ณ ร้านอาหารจินติ่ง
โม่ถิงเซียวออกมาจากห้องรับรองพิเศษ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซือเย่
” รับเธอเเล้วหรือยัง? ”
ซือเย่: ” ผมส่งคุณหญิงกลับคฤหาสน์อย่างปลอดภัยเเล้วครับ ”
” อือ ”
พอโม่ถิงเซียววางสายโทรศัพท์ เขาตั้งใจจะไปห้องน้ำสักหน่อย เเต่ตอนหมุนตัว กลับถูกพนักงานที่ถือข้าวหน้าแกงกะหรี่ชนเข้าเสียก่อน
ทำให้น้ำแกงทั้งหมดที่อยู่ในข้าวหน้าแกงกะหรี่กระเด็นใส่ชุดของโม่ถิงเซียว
พนักงานเห็นดังนั้นก็ตกใจไปทันที หลังจากนั้นพนักงานคนนั้นก็รีบพูดขอโทษด้วยร่างกายที่สั่นเทา: ” คุณผู้ชายขอโทษครับ ขอโทษครับ…… ”
คิ้วของโม่ถิงเซียวขมวดเข้าหากันเเน่นเป็นปม เเต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรพนักงาน ทำเพียงหมุนตัว เเละเดินจากไป
เป็นถึงเจ้าของร้านอาหารจินติ่งที่อยู่เบื้องหลัง โม่ถิงเซียวมีห้องที่เหลือไว้ที่นี่อยู่ห้องนึง เมื่อก่อน ตอนที่ยังไม่เเต่งงาน เขามาจัดการเรื่องงานที่นี่ บางครั้งทำงานจนดึกเกินไป เขาก็จะพักที่นี่สะเลย
เเต่หลังจากที่เเต่งงานเเล้ว เขาก็เเทบจะไม่ได้มาพักที่นี่อีกเลย
อุปกรณ์อาบน้ำกับเสื้อผ้ายังอยู่ในห้องเหมือนเดิม
เขาเข้าไปในห้อง ถอดชุดออก เเละหมุนตัวกลับไปหาเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า
สายตาของเขาไปหยุดอยู่บนเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มตัวหนึ่ง เขากำลังยื่นมือออกไปหยิบ กลับรู้สึกว่าด้านหลังมีคนกำลังเข้ามาใกล้ การกระทำของเขาชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็หันศีรษะกลับไปทันที พร้อมยื่นมือออกไปบีบคอของคนที่อยู่ด้านหลัง
” ใคร! ”
สัมผัสที่ละเอียดอ่อนภายใต้ฝ่ามือ พิสูจน์ให้รู้ว่าเป็นผู้หญิง
โม่ถิงเซียวก้มหน้าลง เเละเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
มู่หวันฉีใส่เพียงชุดเดรสสายเดี่ยวตัวเดียว เธอเเต่งหน้าสวยงาม เเละต่อให้ถูกเขาบีบคออย่างรุนเเรง เธอก็ยังอดทนเพื่อไม่ให้ตัวเองเปลี่ยนสีหน้า เเต่กลับมองเขาอย่างยั่วยวนเสียแทน: ” คุณโม่ไม่รู้หรอคะว่าผู้หญิงทุกคนน่ะบอบบางมาก ต้องดูเเลเอาใจใส่สิคะ? ออกเเรงขนาดนี้ ฉันใกล้จะหายใจไม่ออกเเล้วเนี่ย…… ”
พอพูดจบ เธอก็สงเสียงฮึออกมาอย่างยั่วยวนอีกด้วย
มู่หวันฉีต้อนรับขับสู้กับพวกผู้ชายมาเป็นเวลานาน วิธีการของเธอจึงดูเป็นธรรมชาติ
เเต่วิธีการของเธอใช้ไม่ได้กับโม่เจียเฉิน
เพราะเวลาต่อมาโม่เจียเฉินก็ได้โยนเธอออกไปจากห้อง เขามองเธอด้วยความรังเกียจ สีหน้าของเขาดำทมิฬ: ” มายังไงก็ไสหัวกลับไปอย่างนั้น ”
ครั้งนี้มู่หวันฉีตั้งใจว่าจะต้องชนะให้ได้ เเละเเน่นอนว่าเธอไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ เธอลุกขึ้นจากพื้น เเละคิดอยากจะเข้าไปใกล้โม่เจียเฉินอีกครั้ง
เเต่โม่เจียเฉินเตรียมป้องกันไว้ก่อนเเล้ว เขาขยับไปด้านข้างเล็กน้อย จึงทำให้มู่หวันฉีล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น
โม่ถิงเซียวหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาพนักงานรักษาความปลอดภัย: ” ตรงนี้มีผู้หญิงบ้าคนหนึ่ง ขึ้นมาลากเธอออกไปด้วย ”
