มู่นวลนวลไม่ค่อยสนิทกับกูจื่อหยานนัก เลยไม่ค่อยรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน
แต่ข่าวลือบนโลกออนไลน์ กูจื่อหยานก็คือผู้ชายเจ้าชู้หน้าหม้อ เปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ข่าวฉาวเกี่ยวกับผู้หญิงมีเป็นภูเขาเลากา แต่ข่าวคาวทั้งหมดของเขาล้วนเป็นรูปภาพที่ไม่มีมูล ไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรมจริงๆ สักอัน
เพราะฉะนั้นตอนนี้ แม้กูจื่อหยานจะเป็นคนที่มีข่าวฉาวเยอะจนล้น แต่ก็ไม่เคยเลยที่จะยอมรับว่าผู้หญิงคนไหนเป็นแฟนของเขาจริงๆ
แต่เพราะว่ากูจื่อหยานร่วมมือกับโม่ถิงเซียวโกหกเธอ และก็เพราะไม่ยอมทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเซินเหลียงชัดเจนเสียที มู่นวลนวลเลยมีความประทับใจต่อกูจื่อหยานที่ไม่ดีนัก
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่มู่นวลนวลก็ไม่ได้ร่วมวงด่าทอกูจื่อหยานกับเซินเหลียง
เธอมองดูรูปภาพอีกครั้ง วิเคราะห์อย่างรอบคอบให้เซินเหลียงฟัง “รูปภาพนี้ถูกถ่ายที่หน้าร้านจินติ่ง และยังเป็นตอนกลางคืน แสดงว่าต้องมีคนคอยจับตามองกูจื่อหยานตั้งแต่แรก กูจื่อหยานเป็นเสือใหญ่ในวงการบันเทิง ปกติพวกสื่อจะไม่กล้าเขียนข่าวเกี่ยวกับเขามั่วๆ และก็ไม่กล้าปรักปรำเขามั่วๆ แน่”
“ก็ผลมันออกมาเป็นแบบนี้แล้ว จะอธิบายเป็นอะไรได้อีกล่ะ” เซินเหลียงมีท่าทีสงบลง “เขาควงผู้หญิงสองคนเข้าไปสนุกกัน ไม่ได้ออกมาเลยทั้งคืนเลยนะ”
มู่นวลนวลรู้สึกว่าเซินเหลียงพูดมีเหตุผล
เธอไม่รู้ว่า ระหว่างพวกเขาสองคนเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก่อน แต่เธอรู้ว่า เซินเหลียงกับกูจื่อหยาน ทั้งคู่ตัดขาดกันไม่ลง
ไม่อย่างนั้นกูจื่อหยานที่ไม่สามารถเจอเธอได้ทุกครั้ง ก็จะคอยฟังข่าวคราวความเป็นไปของเธอจากคนอื่น เซินเหลียงเอง ก็คงไม่ใช่เพราะว่าได้ยินข่าวนี้แล้วจึงโทรมาหาเธอเพื่อด่ากูจื่อหยานให้ฟังหรอก
………
เมื่อข่าวของกูจื่อหยานถูกปล่อยออกมา บรรดาขาเมาท์บนโลกออนไลน์ต่างก็เนื้อเต้น
หน้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวกูจื่อหยานในเวยป๋อ มีแต่ข้อความที่ไม่ธรรมดา
“ท่านประธานกูของพวกเรา แหม่เดี๋ยวนี้ล่อทีเดียวสองคนเลยหรอ”
“มีน้ำยาเล่นไปทั่ว แต่ไม่ยอมรับเป็นแฟนจริงๆสักคน”
“ไม่กลัวติดโรคหรอ”
“เจ้าพ่อกู ครั้งนี้ดันไม่ใช่ดาราว่ะ”
“ทุกคนมาปักหมุดกางเสื่อกันแล้วหรอ ไม่รู้ทุกคนจะยังจำกันได้ไหม เรื่องโรงงานมู่กรุ๊ป เดี๋ยวใส่แท็กไว้ให้ จะได้ไปเผือกต่อกันแบบสะดวกๆ #เบื้องหลังโรงงานมู่กรุ๊ป ”
มีข้อความตอบกลับความเห็นนี้เยอะมาก
“คิดว่าก็ดูมีเหตุผลนะ”
“ประธานกูสุดหล่อก็เลยช่วยเป็นแพะรับผิดหรอ”
“ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง มู่กรุ๊ปก็โคตรต่ำเลย”
“ประธานกูผู้น่าสงสาร”
“……..”
