พอพนักงานคนนั้นเห็นมู่หวันฉีเป็นเช่นนี้ พวกเธอก็ทยอยพากันเดินอ้อม เพื่อหลีกเลี่ยงมู่หวันฉี เเละรีบพากันเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
พนักงานหนึ่งในนั้นดูเหมือนจะไม่ชอบมู่หวันฉีมาตั้งเเต่ไหนเเต่ไรเเล้ว ตอนที่เธอเดินออกไป เธอได้เเสร้งทำเป็นยกเท้าไปขวางหน้ามู่หวันฉีอย่างไม่ได้ตั้งใจ
มู่หวันฉีเห็นว่าพวกเธอกำลังจะเดินออกไป เธอคิดจะรั้งพวกเธอไว้ กลับไม่ได้สังเกตใต้เท้าของตัวเอง
ดังนั้น เธอจึงหกล้มลงไปบนพื้นทั้งเเบบนั้น
มู่หวันฉีล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนเเรง เธอรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว เเละทดลองเอื้อมมือลุกขึ้นเเล้วเเต่ก็ยังลุกไม่ขึ้นอยู่ดี เธอจึงตะโกนออกมาอย่างโมโห: ” ฉันจะไล่พวกแกออกให้หมด! ”
เมื่อสักครู่ ไม่ได้ยินที่พวกเธอบอกว่าจะลาออกหรือไง? เกรงว่าคงไม่ต้องรอให้เธอไล่ออกเเล้วล่ะ
มู่นวลนวลกวาดสายตาไปรอบๆ เธอเห็นมู่ลี่หยานเพิ่งเดินออกจากลิฟท์ เเละกำลังเดินมาทางนี้พอดี เธอจึงเดินเข้าไปพยุงมู่หวันฉี: ” ทำไมพี่ถึงไม่ระวังแบบนี้ล่ะ? เจ็บไหมล่ะนั่น บนพื้นออกจะเย็น ฉันช่วยพยุงพี่ขึ้นมาดีกว่า ”
มู่หวันฉีสลัดมือของมู่นวลนวล หลังจากนั้นเธอก็ผลักมู่นวลนวลออก เเต่เเรงที่เธอใช้ผลักนั้นมีไม่มากสักเท่าไหร่: ” ไม่ต้องการความหวังดีจอมปลอมของแก ”
มู่นวลนวลฉวยโอกาสล้มลงไปบนพื้น หลังจากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ
มู่ลี่หยานเดินเข้ามาหา เเละได้พูดขึ้นเสียงเข้ม: ” เกิดอะไรขึ้น? ”
” พ่อ…… ” มู่หวันฉีถูกมู่ลี่หยานตามใจจนโต เธอถูกขังอยู่ที่สถานีตำรวจเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน จึงรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก มาตอนนี้ พอเห็นมู่ลี่หยาน เธอก็ร้องไห้ออกมาทันที
เดิมที สองสามวันนี้มู่ลี่หยานก็รู้สึกรำคาญมากพอเเล้ว มู่หวันฉีบอกว่าจะไปล่อลวงโม่เจียเฉิน เพื่อให้เขาช่วย สุดท้ายเธอกลับก่อเรื่องจนตัวเขาต้องไปที่สถานีตำรวจสะเอง
มู่ลี่หยานเพิ่งรู้ตัวว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพึ่งพาให้มู่หวันฉีช่วยมู่กรุ๊ป บางที มู่นวลนวลอาจจะมีประโยชน์มากกว่าสะอีก
” ลุกขึ้นมาเอง แกดูสารรูปตัวเองสิ ดูได้สะที่ไหน! ” มู่ลี่หยานมองมู่หวันฉีนิดหน่อย หลังจากนั้นเขาก็เบนสายตาไปทางอื่น เเละรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก
มู่นวลนวลเอื้อมมือไปพยุงมู่หวันฉีอย่างถูกเวลา หลังจากนั้นก็พูดขึ้นอย่างว่านอนสอนง่าย: ” พี่ ลุกขึ้นเถอะ…… ”
” ถอยไป อย่าเอามือสกปรกมาเเตะฉันนะ! ” มู่หวันฉีสะบัดมือของมู่นวลนวลออกอย่างไม่ใยดี
มู่นวลนวลจึงเก็บสองมือกลับมาอย่างสงบ
เเละไม่รู้ว่ามือของใครสกปรกกว่ากันเเน่
ตอนนี้มู่ลี่หยานต้องพึ่งพามู่นวลนวล เพื่อให้เธอช่วยมู่กรุ๊ป เขาจึงจำเป็นต้องรีบเอาอกเอาใจเธอ พอได้ยินที่มู่หวันฉีพูด เขาก็รีบพูดต่อว่าเธอทันที: ” ทำไมพูดกับน้องสาวของตัวเองแบบนั้นล่ะ! ”
” พ่อ! ” ตอนนี้มู่หวันฉีได้ลุกขึ้นมาจากบนพื้นเเล้ว: ” พ่อเป็นอะไรไป? ”
เธอจำได้ว่าเมื่อก่อนพ่อของเธอไม่ชอบมู่นวลนวล เเต่ทำไมตอนนี้เขากลับด่าเธอเพราะมู่นวลนวลล่ะ
” พอเเล้ว กลับไปก่อนเถอะ ” มู่ลี่หยานไม่อยากพูดอะไรมากที่นี่
เมื่อก่อนเขาคิดว่าลูกผู้หญิงต้องตามใจให้มากๆ เธออยากทำอะไร ก็ปล่อยให้เธอทำ เเต่จากหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้เขารู้สึกว่ามู่หวันฉีถูกตามใจมากเกินไป
มู่นวลนวลพูดขึ้น: ” งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ ”
มู่ลี่หยานมองไปที่มู่นวลนวล สีหน้าของเขาอ่อนโยนขึ้นนิดหน่อย: ” อืม เธอกลับไปก่อนเถอะ กลับไปแล้วก็อย่าลืมพูดกับโม่ถิงเซียวด้วยล่ะ ”
” ค่ะ ”
มู่นวลนวลออกจากมู่กรุ๊ป ความรู้สึกที่เเสดงออกมาทางสีหน้าดูเคร่งขรึม เเละบริเวณระหว่างคิ้วของเธอก็เผยให้เห็นความเหนื่อยล้าอย่างชัดเจน
คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่มู่ลี่หยานจะโหดร้ายกับเธอตลอดเวลา มาตอนนี้กลับต้องการให้เธอช่วยในยามที่ตัวเองต้องการ มีเเต่จะทำให้คนยิ่งผิดหวังน่ะสิ
มู่นวลนวลกลับถึงบ้าน พอเข้าไปในบ้าน เธอก็เห็นโม่เจียเฉินนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถง
มู่นวลนวลรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย: ” นายกลับมาเเล้วหรอ? ”
” อือ ” โม่ถิงเซียวเงยหน้ามองเธอนิดหน่อย พอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเธอไม่มีอะไรเปลี่ยนไป เขาก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที
มู่นวลนวลไม่รับรู้ถึงอารมณ์ของเขา: ” งั้นฉันไปทำอาหารเเล้วนะ ”
เธอเพิ่งเดินไปถึงห้องครัว หลังจากนั้นซือเย่ก็เอาเอกสารมาส่งในคฤหาสน์
ซือเย่เห็นโม่ถิงเซียวนั่งอยู่บนโซฟา เขาจึงพูดถามขึ้น: ” คุณชายครับ จะให้ผมนำเอกสารพวกนี้ไปวางไว้ในห้องหนังสือไหมครับ? ”
โม่ถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร ซือเย่จึงกำลังจะนำเอกสารขึ้นไปชั้นบนอย่างรู้งาน