พูดเสร็จ เขาก็ปิดประตูห้อง เเละรีบไปเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็ว
เเน่นอนว่ามู่หวันฉีไม่ยอมที่จะถูกลากออกไปแบบนี้ ตอนที่พนักงานรักษาความปลอดภัยมาถึง เธอก็ดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ: ” เขาเป็นเเฟนของฉัน พวกแกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ”
พอโม่ถิงเซียวเปลี่ยนชุดเสร็จ เขาก็ออกมาจากห้อง หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างเย็นยะเยือก: ” ทำไมผู้หญิงคนนี้ยังอยู่ตรงนี้อยู่อีก? เรื่องเล็กน้อยเเค่นี้ยังจัดการได้ไม่ดี เห็นทีว่าร้านอาหารจินติ่งคงต้องเปลี่ยนพนักงานรักษาความปลอดภัยเเล้วล่ะ ”
ถึงเเม้ว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยจะไม่รู้ว่าโม่ถิงเซียวเป็นเจ้าของร้านอาหารจินติ่งที่อยู่เบื้องหลัง เเต่พวกเขารู้ว่าคนที่สามารถเปิดห้องที่ร้านอาหารจินติ่งได้เป็นเวลานานนั้น ไม่รวยมากก็มีอิทธิพลมาก เเละเเขกผู้มีเกียรติจำพวกนี้สามารถเสนอให้ผู้จัดการไล่พวกเขาออกได้เลย
พนักงานรักษาความปลอดภัยไม่ใจอ่อนอีกต่อไป พวกเขาพากันลากมู่หวันฉีออกไป ก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะโค้งตัวอย่างเคารพนบนอบ เเละพูดขอโทษโม่ถิงเซียว: ” ขอโทษคุณผู้ชายด้วยครับที่ทำให้ตกใจ ”
โม่ถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังจะเดินออกไป อยู่ๆก็ถูกเขาเรียกเอาไว้เสียก่อน: ” พาไปส่งที่สถานีตำรวจ บอกว่าเธอก่อความรบกวนให้กับฉัน ”
พนักงานรักษาความปลอดภัย: ” …… ”
เขาทำงานที่ร้านอาหารจินติ่งมาหลายปี นี่ถือว่าเป็นครั้งเเรกที่เห็นลูกค้าผู้ชายพูดอย่างตั้งใจว่ามีผู้หญิงกระทำ……
เเต่ลูกค้าผู้ชายผู้มีเกียรติท่านนี้พูดอย่างมีหลักการแบบนี้เเล้ว
” ได้ครับ……ผมทราบเเล้วครับ ”
มู่หวันฉีไม่เคยถูกผู้ชายดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน เธอจึงดึงมู่นวลนวลมาเกี่ยวด้วยอย่างไม่ยอมเเพ้: ” มู่นวลนวลบอกฉันว่าคุณจะมาที่นี่คืนนี้ เธอจึงให้ฉันมาดักคุณที่นี่ยังไงล่ะ คุณดีกับเธอขนาดนั้น เเต่เธอกลับไม่จริงจังกับคุณเลย…… ”
พนักงานรักษาความปลอดภัยรีบปิดปากมู่หวันฉีอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็รีบพาเธอออกไปทันที
โม่ถิงเซียวสีหน้าดำทมิฬ เขาหรี่ตาลงนิดหน่อย เเละพูดขึ้นเสียงเบา: ” มู่นวลนวล…… ”
พอกลับมาที่ห้องรับรองพิเศษ กูจื่อหยานเห็นว่าเขามีสีหน้าไม่สู้ดีนัก จึงพูดถามขึ้น: ” เกิดอะไรขึ้นหรอ? ”
โม่ถิงเซียวพูดขึ้นเสียงหนักแน่น: ” ร้านอาหารคงต้องเปลี่ยนคนกลุ่มใหม่เเล้วล่ะ ”
พนักงานที่ชนเขาก่อนหน้านั้น คงถูกมู่หวันฉีใช้เงินซื้อมาอย่างเเน่นอน เเละที่มู่หวันฉีรู้ห้องของเขา ก็คงเป็นเพราะหาวิธีใช้เงินซื้อคนพวกนั้นมาจนได้
จุดเด่นของร้านอาหารจินติ่งคือการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว เเต่ตอนนี้เห็นทีว่าพนักงานในร้านมีหลายคนที่ได้สูญเสียคุณสมบัติขั้นพื้นฐานไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว เเละคงต้องกำจัดเเละแก้ไขให้ถูกต้องเสียเเล้ว
