยยิ้มที่คิดว่ามีเสน่ห์ออกมา เเล้วยื่นมือจะไปจับหน้าของมู่นวลนวล:”เธอเฝ้าดูคนไร้ประโยชน์อย่างโม่ถิงเซียวมันเหนื่อยเกินไป ฉันเข้าใจ เรื่องที่เธอกับลูกพี่ลูกน้องเขา ฉันไม่โทษเธอเช่นกัน”
เหนื่อยเกินไปเหรอ?
พูดได้อ้อมค้อมจริงๆ ที่เขาพูดมานั่นหมายความว่า ทนความเหงาไม่ไหวที่โม่ถิงเซียวไม่มีความสามารถทางด้านสืบพันธ์ เลยต้องไปหาลูกพี่ลูกน้องของโม่ถิงเซียวเซียว!
คนที่เลวทราม ก็มักจะมองคนอื่นเลวทรามเหมือนกัน!
มู่นวลนวลหันหน้าหนีจากมือของเขา ทำสีหน้าที่น่ารังเกียจ:”นายหมายความว่าให้ฉันกับนายเป็นชู้กันลับหลังโม่ถิงเซียวงั้นหรอ?”
พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งในอินเตอร์เน็ต ซินชูฮันก็เห็นเเล้ว เขารู้สึกว่ามู่นวลนวลทนต่อความเหงาไม่ได้จึงไปเป็นชู้กับลูกพี่ลูกน้องของโม่ถิงเซียว
มู่นวลนวลชอบเขาตั้งเเต่เเรกอยู่เเล้ว ถ้าเขาเป็นคนเริ่มเข้าหามู่นวลนวลก่อน มู่นวลนวลต้องทิ้งลูกพี่ลูกน้องของโม่ถิงเซียว เเล้วมาอยู่กับเขาอย่างไม่ลังเลเเน่นอน
ซินชูฮันไม่สนใจที่มู่นวลนวลหันหน้าหนี เเต่กลับยิ่งพูดยิ่งยิ่งได้ใจ:”โม่ถิงเซียวไม่เหมาะสมกับเธอเลย ความเป็นจริงเเล้วเราสองคนต่างคนต่างรักกัน”
“ใครมารักกับนาย คนที่รักกับนายจริงๆเเล้วคือมู่หวันฉีต่างหาก นายจะเปิดประตูรถไหม ไม่เปิดฉันจะโทรเรียกตำรวจเเล้วนะ?” หมู่นวลนวลพิงประตูรถอย่างใกล้ชิด มองไปหาซินชูหันอย่างหวาดระแวง
ทำไมเมื่อก่อนเธอไม่รู้ว่าซินชูหันจะเป็นคนที่ร้ายได้แบบสุดขีดเเบบนี้
มู่นวลนวลมีท่าทีที่หลีกเลี่ยงที่เขา มันทำให้เขาเริ่มกังวลเล็กน้อยจากนั้นเขาก็ได้ขยับเข้าไปใกล้มู่นวลนวล :”มู่หวันฉีจะไปสู้อะไรเธอได้หละ!”
มู่นวลนวลไม่ได้สนใจที่จะคุยเรื่องไร้สาระกับเขา ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาตำรวจทันที
ซินชูฮันยังคงรักหน้าตาตัวเองอยู่ จึงได้ถอยห่างออกไป เเล้วเปิดประตูรถให้เธอ
มู่นวลนวลเปิดประตูลงจากรถ หันไปมองเขา พูดด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหิน:”ซินชูฮัน เมื่อก่อนฉันเคยชอบนาย นายน่าจะไม่รู้ว่าเมื่อก่อนฉันชอบอะไรในตัวนาย ตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่มีทางชอบนายอีก ยิ่งไม่มีทางที่จะลับหลังโม่ถิงเซียวเพื่อเป็นชู้กับนาย”
ซินชูฮันยิ่งฟันยิ่งหน้าเสียเข้าไป หมู่นวลนวลหันหลังเดินไป โดยไม่ยอมที่จะเหลียวมองเขาเเม้เเต่น้อย
เดินไปได้ไม่ไกลนัก ก็มีรถยนต์คันหนึ่งมาจอดที่ข้างๆเธอ
เธอคิดว่าจะเป็นซินชูหันอีก จึงได้รีบเดินอย่างไว จนมีเสียงที่คุ้นเคยดังออกมาจากในรถ
“นายหญิง…….”
มู่นวลนวลหันหน้าไปด้วยสีหน้าที่ตะลึง:”ซือเย่เหรอ?พวกนายกลับเเล้วหรอ?”
ซือเย่เป็นผู้ช่วยที่พิเศษสำหรับโม่ถิงเซียว โดยปกติเเล้วไม่ว่าโม่ถิงเซียวจะไปไหนพวกเขาก็ต้องตามไปด้วยเช่นกัน
หลังจากที่โม่ถิงเซียวไปต่างประเทศ เธอก็ไม่เคยจะเห็นซือเย่ในคฤหาสน์อีกเลย ก็เคยเดาว่าซือเย่น่าจะไปต่างประเทศพร้อมกับโม่ถิงเซียวไปแล้ว
ซือเย่ลงจากรถ พูดอย่างเคารพ:”นายน้อยให้ผมมารับนายหญิงกลับบ้านครับ”
มู่นวลนวลรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้เจอกับโม่ถิงเซียว เเต่ในใจเธอรู้ว่าโม่ถิงเซียวต้องหันหลังให้เธอเห็นเเต่เงาข้างหลังของเขาเเน่ๆ
ถึงเเม้จะเป็นอย่างงั้น มู่นวลนวลก็ยังคงขึ้นรถด้วยท่าทีที่ดีใจ
หลังจากขึ้นรถเเล้ว ความรู้สึกที่ตื่นเต้นดีใจก็ผ่านไปสักพัก เธอสงบลง ก็เริ่มจะนั่งนิ่งต่อไปไม่ได้เเล้ว
ทำไมโม่ถิงเซียวถึงกลับมาในช่วงเวลานี้
เขาพึ่งกลับมาถึงหรือว่าถึงมาตั้งเเต่เช้าเเล้วนะ? เขาจะเห็นข่าวของเธอกับ”โม่เจียเฉิน”หรือป่าว?
ถ้าเกิด……ถ้าเกิดว่าเขาเห็นข่าวเเล้ว เขาจะ…..
ไม่ สมมุติฐานนี้มันจะเป็นไปไม่ได้ ถึงเเม้เขาจะไม่เห็น ก็ต้องมีคนไปบอกเขาเเน่นอน
เธอมั่นใจว่าคนที่ช่วยปิดข่าวต้องเป็นตระกูลโม่
คนตระกูลโม่รู้กันหมดเเล้ว โม่ถิงเซียวก็ต้องรู้เเล้วเช่นกัน
……..
ด้วยความรู้สึกวิตกกังวล รถยนต์ก็ได้ไปจอดที่หน้าประตูคฤหาสน์
“นายหญิง กรุณาลงจากรถครับ”ซือเย่เปิดประตูรถพร้อมกับคำพูดที่เคารพ
มู่นวลนวลลงจากรถ ก็ได้หันไปมองที่ห้องหนังสือ ถามซือเย่ว่า:”โม่ถิงเซียวอยู่ในห้องหนังสือใช่ไหม?
ซือเย่:”ไม่ใช่ครับ คุณชายกำลังพักผ่อนอยู่ครับ”
มู่นวลนวลพยักหน้า เดินเข้าประตูก็เห็น”โม่เจียเฉิน”ที่นั่งจิบกาแฟอย่างชิลๆในห้องโถง
เธอยังคงรู้สึกโกรธ เเต่เพราะซือเย่ยังอยู่ตรงนี้ เธอไม่สามารถอาละวาดได้ จึงได้มองด้วยสาตาที่อาฆาต เดินขึ้นห้องไป
หมู่นวลนวลขึ้นไปห้องนอนเเล้ว ซือเย่ก็ได้ไปหาโม่ถิงเซียว พูดอย่างเคารพ:”คุณชาย ซินชูฮันได้ไปหาคุณหญิงมาเเล้วครับ”
โม่ถิงเซียวตอบด้วยน้ำเสียงที่เฉยชา:”โอ้ว?หาเธอทำอะไร?”
ซือเย่จับนน้ำเเสียงที่ผิดปกติของเขาได้
ซือเย่คิดถึงตอนนั้น เขาเห็นซินชูฮันกับมู่นวลนวลอยู่บนรถด้วยกันอย่าใกล้ชิด ท่าทางก็ดูสนิทสนมมาก เขาไม่กล้าพูดสิ่งที่เห็นอย่างเเน่นอน
ดังนั้น เขาเลือกที่พูดในส่วนที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด “ทั้งสองอยู่ในรถสักครู่หนึ่งครับ เเล้วนายหญิงก็ลงจากรถไป”
“สักครู่นี่คือนานเท่าไหร่?”โม่ถิงเซียววางกาเเฟที่ถืออยู่ในมือลงบนโต๊ะกาเเฟ เอนหลังลง พับขาที่ยาวของเขา ทำให้รู้สึกได้ว่าเขามีความขี้เกียจที่ปนกับความแพงหรูหรานั้น
ซือเย่คิดในใจตายละ:”เเค่สักครู่หนึ่ง น่าจะประมาณสิบนาที….”
“ห่ะ?เเค่สิบนาทีเหรอ? นายไปรับคนคนหนึ่งตั้งหนึ่งชั่วโมงถึงจะกลับ” ทันใดนั้นสายตาของโม่ถิงเซียวเต็มไปด้วยเเรงอาฆาต
ซือเย่ไม่กล้าตอบโต้
โม่ถิงเซียวหรี่ตาลงไม่ได้ถามอะไรอีก ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ได้อยากจะรู้คำตอบที่พอใจจากซือเย่
…
ตอนที่มู่นวลนวลลงจากชั้นบน ก็ไม่เห็น”โม่เจียเฉิน”ในห้องโถงเเล้ว
วิ่งไปถามบอดี้การ์ดที่เฝ้าประตู:”รองนายน้องของพวกนายหายไปไหนเเล้ว?”
บอดี้การ์ดตอบอย่าหน้านิ่ง:”เขาออกไปแล้ว”
“อ่อ”มู่นวลนวลพยักหน้า เดินไปทำกับข้าวที่ห้องครัว
“โม่เจียเฉิน”ไม่อยู่ เธอรู้สึกบรรยากาศในบ้านดีขึ้นเยอะเลย
โม่ถิงเซี่ยวพึ่งจะกลับมา ระหว่างเหนื่อยล้าเเน่นอน เธอตัดสินใจที่จะทำอาหารที่มีรสจืดให้เขา
เธอยังไม่ทันได้ทำกับข้าวเสร็จ ซือเย่ก็เดินเข้ามาพูดว่า:”นายหญิง ผมจะออกไปทำธุระ วานคุณช่วยเอาอาหารขึ้นไปให้คุณชายด้วยนะครับ”
มู่นวลนวลรู้สึกประหลาดใจ ดึกขนาดนี้เเล้ว พวกเขาจะมีธุระอะไรให้ทำเยอะแยะ?
“ได้ ฉันทำเสร็จก็จะเอาขึ้นไปให้เขา”มู่นวลนวลยินดีที่จะทำอะไรให้โม่ถิงเซียว
ไม่นาน เธอก็ทำกับข้าวเสร็จเเละก็ยกขึ้นไปชั้นบน ตรงไปที่ห้องหนังสือของโม่ถิงเซียว
เธอยืนเคาะประตู เเต่ไม่มีเสียงตอบรับจากข้างใน เธอเลยเปิดประตูเข้าไป
เธอคิดว่าวางของเสร็จก็จะออกไป เเต่คาดไม่ถึงว่าจะพบเจอกับ”โม่เจียเฉิน”