มู่นวลนวลเลื่อนดูความคิดเห็นพวกนี้จบ ก็ไปดูอันดับหัวข้อยอดนิยม ไม่มีหัวข้อที่เกี่ยวกับเบื้องหลังโรงงานมู่กรุ๊ปแล้ว
มู่นวลนวลถ่ายภาพหน้าจอความคิดเห็นพวกนี้ส่งไปให้เซินเหลียง แล้วก็พิมพ์ข้อความโน้มน้าวเธอ “ถ้าเธอยังสนใจอยู่ จะลองฟังกูจื่อหยานอธิบายดูก่อนก็ไม่เสียหายอะไรนี่”
แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยเข้าใจกูจื่อหยานนัก แต่เธอเข้าใจเซินเหลียง
เซินเหลียงโตกว่าเธอ 2 ปี เธอรู้จักเซินเหลียงตั้งแต่ขึ้นมอปลาย จนถึงตอนนี้ก็ 6 ปีแล้ว
6 ปีมานี้ ผู้ชายที่ตามจีบเซินเหลียงเยอะจนนับไม่ไหว มีเยอะราวกับปลาในมหาสมุทร ในบรรดาผู้ชายที่เข้ามาก็เป็นคนดีมีชาติตระกูล
แต่เซินเหลียงก็ใจแข็งเป็นหิน ไม่เคยหวั่นไหวกับผู้ชายคนไหนเลยแม้แต่คนเดียว
เมื่อก่อนมู่นวลนวลก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ต่อมาเมื่อเห็นสายตาที่เซินเหลียงใช้มองกูจื่อหยาน เธอก็ค่อยๆ เข้าใจ
ถ้าปักใจไปกับใครคนใดคนหนึ่งแล้ว ต่อให้มีคนที่ดีกว่าเข้ามา ก็ไม่อยู่ในสายตาแล้ว
“ฟังคำอธิบายสั่วๆ นะสิ ผู้ชายสารเลว” แม้ว่าเซินเหลียงจะด่ากูจื่อหยาน แต่น้ำเสียงก็อ่อนลงมากแล้ว
……..
พอเลิกงาน ซือเย่ก็มารับมู่นวลนวล
โม่เจียเฉินก็อยู่บนรถ สงสัยเขาจะไปรับโม่เจียเฉินก่อน เลยแวะมารับเธอต่อ
“พี่นวลนวล” เมื่อโม่เจียเฉินเห็นเธอ ก็เอ่ยปากเรียก หัวก็มุดอยู่ในกระเป๋าคุ้ยหาของ
มือหนึ่งก็หยิบสมุดขึ้นมา อีกมือก็หยิบโทรศัพท์กดเครื่องคิดเลข กำลังคำนวณอะไรบางอย่างอยู่
“นายทำอะไรน่ะ” มู่นวลนวลเอนหัวเข้าไปดูด้วยความสงสัย สมุดที่เขาถืออยู่คือสมุดการบ้านของเด็กประถม
โม่เจียเฉินรีบเอาสมุดยัดเก็บลงกระเป๋า พร้อมพูดที่ข้างหูเธออย่างลับๆ ล่อๆ ว่า “เธออย่าไปบอกพี่นะ”
“บอกพี่นายเรื่องอะไร” มู่นวลนวลถาม “เธอเอาสมุดการบ้านเด็กประถมมาทำอะไร”
“ผมกำลังหาตังค์ ผมช่วยพวกเขาทำการบ้าน เล่มละร้อย”
“………” ยังมีหัวธุรกิจทางนี้อีก
มู่นวลนวลประมวลข้อมูลที่ได้รับมาสามวินาที “เงินไม่พอใช้หรอ”
“พี่หักเงินค่าขนมผม ผมไม่มีเงินไปเล่นเกมส์” โม่เจียเฉินพูดออกมาอย่างเจ็บปวด
หลังจากนั้นก็ถามมู่นวลนวลอย่างไม่แน่ใจว่า “เรื่องเธอกับพี่นี่มันยังไงกันแน่ ผมก็รู้นะว่าทั้งคู่ไม่ถูกกัน แต่ผมยังไม่เข้าใจว่าระหว่างพวกพี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วผมก็คิดว่า เหมือนพี่จะแค้นผมมาตลอด เมื่อก่อนแม้ว่าเขาจะร้ายกับผมมาก แต่ก็ไม่เคยหักเงินค่าขนมผมเลย”
ฮ่าฮ่า นั่นคงไม่ใช่เพราะว่าการปรากฎตัวขึ้นของโม่เจียเฉิน ทำลายการปลอมตัวของโม่ถิงเซียว ทำให้แผนของเขาพังหรอ
พูดขึ้นมาแล้วเธอก็รู้สึกขอบคุณโม่เจียเฉิน ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอก็คงจะโดนโม่ถิงเซียวสวมเขาอยู่
แต่ว่าเรื่องของผู้ใหญ่แบบนี้ คงไม่จำเป็นต้องบอกโม่เจียเฉินหรอก
เธอพูดปลอบโม่เจียเฉิน “ถ้าเงินไม่พอใช้จริงๆ ก็มาหาฉัน……”
โม่เจียเฉินโบกมือบอกปัดอย่างเย็นชา “เธอยังหาเงินได้ไม่มากพอ”
“…….”
มู่นวลนวลมองดูกระเป๋าของโม่เจียเฉินที่ตุงไปด้วยสมุดการบ้าน ดูแล้วน่าจะมีมากกว่าสิบเล่ม ถ้าอย่างนั้นวันวันหนึ่งก็หาเงินได้เป็นพันเลยหรอ
พอคำนวณแล้ว เธอก็หาเงินได้ไม่เท่าโม่เจียเฉินจริง
“เด็กนักเรียนประถมสมัยนี้ เขามีเงินกันมากแบบนี้เลยหรอ” ช่วยทำการบ้านให้หนึ่งครั้ง ก็จ่ายหนึ่งร้อย
โม่เจียเฉินหยักหน้า “หลังโรงเรียนผมมีโรงเรียนประถมของพวกชนชั้นสูงอยู่”
มู่นวลนวล “………” ขอบเขตจินตนาการของเธอถูกจำกัดด้วยความยากจนอัตคัดของตัวเธอเอง
……….
เมื่อกลับไปถึง โม่เจียเฉินก็รีบกลับเข้าห้องของตัวเองไป และเริ่มแผนการหาเงินขนานใหญ่ของเขา
มู่นวลนวลกลับห้องไปเขียนโครงร่าง โม่เจียเฉินที่มักจะทำตัวเป็นเด็กๆ ยังคิดวิธีหาเงินได้เยอะขนาดนั้น เธอก็จะทิ้งหน้าที่การงานของตัวเองไม่ได้
ช่วงนี้เธอกำลังเขียนบทละครแนวลึกลับสืบสวนสอบสวน เซินเหลียงรอให้เธอเขียนเสร็จ ก็จะช่วยเธอติดต่อหาผู้กำกับและบริษัท เพื่อให้ช่วยพิจารณาว่าบทละครนี้จะขายได้ไหม
แต่ก็ไม่ใช่แผนระยะยาวของมู่กรุ๊ป
เขียนไปได้สักพักก็ไม่มีอารมณ์แล้ว เลยออกไปจากห้องเพื่อขยับตัว
โม่ถิงเซียวกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กำลังคุยอยู่กับกูจื่อหยานที่ห้องโถง
มู่นวลนวลไม่มีนิสัยชอบแอบฟังเวลาคนอื่นคุยกัน ก็เลยหันหลังคิดจะกลับเข้าห้อง แต่ก็เผอิญได้ยินคำว่า “มู่กรุ๊ป” ดังออกมา
เธอถอยกลับมา ค่อยๆ ขยับเข้าไปให้ใกล้ขึ้น ก็ได้ยินเสียงมีน้ำโหของกูจื่อหยาน “คนตระกูลมู่เป็นประสาทกันหมดทุกคนหรอ เวลาแบบนี้กลับไม่ออกไปแก้ไขปัญหา เอาเงินซื้อสื่อลากชั้นลงเหวด้วย อยากจะหันเหความสนใจของผู้คน เอาคนอื่นมารับลูกกระสุนแทน พวกสมองกลวง แล้วนายก็ไม่ต้องมาห้ามฉันนะ ฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด”
“อื้ม” โม่ถิงเซียวตอบกลับอย่างเรียบๆ พูดขึ้นเบาๆ ว่า “เมียฉันก็สกุลมู่นะ”
“……..” กูจื่อหยานที่อารมณ์พุ่งถึงขีดสุดก็สงบลงทันที เขากระแอมไอก่อนพูด “คนตระกูลมู่นอกจากมู่นวลนวลแล้ว เป็นพวกสมองกลวง”