ตอนสิ้นสุดมื้ออาหาร กูจื่อหยานเห็นโม่ถิงเซียวยังนั่งนิ่งไม่ไหวติง
ช่วงนี้พอเลิกงาน โม่ถิงเซียวก็มักจะรีบกลับบ้านไม่ใช่หรอ? ต่อให้มีธุระอื่นต้องไปทำ เเต่พอทำเสร็จ เขาก็จะรีบกลับบ้านทันทีนี่นา
กู่จื่อหยานรู้สึกมึนงงนิดหน่อย: ” ทำไมนายยังไม่กลับอีก? ”
” นายกลับไปก่อนเลย วันนี้ฉันไม่กลับบ้าน ” โม่ถิงเซียวพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืน หยิบเสื้อคลุมที่พาดไว้อยู่ที่ด้านหลังของเก้าอี้เเล้วเดินออกไป
กู่จื่อหยานเกาศีรษะของตัวเองเบาๆ หลังจากนั้นเขาก็พูดกับตัวเองอย่างคาดเดา: ” ทะเลาะกันหรอกหรอ? ”
……
มู่นวลนวลทานข้าวเสร็จ ก็กลับมานอนที่ห้องของตัวเอง เธอนอนไม่หลับ เเละพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียง
ถึงเเม้จะแน่ใจเเล้วว่ามู่หวันฉีไม่ได้ไปที่ร้านอาหารจินติ่ง เเต่โม่เจียเฉินไม่ได้กลับมา เธอจึงวางใจได้ไม่สุด
เธอมักจะคอยฟังเสียงเครื่องยนต์รถอย่างไม่รู้ตัว
จนกระทั่งเป็นเวลาเที่ยงคืนเเล้ว เธอก็ยังไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถสักที
นั่นหมายความว่าโม่เจียเฉินยังไม่กลับมา
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างร้อนใจ อยากที่จะโทรไปหาเขาเต็มที เเต่นิ้วมือดันปัดไปปัดมาอยู่บนหน้าจออย่างลังเล สุดท้าย เธอก็ไม่ได้กดโทรออกไป
เธอนึกถึงโม่เจียเฉิน ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ
จนกระทั่งถึงตอนดึก เธอทนต่อไปไม่ไหวเเล้ว จึงหลับไปทั้งอย่างงั้น
วันต่อมา
เมื่อคืนมู่นวลนวลนอนหลับไม่สนิท ตื่นมาตอนเช้าจึงมีสภาพเหมือนผี
เธอลงมาด้านล่าง เเละอดไม่ได้ที่จะถามบอดี้การ์ดที่เฝ้าประตู: ” เมื่อคืนโม่เจียเฉินกลับมาหรือเปล่า? ”
บอดี้การ์ดส่ายหน้า: ” ไม่ได้กลับมาครับ ”
มู่นวลนวลรู้สึกหนักใจนิดหน่อย
ในระหว่างทางที่กำลังไปทำงาน เธอได้รวบรวมความกล้าขึ้น หยิบโทรศัพท์ออกมา เเละโทรหาโม่เจียเฉินในที่สุด
โทรศัพท์ดังอยู่สักครู่ โม่เจียเฉินถึงจะรับสาย
” มีอะไร? ” เสียงของเขาค่อนข้างติดเเหบนิดหน่อย เหมือนคนเพิ่งตื่นอย่างไรอย่างนั้น
เธอนึกถึงเวลาตื่นนอนตามปกติของโม่เจียเฉิน เเละมู่นวลนวลรู้ว่าเขาไม่ได้มีนิสัยที่ไม่อยากลุกออกจากเตียง
” ไม่ ไม่มีอะไร กดผิดน่ะ นายนอนต่อเถอะ…… ” มู่นวลนวลวางสายโทรศัพท์อย่างลุกลี้ลุกลน
เธอกัดริมฝีปาก คงไม่ได้ถูกมู่หวันฉีเล่นงานจนสำเร็จไปแล้วหรอกนะ?
พอคิดว่าโม่เจียเฉินอาจจะอยู่กับมู่หวันฉีในเวลานี้ มู่นวลนวลก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างรุนเเรงทันที ถึงกับรู้สึกเสียดายอยู่นิดหน่อย
อีกฝั่ง พอโม่ถิงเซียววางสายโทรศัพท์ เขาก็ยกยิ้มเบาๆ
อดไม่ได้ที่จะโทรศัพท์หาเขาอย่างนั้นหรอ?
งั้นก็ให้เธอรู้สึกเป็นกังวลสักพักก็เเล้วกัน
โม่ถิงเซียวต่อสายหาคนในร้านอย่างอารมณ์ดี: ” เอาน้ำร้อนมาให้ฉันสักแก้วหน่อยสิ ”
เมื่อคืนเขานอนที่ร้านอาหารจินติ่งโดยไม่ได้เปิดเครื่องทำความร้อน ตื่นเช้ามาจึงเป็นหวัดนิดหน่อย