หลั๋วหยิ๋งไม่ได้เห็นที่มู่นวลนวลเอาขวดตีผู้ชายคนนั้น เธอโมโหมากมองไปที่มู่นวลนวล : “มาสิ ทำให้ฉันเสียโฉมเลย”
มู่นวลนวลยกมือขึ้นจะเอาขวดประทับลงบนหน้าเธอ หลั๋วหยิ๋งยกมือขึ้นมาปิดหน้า ปากก็ร้องเสียงแหลม
“อ้า!!”
เสียงเธอดังมากจนได้ยินเสียงสะท้อนภายในห้อง แต่มู่นวลนวลก็ไม่ได้ประทับขวดลงบนหน้าเธอ
มู่นวลนวลยิ้มเยาะเย้ย พูดเสียงเบา : “ทำเป็นอวดเก่ง”
หลั๋วหยิ๋งเสียหน้า กลัวจนหน้าซีด เธอไม่ได้ยืนขึ้นในทันที แถมอีกยังส่งสายตาให้คนข้างหลังมู่นวลนวล
ก่อนที่มู่นวลนวลจะรู้ตัวเธอก็โดนคนข้างหลับจับตัวเธอแล้ว
ครั้งนี้เซินเหลียงเริ่มจะได้สติ
เธอลุกขึ้นมาคล้อมหลั๋วหยิ๋งแล้วจิกผมเธอ : “ไปตายซะ! เรื่องของเธอกับฉันมาเคลียร์กับฉัน อย่ายุ่งกับเพื่อนฉัน ครั้งก่อนที่ลักพาตัวฉัน ฉันไม่เอาเรื่องเพราะคิดแค่ว่าหมามันกัด แต่วันนี้เธอเป็นคนหาเรื่องเองฉันไม่ฆ่าหมาทิ้งก็อย่าเรียกฉันว่าเซินเหลียง………”
คนที่หลั๋วหยิ๋งพาเข้ามาจับตัวมู่นวลนวลไว้ อีกสองถึงสามคนก็ไปช่วยเธอ
แต่พวกเขาแยกเซินเหลียงออกจากหลั๋วหยิ๋งไม่ได้
มู่นวลนวลไม่ได้เสียเปรียบอะไร
สักพักกลับกลายเป็นทะเลาะกันทั้งห้อง แต่คนที่ไม่อยากมีเรื่องก็แอบไปหลบที่มุม แต่ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอ
คนที่อยู่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงเดิมทีก็เป็นคนฉลาด
แม้ว่าหลั๋วหยิ๋งจะมีข่าวเสียหายอยู่บ้าง แต่ข่าวเสียหายของเธอไม่ดังเท่ากับข่าวเสียหายของเซินเหลียง เรื่องซุบซิบของทั้งสองมีไม่น้อย ถ้าเกิดว่าเรื่องที่สองคนนี้มีเรื่องตบตีกันถูกแพร่ออกไปคงได้เป็นข่าวใหญ่แน่นอน
ทันใดนั้น ได้ยินเสียง “ปัง!” ประตูถูกเปิดออก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เป็นเสียงผู้ชายที่พูด
มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมอง แอบคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้ เหมือนว่าจะเป็นผู้จัดการร้านเหล้า
เสียงของผู้จัดการทำให้เสียงทุกคนในห้องเงียบลง
เซินเหลียงและหลั๋วหยิ๋งที่กำลังจิกหัวกันอยู่บนพื้น หลั๋วหยิ๋งรู้จักกับผู้จัดการ เธอเรียกเขา : “นายรีบมาแยกผู้หญิงคนนี้ออกจากฉัน”
ผู้จัดการไม่สนใจแต่หันหน้ากลับไปถามคนข้างหลังอย่างเคารพ : “ไม่ทราบว่าประธานกูกำลังหาใครอยู่ครับ?”
มู่นวลนวลหันหน้ากลับไปมองก็เจอเข้ากับกูจื่อหยานที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ
แต่มู่นวลนวลตอนนี้มือถือขวดอยู่ ผมก็โดนผู้ชายคนนั้นกระชากไว้ มือของเธออีกข้างกำลังดึงเสื้อของผู้หญิงอีกคนอยู่
เป็นอะไรที่น่าอายมาก
กูจื่อหยานช็อกกับสิ่งที่เห็น พูดเสียงแข็ง : “ปล่อยมือ!”
เขารู้แค่ว่ามู่นวลนวลทำอาหารอร่อยแต่ไม่ยักรู้ว่าเรื่องแบบนี้เธอก็เก่งเหมือนกัน
คนกลุ่มนั้นรู้จักกูจื่อหยานว่าเขาเป็นใครก็ค่อยๆปล่อยมือ
มู่นวลนวลหันหลังกลับไปแตะคนที่กระชากผมเธอ : “ไม่รู้หรอว่าห้ามกระชากผมผู้หญิง?”
ผู้ชายคนนั้นเจ็บมากแต่ไม่กล้าทำอะไรมู่นวลนวลทำได้เพียงแสดงสีหน้าโกรธเธอ
ในตอนนี้ หลั๋วหยิ๋งกำลังทะเลาะตบกับเซินเหลียง ก็ทำเสียงอ้อน : “ประธานกู………”
เพราะว่ามู่นวลนวลยื่นอยู่ฉนั้นตอนที่กูจื่อหยานเดินเข้ามาเขาสังเกตุเห็นแค่มู่นวลนวลเท่านั้น
เสียงของหลั๋วหยิ๋ง “ประธานกู”เขาถึงสังเกตุเห็นทั้งสองที่อยู่บนพื้น
กูจื่อหยานสีหน้าไม่พอใจ เดินเข้าไปดึงแขนของเซินเหลียงลุกขึ้น
พอเซินเหลียงยืนขึ้นได้ก็สะบัดมือเขาออกอย่างแรง
หลั๋วหยิ๋งเป็นนักแสดงในสังกัด Shengding Media เธอก็รู้ดีว่าบริษัทจิงจี้ของเซินเหลียงและ Shengding Media เป็นคู่แข่งกัน ฉนั้นเธอจึงคิกว่ากูจื่อหยานมาช่วยเธอแน่นอน
เธอยืนขึ้นเอามือจับหน้าแล้วร้องไห้ : “ประธานกูคะ ฉันแค่อยากดื่มกับอาจารย์เซินเหลียงสักแก้ว ไม่คิดเลยว่าอาจารย์เซินเหลียงดื่มเมาแล้วจะทำร้ายคนอื่น………”
เธอร้องอย่างหนัก ราวกับพูดความจริงออกมา
กูจื่อหยานมองดูสภาพของเซินเหลียงเธอยับเยิน ผมยุ่งเหยิง เครื่องสำอางบนหน้าลบหมด คอและใบหน้าก็มีรอยเล็บข่วน
กูจื่อหยานไม่พอใจอย่างมากที่เห็นเช่นนั้น
ตั้งแต่มู่นวลนวลรู้จักกูจื่อหยาน เธอมองเห็นความเจ้าเล่ห์จากตัวเขา เห็นเขาที่อยู่ต่อหน้าโม่ถิงเซียวราวกับเป็นคนรับใช้ แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาแสดงท่าทีไม่พอใจได้เหมือนกับโม่ถิงเซียว
หันกลับไปมองหลั๋วหยิ๋ง เขาเสียงแข็ง : “หลั๋วหยิ๋ง เธอรู้ไหมว่าเซินเหลียงคือใคร?”
“เธอเป็น……เป็นใคร…….” หลั๋วหยิ๋งรู้สึกแปลกๆ เงยหน้าขึ้นมองกูจื่อหยาน
มู่นวลนวลสังเกตุเห็นว่าบนใบหน้าของหลั๋วหยิ๋งมีแผลเลือดออก คงจะเป็นเซินเหลียงที่ให้เล็บข่วนเธอ สภาพเธอดูแย่กว่าเซินเหลียงมาก
กูจื่อหยานยกมุมปาก แต่ก็ไม่ได้ยิ้ม: “เธอเป็นพ่อทูนหัวของฉัน”
เสียงเขาเบามาก แต่หลั๋วหยิ๋งได้ยินอย่างชัดเจน
พูดจบกูจื่อหยานหันมองทุกคนในห้อง สายตาไปหยุดที่ผู้หญิงสองคนที่หลบอยู่มุมห้อง
จากสีหน้าของทั้งสองคน พวกเธอตกใจและกลัวมาก กูจื่อหยานสั่ง : “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
ทั้งสองคนสีหน้าซีดเซียว พอรู้ว่ากูจื่อหยานเป็นใครจึงไม่กล้าพูดอะไรมากแล้วส่งโทรศัพท์ให้เขา
“ส่วนคนที่เหลือ แจ้งความเถอะ คนของ Shengding Media เกิดเรื่องในร้านของคุณ คุณต้องอธิบายให้เราฟังว่าเกิดอะไรขึ้น” กูจื่อหยานหันหน้าไปมองที่ผู้จัดการร้าน
ผู้จัดการร้านพยักหน้า : “ครับ ผมจะแจ้วให้เจ้านายของผมรู้และจะจัดการให้เรียนร้อยครับ”
กูจื่อหยานหันกลับไปมองเซินเหลียง พูดเสียงนุ่ม : “เราไปกันเถอะ”
เซินเหลียงมองไปที่เขา ทำเสียง ฮึ!ไม่พอใจแล้วเดินออกไปจากห้อง
มู่นวลนวลก็เดินตามไป
เธอและเซินเหลียงไปล้างหน้าที่ห้องน้ำแล้วแต่งตัวให้เรียนร้อย
พอเซินเหลียงล้างหน้าเสร็จหน้าเธอก็มีแค่ร้อยแดงเท่านั้นไม่มีเลือดเลย ราวกับไปได้เกิดอะไรขึ้น
แต่หน้าผากมู่นวลนวลมีรอยบวมใหญ่มากจนน่ากลัว
“เป็นอะไรไหม? ทำไมใหญ่อย่างนี้?” เซินเหลียงใช้นิ้วกดลงไปเบาๆ : “ใครหน้าไหนที่กล้าทำแบบนี้ ฉันจะไปจัดการมัน”
“ไม่เป็นไร ความสงบของเธอดีกว่าสิ่งใด” มู่นวลนวลส่ายหน้า
เซินเหลียงเอามือจับจมูก เป็นเพราะหลั๋วหยิ๋งที่ทำให้เกิดเรื่องในวันนี้
พอทั้งสองเดินออกจากห้องน้ำก็เจอกูจื่อหยานที่รอพวกเธออยู่ข้างนอก
กูจื่อหยานเดินเข้ามาจับหน้าเซินเหลี่ยง : “ให้ฉันดูแผลที่หน้าหน่อย”
“แผลอะไรไม่มี” เซินเหลียงสะบัดมือเขาออก แสดงท่าทีไม่พอใจ
มู่นวลนวลเห็นเช่นนั้นก็แอบยิ้ม ยกเท้าจะก้าวเดินไปข้างหน้าไม่อยากรบกวนพวกเขา
ขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงร้องเท้าที่เดินเข้ามาหาเธอ
พอเธอเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเป็นเงาของโม่ถิงเซียวที่ปรากฏขึ้น
แต่ว่า สีหน้าเขา…….น่ากลัวมาก