สุดท้าย โม่ถิงเซียวกลับพูดขึ้นอย่างเงียบๆ: ” ซือเย่ ถ้าวันไหนนายไม่ได้กลับบ้าน ภรรยาของนายได้ใช้อารมณ์กับนายหรือเปล่า? ”
ซือเย่ได้ยินดังนั้น ก็ชะงักไปนิดหน่อย หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น: ” คุณชายครับ ผมหย่าเเล้วนะครับ ”
ตอนนี้โม่ถิงเซียวถึงได้เงยหน้าขึ้นมามองเขา: ” ตั้งเเต่เมื่อไหร่? ”
ซือเย่กับภรรยาของเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก เมื่อก่อน ทุกครั้งที่ไปทำงานต่างประเทศ เขาก็มักจะนำสิ่งของมากมายกลับมาให้ภรรยาของตัวเอง
” ครึ่งปีก่อนครับ ” เห็นได้ชัดว่าซือเย่จะไม่พูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
เขานึกถึงที่กูจื่อหยานพูดไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อคืนคุณชายไม่ได้กลับบ้าน พอรวมกับคำถามของโม่ถิงเซียว เขาก็เข้าใจได้ในทันที
เขาลังเลอยู่สักครู่ สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดเตือนคุณชายของตระกูลอยู่ดี: ” คุณชายครับ สถานะของคุณตอนนี้คือคุณชายรองนะครับ เมื่อคืนคุณชายรองไม่ได้กลับบ้าน ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหญิงเลยนะครับ ”
เขาเพิ่งพูดจบ ก็เห็นว่าสีหน้าของโม่ถิงเซียวขรึมลงนิดหน่อย
ซือเย่ก้มหน้า ที่เขาพูดคือความจริงทั้งหมด
โม่ถิงเซียวหน้าตึง เขามองซือเย่อย่างเยือกเย็น: ” นายกลับไปได้เเล้ว ”
ไม่ให้คนพูดความจริงอย่างนั้นหรอ?
ตอนนี้โม่ถิงเซียวฟังคำพูดแบบนี้ไม่ได้จริงๆ
ตอนทานอาหาร มู่นวลนวลสังเกตเห็นว่าโม่เจียเฉินทานอาหารน้อยมาก เอาเเต่จ้องเธออยู่ได้
มู่นวลนวลจับหน้าของตัวเองนิดหน่อย: ” นายเป็นอะไรไป? ”
สุดท้าย โม่เจียเฉินทำเพียงเเค่มองเธออย่างเยือกเย็น หลังจากนั้นเขาก็หมุนตัวขึ้นไปชั้นบน เเม้เเต่ข้าว ก็ไม่คิดจะทานเลยสักนิด
มู่นวลนวลมีสีหน้างุนงง
พอเธอทานอาหารเสร็จ อยู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์จากภรรยาของเจ้าของบ้าน
เจ้าของบ้านเป็นหญิงวัยกลางคนที่พูดจาหยาบคาย: ” ได้เวลาจ่ายค่าน้ำค่าไฟเเล้ว เธอจะเข้ามาตอนไหน? ”
” เดือนนี้ฉันไม่ได้พักที่นั่นหนิคะ ไม่มีค่าน้ำค่าไฟไม่ใช่หรอ? ” ช่วงนี้เธอพักอยู่ที่คฤหาสน์ บ้านที่นั่นได้เช่าไว้ล่วงหน้า เเละถ้ายังไม่ครบเวลากำหนด ก็คืนห้องไม่ได้ จึงปล่อยว่างมาโดยตลอด
พอเจ้าของบ้านได้ฟังคำพูดของเธอ ก็อารมณ์ไม่ดีทันที: ” เหลวไหล เมื่อคืนบ้านของเธอยังเปิดไฟสว่างอยู่เลย! ”
มู่นวลนวลรู้สึกตกใจ คงไม่ใช่เป็นขโมยหรอกใช่ไหม?
เธอไม่อยากเถียงกับเจ้าของบ้านเเล้ว จึงพูดเพียง: ” ได้ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะเข้าไป ”
ตอนเช้าวันต่อมา มู่นวลนวลลางานไปบ้านที่ตัวเองได้เช่าไว้
พอถึงหน้าประตูทางเข้า เธอก็ได้ลองแนบหูฟังอยู่สักครู่ เเละพบว่าด้านในไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เธอจึงจัดสินใจเปิดประตูเข้าไป
พอเข้ามาด้านใน เธอก็ตะลึงไปทันที พบว่าภายในห้องรก เเละไม่เป็นระเบียบมาก
บนพื้นเต็มไปด้วยกล่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับถุงขนมขบเคี้ยวต่างๆ นอกจากนี้ บนโต๊ะยังมีเครื่องเล่นเกมวางไว้อยู่ด้วย
นี่มันขโมยขึ้นบ้านที่ไหนล่ะ นี่มันถูกตัวประหลาดบุกรุกบ้านชัดๆ เเม้เเต่ที่ให้เธอวางเท้าก็ยังไม่มีเลย!
เเละในตอนนี้ ก็ได้มีเสียงอ่อนวัยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเธอ: ” คุณเป็นใคร? ”
มู่นวลนวลหันกลับไป ก็เห็นเด็กผู้ชายตัวผอมยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า ผมหยักโศกนั้นดูยุ่งไม่เป็นทรง เเต่ตัวของเด็กคนนั้นขาว เเละสะอาดสะอ้านมาก เเถมยังหน้าตาดีมากอีกด้วย เนื่องจากอยู่กับโม่เจียเฉินมานาน เธอมองแป๊บเดียวก็รู้เเล้วว่าเสื้อผาที่อยู่บนตัวเด็กผู้ชายคนนี้ เป็นยี่ห้อเดียวกับที่โม่เจียเฉินใส่บ่อยๆ
” ฉันเป็นผู้เช่าบ้านหลังนี้ นายเป็นใคร? ” เด็กหนุ่มดูเหมือนจะอายุประมาณสิบสี่สิบห้าปี เห็นดังนั้น มู่นวลนวลจึงลงความระวังลง
” อ้อ ” เด็กหนุ่มเดินเข้ามา เขาวางสิ่งของบนมือลงไปที่โต๊ะชาอย่างเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นก็นั่งลงไปบนโซฟา เเละทำเหมือนที่นี่ไม่มีใคร ราวกับอยู่ในบ้านของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
คล้ายกับเขารับรู้ถึงสายตาของมู่นวลนวล เขาจึงเงยหน้าขึ้นมามองเธอ: ” คุณสวยมากเลย มีเเฟนเเล้วหรือยัง? ”
” ฉัน…… ” มู่นวลนวลกำลังจะพูด เเต่เธอเพิ่งรู้ตัวว่าปัญหาตอนนี้คือต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นใคร
มู่นวลนวลเห็นเขาเเต่งตัวได้อย่างพิถีพิถัน เธอจึงเดาว่าเขาอาจจะเป็นเด็กที่หนีออกจากบ้าน เเละได้ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง: ” ทำไมนายถึงพักอยู่ที่นี่ พ่อเเม่ของนายล่ะ? ”
เด็กหนุ่มไม่สนใจคำพูดของเธอ: ” ผมชื่อโม่เจียเฉิน คุณชื่ออะไร? ”
” ????? ” อะไรนะ?
โม่เจียเฉินงั้นหรอ?
เห็นมู่นวลนวลมีท่าทีตกใจ เด็กหนุ่มคนนั้นจึงเผยสีหน้ารำคาญออกมา: ” เห้อ ผมมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโม่ในเซี่ยงไฮ้นิดหน่อย เเต่คุณไม่จำเป็นต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้หนิ! ”