หลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์ มู่นวลนวลก็หอบโน้ตบุ๊คมานั่งที่ริมหน้าต่าง เธอเขียนบทความไปด้วย เเละคอยสังเกตว่าด้านนอกมีรถมาด้วยหรือเปล่า
จนกระทั่งตกกลางคืน ถึงจะเห็นรถยนต์สีดำขับเข้ามา
คนขับรถลงมาเปิดประตูที่นั่งเบาะหลัง โม่เจียเฉินเดินลงมาจากด้านในรถ
มู่นวลนวลสายตาดี เธอมองเเวบเดียวก็จำได้ว่าคนขับรถคือซือเย่
ซือเย่เป็นเลขาของโม่ถิงเซียว กลับมาช่วยโม่เจียเฉินขับรถอยู่บ่อยๆ
โม่เจียเฉินลงจากรถ หลังจากนั้นเขาก็สั่งงานกับซือนิดหน่อย ซือเย่พยักหน้ารับฟังอย่างเคารพนบนอบ
มู่นวลนวลถือโอกาสนี้หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความหาเบอร์ของโม่ถิงเซียว
พอส่งข้อความเสร็จ เธอก็สังเกตเห็นว่าโม่เจียเฉินเงยหน้าขึ้นมามองตรงที่เธออยู่ เเต่โชคดีที่เธอปิดผ้าม่านเเล้ว จึงมีเพียงรอยต่อเล็กๆเท่านั้น
หลังจากที่เขามองมาทางนี้เเล้ว เขาก็หันไปพูดกับซือเย่ต่ออีกนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ก้มหน้าล้วงโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋ากางเกง……
อยู่ห่างกันเกินไป มู่นวลนวลจึงมองไม่เห็นว่าเขากำลังดูอะไรอยู่
เเต่ใจของเธอกลับเต้นเร็วขึ้น เร็วจนน่ากลัว
คำพูดของเสี่ยวโม่เจียเฉินรวมกับเค้าลางต่างๆ ทั้งหมดล้วนบ่งบอกว่าโม่เจียเฉินอาจเป็นโม่ถิงเซียว เเต่มู่นวลนวลยังไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นความจริง
เธอถึงกับไม่กล้าไปคาดคั้นกับโม่เจียเฉิน
เรื่องนี้ค่อนข้างเหลวไหลเกินไปหน่อย!
โม่เจียเฉินเป็นคนที่รอบคอบมาก ถ้าเขาเป็นโม่ถิงเซียวจริงๆ เมื่อสักครู่เขาก็ต้องได้รับข้อความของเธอ เเละเป็นเรื่องปกติที่เขาจะมองมาทางห้องของเธอโดยไม่รู้ตัว หลังจากได้รับข้อความ
เพื่อไม่ให้เขาสงสัย มู่นวลนวลก็ได้เปลี่ยนเป็นชุดนอน ทำผมให้ยุ่งเหยิง เเละเเสร้งทำเป็นนอนหลับอยู่บนเตียง
ไม่นานก็มีคนมาเคาะประตู
” มู่นวลนวล ”
อารมณ์ของมู่นวลนวลแปรปรวนตลอดทั้งวัน เส้นประสาทของเธอตึงเครียด เธอนอนอยู่บนเตียง เเละใกล้จะหลับเเล้วเต็มที เเต่ดันได้ยินเสียงคนเรียกเธอสะก่อน
สมองเบลอ เธอเดินไปเปิดประตูอย่างสลึมสลือ: ” ใครกัน! ”
พอเปิดประตู ก็เห็นโม่เจียเฉินกำลังยืนอยู่หน้าประตู
โม่ถิงเซียวมองเธออย่างสังเกต พอเห็นเธอหรี่ตาลง เเละดูเหมือนไร้เรี่ยวเเรง เขาจึงขมวดคิ้วถาม: ” เป็นอะไร? ไม่สบายหรอ? ”
มู่นวลนวลตื่นเต็มตาทันที เสียงที่พูดออกมามีความแหบเฉพาะเหมือนตอนเพิ่งตื่นนอน: ” เปล่า กำลังนอนอยู่ ”
เธอใส่ชุดนอนสีชมพูรูปแมว ผมยุ่งไม่เป็นระเบียบ ใบหน้าขาวเเดงเป็นเลือดฝาด ดูน่ารักเป็นอย่างมาก
