ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 96 ไม่สะดวก ไม่ให้โดยสาร

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

สำหรับมู่หวันฉีท่าทางที่แสดงความอัปลักษณ์ออกมา มู่นวลนวลไม่ได้มีความสนใจอยากที่ชื่นชม

เธอไปที่ป้ายรถเมล์นั่งรถเมล์กลับคฤหาสน์

เพิ่งจะเดินเข้าไป เธอโยนกระเป๋าลง ก็ล้ตัวมลงไปบนโซฟา เหนื่อยจนไม่อยากจะขยับตัว

วันนี้เธอไม่ได้มีเรื่องอะไรต้องทำ ทำไมรู้สึกว่าเหนื่อยขนาดนี้ล่ะ?

อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยใจ

เธอเปิดโทรศัพท์เข้าไปในเวยป๋อ พอดีกับที่เห็น“โรงงานนรก” “เป็นคลิปวีดีโอที่หลุดออกมาจากโรงงานนรก”สองประเด็นนี้เป็นที่ได้รับความนิยมมากติดประกาศอยู่ด้านบนสุด

คำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมดคือคำด่า

บางครั้งมีหลายคนพูดแก้ตัวแทนคำวิพากษ์วิจารณ์ของมู่กรุ๊ปกับมู่หวันฉี แต่ก็ถูกจมหายไปอย่างเร็ว

เร็วมาก มู่นวลนวลก็มองเห็นมู่หวันฉีในวีดีโอถูกปิดล้อมอยู่หน้าประตูมู่กรุ๊ป

มู่หวันฉีที่อยู่ในวีดีโอดูคล้ายกับว่า เป็นคนบ้าคนหนึ่ง

ลำดับคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในวีดีโอ “ฉันรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนกับคนที่เป็นโรคประสาท?ไม่อย่างนั้นหลังจากที่มีคลิปวีดีโอที่ไม่ดีของเธอหลุดออกมา ทำไมเธอยังไม่อับอายเลยแม้แต่น้อยยังหน้าด้านด่าว่านักข่าว และยังกล้าพูดว่าเป็นเรื่องเข้าใจ?”

“เห็นด้วยกับจุดยืนของคนที่ปล่อยข่าว โชคดีที่ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนกับเธอ คนเป็นโรคประสาทแบบนี้ฆ่าคนก็ไม่ถูกตัดสินโทษสินะ?”

“ก็เป็นผู้หญิงที่เสียสติจริงๆ!”

“รูปร่างหน้าตาก็สวย ให้เงินจำนวนเท่าไหร่ถึงจะขึ้นเตียงด้วย?”

มู่นวลนวลวางโทรศัพท์ลง ขี้เกียจที่จะดูอีก

นอกจากประตูด้านนอกที่มีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่ไม่กี่คน ทั่วทั้งคฤหาสน์ก็ว่างเปล่า ก็ไม่รู้ว่าโม่ถิงเซียวกับ“โม่เจียเฉิน”อยู่บ้านหรือเปล่า

มู่นวลนวลคิดๆดู ก็ส่งข้อความหา“โม่เจียเฉิน” “คุณกลับมาทานอาหารที่บ้านไหม?”

ถ้า “โม่เจียเฉิน”ไม่กลับมาทานอาหาร เธอก็ไม่ทำ ถึงยังไงก็มีบอดี้การ์ดทำอาหาร

โม่ถิงเซียวที่อยู่อีกด้านใช้เวลาไปสามชั่วโมงเพิ่งจะประชุมเสร็จพอดี อ่อนเพลียและง่วงนอน

เพิ่งจะกลับมาถึงห้องทำงานนั่งลงได้สักพัก ก็ได้รับข้อความจากมู่นวลนวล

เขากำลังจะตอบกลับ ก็เห็นกูจื่อหยานผลักประตูเดินกระหืดกระหอบด้วยความดีอกดีใจเข้ามา

“ถิงเซียว คุณดูนี่สิ!”กูจื่อหยานนำโทรศัพท์ยื่นไปที่ตรงหน้าของโม่ถิงเซียว

โม่ถิงเซียวเหลือบไปมอง หรี่ตามอง มองดูคราวๆจนจบ พูดด้วยน้ำเย็นชา “โรงงานที่อยู่ภายใต้การบริหารของมู่กรุ๊ปเดิมทีก็มีปัญหาอยู่แล้ว มีบุคคลที่มีความตั้งใจจะจัดการมู่กรุ๊ป ทั้งหมดสามารถหยิบเรื่องนี้มาจัดการมู่กรุ๊ปได้แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ธุรกิจเหล่านี้ ก็ไม่สะอาดทั้งนั้น ดังนั้นถ้าไม่ไช่ขู่เข็ญคนอื่นจนถึงขีดสุด ก็ไม่มีใครกล้าทำเรื่องแบบนี้กับมู่กรุ๊ป”

กูจื่อหยานพยักหน้า และกล่าวว่า “คุณคิดว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว เจ้าสัวตระกูลโม่จะกลับประเทศไหม?”

“อาจจะ” โม่ถิงเซียวไม่รู้ว่าคิดอะไรออก น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาลง

กูจื่อหยานไม่ได้สนใจถึงรายละเอียดนี้ เขาถามอย่างไม่แน่ใจ “เรื่องนี้ถูกตีแผ่ขึ้นมาอย่างกะทันหัน แต่ก่อนไม่เคยได้ยินข่าวลือแม้แต่นิดเดียว คุณคิดว่าเรื่องนี้ใครเป็นคนลงมือทำ?”

ใครลงมือทำล่ะ?

โม่ถิงเซียวสายตาเปล่งประกาย หลังจากนั้นก็มองไปที่กูจื่อหยานด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ไม่บอกคุณ”

กูจื่อหยานเบิกตากว้าง “ดูข่าวแค่คร่าวๆ คุณก็สามารถรู้ว่าเรื่องนี้ใครเป็นคนลงมือทำเหรอ?”

โม่ถิงเซียวไม่สนใจเขา เปิดคอมพิวเตอร์เข้าเน็ตไปดูข่าวที่เกี่ยวข้องกับมู่กรุ๊ป

กูจื่อหยานไม่ยินยอมและไต่ถามเขาต่อไป “งั้นคุณก็เปิดเผยความลับมาสักหน่อย เป็นคู่แข่งทางด้านธุรกิจที่ลงมือทำใช่ไหม?”

“ไม่ใช่”ครั้งนี้โม่ถิงเซียวตอบกลับตรงไปตรงมา

ในเน็ตก็กำลังด่าว่ามู่กรุ๊ปมากมายเต็มไปทั่วมืดฟ้ามัวดิน ก็ไม่ได้มีแนวความคิดอะไรใหม่

โม่ถิงเซียวดูไม่กี่นาทีก็ไม่ดูอีก

ครั้งนี้เขาพึ่งจะนึกขึ้นมาได้ ก่อนหน้านี้มู่นวลนวลส่งข้อความมาให้เขา

เขาพิมพ์ข้อความส่งกลับไปให้มู่นวลนวล

กูจื่อหยานยังอยากจะถามอะไรอีก โม่ถิงเซียวก็หยิบเสื้อตัวนอกลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

กูจื่อหยานเพิ่งจะเห็นโม่ถิงเซียวกำลังส่งข้อความ เพียงแต่มองไม่เห็นเนื่อหาเท่านั้นเอง

คนที่สามารถทำให้โม่ถิงเซียวส่งข้อความหาได้ มีเพียงมู่นวลนวล

“คุณต้องกลับบ้านไปทานอาหารแล้วเหรอ?วันนี้ผมไม่ได้ขับรถมากลับไม่ได้ ผมโดยสารรถคุณไปที่บ้านคุณด้วย!”กูจื่อหยานเคยทานรสชาติฝีมืออาหารที่มู่นวลนวลเป็นคนทำ ก็โหยหามาโดยตลอด และยังอยากกลับไปทานอาหารที่บ้านโม่ถิงเซียว

โม่ถิงเซียวหันหน้ากลับมา ปฏิเสธอย่างเย็นชา “ไม่สะดวก ไม่ให้โดยสาร”

“ไม่ต้องเมินเฉยไร้น้ำใจขนาดนั้น ก็แค่ไปทานอาหารบ้านคุณเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ!”

โม่ถิงเซียวยังคงปฏิเสธตรงไปตรงมา “ไม่ใช่”

สุดท้าย กูจื่อหยานก็หน้าด้านขึ้นไปนั่งบนรถของโม่ถิงเซียว

……

มู่นวลนวลจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ มองดูด้านบน “โม่เจียเฉิน”ตอบกลับข้อความของเธอ

ด้านบนมีแค่คำที่เรียบง่ายมากๆ“อืม”

ปลอมเป็นคนที่ยากจน มู่นวลนวลรู้สึกว่าเธอมีเจตนาที่จะเพิ่มวีแชทของ“โม่เจียเฉิน”ตัวเธอเองมีธุระก็สามารถติดต่อเขาได้ไม่ต้องส่งข้อความทางวีแชท และไม่ต้องเปลืองเงิน

เธอกำลังใช้เบอร์โทรศัพท์หารายชื่อติดต่อในวีแชท ปรากฏว่าไม่มี “โม่เจียเฉิน”

คนคนนี้ขนาดวีแชทยังไม่เล่น?

