Shengding Media
เมื่อโม่ถิงเซียวกลับมาที่ห้องทำงาน เขาก็ต่อสายหาเลขาว่า:“บอกให้ประธานกูเข้ามาหน่อย”
ที่บริษัทโม่ถิงเซียวมีลิฟต์ส่วนตัวของตัวเองที่ขึ้นตรงมาจากลาดจอดรถ นอกจากเลขาและคนที่มีตำแหน่งระดับสูงเท่านั้นที่เห็นเขาในบริษัท
คนที่มีตำแหน่งระดับสูงรู่ว่าเขาคือโม่ถิงเซียว และคนที่รู้ว่าเขาคือประธานบริษัทที่อยู่เบื้องหลังของ Shengding Media มีแค่ซือเฉิงยวี่ ฟู่ถิงซี กูจื่อหยาน สามคนเท่านั้น
หลังจากมู่นวลนวลออกจากร้านอาหารจินติ่งในตอนเช้า เธอน่าจะเจอกับกูจื่อหยานและฟู่ถิงซี
ฟู่ถิงซีด้วยหน้าที่การงานของเธอ ทำให้เธอเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก
และก็เป็นกูจื่อหยานที่คอยเข้าใจเธอ
ไม่นานเลขาก็โทรกลับมาหาโม่ถิงเซียว:“เลขาของประธานกูบอกว่าเขาไปทำธุระชั่วคราว อีกสักครู่คงจะอยู่ที่สนามบิน……”
ถึงแม้จะเป็นเพียงในโทรศัพท์ แต่ความเงียบที่ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์ก็ทำให้เลขารู้สึกกดดันมาก
“อ่า”
พอเสียงนั้นจบลง เธอก็ได้ยินเสียงโม่ถิงเซียวหัวเราะเยาะ เธอก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
“ฉันรู้แล้ว ให้คนบอกเซินเหลียงให้ขึ้นมา”
โม่ถิงเซียววางสาย และรอให้เซินเหลียงขึ้นมา
กูจื่อหยานทำผิดพลาดแล้วก็หลบหนีความผิด จริงๆก็ยังไม่ได้จัดการ
ไม่นาน เซินเหลียงก็ขึ้นมา
เมื่อเซินเหลียงเคาะประตูเขาก็รู้สึกแปลกๆ มีคนบอกว่าบอสใหญ่ของ Shengding Media เรียกพบเธอ ปฏิกิริยาแรกของเธอคือกูจื่อหยานใช้ตำแหน่งของเขาเรียกให้เธอมา และเธอก็ปฏิเสธ
เลขาพูดเตือนสติเธอว่า:“เป็นบอสใหญ่ของ Shengding ไม่ใช่ประธานกู”
กูจื่อหยานก็เป็นแค่ลูกน้อง?
“เข้ามา”
เสียงต่ำของผู้ชายด้านใน เธอมีความรู้สึกคุ้นเคย
เซินเหลียงผลักประตูเข้าไปด้วยความสงสัย เมื่อเธอเห็นใบหน้าของโม่ถิงเซียวชัดๆ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นทันที
“โม่……โม่เจียเฉิน?”
โม่ถิงเซียวพูดอย่างเคร่งขึม:“คุณเซิน”
จากคำบอกเล่าของมู่นวลนวล เซินเหลียงค่อยๆรู้สึกว่าโม่ถิงเซียวคนนี้น่ากลัว
คิดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะเป็นบอสใหญ่ของเธอ!
แม้ว่าการแสดงออกของเขาจะเป็นปกติ แต่เซินเหลียงก็ยังรู้สึกแปลกๆ เธอยืนตัวตรงแล้วโค้งคำนับโม่ถิงเซียว และพูดเสียงดังว่า:“สวัสดีเจ้านาย!”
เสียงลมหายใจแผ่วเบาในน้ำเสียง ไม่ต้องพูดออกมาก็รับรู้ได้อย่างอัตโนมัติ
โม่ถิงเซียวเลิกคิ้ว เพื่อนของมู่นวลนวลคนนี้กับนิสัยของเธอนั้นแตกต่างกันมาก
มู่นวลนวลกลัวเขา แต่ก็แทบจะไม่ได้แสดงออกมา ดูเหมือนเธอจะกระตือรือร้นที่จะทำงานกับเขา
โม่ถิงเซียวกล่าวอย่างแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ:“ที่เรียกคุณมาเพราะมีเรื่องจะขอร้องคุณ”
เซินเหลียงตื่นตะลึงเพราะได้รับความไว้วางใจ มู่นวลนวลบอกว่าผู้ชายคนนี้ขี้โมโห แต่ดูแล้วไม่ใช่ว่าเขาก็อารมณ์ดีมากหรอ?
“ขอแค่เป็นเรื่องที่ฉันสามารถทำได้ แม้ว่าจะสิบเรื่องก็ไม่มีปัญหา”
โม่ถิงเซียวดูเหมือนจะพอใจกับคำตอบของเธอ ท่าทางดูผ่อนคลายมาก:“ฉันไม่สามารถติดต่อกูจื่อหยานได้ คุณช่วยโทรถามว่าเขาอยู่ที่ไหนให้ฉันหน่อย”
แค่นี้?
เซินเหลียงก็คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรซะอีก
แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยได้ติดต่อกับกูจื่อหยาน แต่เธอก็มีวิธีที่จะติดต่อกับเขา
ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี กูจื่อหยานคนเลวนั่น มีโอกาสให้คว้าฉวยก็จับหมด
บ่อยครั้งที่โอนจือฟู่เป่าให้เธอ ขณะที่เปิดไปที่เวยป๋อ เมื่อภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอออกมา เขาก็ซื้อตั๋วเหมาที่นั่งทั้งหมด……
เซินเหลียงโทรไปที่เบอร์ที่เขาโทรมาหาเธอเมื่อเร็วๆ แต่ก็ปิดเครื่อง
หลังจากนั้นเธอก็โทรออกไปยังเบอร์ที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ เป็นเบอร์ที่เขาใช้สมัยเรียน ต่อมาเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ทั้งสองคนก็เลยไม่ได้ติดต่อกัน
เธอก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะยังใช้เบอร์นี้อยู่รึเปล่า
จากนั้นเธอก็โทรออก และเสียงตื่นเต้นของกูจื่อหยานก็ดังขึ้น:“เซินเสี่ยวเหลียง!”
เซินเหลียงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินน้ำเสียงตื่นเต้นของเขาและถามว่า:“กูจื่อหยาน คุณอยู่ที่ไหน?”
“ฉันอยู่ที่สนามบิน!”
จู่ๆกูจื่อหยานก็ถามว่า:“เซินเสี่ยวเหลียง เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?”
ปีที่ผ่านมาเซินเหลียงแทบจะไม่ติดต่อเขาเลย เขารู้สึกว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเซินเหลียงอย่างแน่นอน
“ไม่มีอะไร บอสใหญ่บอกว่าติดต่อคุณไม่ได้ เลยให้ฉันช่วยติดต่อคุณให้เขาหน่อย” เซินเหลียงพูดจบ ก็พูดต่อกับโม่ถิงเซียวว่า:“เขาบอกว่าเขาอยู่สนามบิน”
และเธอก็ไม่รู้คำพูดของเขาจะมีปัญหา เสียงกูจื่อหยานด่าทอ:“ไอสาด!”
จากนั้นโทรศัพท์มือถือของโม่ถิงเซียวก็ดังขึ้น
โม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นและไม่รีบร้อนที่จะรับโทรศัพท์ แต่มองไปที่เซินเหลียง:“ขอบคุณนะ คุณไปทำงานเถอะ”
เซินเหลียงเดินไปที่ประตู และทันใดนั้นก็ได้ยินโม่ถิงเซียวพูดว่า:“ฉันเคยดูภาพยนตร์ของคุณ แล้ว ในบรรดานักแสดงใหม่ของบริษัท คุณมีศักยภาพมากที่สุด”
โม่ถิงเซียวทำหน้าที่อย่างระมัดระวังและเขาก็ตั้งใจทำงานมาก ในตอนแรกกูจื่อหยานต้องการให้เซินเหลียงเซ็นสัญญาเข้า Shengding และเขาก็จะได้ดูภาพยนตร์ของเซินเหลียง
งานไม่ใช่การละเล่นแบบเด็กๆ และเขามักจะใช้อารมณ์
เซินเหลียงมีศักยภาพที่ดีเยี่ยม
เมื่อโม่ถิงเซียวอนุมัติ เซินเหลียงก็ตื่นเต้น:“ฉันจะพยามให้มาก!”
ไม่นานหลังจากที่เซินเหลียงจากไป กุจื่อหยานก็กลับมา
เขาผลักประตูเข้ามาด้วยความรีบร้อน เหงื่อออกท่วมตัวอย่างกับว่าวิ่งมา
กูจื่อหยานวิ่งตรงมาที่หน้าโต๊ะทำงาน:“เซินเสี่ยวเหลียงล่ะ?”
“ไปแล้ว”
เมื่อได้รับคำตอบกูจื่อหยานก็ดูกังวลมากขึ้น:“ไปไหนแล้ว คุณทำอะไรกับเธอ?”
“ฉันจะทำอะไรเธอได้?ก็แค่ให้เธอโทรไปหาคุณ แล้วก็ให้เธอไป” โม่ถิงเซียวพูดด้วยท่าทางสบายๆ และน้ำเสียงที่ไร้เดียงสา
“ไอสาด!คุณหลอกฉัน!” กู่จื่อหยานนั่งลงบนเก้าอี้แล้วพูดว่า:“แม่งเอ้ย ทำเอาฉันตกใจหมดเลย!”
เขารู้จักโม่ถิงเซียวมานาน และรู้ว่าโม่ถิงเซียวโหดเหี้ยมเพียงใด ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าเขาเรียกเซินเหลียงมาพบ เขาก็เลยตรงใจและรีบวิ่งกลับมา
โม่ถึงเซียวมองเขาอย่างไร้อารมณ์:“จงซื่อสัตย์กับตัวเอง”
กู่จื่อหยาน:“……”
สุดท้ายกูจื่อหยานก็ยังถูกโม่ถิงเซียวบีบบังคับให้พูดเรื่องเมื่อเช้าออกมา
เขาคิดว่าโม่ถิงเซียวอยากที่จะทุบตีเขา แต่โม่ถิงเซียวไม่ได้คิด แต่ผลสุดท้ายก็ไม่ได้ดีไปกว่าการทุบตีเขา
“ปีหน้าคุณไม่ต้องลาพักร้อน ตั้งใจทำงานไปเถอะ” หลังจากที่โม่ถิงเซียวพูดจบ ก็รู้สึกว่าเขายังน่าสงสารไม่พอ จึงพูดทิ้งแทงเขาอย่างเย็นชา:“ถึงอย่างไนเซินเหลียงก็เป็นนักแสดงที่กำลังมาแรง เป็นไปไม่ได้ที่จะคบกับคุณ เป็นหนุ่มโสดต้องขยันทำงาน”
กูจื่อหยานกัดฟัน:“ทำลายความสัมพันธ์!”
โม่ถิงเซียวไม่โกรธเลยสักนิด แม้แต่ใบหน้าของเขาก็ยังยิ้ม:“เซินเหลียงยังไม่ได้จัดสรรนายหน้าคนใหม่”
กูจื่อหยานหวาดกลัว และอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย:“ฉัน……ฉันเต็มใจที่จะทำงานให้ดี!”
“งั้นเซินเหลียงก็มอบให้คุณดูแล” รอยยิ้มบนใบหน้าของโม่ถิงเซียวก็ลึกล้ำ
……
การประชาสัมพันธ์ปัญหาร้ายแรงของมู่กรุ๊ปกับซือเฉิงยวี่
เนื่องจากชื่อเสียงที่โด่งดังของซือเฉิงยวี่ มีแฟนคลับมากมาย การประชาสัมพันธ์ปัญหาร้ายแรงนี้จึงไม่มีประโยชน์เลย
เดิมทีมู่กรุ๊ปไม่สามารถต้านทานแรงกดดันได้เลย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามู่กรุ๊ปตกต่ำลง
เส้นสายที่เจ้าสัวมู่สร้างขึ้นก่อนหน้านี้ หลังจากที่มู่กรุ๊ประสบกับเรื่องนี้ ก็ไม่ได้คิดบัญชีกับเขา
มู่นวลนวลหาโอกาสพูดกับมู่ลี่หยาน:“พ่อ งั้นให้คุณปู่กลับมาประเทศจีนดีไหม?”