โม่ถิงเซียวนึกถึงเมื่อตอนกลางวัน ที่เธอตั้งใจโทรศัพท์ไปบอกว่าจะเอาข้าวกล่องไปให้เขา คิดได้ดังนั้น สีหน้าของเขาก็ผ่อนคลายลงทันที เเม้เเต่เสียงที่ทุ้มต่ำ ก็ยังปะปนไปด้วยความอ่อนโยนอย่างน่าเเปลกประหลาด: ” งั้นคุณนอนต่ออีกหน่อย ฉันจะให้คนไปทำอาหาร เสร็จเเล้วจะมาเรียกคุณล่ะกัน ”
” ……ค่ะ ” มู่นวลนวลมองเขาอย่างตะลึง เป็นครั้งเเรกที่เธอเห็นโม่เจียเฉินในเวอร์ชั่นอ่อนโยนแบบนี้
โม่ถิงเซียวเห็นเธอมีท่าทีมึนงง เขาก็อดไม่ไหว จึงเอื้อมมือไปลูบผมที่ยุ่งไม่เป็นทรงของเธอ หลังจากนั้นก็ผลักเธอเข้าไปในห้อง: ” ไปนอนต่อสิ ”
จนกระทั่งมู่นวลนวลกลับไปนอนลงบนเตียงอีกครั้ง เธอก็ยังไม่ตอบสนองกลับมา
เธอลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว เเละจับผมตัวเองอย่างร้อนใจ
ทำไมโม่เจียเฉินพูดอ่อนโยนนิดเดียว เธอถึงกลับมานอนบนเตียงอย่างว่านอนสอนง่ายได้ล่ะ?
เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สบาย!
เป็นความคิดแปลกประหลาดที่ว่าเป็นเรื่องปกติที่จะต้องต่อสู้กับโม่เจียเฉิน มู่นวลนวลพลิกตัวลงจากเตียง เเละเปิดประตูออกไป
ตอนที่เดินผ่านห้องหนังสือ เธอก็ได้เอื้อมมือไปเคาะประตู: ” โม่ถิงเซียว คุณอยู่ในนี้ไหม? ”
วินาทีต่อมา โทรศัพท์ของเธอก็สั่น
เป็นข้อความที่โม่ถิงเซียวส่งให้เธอ: มีธุระอะไร?
มู่นวลนวลตอบข้อความกลับไปหาเขา: คุณอยู่ในห้องหนังสือ?
ฝ่ายนั้นตอบคำว่า ” อืม ” มาหนึ่งคำ
มู่นวลนวลจ้องไปที่คำว่า ” อืม ” มือข้างที่ถือโทรศัพท์กำเข้าหากันแน่นทันที เธอเม้มริมฝีปากแน่น เเละหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาทันที
ตลอดทั้งบ่าย เธอเฝ้าอยู่ที่ริมหน้าต่างมาโดยตลอด จนกระทั่งตอนกลางคืน นอกจากรถของโม่เจียเฉิน ก็ไม่มีรถคันอื่นขับเข้ามาในคฤหาสน์อีก
เเล้วโม่ถิงเซียวกลับมาได้ยังไง?
บินมาอย่างนั้นหรอ?
หรือทะลุเข้ามาจากใต้ดิน?
มู่นวลนวลรู้สึกวู่วาม เธออยากเข้าไปในห้องหนังสือ เเล้วฉีกหน้ากากของโม่เจียเฉินออกให้รู้เเล้วรู้รอด
มิน่า โม่ถิงเซียวที่ไม่เคยปรากฏตัวออกมาต่อหน้าผู้คนจะสนิทสนมกับ ” ลูกพี่ลูกน้อง ” ขนาดนั้น ไม่เพียงเเต่จะให้ ” ลูกพี่ลูกน้อง ” มาพักอาศัยอยู่ในบ้านของเขาเเล้ว เขายังอนุญาตให้ ” ลูกพี่ลูกน้อง ” คนนี้มาเอารัดเอาเปรียบภรรยาของเขาอย่างใกล้ชิดขนาดนี้อีกด้วย
โม่เจียเฉินเป็นฝ่ายเข้ามาเเหย่เธอที่ ” ขี้เหร่ ” ในตอนนั้น คงมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผลเเล้วล่ะ
เเต่งงานกับภรรยาที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน ผู้ชายทั่วไปคงจะไปดูเเล้วว่าภรรยาที่เพิ่งเเต่งงานคนนี้หน้าตาเป็นยังไง สุดท้ายพบว่าภรรยาที่เพิ่งเเต่งงานไม่รู้จักตัวเอง จึงปล่อยเลยตามเลย เเละให้เธอยอมรับความผิดพลาดด้วยตัวเอง
ไม่มีอะไรทำ จึงยืมสถานะของลูกพี่ลูกน้องมาหยอกล้อสักหน่อย เห็นเธอโกรธแบบนี้ เขารู้สึกภูมิใจมากใช่ไหม?
มู่นวลนวลกัดริมฝีปาก เเล้วจะคอยดูว่าใครจะภูมิใจไปจนถึงตอนสุดท้าย!
……
ตอนทานข้าว มู่นวลนวลนั่งฝั่งตรงข้ามกับโม่เจียเฉิน เธอทานอาหารไปด้วย เเละมองเขาอยู่บ่อยครั้ง
ตอนที่เขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังมองอยู่ เธอก็รีบเก็บสายตาลงอย่างรวดเร็ว เเละทำเป็นคีบอาหารให้เขา: ” ทำงานมาเหนื่อยๆ ทานเยอะๆนะคะ ”
โม่เจียเฉินทานอาหารนิ่งๆ เขาไม่ได้พูดอะไร
มู่นวลนวลรู้ดีว่าสิ่งที่สวยที่สุดบนร่างกายของเธอคือดวงตา เซินเหลียงเคยบอกว่าตอนที่เธอตั้งใจมองคนคนนึง ก็เหมือนกับการยั่วยวนที่เปลือยเปล่า
ใช้สถานะของลูกพี่ลูกน้องปลุกปั่นเธอ มีความสุขมากใช่ไหม!
ถ้าภรรยาของตัวเองไปหลงชอบลูกพี่ลูกน้องขึ้นมาจริงๆ เเละสวมเขาให้กับเขา ไม่รู้ว่าเขาจะยังมีความสุขอยู่อีกหรือเปล่า
เเต่จิตใจของโม่เจียเฉินเเน่วเเน่มาก
โดยปกติ มีหรือไม่มีอะไรทำ เขาก็จะเเกล้งเธอ จูบเธอ มาตอนนี้เธอเป็นฝ่ายจู่โจมเอง เขากลับนิ่งราวกับภูเขา เเม้เเต่สายตาส่วนเกิน ก็ไม่มีให้เธอเลยด้วยซ้ำ
เเละนี่ทำให้มู่นวลนวลรู้สึกสูญเสียความมั่นใจนิดหน่อย
จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ โม่เจียเฉินก็หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดปากอย่างเอ้อระเหย หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาช้าๆ: ” ภรรยาของพี่ชายจ้องฉันตลอดแบบนี้? หรือคิดได้เเล้วว่าจะมาอยู่กับฉัน? ”
” ใช่ค่ะ! ” ที่มู่นวลนวลรอก็คือคำพูดของเขาคำนี้เเหละ หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อ: ” นายทั้งหน้าตาดี ทั้งดีกับฉัน ดีกว่าพี่ชายของนายสะอีก เเม้เเต่คนโง่ก็ยังรู้เลยว่าควรจะเลือกใคร ก่อนหน้านี้ฉันมันโง่เกินไป เเต่ดีที่ตอนนี้ฉันคิดได้เเล้วค่ะ ”
พอมู่นวลนวลพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นเดินไปด้านหลังโม่เจียเฉิน หลังจากนั้นก็เอียงศีรษะ เเล้วจูบลงไปบนใบหน้าของเขา เธอรู้สึกได้ว่าเขาตัวเเข็งนิดหน่อย เธอเผยอริมฝีปาก ขยับเข้าไปเป่าลมที่ข้างหูของเขา เเละพูดขึ้น: ” ฉันขอกลับไปอาบน้ำที่ห้องก่อนนะคะ…… ”
เธอพูดคำว่า ” อาบน้ำ ” ได้เบามาก เสียงตอนจบเอ้อระเหย เเสดงให้รู้ถึงการเชื้อเชิญ
มู่นวลนวลไม่ถนัดเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ คำประเภทที่ว่า ” คืนนี้ฉันจะรอคุณ ” เธอพูดมันไม่ออกจริงๆ
พอพูดจบ เธอรู้สึกว่าความกดอากาศรอบตัวลดต่ำลง ชวนให้คนหยุดหายใจ
เเค่นี้ก็โกรธเเล้วหรอ? ที่ต้องโกรธน่ะอยู่ตอนหลังต่างหากล่ะ!
มู่นวลนวลรีบปลีกตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนที่เดินมาถึงประตู เธอก็หันไปทำสายตาที่อยากจะพูดอะไรบางอย่างกับโม่เจียเฉิน
เเละสีหน้าของโม่เจียเฉินก็ได้เปลี่ยนไปทันที