ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – บทที่ 139 ลิฟต์ส่วนตัว

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

มู่นวลนวลพยักหน้า:“ฉันรู้”

เธอหายใจเข้าลึกๆก่อนจะรับโทรศัพท์

คำพูดแรกที่โม่ถิงเซียวพูดคือ:“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอ?”

คำพูดนี้ฟังดูเหมือนว่าถ้าเธอไม่มีอะไรก็จะไม่โทรหาเขายังไงยังงั้น

มู่นวลนวลคิดๆดูแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

ปกติถ้าเธอไม่มีอะไรก็จะไม่โทรหาโม่ถิงเซียว

“ไม่มีเรื่องอะไร” มู่นวลนวลพูดจบก็เปลี่ยนเรื่องแล้วถามว่า:“คุณทำงานยุ่งไหม?”

แต่โม่ถิงเซียวไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น เขาไม่เชื่อที่มู่นวลนวลพูด:“ไม่มีเรื่องอะไร คุณโทรหาฉัน?”

มู่นวลนวลถามกลับว่า:“ความหมายของคุณคือถ้าไม่มีเรื่องอะไร ฉันไม่สามารถหาคุณได้?”

หลังจากที่เงียบสองสามวินาที โม่ถิงเซียวก็พูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งกินใจว่า:“คุณโทรมาเพื่อตรวจสอบ?”

มู่นวลนวลไม่ได้โต้ตอบในทันที:“ตรวจสอบอะไร?”

โม่ถิงเซียว:“ไม่เป็นไร คุณไม่มีอะไรก็สามารถโทรหาฉันได้บ่อยๆเลย”

“พู……” โม่เจียเฉินแอบได้ยินที่ทั้งสองคนคุยกันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

มู่นวลนวลหันไปมองโม่ถิงเซียว แม้ว่าสายตาของเธอจะสยบเขาไม่ได้ โม่เจียเฉินยังคงเคลื่อนไหวปากตาม

โม่ถิงเซียวได้ยินเสียงของโม่เจียเฉิน:“คุณกับเสี่ยวเฉินอยู่ด้วยกันหรอ?”

มู่นวลนวลตื่นตระหนกและพูดว่า:“ใช่ วันนี้ฉันเลิกงานเร็ว ก็เลยกลับไปพร้อมกันกับโม่เจียเฉิน”

“คุณเลิกงานเร็ว เสี่ยวเฉินก็เลิกเรียนเร็ว?”

ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้……

โม่เจียเฉินมองไปที่มู่นวลนวลอย่างไม่แยแส เขาเข้ามาใกล้โทรศัพท์และก็หกอย่างหน้าตาเฉยว่า:“วิชาสุดท้ายของพวกเราคือพลศึกษา ไม่เข้าเรียนก็ไม่เป็นไร”

โชคดีที่โม่ถิงเซียวไม่ได้ถามอะไรอีก:“ฉันจะให้ซือเย่ไปรับพวกคุณกลับบ้าน”

“ไม่ต้องหรอก พวกเราเรียกรถกลับเองได้” มู่นวลนวลโต้ตอบกลับไป

ความหมายของโม่ถิงเซียวคือให้ซือเย่ไปรับเธอกับโม่เจียเฉินกลับบ้าน แต่ความหมายของเธอคือไปรับมาหาโม่ถิงเซียวที่ Shengding

โม่ถิงเซียวเงียบไปชั่วขณะ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต้องสงสัย:“เดี๋ยวจะให้เขาไปรับพวกคุณ”

……

ไม่นานซือเย่ก็ขับรถมารับ

ซือเย่ขับรถมาจอดที่ลาดจอดรถ รูดบัตรแล้วพามู่นวลนวลับโม่เจียเฉินขึ้นลิฟต์ส่วนตัวของผู้อำนวยการ

ก่อนหน้านี้มู่นวลนวลทำงานที่บริษัทเล็กๆข้างนอก แน่นอนว่าที่นั้นไม่มีลิฟต์ส่วนตัว อาคารสำนักงานของมู่กรุ๊ปก็สร้างเสร็จเร็วมาก ดังนั้นจึงไม่มีลิฟต์ส่วนตัวเช่นกัน

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งลิฟต์ส่วนตัว มู่นวลนวลรู้สึกว่ามันแปลกใหม่

“คุณชาย พวกเขามาแล้ว”

ซือเย่พาพวกเขาทั้งสองคนถึงประตูห้องทำงานของโม่ถิงเซียวแล้วก็จากไป

มู่นวลนวลผลักประตูเข้าไป และเห็นมู่ถิงเซียวนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน

เขาปิดเอกสารที่อยู่ในมือ และกำลังจะลุกขึ้นยืน

ทันที่ที่เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นมู่นวลนวล มุมปากของเขาก็ยกขึ้น:“มาแล้ว”

“อืม” น้ำเสียงของมู่นวลนวลไม่ค่อยสบอารมณ์ แล้วเดินไปนั่งบนโซฟา

และโม่เจียเฉินก็อยู่ในห้องทำงานของเขาด้วยท่าทางที่แปลกๆ มองดูแล้วก็จับๆ

โม่ถิงเซียวเดินไปข้างหลังมู่นวลนวล วางมือลงบนโซฟาแล้วเอนตัวไปมองหน้าเธอ และถามว่า:“อยากดื่มอะไรหน่อยไหม?”

“ไม่อยากดื่มอะไร เมื่อไหร่คุณจะเลิกงาน?”

โม่ถิงเซียวยกมือขึ้นมองนาฬิกา:“ใกล้แล้ว”

เดิมทียังมีประชุม แต่ถ้ามู่นวลนวลอยากรีบกลับ เขาก็สามารถเลื่อนออกไปได้

พอดีเลขาก็มาเคาะประตู :“ผู้อำนวยการ การประชุมตอนสี่โมงครึ่ง ฉันได้จัดเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว”

มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมองเขา:“คุณต้องเข้าประชุม?”

เมื่อเธอมองขึ้นไปที่เขา ภาพสะท้อนในดวงตาของเธอทั้งหมดเป็นเขา

โม่ถิงเซียวพูดเสียงเบาลง:“ไม่สำคัญอะไรมาก”

มู่นวลนวลรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงอ่อนโยนที่ผิดปกตอของเขา หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นทันที:“ถ้าคุณมีธุระก็ไปทำเถอะ ฉันจะรอคุณ”

เธอเขินอายอย่างเห็นได้ชัด

แต่เธอบอกว่าจะรอเขาสักพัก เธอเป็นเด็กดีมาก

รู้สึกว่าอยากจูบเธอนิดหน่อย

โม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นไปมองโม่เจียเฉิน โม่เจียเฉินกำลังหยิบหนังสือขึ้นมาดู

โม่ถิงเซียวยกมือขึ้น และบอกใบ้ให้เขาหันไปทางอื่น

โม่เจียเฉินกลอกตา แล้วหันหลังไปอย่างไม่เต็มใจ และแสร้งทำเป็นหาหนังสือบนชั้น

มู่นวลนวลไม่เห็นการกระทำของโม่ถิงเซียว แต่รู้สึกว่าเขายังไม่เดินไป และอดไปได้ที่จะหันไปเร่งรัดเขา:“คุณรีบไปเถอะ”

เธอพูดจบ โม่ถิงเซียวก็จูบเธอทันที

จูบนั้นกะทันหันเกินไปจนมู่นวลนวลไม่ทันได้หลีกเลี่ยง

หลักจากจูบแล้ว โม่ถิงเซียวก็จิกริมฝีปากของเธอ:“ไม่นานเดี๋ยวฉันก็กลับมา”

มู่นวลนวลมีกะจิตกะใจจะฟังเขาพูดที่ไหนกัน เธอหันไปมองโม่เจียเฉิน แต่เห็นว่าโม่เจียเฉินกำลังอ่านหนังสือโดยหันหลังให้พวกเขาอยู่ เธอถอนหายใจโล่งอก

โม่เจียเฉินได้ยินเสียงปิดประตูก็เหลือบมองกลับไปอย่างเงียบๆ จากนั้นเขาก็วางหนังสือไว้ในมือแล้วหันกลับไป บนใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความสดใส

วอทเดอะฟัค!คิดไม่ถึงเลยว่าพี่ชายก็มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์คนหนึ่ง!จูบก็เป็นด้วย!

เมื่อตะกี้น่าจะถ่ายรูปไว้ให้แม่ดู!

แม่ของเขาเอาแต่บอกเขาว่า เป็นห่วงว่าพี่ชายจะหาคนรักไม่ได้และจะต้องโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต

……

โม่ถิงเซียวบอกว่าไม่นานก็จะกลับมา แล้วเร็วมากจริงๆ

หลังจากที่เขาออกไปแล้วกลับมา ใช้เวลาเพียงสิบนาที

ทั้งสามคนขึ้นลิฟต์ไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน

โม่ถิงเซียวมองไปที่โม่เจียเฉิน:“ชกต่อยกับคนอื่นหรอ?”

โม่เจียเฉินแบะปาก:“ใช่”

แม้ว่าจะไม่สามารถให้โม่ถิงเซียวรู้เหตุผลในการชกต่อยของเขาได้ แต่บนหน้าของเขาติดพลาสเตอร์ยาเยอะขนาดนั้น โม่ถิงเซียวคงไม่ต้องใช้เวลานานที่จะเห็นมัน?

ในที่สุดเขาก็เข้าใจประโยคนั้น“มีเพศตรงข้ามแล้วไม่มีมนุษยธรรม”หมายความว่าอย่างไร

พูดไปแล้วก็เหมือนกับพี่ชายของเขา

การแสดงออกบนใบหน้าของโม่ถิงเซียวยังคงเดิม:“นั่นคือเหตุผลที่มู่นวลนวลไปที่โรงเรียนของนาย?”

“ไม่อย่างนั้นล่ะ?หรือว่าต้องโทรหาพี่……”

“คำพูด” คำสุดท้ายติดอยู่ในลำคอของเขา โม่เจียเฉินพูดออกมาก็ไม่ได้ ไม่พูดออกมาก็ไม่ได้

เขาหดตัวกลับเข้าไปในลิฟต์ และพยายามลดตัวตนของตัวเองลง

ทำไม……พูดออกมาแล้ว!

มู่นวลนวลมองโม่เจียเฉินด้วยความเย็นชา เข้าด้ายเข้าเข็ม เธอก็ช่วยเขาไม่ได้แล้ว!

โม่ถิงเซียวหัวเราะอย่างไม่ชัดเจน โม่เจียเฉินสั่นสะท้านนิดหน่อย และหลบซ่อนอยู่ข้างหลังมู่นวลนวล

มู่นวลนวลก้มลงมองที่ปลายเท้าของเธอ และแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไร

เมื่อออกจากลิฟต์โม่ถิงเซียวเดินนำหน้า และมู่นวลนวลกับโม่เจียเฉินเดินตามหลัง

มู่นวลนวลรู้สึกว่าเธอกับโม่เจียเฉินเหมือนเด็กสองคนที่ทำผิดแล้วกลัวโดนผู้ปกครองด่า และโม่เจียเฉินก็คือผู้ปกครองคนนั้น

เธอตกตะลึงกับคำอุปมาของตัวเอง

มู่นวลนวลหมุนตัวและดึงแขนของเธอกลับจากโม่เจียเฉินอย่างเงียบๆ:“เสี่ยวเฉินนายดูแลตัวเองนะ”

“……”

ตอนที่ขึ้นรถมู่นวลนวลตัดสินใจที่จะช่วยโม่เจียเฉิน และไปนั่งที่เบาะหลังด้วยกันกับโม่ถิงเซียว

เพียงแต่เธอนั่งข้างๆโม่ถิงเซียวไม่ถึงสามวินาที เธอก็ต้องเสียใจ

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

Status: Ongoing
พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: “มันน่าเกลียดเกินไป” เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: “ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย” เธอจ้องเขา : “คุณ…คุณทำไม่ได้ … ” ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: “ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท