ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 127 วันนี้ที่ผมมาที่นี้ก็เพราะคุณ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลพึ่งจะสังเกตุเห็นมืออีกข้างหนึ่งของโม่ถิงเซียวถือหลอดยาอยู่

ที่จริงเขาแล้วจะทายาให้เธอ

มู่นวลนวลนั่งตัวตรงแต่ถอยหลังหลบนิดๆ “ฉันทาเองดีกว่า”

เธอกลัวโม่ถิงเซียวมือหนักเหมือนครั้งก่อนที่กดหน้าผากเธอ

“นั่งดีๆ!”

โม่ถิงเซียวทำเหมือนไม่ได้ยินที่เธอพูด เย็นชาใส่เธอจากนั้นเธอไม่กล้าพูดอะไรเลย

เขาบีบยาใส่มือแล้วแตะไปที่หน้าผากเธอเบาๆทายาตรงรอบๆรอยนูนเบาๆ มือเขาเบามาก แม้เธอจะเจ็บบ้างแต่ก็อดทนได้

อย่างไรก็ตาม มู่นวลนวลก็รู้สึกระแวงอยู่ดี เธอจ้องไปที่ตาของเขาขนตาที่ยาวเหยียดทำให้เธออดรู้สึกเอ็ดดูเขาไม่ได้

สีหน้าโม่ถิงเซียวก็เริ่มอบอุ่นขึ้น

“ครั้งหน้าห้ามไปร้านเหล้ากับเซินเหลียงอีก”

คนที่มีเรื่องกับพวกเธอวันนี้เขาไม่รู้จัก แต่เขารู้ดีว่าวงการบันเทิงน่ากลัวแค่ไหน เพื่อที่จะให้ตนเองโดงดังอาจจะขาดสติแล้วทำเรื่องบ้าๆลงไปก็ได้ใครจะไปรู้

โชคยังดีที่ผู้หญิงโง่คนนี้โทรหาเขา

มู่นวลนวลไม่ค่อยชอบน้ำเสียงของเขาในตอนนี้ : “วันนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น”

โม่ถิงเซียวทายาให้เธอเสร็จแล้วเช็ดมือ : “ประสบอุบัติเห็น โดนปล้น มีเรื่องไหนที่ไม่ใช่เรื่องที่ไม่คาดคิดบ้าง?”

“………” เรื่องพวกนี้เกี่ยวอะไรกัน?

มู่นวลนวลพูดไม่ออก

โม่ถิงเซียวไม่ต้องการคำตอบจากเธอ เข้าได้กลิ่นเหล้าจากตัวเธอแล้วพูด : “ไปอาบน้ำ”

……….

เช้าวันรุ่งขึ้น

มู่นวลนวลตื่นขึ้นมาส่องกระจกดูหน้าผากก็พบว่า เมื่อคืนโม่ถิงเซียวทายาให้เธอแล้วทำให้รอยนูนลดลงเยอะมาก แต่ยังมีรอยช้ำอยู่

วันนี้ไม่ต้องแต่งหน้า

ลงจากตึกไปทานข้าวก็พบว่าอาหารได้เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว

โม่เจียเฉินและโม่ถิงเซียวนั่งรอเธอที่โต๊ะอาหาร

โม่เจียเฉินลากเก้าอี้ออกให้เธอนั่ง : “สวัสดีตอนเช้าครับพี่นวลนวล”

พอได้รู้จักโม่เจียเฉินมาสักพัก เธอก็รู้สึกว่าโม่เจียเฉินก็ไม่เลวนัก แค่บางครั้งแอบดื่ออยู่บ้าง

เธอกำลังจะเดินไปนั่งแต่กลับได้ยินเสียงเก้าอี้ฝังโม่ถิงเซียงดังขึ้น

หันกลับไปดูก็เห็นว่าโม่ถิงเซียวลากเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างๆออกให้เธอนั่งเหมือนกัน

ท่าทีของโม่ถิงเซียวชัดเจนมากว่าอยากให้เธอไปนั่งข้างๆ

มู่นวลนวลยิ้มมุมปาก เช้าๆแบบนี้โม่ถิงเซียวคิดอยากจะแข็งกับเด็กหรอ เขากินยาผิดตัวหรือเปล่า

โม่เจียเฉินสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โม่ถิงเซียวทำน่าบึ่งตึง มู่นวลนวลไม่ลังเลที่จะเดินไปนั่งเก้าอี้ของโม่เจียเฉิน

พอมู่นวลนวลนั่งลง ก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารแปลกไป

เธอและโม่เจียเฉินมองหน้ากันแล้วตั้งหน้าตั้งตาทานข้าว

อารมณ์ของโม่ถิงเซียวนี้แปลกจริงๆ

………….

กินข้าวเช้าเสร็จ โม่ถิงเซียวออกรถไปก่อนส่วนมู่นวลนวลและโม่เจียเฉินก็นั่งรถอีกคันออกไป

พอถึงมู่กรุ๊ปมู่นวลนวลลงจากรถ คนขับรถก็ขับรถออกไป เธอหังหลังจะเดินขึ้นตึกกลับมีเสียงผู้หญิงเรียกเธอ : “คุณมู่”

มู่นวลนวลหันกลับมามองก็เจอผู้หญิงที่แต่งตัวดูดียืนอยู่ข้างหลัง

“สวัสดีค่ะ คุณคือ………” มู่นวลนวลมั่นใจว่าไม่รู้จักเธอ

ดูจากภายนอกเธอเป็นคนที่น่าเกรงขาม : “ฉันคือเอเจนซี่ของซือเฉิงยวี่ ซู่จวิน”

แม้ว่ามู่นวลนวลไม่เคยเจอเธอ แต่ว่า “ซู่จวิน”ชื่อนี้เธอรู้จัก

ซู่จวินเป็นนักปั้นมือทองในวงกานบันเทิง ซือเฉิงยวี่เธอก็ปั้นมาเองกับมือ ฉลาดและมีความสามารถ ผู้คนต่างชื่นชมเธอ

ซู่จวินเห็นสีหน้าของมู่นวลนวลก็พอเดาได้ว่ามู่นวลนวลรู้ว่าเธอเป็นใคร ฉนั้นเธอไม่ได้อธิบายอะไรมาก พูดตรงๆว่า : “ซือเฉิงยวี่มีเรื่องจะคุยกับคุณ”

“ซือเฉิงยวี่?”

ซู่จวินพยักหน้า : “ใช่! คุณตามฉันมา”

ซู่จวินพามู่นวลนวลไปที่รถพี่เลี้ยง

ประตูเปิดออกก็เห็นซือเฉิงยวี่

เขายิ้ม : “ผมมีเรื่องจะถามคุณแต่ไม่รบกวนเวลาคุณมาก”

“ได้ค่ะ เรื่องอะไรคะ”

ซือเฉิงยวี่เป็นคนมีชื่อเสียง จะเปิดประตูรถคุยกันไม่ค่อยดีเท่าไร เธอจึงขึ้นไปคุยในรถ

พอเธอนั่งลง ซือเฉิงยวี่ก็ถาม : “มู่หวันฉีคือพี่สาวคุณหรอ?”

“ใช่” มู่นวลนวลตกใจเล็กน้อย: “ถามถึงเธอทำไม”

ซือเฉิงยวี่ไม่ได้ตอบคำถามเธอแล้วถามอีกว่า : “บริษัทของพวกคุณมีปัญหาก็เลยอยากให้ผมมาเป็นนายแบบรับรองสินค้าให้หรอ?”

มู่นวลนวลแปลกใจ : “คุณรู้ได้อย่างไร?”

ท่าทางของเขาดูอบอุ่นมาก พูดเหมือนพอใจ : “คุณแค่ตอบผมมาว่าใช่ไหม?”

“………ใช่” มู่นวลนวลเดามู่หวันฉีคงทำอะไรบ้าๆลงไป ซือเฉิงยวี่ถึงได้รู้เรื่องนี้

มู่นวลนวลอธิบาย : “เรื่องนี้เป็นเพียงแค่คนในบริษัทเสนอขึ้นมาเท่านั้น ฉันรู้ว่าคุณไม่……….”

ซือเฉิงยวี่ที่กำลังฟังเธออธิบายก็พูดตัดบทเธอ : “ถ้าคุณอยากให้ผมทำผมจะลองดู”

ลองดูหรอ?

สีหน้ามู่นวลนวลแสดงออกมาทันทีว่าไม่อยากจะเชื่อ ซือเฉิงยวี่เขาหมายความว่าอย่างไร?

สิ่งที่เขาพูดคือถ้าเกิดว่ามู่นวลนวลพูดออกไปว่าให้เขาช่วยเขาก็เต็มใจช่วย?

สักครู่มู่นวลนวลก็เข้าใจ ซือเฉิงยวี่พูดแบบนี้คงเป็นเพราะเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับโม่ถิงเซียว

“คุณไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ มู่กรู๊ปมีปัญหาครั้งนี้ก็เพราะเราทำไม่ถูก อีกอย่างมันอาจกระทบต่อชื่อเสียงของคุณ” เธอรู้สึกขอบคุณซือเฉิงยวี่มาก แต่เธอมิอาจดึงเขาลงมาให้ลำบากด้วย

ซือเฉิงยวี่หัวเราะ ท่าทางที่อ่อนโยนของเขาชวนให้หลงใหล

เขาจ้องมองไปที่มู่นวลนวล : “ไม่ใช่เพราะถิงเซียวหรอก เพราะคุณผมถึงมาที่นี้ ถ้าคุณต้องการผมผมจะช่วยคุณ สำหรับผมแล้วชื่อเสียงไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”

รอยยิ้มในดวงตาของเขาไม่ได้หายไป แต่สายตาของเขามีสมาธิมากราวกับมองไปที่หมู่นวลนวลและในขณะเดียวกันก็เหมือนมองไปที่คนอื่นโดยผ่านมู่นวลนวล

ไม่ว่าเขาจะมองใคร คำพูดของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนคิดมาก

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท