ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 82 กลับไปพร้อมกัน

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลเคยเห็นเซินเหลียงจัดการกับกูจือหยานมาแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกแปลกใจ

เธอมองไปที่ฟู่ถิงซีที่ยืนอยู่ข้างๆโม่ถิงเซียว พร้อมกับทักเขาด้วยรอยยิ้ม “ คุณฟู่ “

ฟู่ถิงซีพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบรับเธอ

โม่ถิงเซียวสังเกตคำพูดในประโยคที่มู่นวลนวลพูดกับเขาว่า “ ทำไมคุณก็มาที่นี่ด้วย “ เขารู้สึกว่าความหมายของประโยคนี้เหมือนกับว่าเธอพึ่งได้เจอกับใครมาก่อนหน้า

มู่นวลนวลก็ไม่ค่อยจะมีเพื่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเพื่อนที่สามารถเข้ามาในจินติงได้อีก

โม่ถิงเซียวจองไปที่มู่นวลนวลพร้อมกับเดินไปอยู่ตรงหน้าเธอแล้วพูดว่า “ ทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะว่า เธอกับเพื่อนจะมากินข้าวที่จินติง? “

มู่นวลนวลรู้สึกประหลาดใจ จึงตอบกลับไปว่า “ เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับคุณ? “

ถึงแม้ว่ากูจือหยานจะถูกเซินเหลียงถีบแต่เขาก็ไม่รู้สึกโกรธ เขายิ้มและพูดไปว่า “ พวกคุณกินอะไรกันแล้วหรือยัง? ดูแล้วคงจะยังกินไม่ค่อยอิ่ม ถ้างั้นไปกินอะไรกับพวกเราอีกหน่อยไหม คนเยอะๆสนุกดีออก……”

“ ไม่ดีกว่า พวกเรากินอิ่มแล้ว “ มู่นวลนวลปฏิเสธอย่างเรียบง่าย

น้อยครั้งที่โม่ถิงเซียวหงุดหงิดใส่เธอ “ ไปด้วยกันนั้นแหละ เสร็จแล้วก็จะได้กลับไปพร้อมกัน “

มู่นวลนวลเป็นคนใจอ่อน และน้องครั้งที่เธอจะได้เห็นเขาหงุดหงิด เธอจึงรู้สึกลังเล

ในขณะที่เธอกำลังลังเลอยู่นั้น โม่ถิงเซียวก็ดึงมือลากเธอไปที่ห้องอาหารวีไอพี

มู่นวลนวลก็เลยยอมตกลง เพราะอย่างไรตอนจะกลับบ้าน เธอก็สามารถติดรถเขาไปด้วยได้ แต่ว่าต้องมาถูกเขาดึงลากเดินไปแบบนี้ช่างดูน่าอายจริงๆ

“ คุณปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้ “

โม่ถิงเซียวหันกลับไปมองเธอแต่ก็ไม่พูดอะไร แล้วก็ปล่อยมือเธอ

หมู่นวลนวลหันไปมองที่เซินเหลียง และเซินเหลียงก็เดินตามมา

แต่ว่าสายตาของเซินเหลียงที่มองมานั้น เหมือนกับว่ากำลังรอดูเรื่องสนุกๆอยู่ จึงทำให้มู่นวลนวลรู้สึกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่

หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที มู่นวลนวลก็รู้สึกว่าโทรศัพท์มือถือของเธอสั่น

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพบว่าเซินเหลียงได้ส่งข้อความมาให้เธอ

“ น้องชายคนนี้ช่างเอาแต่ใจจริงๆ ฉันว่าเขาหล่อมากเลยนะ! “

“ฉันว่าเธอน่าจะเก็บเขาไว้พิจารณา รูปร่างหน้าตาก็ดี! “

มู่นวลนวล : “……” ช่างลำบากซะจริงนะ ขนาดว่าเซินเหลียงอยู่ข้างนอก ยังจะเห็นอีกว่าโม่ถิงเซียวมีรูปร่างดี

เธอส่งรูปสติ๊กเกอร์สีหน้า [ รักษาภาพพจน์ ] ไปให้เซินเหลียง

เซินเหลียงก็ไม่ยอมแพ้ และก็ส่งรูปสติ๊กเกอร์ [ หาเรื่อง ] กลับไป

หมู่นวลนวลยิ้มให้เธออย่างมีเลศนัยพร้อมกับตอบข้อความกลับไปว่า “กูจือหยานก็ไม่เลวนะ รูปร่างหน้าตาก็ดีแถมมีเงินอีก รับไปพิจารณาหน่อยไหม?”

เซินเหลียงไม่ตอบข้อความของเธอ แต่กลับจ้องไปที่เธอ

ในที่สุดก็มาถึงห้องอาหารวีไอพี

ตอนแรกพวกโม่ถิงเซียวทั้งสามคนต้องมาร่วมงานเลี้ยง แต่ว่ามู่นวลนวลและเซินเหลียงอยู่ที่ด้วย พวกเขาจึงไม่ได้เขาไปร่วมงาน แต่กลับมาเปิดห้องอาหารส่วนตัว สั่งอาหารแบบง่ายๆมารับประทานแล้วก็กลับ

มู่นวลนวลและเซินเหลียงที่กินมาก่อนแล้ว ได้แต่สั่งผลไม้รวมเพื่อช่วยทำให้ย่อย

……

อีกด้านหนึ่ง ซือเฉิงยวี่ก็พึ่งจะกินอาหารเสร็จ ในตอนนั้นผู้ช่วยของเขาก็เดินเข้ามา แล้วโน้มตัวมากระซิบข้างหูว่า “เมื่อสักครู่ผมเห็นคุณชายโม่มาที่นี้ “

คนที่ผู้ช่วยของเขาพูดว่าคุณชายโม่ ก็คือโม่ถิงเซียว

ซือเฉิงยวี่ลุกขึ้นและเดินออกไป “ งั้นฉันต้องไปทักทายซะหน่อย “

เมื่อเขามาถึงที่ประตูห้องอาหารวีไอพี เขาผลักประตูเข้าไปก็เห็นโม่ถิงเซียวพอดี

เขากำลังจะพูดออกมา แต่ทันใดนั้นก็หันไปเห็นมู่นวลนวลเข้า

โม่ถิงเซียวไม่คิดว่าซือเฉิงยวี่จะมาอยู่ที่นี่ เขาเหลือบตามองไปที่หมู่นวลนวลโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น แต่เธอกลับก้มลงดูโทรศัพท์อยู่กับเซินเหลียง

หลังจากนั้น เขาก็หันกลับไปมองที่ซือเฉิงยวี่และพูดว่า “ คุณซือ ราชาแห่งการแสดงก็มาที่นี่ด้วย? “

ทันทีที่เขาพูดออกไป ในหัวของเขาก็ได้ยินเสียงของมู่นวลนวลที่เคยพูดกับเขาว่า “ ทำไมคุณก็มาที่นี่ด้วย “ และสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป

เมื่อมู่นวลนวลได้ยินคำพูดของเขาก็เงยหน้าขึ้นทันที เธอเห็นซือเฉิงยวี่ยืนอยู่ที่ประตู

ในตอนนั้นซือเฉิงยวี่ก็มีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที เขายิ้มแล้วพูดไปว่า “ ผมได้ยินมาว่าท่านประธานกูอยู่ที่นี่ ก็เลยเขามาทักทาย “

ซือเฉิงยวี่เป็นนักแสดงที่เซ็นสัญญากับทางค่ายShengding และนี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไร ดังนั้นคำพูดของเขาจึงถือได้ว่าสมเหตุสมผล

ตอนนี้บรรยากาศในห้องอาหารวีไอพี ตกอยู่ในสภาพที่ดูอึดอัด เขาจึงพูดต่อไปว่า “ อ่า….ใช่ คุณก็มาที่นี่ด้วย…… “

“ อืม เพื่อนผมยังรอผมอยู่ นั้นผมขอตัวก่อน “ ก่อนที่ซือเฉิงยวี่จะจากไป เขาก็แอบมองไปที่โม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวล

มู่นวลนวลรู้สึกว่าซือเฉิงยวี่มองไปที่โม่เจียเฉิน

แต่โม่ถิงเซียวกลับรู้สึกว่าซือเฉิงยวี่มองไปที่หมู่นวลนวล

ทั้งสองคนมีสีหน้าแปลกๆ แล้วเขาก็หันหน้ามามองกัน หลังจากนั้นพวกเขาก็ขมวดคิ้วและหลบสายตาออกจากกัน

“ เมื่อตะกี้ชายคนนั้นคือซือเฉิงยวี่! “ เซินเหลียงที่ความรู้สึกช้าตีหมู่นวลนวลไปอย่างแรงพร้อมกับพูดว่า “นวลนวล เมื่อกี้ชายคนนั้นคือซือเฉิงยวี่! ทำไมเธอถึงไม่เข้าไปขอเขาถ่ายรูปด้วยล่ะ! “

