เซินเหลียงแยกไปได้ไม่นาน โม่ถิงเซียวก็มาถึงแล้ว
เขาขับรถเบนท์ลี่ย์เป็นรุ่นที่มีจำนวนจำกัดมูลค่าหลายสิบล้าน จอดหน้าประตูห้างสรรพสินค้า ก็เตะตาผู้คน
0มู่นวลนวลรีบเปิดประตูขึ้นไปบนรถ บอกเขาอย่างเร่งรัด “รีบไปเถอะ”
โม่ถิงเซียวไม่ได้ขับออกไปทันที กลับค่อยๆโน้มตัวเอียงลงมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ หลังจากนั้นก็ใช้มือจับเบาะที่นั่งดด้านบของเธอ มืออีกข้างจับประตูรถถามเธอด้วยท่าทีสนิทสนม “สีหน้าไม่ค่อยดี เซินเหลียงพาคุณมาดูภาพยนตร์เรื่องอะไร?”
มู่นวลนวลถอยกลับไปด้านหลัง และพูด “ภาพยนตร์แฟนตาซี”
“เค้าโครงเรื่องของภาพยนตร์น่าเศร้าใจ?”
“ไม่ใช่…”
“งั้นสีหน้าของคุณทำไมถึงดูไม่ดีเลย?”โม่ถิงเซียวพูดพลาง ก็ยื่นมือออกไปแตะหน้าของเธอ
จิตใต้สำนึกของมู่นวลนวลสั่งให้ถอยไปด้านข้าง มือของโม่ถิงเซียวก็จับอากาศ
ใบหน้าของเขาไม่ได้มีสีหน้าเก้อเขิน แต่ทำไมถึงทำให้คนได้กลิ่นอายของความข่มขู่ นี่ทำให้มู่นวลนวลไม่ผ่อนคลาย
หลายวันมานี้สภาพจิตใจเคร่งเครียด ในเวลาเวลาสั้นๆนี้ก็ทำให้ทนไม่ไหวแล้ว
มู่นวลนวลสีหน้าหดหู่ “พ่อของเถาปิงตาย เกี่ยวข้องกับคุณไหม?”
โม่ถิงเซียวแหงนตามอง ดวงตาดำขลับลึกลับคล้ายกับมีระลอกคลื่น น้ำเสียงของเขาทั้งหนักแน่นและเย็นชา “คุณยังเดาถึงอะไรอีก?”
“นี่คุณยอมรับแล้ว?”มู่นวลนวลมองเขาอย่างไม่เชื่อถือ เสียงสั่นเล็กน้อย
เธอไม่เข้าใจโม่ถิงเซียวจริงๆ
ตั้งแต่เล็กจนโตถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนดี แต่เรื่องที่จะนำชีวิตคนมาอยู่ในมือเล่นกับความตาย ยังไม่สามารถยอมรับได้ง่ายๆ
ครั้งที่แล้วคดีโจรที่ลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่สองคนนั้น เดิมทีเป็นนักโทษที่หลบหนี ถูกตำรวจจับกลับไปก็ถูกประหารด้วยการยิงเป้า ดังนั้นมู่นวลนวลไม่ได้ซาบซึ้งขนาดนั้น
แต่ครั้งนี้ โม่ถิงเซียวจัดการอย่างรวดเร็วอย่างนี้ ก็สามารถให้คนจัดการพ่อของเถาปิงทิ้ง มู่นวลนวลรู้สึกกลัวสุดขีด
“เขาสมควรตาย”โม่ถิงเซียวกัดริมฝีปาก ร้อยยิ้มมีความกระหายเลือดที่โหดเหี้ยม “คนพวกนั้นสมควรตาย เถาจื่อหลินไม่ใช่คนสุดท้าย”
พ่อของเถาปิง ชื่อเถาจื่อหลิน
“คุณเป็นคนฉลาดมาก สามารถหามือสังหารจนพบ หลังจากนั้นก็ส่งให้กับตำรวจ…”มู่นวลนวลรู้สึกกลัวที่โม่ถิงเซียงเป็นแบบนี้ แต่ยังกล้าที่จะตักเตือนเขา
มุมปากของโม่ถิงเซียวยิ้มอย่างลึกลับ ใบหน้าที่หล่อเหลาปรากฏให้เห็นความแปลกประหลาด “ฉันฉลาด?แต่ที่ผ่านมาแล้วสิบห้าปี ฉันก็ยังหามือสังหารไม่พบ ดังนั้นฉันสามารถทำได้เพียงหาทุกคนที่เกี่ยวข้อง และจัดการทิ้ง”
มู่นวลนวลอดไม่ได้จะกำมือแน่นทั้งสองข้าง
โม่ถิงเซียวเข้ามาใกล้เธอ จูบบนหน้าของเธอเบาๆ ทันทีหลังจากนั้นก็เข้ามาใกล้ข้างใบหูเธอและพูดเบาๆ“เธอไม่เห็นด้วยกับวิธีของฉัน เธอก็สามารถไปแจ้งตำรวจ”
มู่นวลนวลทั่วทั้งร่างกายเคร่งเครียด กัดริมฝีปากไม่ขยับและพูดอะไร เพียงแค่เงยหน้าจ้องมองโม่ถิงเซียวซึ่งกันและกัน
ถึงแม้ว่าเธอไม่เห็นด้วยกับวิธีของโม่ถิงเซียว แต่ว่าเธอรู้ชัดเจนว่าตัวเองไม่สามารถแจ้งตำรวจ
โม่ถิงเซียวปฎิบัติกับเรื่องแม่ของเขา อย่างดื้อรั้น
ถึงแม้ว่าเธอไปแจ้งตำรวจ ตำรวจจับโม่ถิงเซียวแล้ว แต่เธอกล้ายืนยัน ถ้าหากว่าโม่ถิงเซียวติดคุก ก็สามารถหามีวิธีนำคดีคนที่มีความเกี่ยวข้องฆ่าให้ตาย
โม่ถิงเซียวมีความสามารถด้านนี้
ทันใดนั้น สีหน้าโม่ถิงเซียวก็มืดครึ้ม พูดเสียงต่ำ“นี่ยังอยู่ในรถ อย่ามองฉันอย่างนี้”
เขาชอบดวงตาคู่นั้นของมู่นวลนวลมาก สว่างไสวและดึงดูด
มู่นวลนวลรีบดึงสติกลับมา หันหน้ามองไปที่อื่น
……
เมื่อถึงคฤหาสน์ โม่ถิงเซียวก็พามู่นวลนวลเข้าไปในห้อง กดเธอไว้กับบานประตูและจูบ
ในเวลานี้มู่นวลนวลไม่มีความรู้สึกกับเรื่องที่เขาทำ แต่ทว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้
เธอได้โอกาสที่จะเปิดปากพูด “ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันพ่อฉันออกนอกประเทศแล้ว ภายในสองวันนี้ก็อาจจะกลับมา
ผลลัพธ์คือการกระทำของโม่ถิงเซียวหยุดลง แต่ไม่ได้ปล่อยมู่นวลนวล “เขาออกนอกประเทศทำไม?”
“คุณรู้อยู่แก่ใจยังจะถาม”มู่นวลนวลถอนหายใจเล็กน้อย และพูด “ปู่ฉันจะกลับมาแล้ว”
“ตั้งใจบอกเรื่องนี้กับฉันทำไม?”โม่ถิงเซียวก้มหน้าลงไปจูบบนริมฝีปาก “ในเวลานี้แบบนี้ไม่ต้องคิดเรื่องพวกนี้”
“เพราะว่าเรื่องพวกนี้คุณเป็นคนควบคุมอยู่ในมือแล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าฉันไม่บอกคุณ คุณก็ได้รู้ข่าวแล้วใช่ไหม?”
มู่นวลนวลไม่ได้ปฏิเสธจูบของเขา และไม่ได้ตอบรับ
โม่ถิงเซียวปล่อยเธอมีความรู้สึกไม่มีอารมณ์ “ในเมื่อรู้ ทำไมยังตั้งใจพูดเรื่องที่ทำให้ฉันไม่พอใจ?”
มู่นวลนวลไม่รู้สึกว่าวิธีที่โม่ถิงเซียวใช้หามือสังหารไม่ค่อยจะถูก
เขามืดครึ้มมากเกินไป วิธีการก็โหดเหี้ยมเกินไป
แต่ เธอไม่รู้ว่าต้องสื่อสารกับโม่ถิงเซียวยังไง
แต่ไหนแต่ไรโม่ถิงเซียวไม่เคยฟังคำพูดของเธอ ไม่ยอมรับความคิดเห็นของเธอ
ผ่านไปครึ่งค่อนวัน มู่นวลนวลก็พูดขึ้นมา“โม่ถิงเซียว ถ้าคุณอยากหามือสังหารตัวจริงคดีที่ลักพาตัวคุณกับแม่ของคุณเมื่อปีนั้น ฉันสามารถช่วยคุณได้”
“ช่วยผม?”เสียงของโม่ถิงเซียวเบาจนเกือบจะไม่ได้ยิน
แม่เป็นผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถ ตอนช่วงวัยรุ่นทุกคนในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่มีตำแหน่งสูงและอำนาจอยากจะแต่งงานกับเธอ พรสววรค์และหน้าตารวมเข้าด้วยกัน และพ่อโม่ชิงเฟิงก็กลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลโม่ และมีความโดดเด่น
โม่ถิงเซียวลูกชายของพวกเขา ก็ฉลาดล้ำเลิศ และไม่ใช่แค่บังเอิญ
หลังจากที่แม่เขาถูกฆ่า เขาใช้เวลายาวนานมากถึงจะข้ามผ่านมาได้ ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเหมือนคนปกติ
แต่วัยเด็กตอนอายุสิบกว่าขวบคล้ายกับว่าจะเติบโตในชั่วข้ามคืน สุขุมมีกลิ่นอายที่มืดครึ้ม เขาวิ่งไปที่สถานีตำรวจหลายครั้ง มีตำรวจหนุ่มที่บอกความจริงกับเขาเงียบๆ “คดีที่พวกคุณถูกลักพาตัว ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตอนนี้ทุกคนอยากให้เรื่องราวสงบลง”
โม่ถิงเซียวเข้าใจชัดเจนที่สุด คนที่อยากให้เรื่องราวสงบลงเป็นคนตระกูลโม่
ตระกูลโม่ไม่อยากให้เรื่องแม่เขาที่ถูกข่มขืนตีแผ่ออกไป ดังนั้นจึงไม่สามารถสืบสวนอย่างลึกได้
ตั้งแต่นั้น เขาก็เริ่มสืบสวนคดีนั้น
พ่อที่ให้กำเนิดเขากับพี่สาวฝาแฝดก็ไม่เชื่อเขา รู้สึกว่าเป็นเพราะปีนั้นเขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่ทั้งหมดด้วยตาของตนเอง ได้รับความความบาดเจ็บทางจิตใจอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงมีพฤติกรรมผิดปกติ
และในขณะนี้ มู่นวลนวลก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา พูดด้วยใบหน้าจริงจังว่าจะช่วยเขา
เสียงของโม่ถิงเซียวเพิ่มต่ำกว่าปกติ “คุณเชื่อว่าคดีแม่ของผม ยังมีผู้บงการอื่นอยู่เบื้องหลัง ?”
“ฉันไม่รู้ว่าเหตุการณ์คดีอย่างละเอียด แต่ฉันเชื่อคุณ คุณฉลาดอย่างนี้ คุณรู้สึกว่ายังมีผู้บงการอื่นอยู่เบื้องหลัง ก็ต้องมีแน่นอน”
แววตาของมู่นวลนวลเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ในดวงตาที่สว่างไสวเต็มไปด้วยความเชื่อใจเขา
โม่ถิงเซียวจ้องมองเธอหลายนาที ทันใดนั้นก็นำเธอเข้ามากอดในอ้อมอกอย่างแน่น
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่มู่นวลนวลรู้สึกถึงก้นบึ้งหัวใจของเขาที่โดดเดี่ยวไม่มีใครเข้าใจ
มู่นวลนวลยื่นมือขึ้นตบบ่าเขาเบาๆ “แต่ว่า คุณต้องรับปากฉันว่า ไม่สามารถจะ…ฆ่าใครได้ตามใจ”