มู่นวลนวลอ่านความคิดเห็นนั้นอีกครั้ง
ต้องขอบใจคุณงามความดีสำหรับการเปิดศึกกับมู่หวันฉีในหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ยิ่งดูเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าคอมเมนต์นั้นดูจงใจเหมือนมีคนตั้งใจพิมพ์ คอมเมนต์ด้านล่างก็ได้กล่าวถึงแอคหลุมบางส่วนอีกด้วย
มู่นวลนวลนึกถึงเซินเหลียง
เธอแคปภาพหน้าจอนี้และส่งคอมเมนต์นั้นไปหาเซินเหลียงและถามเธอ “คอมเมนต์นี้ใช่เธอพิมพ์ไปใช่หรือเปล่า? แล้วก็ยังมีแอคหลุมอีก?”
เซินเหลียงตอบกลับภายในเวลาอันรวดเร็ว “เฮ้ย! เธอดูออกได้อย่างไร? หรืออันที่จริงเธอคิดตั้งโปรแกรมอะไรแปลกๆไว้ในโทรศัพท์ฉันหรือเปล่า?”
มู่นวลนวลยิ้มและตอบกลับด้วยประโยคที่รวบรัด “รู้สึกว่าใช่นะ”
เซินเหลียง “เซ้นส์สัมผัสเธอนี่รุนแรงจริง! แต่ว่าคนที่จะเปิดเผยเรื่องของมู่กรุ๊ปทำไมเธอไม่เอาฉันไปเข้าร่วมด้วย! ฉันช่วยเธอหาแอคหลุมปั่นกระแสได้นะ!”
นิสัยของเซินเหลียงยังคงรักในการสร้างความเดือดร้อนอยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยนไป
“เธอไม่ต้องจัดการหรอก ฉันสามารถจัดการได้ เธอเป็นบุคคลสาธารณะ ระวังโดนคนอื่นจับได้” มู่นวลนวลนั้นเป็นห่วงเซินเหลียงมาก หากว่ามีคนต้องการที่จะทำให้ดับลง ก็แค่หยิบเรื่องราวเหล่านี้ออกมาเปิดเผยข้อมูล
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีทางโดนจับได้หรอก เรื่องการเก็บความลับฉันทำได้อย่างดีเยี่ยม พอๆไม่พูดแล้ว ฉันต้องไปเปลี่ยนชุดแล้ว ฉันจะต้องไปเวยป๋อเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองนิดหน่อยในช่วงเย็น”
เฉลิมฉลอง……นิดหน่อย?
มู่นวลนวลยิ้มอย่างอดไม่ได้และเธอก็กดออกจากหน้าแชท
เพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านข้างมู่นวลนวลพูดกับเธอว่า “นวลนวล แผนกเรียกประชุม ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่อยู่อีก?”
“กำลังจะไปแล้ว”
มู่นวลนวลเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อแล้วเดินตามฝูงชนไปที่ประชุมอย่างช้าๆ
คนที่เรียกประชุมไม่ใช่มู่หวันฉีแต่เป็นรองผู้จัดการ
รองผู้จัดการมีสีหน้าจริงจัง “ทุกคนติดต่อลูกค้าที่ร่วมมือกับโครงการ อันดับแรกขอให้พวกคุณปลอบพวกเขา ให้พวกเขาวางใจ สำหรับลูกค้าที่ต้องการยกเลิกการให้ความร่วมมือ ขอให้ทุกคนช่วยกัน………..”
มู่นวลนวลขยี้ผมอย่างเบื่อหน่ายและนั่งฟังอย่างไม่ใส่ใจ
เบื้องหลังของโรงงานมู่กรุ๊ปถูกเปิดเผย ภาพลักษณ์ของบริษัทที่มีต่อสาธารณชนจะลดลงอย่างรวดเร็ว เหมือนกับในปีนั้นที่บริษัทนมผงยี่ห้อหนึ่งถูกเปิดเผยว่าผสมกับสารปรุงแต่งที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของทารก บริษัทนั้นล้มละลาย ตกจากฟ้าลงสู่เหวในทันที
มู่กรุ๊ปเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่หมวดอาหาร ตราบเท่าที่ความสามารถในการประชาสัมพันธ์ของพวกเขายังคงอยู่ พวกเขาจะไม่ล้มละลาย แต่เพียงพวกเขาจะได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง
ในยุคที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ คนบางกลุ่มเพื่อที่จะมีชื่อเสียง พวกเขาจะทำทุกวิถีทาง จิตใจของพวกเขาจะร้อนรนและนี่คือเรื่องจริงและมีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้เคยทำมันลงไป
มู่นวลนวลเป็นคนที่โหดเหี้ยมในเกมนี้ แต่ถ้าหากว่าโรงงานของมู่กรุ๊ปไม่มีปัญหาอย่างที่ว่าจริงๆ แล้วปาปารัสซี่จะถ่ายมาได้อย่างไร?
หลังจากการประชุมฉุกเฉินเสร็จสิ้นแล้วก็ได้เวลาเลิกงาน แต่ผู้คนส่วนมากก็ต้องอยู่ทำงานล่วงเวลากัน
มู่นวลนวลไม่ได้วางแผนที่จะทำงานล่วงเวลา เธอหยิบกระเป๋าและลุกขึ้นและเดินไปยังลิฟต์อย่างรวดเร็วจากนั้นเธอก็เดินกลับไปยังห้องทำงานของมู่ลี่หยาน
บังเอิญว่าประตูห้องทำงานนั้นกำลังเปิดแง้มเอาไว้
เสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธของมู่หวันฉีดังออกมา
“ในทุกๆปีพวกเราให้ผลประโยชน์แก่พวกเขาไปมากมายเท่าไหร่ พวกเขาทำเรื่องแบบนี้? พ่อ ทำอย่างไรดี? มู่กรุ๊ปจะล้มละลายหรือไม่?”
เมื่อได้ยินคำว่า “ล้มละลาย” มู่ลี่หยานก็กล่าวเสียงดังเพื่อหยุดเธอ “หุบปาก! ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกแกไว้แล้วว่าให้ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อย ออกไปโลดแล่นด้านนอกก็ต้องรักษาภาพพจน์ ตอนนี้มีผู้คนต่างจับจ้องมู่กรุ๊ปอยู่ อีกอย่างเรื่องของแกก็ทำให้เป็นข่าวใหญ่อีก นี่แสดงว่ามีคนจงใจทำลายชื่อเสียงของมู่กรุ๊ป!”
“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าจะถูกถ่ายภาพและวิดิโอ ในตอนนั้นฉันก็คิดแค่เล่นสนุกๆอีกอย่างในตอนนั้นคุณไม่ได้สนใจฉัน ไม่ใช่ว่าคุณเองก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นที่นอกบ้านหรือไง ครั้งล่าสุดฉันอยู่ด้านนอก ฉันเห็นคุณเข้าไปในโรงแรมกับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าฉัน….”
อาจเป็นเพราะมู่หวันฉีค่อนข้างกังวลจนเกินเหตุและจิตใจของเธอก็เริ่มสับสนวุ่นวายที่ถูกมู่หลี่หยานดุ เธอจึงเริ่มพูดจาออกมาโดยไม่คิด
เสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้น เสียงพูดของมู่หวันฉีจึงหยุดลง
มู่นวลนวลผลักประตูเข้าไปเล็กน้อย เธอเห็นมู่หวันฉียกมือขึ้นปิดใบหน้าของเธอจากนั้นเสียงแหลมๆของเธอก็ดังขึ้น “คุณตบฉันเหรอ?”
มู่ลี่หยานดูเหมือนจะเสียใจเล็กน้อย น้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนขึ้นในทันที “หวันฉี…”
มู่หวันฉีก้าวถอยหลังออกมา “คุณอย่ามาเรียกฉัน!”
เธอกล่าวจบ เธอก็หันหลังและวิ่งออกมาด้านนอก
เมื่อมู่นวลนวลเห็นดังนั้น เธอจึงหมุนตัวและรีบออกมา
เมื่อใกล้จะถึงประตูแล้ว เธอนึกได้ว่าครั้งล่าสุดที่มีนักข่าวเข้ามารุมล้อมตรงหน้าประตูมู่กรุ๊ป เธอจึงหยิบแมสก์ออกมาจากกระเป๋า
ในฤดูหนาวเธอมีนิสัยชอบเก็บแมสก์ไว้ในกระเป๋า คาดไม่ถึงเลยว่าในเวลานี้มันจะเป็นประโยชน์ต่อเธอ
ทันทีที่มู่นวลนวลออกมา เธอก็ถูกนักข่าวรุมล้อมเอาไว้
“รบกวนสอบถามหน่อย คุณเป็นพนักงานของมู่กรุ๊ปหรือเปล่า? คุณมีตำแหน่งอะไรในมู่กรุ๊ป? เรื่องเบื้องหลังของโรงงานมู่กรุ๊ป พวกคุณที่เป็นพนักงานรู้เรื่องด้วยหรือไม่?”
“ขอโทษด้วย ฉันไม่มีความคิดเห็นใดๆ” หลังจากที่มู่นวนนวลพูดจบ เธอก็หันหน้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอก็เห็นมู่หวันฉีกำลังเดินออกมาจากด้านใน
มู่นวลนวลหันกลับมาอย่างจงใจและกล่าวออกมา “ปัญหาของพวกคุณ ผู้จัดการแผนกของเราอาจช่วยคุณได้”
นักข่าวต่างมองตามสายตาของมู่นวลนวลจากนั้นพวกเขาก็เห็นมู่หวันฉี
แม้ว่ามู่นวลนวลจะผอมเพรียวและสายตาที่แสดงออกมาของเธอนั้นงดงาม แต่สไตล์การแต่งตัวของเธอนั้นธรรมดามาก ไม่เหมือนกับผู้จัดการบริษัทเลยแม้แต่น้อย
และมู่หวันฉีเสื้อผ้าของเธอนั้นล้วนแต่เป็นแบรนด์เนมและเป็นคอลเลคชั่นล่าสุดอีกด้วย เช่นเดียวกับแวดวงดารา วงการบันเทิงที่เคยเห็นพวกเขาสวมใส่ เธอสวมเสื้อผ้าราคาแพงขนาดนี้ แค่มองก็รู้แล้วว่าตำแหน่งในบริษัทต้องไม่ใช่ระดับต่ำแน่นอน
นักข่าวทุกคนต่างก็มีจิตสัมผัส พวกเขาตรงเข้าไปรุมล้อมมู่หวันฉี
มู่นวลนวลเดินไปได้ไม่ไกลนัก เธอก็เดินถอยหลังกลับและหลบอยู่ในมุมที่ไม่เป็นจุดสังเกตุ เธอคอยเฝ้ามองมู่หวันฉีที่เดินนักข่าวรุมล้อมอยู่
“ขอสอบถามหน่อย คุณทำงานตำแหน่งอะไรในมู่กรุ๊ป? สำหรับเรื่องเบื้องหลังของโรงงานมู่กรุ๊ป คุณมีอะไรอยากจะพูดไหม? คุณวางแผนไว้ว่าเมื่อไหร่จะออกแถลงข่าวต่อสาธารณชน?”
ในช่วงแรกทุกคนยังคงพูดถึงปัญหาของโรงงานมู่กรุ๊ป
และไม่รู้ว่าใคร จู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ว่ามู่หวันฉีเป็นนางเอกวิดิโอที่ไม่เหมาะสมนั้น เนื้อหาของคำถามในครั้งถัดไปจึงได้เปลี่ยนไป
“คุณใช่นางเอกวิดิโออนาจารในเวยป๋อหรือไม่?”
“การใช้ชีวิตส่วนตัวของคุณยังวุ่นวายขนาดนี้ คุณจะสามารถจัดการบริหารมู่กรุ๊ปได้หรือ?” นักข่าวที่ถามคำถามนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้ว่ามู่หวันฉีเป็นลูกสาวของมู่ลี่หยาน
ท้ายที่สุดคนเหล่านี้ไม่ใช่ผู้สื่อข่าวบันเทิง พวกเขาแค่เพียงรับรู้ข่าวนี้เท่านั้นและไม่ได้ให้ความสนใจมากมายนัก
ผู้สื่อข่าวคนอื่นนั้นได้สติอย่างรวดเร็วและเสิร์ชหาวิดิโอก่อนหน้านี้บนอินเทอร์เน็ต
จากนั้นผู้สื่อข่าวบางคนก็เริ่มถ่ายทอดสดตรงประตูของมู่กรุ๊ป
“สวัสดีทุกท่าน ฉันเป็นนักข่าว….ตอนนี้ฉันอยู่ที่ประตูบริษัทของมู่กรุ๊ปและหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังที่กำลังถูกนักข่าวรายล้อมอยู่นั้นเป็นผู้จัดการระดับกลางขององค์กรมู่กรุ๊ป ตามรายงานระบุว่าผู้จัดการท่านนี้ถูกควบคุมตัวในเรื่องวิดิโออนาจารเมื่อไม่นานมานี้เอง ด้วยเหตุนี้….”
ก่อนที่นักข่าวจะพูดจบ มู่หวันฉีก็ได้เข้าไปแย่งไมค์ในมือของเธอ
มู่หวันฉีในเวลานี้ไม่รักษาภาพพจน์และเธอกล่าวอย่างดุร้ายว่า “พวกคุณกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรกัน? พวกคุณที่เป็นนักข่าวก็ต้องรายงานข่าวที่มีข้อเท็จจริงไม่ใช่เหรอ? เรื่องราวที่ไม่มีข้อสรุปข้อเท็จจริงเช่นนี้พวกคุณเอามารายงานกันได้อย่างไร?”
ผู้สื่อข่าวคนอื่นๆต่างก็จับจ้องเธอและถ่ายภาพเธอ
แสงแฟลชส่องประกายระยิบระยับ มู่หวันฉียกมือขึ้นปิดหน้าเธอและเสียงของเธอก็สั่นเครือ “อย่าถ่าย พวกคุณห้ามถ่าย รปภ. รปภ.อยู่ไหน! เอาพวกเขาออกไปให้หมด!”
นักข่าวที่ถูกเธอแย่งไมค์นั้นก้มลงหยิบไมค์ขึ้นมาอีกครั้ง เธอพบว่าไมค์ยังคงใช้งานได้และเธอก็ได้ถ่ายทอดสดต่อ “คนที่เข้ามาแย่งไมค์ของฉันเมื่อครู่นี้คือผู้จัดการของมู่กรุ๊ป และเมื่อครู่ฉันเพิ่งทราบรายงานมาว่าเธอเป็นลูกสาวของประธานมู่กรุ๊ป เธอชื่อมู่หวันฉี….”