กูจื่อหยานยิ้มแล้วพูดต่อบทสนทนานั้นไปทันทีว่า “ มู่นวลนวล ถ้าเธอต้องการจะถ่ายรูปคู่กับซือเฉิงยวี่แล้วล่ะก็ สามารถไปหาผมที่บริษัทได้นะ “

คำโบราณที่ว่า ถ้าต้องการจะมัดใจสาวแล้วล่ะก็ ต้องเริ่มจากการเข้าไปตีสนิทกับเพื่อนของเธอก่อน และหมู่นวลนวลก็เป็นเพื่อนของเซินเหลียง

เมื่อโม่ถิงเซียวได้ยินประโยคนั้น ก็กวาดสายตาไปมองที่กูจื่อหยานอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ ข้าวที่กินไปก็ยังไม่สามารถอุดปากแกได้? “

กูจื่อหยานรู้สึกงง ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?

ทำไมโม่ถิงเซียวถึงได้โกรธขนาดนี้? เมื่อกี้หมู่นวลนวลใช้เงินของเขาไป เขาก็ยังดีใจอยู่เลย!

นี้เขาไม่ใช่กำลังเอาใจหมู่นวลนวลอยู่รึ! โม่ถิงเซียวก็ควรจะรู้สึกปลื้มใจมิใช่หรือ?

ในตอนแรกบรรยากาศที่ดูเป็นกันเอง แต่เมื่อซือเฉิงยวี่มาปรากฏตัวขึ้นแล้วนั้น บรรยากาศก็เริ่มดูแปลกไป

จนกระทั่งจะออกจากจินติง แต่มู่นวลนวลก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่

ระหว่างที่กำลังเดินทางกลับบ้านหมู่นวลนวลก็ถามโม่เจียเฉินว่า “ คุณก็รู้จักซือเฉิงยวี่ด้วยหรือ? “

ไม่เช่นนั้นตอนที่ซือเฉิงยวี่จะจากไป สายตาที่มองเขานั้นมันหมายความว่าอย่างไร? “

โม่ถิงเซียวรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยและพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ มันเกี่ยวอะไรกับเธอ “

หงุดหงิดอะไรมา? เธอถามเขาดีๆ ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ทำไมต้องมาหาเรื่องเธอด้วย?

การอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน เธอจึงอยากเป็นมิตรที่ดีกับเขา!

แต่ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนั้น มู่นวลนวลก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาสักคำจนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน

ทันทีที่เธอเดินเข้าประตูไป เธอก็หันไปถามบอร์ดี้การ์ดว่า “ คุณชายของพวกคุณ อยู่บ้านหรือเปล่า?

บอร์ดีการ์ดที่ได้เตรียมคำพูดไว้แล้ว ก็ตอบไปว่า “ คุณชายหลับไปแล้วครับ “

“ อ๋อ “ มู่นวลนวลพยักหน้าแล้วก็ขึ้นไปชั้นบน

หลังจากที่เธอคิดอยู่สักพัก เธอก็ตัดสินใจส่งข้อความไปหาโม่ถิงเซียวว่า “ คืนนี้ฉันไปทานอาหารเย็นกับเซินเหลียงมา เพิ่งจะกลับมาถึง ราตรีสวัสดิ์ “

โม่ถิงเซียวกลับห้องด้วยสีหน้าเย็นชา และเขาก็ได้รับข้อความจากมู่นวลนวล

ยังดีที่รู้จักว่า จะต้องมารายงานตัว? เธอช่างเริ่มเอาใจคนเก่งมากขึ้นเรื่อยๆแล้วซินะ

เมื่อใจในของเขาคิดเช่นนั้น สีหน้าที่ตึงเครียดตลอดทั้งคืนของเขาก็ค่อยๆผ่อนคลายลง

นิ้วที่ยาวของเขาเลื่อนปัดไปบนหน้าจอ เขาส่งข้อความกลับไปให้มู่นวลนวลเพียงคำเดียวว่า “ อืม “

ทันทีที่ข้อความถูกส่งออกไป ซือเฉิงยวี่ก็โทรเข้ามา

โม่ถิงเซียวจ้องไปที่โทรศัพท์เป็นเวลาสองวินาทีก่อนที่เขาจะรับสาย

ซือเฉิงยวี่พูดออกมาด้วยเสียงปกติของเขาไปว่า “ ถิงเซียว? “

ในความทรงจำ ซือเฉิงยวี่นั้นเป็นพี่ชายที่แสนดีมาตลอด

แต่โม่ถิงเซียวที่ไม่รู้สึกเกรงใจ พูดกับเขาว่า “ พี่ใหญ่เคยเจอมู่นวลนวลด้วยหรอ ”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท