มู่นวลนวลพูดพลาง สนใจดูสีหน้าของมู่ลี่หยานพลาง
เมื่อเธอเอ่ยถึงบัตรแพลทินัม เธอก็เห็นชัดเจนว่าสีหน้าของมู่ลี่หยานใจฝ่อ
ตอนนี้รู้แล้วเหรอว่าใจฝ่อ?
แต่ มันช้าไปแล้ว
มู่ลี่หยานเห็นท่าทางของมู่นวลนวลกลัวจริงๆไม่ใช่เสแสร้ง ก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย พูดขึ้นว่า “เธอก็อย่าบอกเรื่องบัตรแพลทินัมกับเขาก่อนสิแบบนี้ก็ได้แล้ว?”
มู่นวลนวลยิ้มเยาะอยู่ในใจ มาถึงเวลานี้แล้ว มู่ลี่หยานก็ไม่ยอมคืนบัตรแพลทินัมให้กับเธอ
ถึงแม้ว่าในใจเธอจะคิดอย่างนี้ แต่ใบหน้าของเธอตอนนี้มีแต่ความหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น
เธอค่อยหยิกขาตัวเองแรงๆ เจ็บจนน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ในเบ้าตาวนไปมารอบๆ ใช้แรงบีบเข้าไปอีก น้ำตาก็รินไหลออกมา
มู่นวลนวลพูดด้วยเสียงสะอื้น พูดพลางร้องไห้ “บัตรแพลทินัมนั่น เพียงแต่โม่ถิงเซียวให้ฉันยืมใช้ หลังจากนั้นต้องคืนให้กับเขา ถ้าหากว่าฉันไม่พูด ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องรู้…”
คล้ายกับว่ากำลังคิดถึงเรื่องน่ากลัวอะไรบ้างอย่าง มู่นวลนวลก็ร้องไห้ออกมาอย่างรุนแรง “คุณไม่รู้ว่าเขาคนนั้นน่ากลัวแค่ไหน แท้จริงแล้วเขาเป็นปีศาจร้ายตัวหนึ่ง เขาไม่ปล่อยฉันไว้แน่นอน…”
มู่นวลนวลร้องไห้ขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ เธอเพิ่งจะรู้ตอนนี้ว่าต่อมน้ำตาตัวเองเยอะมาก
บางที เธออาจจะสามารถเข้าไปลองทำงานในวงการบันเทิง
มู่ลี่หยานเดิมทีก็กระวนกระวายใจ ก่อนหน้านี้ที่เสแสร้งแสดงท่าทีอบอุ่นต่อหน้ามู่นวลนวลก็เป็นเพราะว่ามีเรื่องต้องการขอร้องให้เธอช่วย ตอนนี้เห็นว่าเธอร้องไห้ไม่หยุด ก็ยิ่งทำให้กระวนกระวายใจยิ่งกว่าเดิม
“เธออย่าร้องไห้!” มู่ลี่หยานตวาดเสียงดังออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
มู่นวลนวลหยุดเสียงร้องทันที และยังสะอึกเสียงร้องไห้
มู่ลี่หยานมองดูเธอด้วยแววตาของมีความดูถูกอยู่น้อยนิด คนโง่ก็คือคนโง่ ก็ถือเปลี่ยนเป็นคนสวยแล้ว แต่ก็ยังไม่มีประโยชน์
เขานึกว่ามู่นวลนวลจะทำให้โม่ถิงเซียวหลงใหลจนหัวปั่นแล้ว ดังนั้นจึงสามารถหยิบบัตรแพลทินัมมาจากโม่ถิงเซียว นึกไม่ถึงว่าแค่ให้ยืมใช้เท่านั้นเอง
มู่นวลนวลก็รังเกียจตัวเองเล็กน้อย เธอก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เธอแค่ร้องไห้จนหมกมุ่นเท่านั้นเอง
มู่ลี่หยานคล้ายกับว่าตัดสินใจเรื่องสำคัญอะไรขึ้นมาได้ ก็ถาม “ถ้าหากว่าสามารถนำบัตรแพลทินัมกลับมาได้ล่ะ?”
“สามารถนำกลับมาได้เหรอ?”
มู่ลี่หยานบนสีหน้ารั่วไหลความดีใจและแปลกใจ แต่เร็วมากก็หายไป เธอยิ้มมัวๆ“จะไปหากลับมาจากที่ไหน โจรที่ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ฉันก็จำไม่ได้ว่าหน้าตาเป็นยังไงแล้ว…”
มู่ลี่หยานสังเกตสีหน้าท่าทีของมู่นวลนวลอย่างละเอียด ยืนยันแล้วว่าเธอไม่รู้ความจริงว่าเสี่ยวชูเหอถูกโจรจับตัวไปเรียกค่าไถ่ จึงขมวดคิ้วขึ้นพูด “ฉันสามารถหาวิธีได้”
……
เมื่อออกจากห้องทำงานของมู่ลี่หยาน มู่นวลนวลก็ไปล้างหน้าในห้องน้ำ
โชคดีที่วันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้า ไม่อย่างนั้นหน้าคงดูไม่ได้
ล้างหน้าเสร็จ เธอก็พบว่าดวงตากับจมูกของตัวเองก็ยังแดงอยู่
เมื่อกี้ร้องไห้จนหมกมุ่นจริงๆ
เธอกลับมานั่งที่ของตัวเอง เพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านข้างเห็นว่าเธอเป็นแบบนี้ ก็ถามเธออย่างเป็นห่วง “นวลนวล คุณเป็นอะไร?”
มู่นวลนวลส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
เพื่อนร่วมงานคนนั้นก็ไม่ถามอีก ก่อนหน้านี้มองเห็นเลขาของมู่ลี่หยานมาหามู่นวลนวลเพื่อนร่วมงานอีกคนพูดเสียงเบาออกมา “เป็นเพราะว่าท่านประธานเรียกเธอ”
“ท่านประธานเรียกเธอทำไม?”
“ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเพราะว่าเรื่องของโรงงาน เธอไม่ใช่แต่งงานกับโม่ถิงเซียวเหรอ ท่านประธานอาจจะอยากจะยืมใช้ความสัมพันธ์นี้…”
“……”
มู่นวลนวลฟังเงียบๆ รู้สึกว่าคนในแผนกโครงการเก่งกาจจริงๆ ยังสามารถจะทายถูก
ด้านหลังพวกเธอก็ยังพูดอะไรอีก มู่นวลนวลได้ยินไม่ชัดเจน ได้ยินรางเลือน “ทำเกินไปแล้ว…ท่านประธานทำแบบนี้ได้
อย่างไร…”ประโยคเหล่านี้
มู่นวลนวลทึ่งเล็กน้อยเพื่อนร่วมงานสองคนนี้กำลังทายอะไรอยู่
แต่พวกเธอคล้ายกับว่ากำลังพูดคำกล่าวร้ายมู่ลี่หยาน?
……
Sheng ding media
“ถิงเซียว ตอนเที่ยงยังเรียกร้านอาหารจินติ่งส่งอาหารเข้ามาไหม?” เรื่องที่ทำให้กูจื่อหยานกระตือรือร้นทุกวันที่สุด ก็คือเรื่องทานอาหาร
โม่ถิงเซียวไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา “ไม่ต้อง”
กูจื่อหยานถามเขา “คุณจะไปที่ไหน?”
โม่ถิงเซียวไม่ได้สนใจเขาอีก
กูจื่อหยานมองบนอย่างไม่สบอารมณ์ ถ้าหากไม่ใช่เขารู้จักโม่ถิงเซียวมาหลายปีแล้ว โม่ถิงเซียวมีนิสัยที่เย็นชาเหมือนกับตู้เย็น คงถูกเขาตีไปนานแล้ว
โม่ถิงเซียวทำเรื่องที่อยู่ในมือเสร็จพอดิบพอดี เงยหน้าขึ้นมองกูจื่อหยานสีหน้าท่าทางแบบนี้ น้ำเสียงคล้ายลมพัดเย็นๆ “คุณเคยต่อยชนะผมไหม?”
กู่จื่อหยานมองเขาคล้ายกับเห็นผี “โอ้ ต่อยไม่ชนะต่อยไม่ชนะ!ผมคิดอะไรในใจอยู่ คุณก็ทายถูก?”
โม่ถิงเซียวยิ้มเบาๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เดินตรงออกไปด้านนอก
กูจื่อสิงเป็นคนนิสัยพูดไม่หยุดและใจร้อน ช่วงเวลาที่เป็นวัยรุ่นก็ยังยกพวกตีกันบ่อยๆ คนที่รู้จักเขาเป็นอย่างดีก็สามารถจะทายความคิดของเขาได้ง่ายๆ
โม่ถิงเซียวขับรถไปมู่กรุ๊ป
เรื่องโรงงานของมู่กรุ๊ปเมื่อวานถูกตีแผ่ออกไป เกิดกระแสจากเมื่อคืนถึงตอนนี้วุ่นวายจนคนทั้งโลกรู้หมดแล้ว ก็ไม่กล้าที่จะรับประกันว่ามู่ลี่หยานดิ้นอย่างสุดฤทธิ์จะเดาออกว่าคนที่ลงมืออยู่เบื้องหลังคือมู่นวลนวล
เขาไม่วางใจ ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปดูสถานการณ์ที่มู่กรุ๊ป
เขาขับรถมาถึงโรงจอดรถของมู่กรุ๊ป หยิบโทรศัพท์โทรหามู่นวลนวล แต่ทว่าไม่มีคนรับสาย
เขาลงจากรถแล้วเดินตรงเข้าไปในบริษัท
เป็นเพราะว่าเรื่องของโรงงาน ทำให้คนที่เข้าออกมู่กรุ๊ปเพิ่มความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
โม่ถิงเซียวเข้าไป ก็ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยจับเอาไว้ “คุณเป็นใคร มาหาใคร?”
พนักงานรักษาความปลอดภัยมีเยอะมาก กลัวว่าจะมีคนมาก่อเรื่องวุ่นวาย
โม่ถิงเซียวรูปร่างสูง คนปกติที่ยืนอยู่ด้านหน้าต้องเงยหน้าขึ้นจึงจะมองเห็นเขา
เขาก้มหน้าลงมา ท่าทางไร้อารมณ์ถึงแม้ว่าจะไม่โมโหแต่ก็ดูน่าเกรงขาม“มาหาคน”
พนักงานรักษาความปลอดภัยรู้สึกว่าคนนี้มีกลิ่นอายความมีอำนาจมาก มองก็รู้ว่าเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามคนหนึ่ง และไม่กล้าดูแคลน นำเขาตรงไปที่เคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ “คุณบอกพวกเธอหน่อยว่าจะมาหาใคร”
พนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ผู้หญิงวันนี้ก็เหมือนเตรียมพร้อมที่จะรับมือ ระหว่างนั้นเกือบจะถูกนักข่าวปลอมแปลงเข้ามา ตอนนี้คือวาดระแวงไปหมดแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้าล้วนเป็นกองทหารทั้งสิ้น
แต่ว่าในเวลาที่เธอมองเห็นหน้าตาของโม่ถิงเซียว ก็พูดติดอ่างเล็กน้อย “ไม่ทราบว่าท่าน…มาหา…มาหาใครค่ะ?”
“มู่นวลนวล”โม่ถิงเซียวหรี่ตามอง จู่โจมด้วยสายตาที่หงุดหงิด
ความอดทนของเขาค่อนข้างต่ำ แต่ว่าเมื่อเขาได้เกี่ยวข้องกับมู่นวลนวล เขาพบว่าความอดทนของตัวเองเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย
“มู่นวลนวล?”พนักงานผู้หญิงต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์รู้สึกคุ้นหูกับประโยคนี้
ไม่รอให้พนักงานผู้หญิงได้อ้าปากพูดอีก ได้ยินเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาในหูของโม่ถิงเซียว “โม่เจียเฉิน?”
โม่ถิงเซียวหันหน้ากลับไปมอง พอดีที่เห็นมู่นวลนวลเดินเข้ามาจากที่ใกล้ๆ
เธอค่อยๆเดินเข้ามาก่อน คล้ายกับว่าไม่แน่ใจว่าเป็นเขา หลังจากนั้นก็ก้าวเท้าอย่างรวดเร็วตรงเข้ามาเขา
ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยง มู่นวลนวลเตรียมตัวจะออกไปกินข้าว ผลลัพธ์คือเพิ่งออกมาจากลิฟท์ ก็มองเห็นผู้ชายที่สูงมากเหมือนจะใช่“โม่เจียเฉิน”ยืนอยู่ด้านหน้ากำลังซักถามพนักงานต้อนรับผู้หญิงที่หน้าเคาน์เตอร์
“โม่เจียเฉิน”ผู้ชายประเภทที่เย่อหยิ่งอวดดีอย่างบ้าระห่ำ ทำไมถึงยอมมายืนซักถามพนักงานต้อนรับผู้หญิงที่หน้าเคาน์เตอร์
แต่ยิ่งมองยิ่งเหมือน เธอก็เปล่งเสียงเรียกชื่อของเขา
คิดไม่ถึงว่า จะเป็น“โม่เจียเฉิน”จริงๆ
มู่นวลนวลเดินเร็วมาถึงเบื้องหน้าเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความงงงวย “เป็นนายจริงๆเหรอ นายมามาที่นี่ทำไม?”
ในเวลาที่พนักงานผู้หญิงหน้าเคาน์เตอร์มองเห็นมู่นวลนวล ก็จำเธอได้ ยิ้มตาหยีพร้อมพูด “คุณมู่ คุณผู้ชายท่านนี้มาหาคุณ”