มู่นวลนวลวางโทรศัพท์ลง ลุกขึ้นยืนเดินไปที่ห้องครัว

เธอเพิ่งจะหั่นผักเสร็จ ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถดังมาจากด้านนอก

น่าจะเป็น“โม่ถิงเซียว”กลับมาบ้าน

“นวลนวล”

เสียงนี้…

มู่นวลนวลหันหน้ากลับมา ก็มองเห็นกูจื่อหยานเดินยิ้มร่าเริงเข้ามา ในมือยังถือกล่องหนึ่งกล่องที่มีฝีมือละเอียดและงดงาม

ด้านบนมีตราประทับโลโก้ของร้านเค้กร้านหนึ่ง เป็นร้านเค้กที่เซินเหลียงไปอุดหนุนเป็นประจำ

“โธ่ วันนี้ไม่ได้ขับรถไปบริษัท กลับบ้านไม่ได้ ระหว่างทางก็พบกับโม่เจียเฉิน ก็นั่งรถของเขาเข้ามาด้วยอยู่ที่นี้สักหนึ่งคืน ลำบากคุณแล้วที่ต้องทำอาหารเพิ่มเยอะกว่าเดิม นำเค้กมาให้คุณด้วย ด้วยความเคารพนับถือ”

คู่ควรแล้วที่เป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทบันเทิง คำพูดนี้สามารถพูดได้ว่าแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไม่รั่ว

เพียงแต่ เธอถูกกูจื่อหยานเรียกว่า“นวลนวล”ก็ยังไม่เคยชินสักเท่าไหร่

“ขอบคุณค่ะ”

กูจื่อหยานมีรูปร่างหน้าตาดีทำให้คนชอบ และยังมีความสุภาพอย่างนี้ แน่นอนว่ามู่นวลนวลทำได้แค่ยิ้มและรับเค้กเอาไว้

มู่นวลนวลยังจิตใจชั่วร้ายถ่ายรูปเค้กส่งไปให้เซินเหลียง

เซินเหลียงแสดงความรู้สึกส่งสติกเกอร์โกรธกลับมา “เธอไปซื้อเค้กก็ไม่ชวนฉัน!!!”

“กูจื่อหยานเป็นคนซื้อ เหมือนกับว่าเป็นร้านที่คนบางคนไปซื้อที่นั่นเป็นประจำ? ไม่รู้ว่าคนบางคนนั้นจะเคยพบกับเขาไหมนะ

“ส่งสติกเกอร์มีดเล่มใหญ่ที่ยาวสิบเมตร”

มู่นวลนวลไม่ได้แซวเธออีก นึกถึงก่อนหน้าที่กูจื่อหยานพูดว่าต้องการฉลองกับเธอ “จะมาทานอาหารด้วยกันไหม”

“ไม่ไปแล้ว” กูจื่อหยานก็อยู่ เซ็งเหลียวไม่อาจจะมา

……

ในเวลาที่ทานอาหาร สำหรับเรื่องโรงงานมู่กรุ๊ปกูจื่อหยานก็ยังคงไฟสุมขอนอยู่ในใจ ก็ยังเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก

มู่นวลนวลหลบซ่อนด้วยการทานอาหาร ไม่ปริปากพูดสักคำ เงียบสงบราวกับไก่

พูดไปครึ่งค่อนวัน กูจื่อหยานเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ามู่นวลนวลคือคนในตระกูลมู่

เขาก็ถามมู่นวลนวลตรงไปตรงมา “นวลนวล เรื่องบริษัทของบ้านพวกคุณจะจัดการอย่างไร?”

นวลนวล?

โม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองไปที่กูจื่อหยาน “กินซาลาเปาเสร็จแล้วก็ไสหัวไป”

กูจื่อหยานสีหน้าซีดลง เขาไปกวนโมโหคุณชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

มู่นวลนวลคุ้นเคยกับนิสัยที่เอาแน่เอานอนของโม่ถิงเซียวแล้ว เธอส่ายหน้า “ไม่ค่อยรู้ชัดเจน” อย่างไรเสียฉันก็อยู่ในบริษัทมีหน้าที่แค่ทำงานเบ็ดเตล็ด”

เพิ่งจะพูดจบ โม่เจียหลินที่นั่งตรงข้ามกับเธอทันใดนั้นก็หันหน้ากลับมามองเธอ

ด้วยดวงตาดำขลับลึกลับและลึกซึ้ง ยังรั่วไหลความเข้าใจทั้งหมด

ทำไมรู้สึกได้ว่า “โม่เจียเฉิน” คล้ายกับว่าดูออกว่าเธอกำลังโกหก……

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท